ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.ประจวบคีรีขันธ์ โทร.0 3251 3885, 0 3251 3871, 0 3251 3854
http://www.tourismthailand.org/prachuapkhirikhan
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
อุโบสถวัดถ้ำเขาไม้รวก การเดินทางมายังวัดถ้ำเขาไม้รวกแห่งนี้อย่างที่ได้เกริ่นไว้แล้วว่าเป็นความบังเอิญในระหว่างการเดินทางมายังหาดบ้านกรูดหลังจากที่ได้ขึ้นไปสักการะองค์พระบรมสารีริกธาตุในพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศบนยอดเขาธงชัยแล้ว จากนั้นก็เป็นการหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ มาเพิ่มเติมในทริปการเดินทางเพื่อให้เป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่า จากวัดทางสายผมมุ่งหน้าไปทางถนนเพชรเกษม ระหว่างนั้นได้เห็นป้ายเชิญชมถ้ำค้างคาววัดถ้ำเขาไม้รวกโดยบังเอิญ ก็เลยขับเข้าไปตามป้ายบอกทาง เส้นทางลาดยางนั้นพาผมเข้าไปได้อีกไม่ไกลนักจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นทางลูกรัง ข้ามทางรถไฟแล้วก็ลึกเข้าไปในบริเวณที่ไม่ค่อยจะมีบ้านคนให้เห็น ทางลูกรังไปสุดอยู่ตรงที่อาคารหลังนี้ มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นอุโบสถของวัด ในระหว่างนั้นความคิดเกี่ยวกับถ้ำค้างคาวหายไปพักใหญ่ๆ เพราะใจจดใจจ่ออยู่กับการถ่ายรูปอุโบสถที่สวยงามที่สร้างอยู่ในที่กันดารแห่งนี้
ด้านข้างอุโบสถวัดถ้ำเขาไม้รวก หลังจากเดินเข้ากำแพงแก้วที่ยังสร้างไม่เสร็จ อุโบสถหลังนี้สร้างไปได้มากแล้ว ส่วนที่เหลือคือการตกแต่งให้สวยงาม โบสถ์หลังเล็กๆ สีขาวใช้บานหน้าต่างไม้สีทองแบบเรียบๆ ไม่สลักลายดูโดดเด่นขึ้นมาเป็นพิเศษ
ด้านข้างอุโบสถวัดถ้ำเขาไม้รวก อีกภาพหนึ่งที่อยากให้เห็นกันแบบชัดๆ ทุกรายละเอียดของโบสถ์ในวัดเล็กๆ แห่งหนึ่งแต่สร้างได้อย่างสวยงามมาก หากไม่ได้ข้อมูลจากนักปฏิบัติธรรมในวัดเกี่ยวกับการนำมูลค้างคาวในถ้ำมาขายเพื่อเป็นงบประมาณในการสร้างโบสถ์ คงจะนึกได้อย่างเดียวว่าศิษย์ที่ศรัทธาในวัดแห่งนี้มีศรัทธาแรงกล้า จึงสมทบทุนรวบรวมมาสร้างได้ถึงขนาดนี้
อุโบสถวัดถ้ำเขาไม้รวก มุมเฉียงด้านหลังของอุโบสถโดดเด่นอยู่กลางลานประทักษินที่ยังปกคลุมด้วยหญ้า ฐานใบเสมาที่เห็นเริ่มสร้างได้เล็กน้อยต้องสร้างต่อไปอีกมาก นักปฏิบัติธรรมจะเข้ามานั่งกรรมฐานที่นี่ จากเดิมที่เคยใช้ถ้ำเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
อุโบสถวัดถ้ำเขาไม้รวก มุมด้านหน้าเห็นบันไดนาค มีพญานาคเศียรเดียวอยู่บนราวบันไดทั้ง 2 ข้าง โดยมีรูปปั้นสิงห์คู่อยู่ด้านข้าง
วิวหน้าโบสถ์วัดถ้ำเขาไม้รวก จุดเด่นของวัดแห่งนี้อีกอย่างหนึ่งก็คืออยู่สุดถนน แล้วด้านหน้าก็เป็นหาดทรายมองเห็นทะเลสวยๆ ในยามเช้า หาดทรายโล่งๆ มีเพียงต้นมะพร้าว 3 ต้น หน้าโบสถ์มีบันไดทางลงเป็นท่าน้ำเพราะมีคลองกั้นระหว่างโบสถ์กับทางลงไปยังหาดทรายและทะเล มีต้นโกงกางขึ้นอยู่มากน้ำใสๆ ในคลองนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
บันไดหินอ่อน ด้วยลักษณะการสร้างโบสถ์สีขาวการเลือกใช้วัสดุอย่างหนึ่งมาทำเป็นบันไดอย่างหินอ่อนก็จะกลมกลืนไปกับสีของโบสถ์ได้ลงตัวและเวลาที่ย่างก้าวขึ้นไปทีละขั้นบนบันไดหินอ่อนจะรู้สึกสงบขึ้นได้อย่างประหลาด
พระประธาน พระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องที่งดงามประดิษฐานบนฐานชุกชีในโบสถ์อย่างเด่นเป็นสง่า เป็นพระองค์ประธาน ถัดลงมาจะมีอาสนสงฆ์ บนผนังที่เห็นเป็นสีทองเล็กๆ เรียงกันคือพระสาวกขนาดเล็กบนหิ้งที่ติดอยู่บนผนังจำนวนมากแทนการใช้ภาพจิตรกรรมฝาผนัง
พระสาวกบนผนังโบสถ์
ทางขึ้นนมัสการหลวงปู่ดำ หลังจากที่อยู่ในโบสถ์และเดินชมรอบๆ โบสถ์อยู่นาน ตอนนี้นึกขึ้นได้ว่าต้องมาถ่ายรูปถ้ำค้างคาวจุดเด่นของวัด ก็เลยออกเดินหาทางเข้าถ้ำ หลังจากถามเด็กนักเรียนที่มาปฏิบัติธรรมในช่วงวันแม่แห่งชาติ ได้ความว่าทางเข้าถ้ำจะอยู่ทางเดียวกับทางเดินข้ามสะพานไปยังหาดทราย จากโบสถ์เดินตามทางมาเรื่อยๆ จะเห็นบันไดแห่งนี้กับป้ายที่เขียนบอกว่าเป็นทางขึ้นนมัสการหลวงปู่ดำ ซึ่งทำให้ผมคิดว่าเป็นทางเข้าชมถ้ำค้างคาวทางเดียวกัน
ศาลบูชางู สำหรับในเรื่องการบูชางูนั้น ก็มีอยู่ว่า วัดถ้ำเขาไม้รวกเป็นที่อาศัยของค้างคาวจำนวนมาก นักปฏิบัติธรรมจะใช้ถ้ำนั้นในการสวดมนต์ประกอบพิธีการปฏิบัติธรรม ในระหว่างการสวดมนต์นั้นจะมีงูหลายชนิด หลายขนาด โดยเฉพาะงูเหลือมเลื้อยมานอนขดอยู่บนศาลที่สร้างไว้ในถ้ำโดยไม่ทำอันตรายใคร ที่นี่จึงมีการบูชางู
หลวงปู่ดำ พระพุทธรูปปางถวายเนตรเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนในละแวกนี้ศรัทธามาก ข้างศาลาหลังนี้มีราวแขวนระฆัง และลานจุดประทัด ชาวบ้านเชื่อกันว่าหากมาขอพรกับหลวงปู่ดำแล้วจะสำเร็จสมปรารถนา การจุดประทัดบนนี้จนมีเศษประทัดแดงไปทั่วบริเวณแสดงให้เห็นว่ามีชาวบ้านมาจุดกันมากเนื่องจากขอพรจากหลวงปู่ดำได้สำเร็จ
วิวสวยวัดถ้ำเขาไม้รวก จากนั้นจะมีทางเดินเล็กๆ ขึ้นไปบนเขาเรื่อยๆ ด้วยความมุ่งมั่นว่าบนนั้นมีถ้ำค้างคาวอยู่ผมก็เดินตามทางไปเรื่อยๆ พบเพียงกุฎิที่อยู่อย่างสันโดษหลังเล็กๆ สูงขึ้นไปเรื่อยๆ 4 หลัง เหมาะแก่การฝึกฝนตามแนวทางคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา ทางเดินลำบากขึ้นเรื่อยๆ และไปสุดอยู่ที่กุฎิหลังที่ 4 เมื่อเห็นว่าไม่มีทางเดินต่อไปได้แล้ว ผมก็เลยนั่งชมวิวอยู่สักพักให้หายเหนื่อยดีแล้วค่อยเดินลงมาตามทางเดิม
วิวสวยวัดถ้ำเขาไม้รวก
ลำธารและชายเลนในวัด หลังจากลงมาจากเขาเพราะไม่พบถ้ำค้างคาวถึงพื้นราบผมไปถามให้มั่นใจอีกครั้งว่าถ้ำค้างคาวไปทางไหนกันแน่ (ที่จริงพื้นที่ของวัดเล็กนิดเดียวเดินไปหน่อยก็เห็น ;D ) แล้วก็เดินไปตามทางที่ได้สอบถามมา ถึงสะพานข้ามคลองที่เดินไปยังหาดทรายได้ แต่ผมไม่ข้ามไปเพราะทางไปถ้ำต้องตรงไปอีกหน่อย
ถ้ำค้างคาวสีน้ำตาล บริเวณผาหินที่เห็นรากไม้ยาวเหยียดลงมานี้มีปากถ้ำอยู่แห่งหนึ่งแต่ทางวัดไม่ได้เปิดไฟส่องสว่างไว้ให้ มีค้างคาวสีน้ำตาลอาศัยอยู่จำนวนมาก
ศาลเจ้าที่หน้าบันไดถ้ำใหญ่ เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะมีบ้านพักของนักปฏิบัติธรรมซึ่งแยกให้ห่างออกจากกุฎิสงฆ์ เป็นบันไดทางเดินขึ้นไปยังปากถ้ำใหญ่ คำว่าถ้ำใหญ่ เป็นคำเรียกของที่นี่ เพราะว่ามีถ้ำอยู่ 2 แห่ง ถ้ำใหญ่มีขนาดใหญ่กว่า ตรงทางขึ้นมีศาลเพียงตาตั้งอยู่ ควรไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่จะเดินเข้าไปในถ้ำ
บันไดปากถ้ำใหญ่ จากตรงนี้เดินขึ้นบันไดไปอีกหน่อยก็จะถึงแล้ว
ปากถ้ำใหญ่วัดถ้ำเขาไม้รวก มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ข้างปากถ้ำมองเข้าไปมืดสนิท มีเพียงแสงไฟไม่สว่างนักภายในถ้ำ พอที่จะมองเห็นค้างคาวบินไปบินมาตามสัญชาตญาณ แต่ไม่สามารถถ่ายรูปได้เพราะไม่อยากจะเปิดแฟลชรบกวนค้างคาวเหล่านี้
ศาลเทวรูปในถ้ำใหญ่ ปิดท้ายกันด้วยภาพนี้ละกันครับ เพราะภายในถ้ำมีกลิ่นแรงมาก ค้างคาวถ่ายมูลลงมาบางทีก็โดนตัวเราผมก็ไม่สามารถจะถ่ายรูปให้เห็นค้างคาวเหล่านี้ได้ในถ้ำที่มืดขนาดนี้ แต่บอกได้อย่างหนึ่งว่าในถ้ำแห่งนี้มีค้างคาวตัวใหญ่มากๆ และมีจำนวนมากนับไม่ถ้วนเกาะอยู่ตามเพดานถ้ำ เวลาเดินไปทางไหนค้างคาวเหล่านี้จะตกใจและบินหนีไปอยู่อีกด้านหนึ่งของถ้ำดูสับสนวุ่นวายมาก ไว้มีโอกาสลองแวะไปชมกันครับ แล้วอย่าลืมไปเดินเล่นที่หาดทรายหน้าโบสถ์ชมวิวสวยๆ กันบ้าน
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ