เวลาเปิด-ปิด:14:00 - 21:00
ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8
http://www.tourismthailand.org/samutsongkhram
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ตลาดน้ำอัมพวา เปิดตัวตลาดน้ำอัมพวาแบบใหม่ดูบ้าง หลังจากที่ได้เขียนหน้านี้ไว้หลายปีก่อนรู้สึกว่าภาพและข้อมูลยังไม่มากพอ ส่วนภาพก็ลงไว้มากเกินไป คราวนี้เลยลองย่อๆ ให้เล็กๆ แล้วเอามาเรียงจัดต่อๆ กันจะได้ไม่เปลืองพื้นที่และเวลาของคนเปิดเว็บ
เริ่มจากการเดินทางมายัง ตลาดน้ำอัมพวา กันเลย ตลาดน้ำอัมพวา อยู่ในตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา ปกติการเดินทางมายังตัวเมืองสมุทรสงครามใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ขึ้นทางยกระดับเข้าตัวเมืองทางหลวงหมายเลข 3093 ถึงตลาดรถจะติดมากๆ ก็เลี้ยวขวาไปถึงหน้าวัดป้อมแก้วเลี้ยวซ้าย ถึงทางแยกตรงทางข้ามทางรถไฟ (ตลาดรถไฟหรือตลาดหุบร่มอยู่ตรงนี้) เลี้ยวขวา(ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปวัดเพชรสมุทรหรือวัดหลวงพ่อบ้านแหลม) เจอไฟแดงเข้าเลนเลี้ยวซ้าย ทางหลวงหมายเลข 325 ขับไปเรื่อยๆ จะเจอทางแยกมีป้ายใหญ่ๆ บอกทางเข้าตลาดน้ำอัมพวา และอุทยาน ร.๒
แต่ปัจจุบันมีการเดินทางทางใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดในตัวเมืองได้ คือกลับรถก่อนถึงทางยกระดับเข้าเมืองสมุทรสงคราม(เลยตลาดบางแก้วไป) แล้วไปเข้าถนนด้านซ้ายมือเป็นถนนคู่ขนานสั้นๆ กับทางหลวงหมายเลข 35 สังเกตุศูนย์ฮอนด้า มีร้านขายเกลือกับปลาสลิดอยู่ตรงนี้หลายๆ ร้านนั่นแหละใช่เลย จะมีป้ายบอกทางตลอด ขับไปเรื่อยๆ จะถึงแยกไฟแดงจะเลี้ยวซ้ายตามทางหลวงหมายเลข 3092 แล้วมาบรรจบกับไฟแดงทางหลวงหมายเลข 325 เลี้ยวขวา ก็เป็นเส้นไปตลาดน้ำอัมพวา หรือจากแยกไฟแดงแรกขับตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 3093 จนบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 325 ก็ได้ พอขึ้นทางหลวงหมายเลข 325 แล้วจะขับตรงไปจนถึงแยกตลาดน้ำอัมพวา ก็ได้
แต่ถ้าไม่อยากเข้าไปเจอรถติดมหาศาลก็เลี้ยวทางแยกวัดบางนางลี่ใหญ่ มีสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง ข้ามสะพานไปแล้วจะเจอทางเข้าวัดบางนางลี่ใหญ่เลย หลังจากนั้นก็จอดรถไว้ในวัดริมแม่น้ำแม่กลองแล้วขึ้นเรือข้ามฟากไปตลาดน้ำอัมพวา วิธีหลังนี้เป็นวิธีที่ผมเริ่มใช้บ่อยขึ้นหลังจากเจอรถติดที่อัมพวาบ่อยๆ อีกอย่างการนั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำมาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา นั้นน่าจะเป็นวิธีที่ดีเพราะได้สัมผัสบรรยากาศการเที่ยวตลาดน้ำได้มากกว่ากัน จากท่าเรือวัดบางนางลี่ใหญ่
ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่วัดบางนางลี่ใหญ่ หากมาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา แล้วมีเวลามากหน่อยเดินทางมาถึงวัดบางนางลี่ใหญ่อย่างที่ผมมาก่อนพระอาทิตย์ตก ก็ใช้เวลาที่วัดบางนางลี่ใหญ่ชมวิวสวยๆ พระอาทิตย์ตกก่อนข้ามฟากไปยังตลาดน้ำอัมพวา ก็ได้เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกกันพระอาทิตย์ตกที่นี่สวยเป็นรองดอนหอยหลอด นิดเดียวเองหลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วค่อยเดินทางไปตลาดน้ำอัมพวาก็ได้ เรือข้ามฟาก 2 บาท
มาถึงซะทีอัมพวา ถึงตลาดน้ำอัมพวา แล้วละถ้ามาทางเรือจากวัดบางนางลี่ใหญ่ หรือขับรถมาแล้วรู้ทางเข้าจอดรถที่หน้าเทศบาลตำบลอัมพวาละก็จะเดินผ่านถนนที่มีร้านค้ามากมายสินค้านานา ขนิดเน้นของกินเป็นหลัก(รูปเล็กบนกลาง) ถึงถนนเลียบนที (เลียบ-นที นะไม่ใช่เลีย-บนที) ข้ามสะพานข้ามคลองอัมพวาส่วนมากทนักท่องเที่ยวจะเลี้ยวซ้ายเพราะเป็นย่านที่มีของกินมากที่สุด(ขายในเรือ) ส่วนถ้าเลี้ยวขวาก็เป็นร้านอาหารและท่าเรือคุณย่า มีการร้องเพลงเก่าๆ สมัยคุณย่าให้ฟัง แต่เรายังวัยรุ่นอยู่ก็เลี้ยวซ้ายไปตามกระแส จะสั่งอาหารจากในเรือนั่งกินก่อนเป็นกำลังกองทัพต้องเดินด้วยท้องก็ตามอัธยาศัย หรือจะเดินชมคลองอัมพวาเรื่อยๆ ไปก็ย่อมได้ ถ้ามาอีกเส้นทางหนึ่งคือไม่รู้ซอยเข้าจอดหน้าสถานีตำรวจ ก็เข้าไปตามทางที่มีป้ายบอกไว้จนถึงวัดอัมพวาเจติยาราม ใกล้อุทยาน ร.๒ ก็เดินเข้ามาที่ตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งคนก็มากไม่แพ้กัน ของกินนานาชนิดให้เลือกกินตลอดเส้นทางเดินระยะทางไม่กี่ร้อยเมตรจุผู้คนจำนวนมหาศาลเดินไหลตามกันไม่มีช่องว่างเหลือกันเลยทีเดียว มาถึงตลาดน้ำอัมพวาก็กลับกัน ซ้ายเป็นขวา เลี้ยวซ้ายท่าเรือคุณย่า เลี้ยวขวาถึงจะเป็นทางเดินแบบในรูป สุดทางนี้เป็นร้านอาหารบ้านชมวิว เพราะอยู่หัวมุมปากคลองอัมพวาออกแม่น้ำแม่กลอง วิวดีทีเดียว
วิถีชีวิตลุ่มน้ำแม่กลอง ชาวบ้านละแวกนี้อาศัยอยู่ริมน้ำทำอาชีพประมงเป็นหลัก (ยกเว้นที่เปิดร้านค้าริมคลองอัมพวานะครับ) การทำประมงที่นี่ก็มีทั้งน้ำจืดน้ำเค็ม ประมงน้ำจืดก็มีทั้งโพงพางดักปลา การตกปลา สำหรับการตกปลาที่เคยเห็น 1 คน ต่อ 1 คันเบ็ดนั้นเชยไปแล้ว สำหรับคนๆ นี้เบ็ด 6 คันล้อมลำเรือ สุดยอดฝีมือจริงๆ จนต้องเก็บภาพมาให้ดู
ถนนหน้าเทศบาลอัมพวา ย้อนกลับมาขยายภาพบรรยากาศถนนที่คึกคักมากสายนี้อีกที ยืนอยู่บนสะพานข้ามคลองอัมพวาลองส่องกล้องยอนลงไปบนถนน เห็นผู้คนมากมายเลือกซื้อของกินตามทาง ระหว่างทางมายังคลองอัมพวายังมีซอกซอยต่างๆ ให้แวะให้เลี้ยวได้อีก ในซอยก็มีร้านอาหารและของกินชนิดกินเล่นๆ ได้อีกหลายร้านให้เลือก
ท่าเรือเทศบาล ๑ เป็นท่าเรือสำหรับล่องเรือชมหิ่งห้อยตามคลองอัมพวา ของเทศบาลราคาค่าโดยสารก็เท่าๆ กับเรือเอกชน สำหรับบริการล่องเรือมีให้เลือกมากมายหลายเจ้า อย่างท่าเรือคุณย่า และอีกมากมายที่จะพบเห็นได้ระหว่างทางเดินเลียบคลองอัมพวา ไม่ต้องกลัวว่าจะหาเรือไม่ได้ ราคาประมาณ 60 บาทต่อคน หรือเหมาลำ 600 บาท จากท่าเรือเทศบาลก็จะมองเห็นสะพานข้ามคลองอัมพวา เลียบคลองฝั่งซ้าย-ขวาล้วนแล้วแต่แน่นขนัดไปได้ผู้คนจำนวนมากที่พยายามจะซื้ออาหารจากในเรือมากินบนฝั่ง เรืออาหารหลายลำก็มีคิวยาวเหยียด รอๆ กันไป
แยกถนนเลียบนที-สะพานข้ามคลองอัมพวา ภาพนี้แสดงให้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวมากมายได้อย่างชัดเจน สะพานข้ามคลองอัมพวานี้มีคนจำนวนมากรอเดินข้ามและหยุดถ่ายรูป หากเทียบกับถนนก็ถือว่าเป็นจุดที่มีรถติดมากๆ จุดหนึ่งหากเดินมาจากเทศบาลตำบลอัมพวาถึงถนนเลียบนทีนี้แล้วเลี้ยวขวาไปก่อนขึ้นสะพานข้ามคลอง ก็ยังมีร้านค้าต่างๆ มากมายอีกหลายร้านตลอดระยะทางหลายร้อยเมตร ไปจนถึงสะพานข้ามคลองอีกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่ของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของอัมพวา-ชัยพัฒนานุรักษ์ ชมภาพมูลนิธิคลิกที่ลิงค์ได้เลยครับ เพราะแยกออกไปเป็นอีกสถานที่หนึ่ง
สินค้าตลาดน้ำอัมพวา เล่าเรื่องเส้นทางและของกินมายืดยาวแล้วทีนี้มาดูสินค้าต่างๆ ที่ขายดิบขายดีกันในตลาดน้ำอัมพวา กันบ้างสินค้าอย่างหนึ่งที่ประทับใจผมมากที่สุดคือสินค้าทำมือ หรือแฮนด์เมด เป็นของร้านเรือนคุณปู่ทำมือ คุณปู่ทำมือนั้นเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นตามความเป็นจริง เจ้าของผลงานเหล่านี้อายุเรียกว่าเป็นคุณปู่ได้แล้วและแกก็ทำมือทีละชิ้นๆ จริงๆ มีตัวตนอยู่จริง ล่าสุดเห็นคุณปู่แกไปนั่งทำผลผลิตเหล่านี้อยู่ที่มูลนิธิชัยพัฒนา ทำทุกวันวันละหลายๆ อย่างออกมาแขวนเรียงกันสีสันสวยงาม
เรือนคุณปู่ทำมือ อีกภาพหนึ่งของร้านเรือนคุณปู่ทำมือ เป็นซอกเล็กๆ ระหว่างบ้านพอให้คนเดินเข้าไปได้ สวนกันอย่างยากลำบากในซอกนี้ แต่ก็มีลูกค้าหลายคนเข้าไปเลือกซื้อสินค้าประเภทตกแต่งบ้าน สวยๆ งามๆ เหล่านี้มากมายทุกวัน
ร้านสยองขวัญ อยู่ต้นๆ จากสะพานข้ามคลองอัมพวาเดินมาจากเทศบาลเลี้ยวขวาหรือมาจากวัดอัมพวาเจติยารามข้ามสะพานถึงถนนเลียบนทีแล้วเลี้ยวซ้าย เป็นร้านที่ขายหน้ากากสยองขวัญ มีเยอะมากจุดเด่นอยู่ที่เจ้าตุ๊กตาหน้าตาน่ากลัวนี้นั่งจองคนเดินผ่านไปผ่านมาเปิดไฟส่องหน้ายิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่
งานศิลปะ จากเจ้าของผลงานจบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั่งสร้างผลงานของตัวเองออกขายที่บ้านตัวเองที่ริมน้ำอัมพวา ร้านนี้เป็นทางไปบ้านชมวิว เป็นร้านที่อยู่ท้ายๆ แล้วตอนนี้มีงานพวงกุญแจเขียนมือทีละชิ้นๆ ออกขายด้วยลองเดินไปดูกัน
สินค้าวันวานอัมพวา เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าเดินตลาดน้ำที่ไหนก็ต้องมีสินค้าเหล่านี้วางขายอยู่บ้างเพื่อความโบราณมีมนต์ขลัง ของเล่นของกินมากมายที่เคยมีวางขายกันในอดีตสำหรับวันนี้ต้องไปหาดูหาชมหาซื้อกันที่ตลาดน้ำต่างๆ ตลาดโบราณ เป็นต้น ทำให้ทุกคนหวนคิดถึงความหลังในวันวานได้
สินค้านานาชนิดที่อัมพวา ทีนี้ก็มาถึงสินค้าขายดีเป็นที่นิยมอีกอย่างหนึ่งคือกลุ่มโปสการ์ด สินค้าที่ระลึก สินค้าแนวไอเดีย ดีๆ ที่ประดิษฐ์มาจากของเหลือใช้อย่างขวดสีต่างๆ เอามาดัดแปลงเป็นโคมไฟ ทำให้มีสีสันสวยงามตามสีของขวด ของตกแต่งบ้านที่เน้นสีสันอย่างน้อยก็ช่วยดึงดูดลูกค้าให้หยุดอยู่หน้าร้านได้เป็นอย่างดี ทีมงานของเราเองกว่าจะออกจากร้านเหล่านี้มาได้เรียกว่าได้รูปกันมาเพียบ
โปสการ์ดอัมพวา ขอเน้นภาพร้านโปสการ์ดอีกสักภาพ เนื่องจากเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ร้านโปสการ์ดแต่ละร้านก็มีวิธีสร้างจุดขายเป็นของตัวเอง บ้างก็จัดร้านให้เป็นที่ถ่ายรูปในร้าน บ้างก็ตกแต่งให้ดูเรียบง่ายและเหงาๆ บ้างก็เอาภาพหมาภาพแมวมาขายเพื่อหาเงินช่วยเหลือมูลนิธิสัตว์ต่างๆ ก็ว่ากันไป นอกเหนือไปกว่านั้นก็ยังมีการทำเสื้ออัมพวามาวางสลับกับโปสการ์ดสร้างสีสันให้กับร้านได้เป็นอย่างดี
สี่ศิลปินแห่งอัมพวา ภาพต่อมาเป็นภาพน่าประทับใจเหล่าศิลปินหลายคนมานั่งบรรเลงเพลงสไตล์วณิพก เปิดหมวกหารายได้ เครื่องดนตรีก็แตกต่างกันไป นั่งบรรเลงเพลงตามจุดต่างๆ ทุกวันนี้อาจจะมีน้อยลงไปบ้าง หรือมาให้เห็นบ้างไม่มาบ้างก็แล้วแต่ แต่วันที่ผมไป มากันครบทีมอย่างที่เห็นเลยเก็บภาพมาให้ชมกันหากไปแล้วไม่เจอแล้วก็อย่าว่ากันนะครับ อารมณ์ศิลปินอาจจะไม่ได้มาแสดงกันทุกวันๆ
นานาสินค้าน่าซื้อฝาก มาถึงของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องขอย่อให้เล็กๆ จะได้หลายๆ ภาพเอามาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ สินค้าเหล่านี้ส่วนมากจะเน้นการทำให้เล็ก และสีสันที่สวยงาม ที่น่าสนใจมากได้แก่เข่งปลาทูเอกลักษณ์เมืองแม่กลองที่ทำให้เล็กมากๆ จนเป็นพวงกุญแจ ซึ่งพวงกุญแจเข่งปลาทูนี้จะบ่งบอกที่มาได้เป็นอย่างดี ที่อื่นคงไม่ทำขายแน่ๆ ร่มคันเล็กๆ แต่กางได้จริงก็น่ารักสนนราคาไม่แพง ยอดฮิตติดอันดับอันต่อมาคือตุ๊กตามนุษย์ต่างดาว ทำออกมาได้สวยงามด้วยไหมพรมมีหลายสีหลายแบบให้เลือกหรือจะเป็นมนุษย์ต่างดาวที่เป็นตุ๊กตาผ้าก็มีให้เลือกหลายลายตามลายของผ้า ร้านเล็กๆ ที่น่าสนใจอีกร้านหนึ่งก็คือขนมไทยคุณยาย เป็นร้านขายขนมไทยแท้ล้วนๆ รสชาดดี ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกะลามะพร้าวเอามาเจาะมาตัดเป็นโคมไฟก็สวยน่าซื้อใช้
พ่อค้าแม่ขายตลาดน้ำอัมพวา เป็นภาพบรรดาเหล่าพ่อค้าแม่ขาย มีทุกเพศทุกวัยให้เห็นในอัมพวา สินค้าหลากหลายชนิดที่ทำออกมาล้วนน่ากิน หอยทอดยอดชายก็เคยลองกินแล้ว ข้าวโพดปิ้งก็อร่อย ผลไม้ของคุณยายก็น่าซื้อน่าอุดหนุน นอกเหนือไปจากนี้ยังมีอีกมากที่ไม่อาจจะนำภาพมาลงได้ทั้งหมด
บรรยากาศอัมพวาเวลากลางคืน เนื่องจากเป็นตลาดที่เปิดตั้งแต่ช่วงเย็น 4 โมงเย็นก็เริ่มมีผู้คนทยอยเข้ามาที่อัมพวา จนไปถึงหัวค่ำ 2-3 ทุ่ม คนจะเริ่มซาลงแต่ก็ยังมีตลาดต่อไปเรื่อยๆ ช่วงเวลากลางคืนจะเป็นช่วงการทำการตลาดของสินค้าที่มีสีสัน หรือแสงไฟ อย่างเช่นโปสการ์สีสวยๆ หน้าร้านสวยๆ โคมไฟกะลาก็เป็นที่สนใจอย่างมาก
บรรยากาศอัมพวาเวลากลางคืน(ต่อ) เมื่อผู้คนเริ่มลดน้อยลงก็จะเห็นอยู่กันตามร้านต่างๆ ที่มีที่นั่งร้านกาแฟสดอัมพวา ร้านกำปั่นเครื่องดื่มหลากสีสันก็มีผู้คนสนใจจำนวนมาก นอกจากสีที่สวยงามแล้วเครื่องดื่มร้านกำปั่นก็ยังมีรสชาดที่ถูกใจเหมาะในการแก้กระหายเนื่องจากการเดินนานๆ จนกระทั่งร้านบ้านชมวิว ร้านอาหารทำเลดีตรงหัวมุมปากคลองอัมพวา อีกร้านที่ถูกใจมากในการตั้งชื่อเมนูแปลกๆ ได้แก่ หมึกโดนไฟ หอยเดือดร้อน หมึกย่าง ธรรมดาๆ พอเรียกว่าหมึกโดนไฟ ก็ดึงดูดลูกค้าได้มากพ่อค้าอัธยาศัยดี น้ำจิ้มรสเด็ด หมึกย่างตัวโตๆ ที่กินได้หลายคนเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการกินไปเดินไป
ท่าเรืออัมพวา อย่างที่ได้กล่าวไว้แล้วว่าท่าเรือมีอยู่ทั่วไปในตลาดน้ำอัมพวามีหลายท่าให้เลือกราคาพอๆ กัน มีการล่องเรือเที่ยวได้ตั้งแต่ตอนกลางวันไปจนถึงกลางคืน โปรแกรมเที่ยวเรือเวลากลางวันก็มีไปตามวัดต่างๆ ที่อยู่ริมน้ำ วัดในสมุทรสงครามเป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงด้วยกันหลายวัด เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง หากเป็นโปรแกรมกลางคืนคงไม่พ้นการชมหิ่งห้อย แม้ว่าปัจจุบันจะมีจำนวนลดน้อยลงไปมาก แต่หากไปตามฤดูกาลจริงๆ จะพอมีให้เห็นได้บ้าง ไม่งั้นแล้วจะไม่เจอหิ่งห้อย ถึงแม้ว่าจะมีหิ่งห้อยหากตาไม่ดีก็มองไม่เห็นอยู่ดี การชมหิ่งห้อยไม่จำเป็นต้องใช้กล้องเพราะถ่ายยังไงก็ไม่ติดตัวหิ่งห้อยอยู่แล้ว แม้จะมีการประชาสัมพันธ์ว่าห้ามใช้แฟลชในการถ่ายหิ่งห้อยเพราะเป็นการรบกวนมันแล้วแต่ที่ถูกคือไม่ต้องถ่ายเลยจะดีกว่าได้แต่ภาพมืดๆ กลับมา
ร้านค้าน่าซื้อ มาถึงช่วงสุดท้ายของการนำเที่ยวอัมพวากันแล้ว ร้านค้าต่างๆ อีก 4 ร้านที่ได้ลองชิม เช่นเครื่องดื่มกาแฟของสมานการค้า บะจ่างแม่เตียง หรือขนมไทยๆ ใส่ห่อทำชะลอมสวยๆ ก็ลองชิมมาแล้ว รับรองได้ว่าถูกใจ สำหรับร้านสมานการค้าตกแต่งร้านให้เหมือนร้านค้าในสมัยก่อนได้ดี มีของเก่าๆ ประดับไว้โชว์อย่างผงซักฟอกบางยี่ห้อที่เลิกขายกันไปนานแสนนานแล้วอย่างเปาบุ้นจิ้น ก็มี ต่อท้ายด้วยร้านของฝากจากเจ้าแม่ OTOP เจ้นิลเป็นร้านไม่เล็กไม่ใหญ่แต่รวมเอา OTOP หลายรายการซึ่งเป็นของฝากจากแม่กลองมารวมกันไว้ให้เราได้เลือกซื้อร้านเดียวครบครัน ที่เขียนมาทั้งหมดยังไม่ได้ 1 ใน 10 ของอัมพวา ของแบบนี้ไม่ไปไม่รู้ ต้องดูให้เห็นกับตาเท่านั้นครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ