เขาขนาบน้ำ

เขาขนาบน้ำ อำเภอเมือง จ.กระบี่ เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที นอกจากนั่งเรือชมเขาและป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์แล้วยังสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวถ้ำได้ ภายในมีหินงอกหินย้อย และเป็นสถานที่ที่เคยพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากอีกด้วยแต่ปัจจุบันไม่หลงเหลืออยู่แล้ว สันนิษฐานว่าอาจเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งแต่ล้มตายลงเนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน และสำหรับนักนิยมพายเรือแคนู บริเวณนี้เหมาะที่จะพายเรือแคนูเพราะมีธรรมชาติที่เขียวชอุ่มด้วยป่าชายเลนและน้ำนิ่ง สนใจสามารถติดต่อบริษัทเรือแคนู ในจังหวัดกระบี่ได้ นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากท่าเรือเทศบาล บริเวณเขาขนาบน้ำ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าเช่าเรือลำละ 300 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานจังหวัดกระบี่ โทร. 0 7562 2163
http://www.tourismthailand.org/krabi

แก้ไขล่าสุด 0000-00-00 00:00:00 ผู้ชม 25695

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ออกเรือสู่เขาขนาบน้ำ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินสายการบินแอร์เอเซีย ที่กระบี่วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดฤดูท่องเที่ยวทะเลอันดามันที่กระบี่ มีการจัดงานเบิกฟ้าอันดามัน ที่จะจัดขึ้นในช่วงเย็น ก่อนจะถึงเวลาเปิดงานเรามีเวลามากพอที่จะเที่ยวในตัวเมืองใกล้ๆ ที่จัดงาน อย่างเช่น เขาขนาบน้ำ เราแค่เดินจากปูดำไปลงท่าเรือ แล้วเหมาเรือไปส่งที่เขาขนาบน้ำแค่นี้เอง ใช้เวลาก็ไม่นานก็ถึงแล้ว ท้องฟ้าแจ่มใสสมกับที่เป็นวัดจัดงานกระบี่เบิกฟ้าอันดามันซะจริงๆ

เขาขนาบน้ำ ไม่กี่นาทีจากท่าเรือเราก็เขามาใกล้เขาขนาบน้ำ ภูเขาสองลูกที่อยู่คนละฟากกับแม่น้ำ รูปร่างเป็นเอกลักษณ์ที่ดูแล้วรู้ทันทีว่าอยู่กระบี่ ภูเขาลูกที่เราจะเข้าไปเที่ยวคือภูเขาลูกขวาที่สูงๆ เอียงๆ ระหว่างการเดินทางเราจะอยู่ท่ามกลางป่าชายเลนเขียวขจีที่อุดมสมบูรณ์

ท่าเรือเขาขนาบน้ำ ถึงท่าเรือเขาขนาบน้ำเรือหัวโทงที่เรานั่งมาจะดับเครื่องปล่อยให้ไหลไปอย่างช้าๆ แล้วคนขับก็จะเดินมาที่หัวเรือเพื่อผูกเชือกอย่างชำนาญแล้วเราก็เดินลงจากเรือ เดินขึ้นฝั่งได้หน่อยเดียวจะมีจุดเก็บค่าเข้าชม ที่ดูแลโดยกลุ่มชาวบ้าน ใกล้ๆ ก็จะมีโรงเรือ เป็นที่จอดเรือคายัคไว้สำหรับให้เช่า เดินต่อไปอีกหน่อยจะเจอปากถ้ำค้างคาวใหญ่ เป็นที่อยู่ของค้างคาวจำนวนมาก แค่เดินผ่านปากถ้ำกลิ่นของค้างคาวก็ลอยมาเตะจมูกแล้ว แต่ถ้ำค้างคาวยังไม่ใช่ที่ที่เราจะเข้าไปชมกัน ต้องเดินต่อไปอีกหน่อย

ถึงแล้วที่เที่ยวเขาขนาบน้ำ ทางเดินประมาณไม่ถึง 400 เมตร เราก็มาถึงตรงบริเวณที่เป็นลานกว้างเหมือนหาดทราย มีต้นไม้ร่มรื่น มีม้านั่งจัดเอาไว้ให้นั่งพักผ่อนอย่างดี พร้อมกับมีป้ายบอกว่าเรามาถึงเขาขนาบแล้ว

หาดทรายเขาขนาบน้ำ

อีกฟากหนึ่งของเขาขนาบน้ำ ลานกว้างที่เป็นทรายนุ่มๆ ที่เรายืนอยู่เดินมาริมตลิ่งเราจะเห็นเขาอีกลูกที่เป็นคู่ของภูเขาที่เราอยู่ และมีแม่น้ำคั่นอยู่ตรงกลางแค่ไม่ไกล อันเป็นที่มาของคำว่าเขาขนาบน้ำนั่นเอง เขาฝั่งตรงข้ามดูเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจเท่ากับเขาลูกนี้ ที่เรากำลังจะไปสำรวจกัน

บันไดขึ้นถ้ำโบราณ เขาลูกนี้มีความสำคัญมากกว่าแค่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกระบี่เท่านั้น ในสมัยโบราณเคยมีระดับน้ำสูงและมนุษย์อาศัยอยู่ตามถ้ำ ที่นี่ก็เคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ถ้ำด้วยเหมือนกัน ตรงหาดทรายเขาขบานน้ำจึงได้มีการจำลองโครงกระดูกมนุษย์เอาไว้ให้เราชม แต่ถ้าใครยังมีแรงพอที่จะเดินขึ้นบันไดนี้ได้ขอแนะนำเลยว่าให้ลองขึ้นไปดู

หลุมโครงกระดูกมนุษย์จำลอง ที่เราเห็นอยู่ในหลุมเป็นโครงกระดูกมนุษย์ที่ทำจำลองขึ้นมา เพราะรอบๆ ถ้ำแห่งนี้รวมทั้งในถ้ำเคยมีการค้นพบโครงกระดูกที่น่าจะเป็นของมนุษย์ถ้ำ บันไดขึ้นถ้ำนี้น่าจะสูงประมาณตึก 5 ชั้น นับว่าไม่ชันมากเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ได้

ถ้ำเขาขนาบน้ำ พอเดินขึ้นบันไดมาสุดแล้ว เบื้องหน้าของเราคือถ้ำ ทีแรกจะมองอะไรไม่ค่อยเห็นเห็นแต่แสงสว่างที่ส่องเข้ามาจากอีกด้านหนึ่งของถ้ำ นอกนั้นจะมืดไปหมด พอเดินเข้ามาลึกหน่อยแสงจากปล่องบนเพดานถ้ำจะทำให้เราเห็นอะไรมากขึ้น ถ้ำนี้เป็นโถงค่อนข้างใหญ่ มีการขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ถ้ำหลายโครงด้วยกัน จนน่าเชื่อว่าทุกคนตายพร้อมๆ กัน และน่าจะเป็นเพราะน้ำท่วมฉับพลัน ปัจจุบันโครงกระดูกทั้งหมดถูกย้ายออกจากถ้ำไปหมดแล้ว คงเหลือแต่โครงกระดูกที่ทำจำลองขึ้นมา และรูปปั้นจำลองการใช้ชีวิตของมนุษย์ถ้ำที่อยู่ในนี้มาก่อนให้เราได้ศึกษา และยังมีเรื่องราวของการตั้งแคมป์ของทหารญี่ปุ่นด้วย

หินงอกหินย้อยในถ้ำเขาขนาบน้ำ ถ้ำแห่งนี้ยังเป็นถ้ำเป็น มีน้ำหยดลงมาตลอดหินงอกหินย้อยมีลวดลายสวยงาม บางจุดมีเฟิร์นเกาะเพราะมีน้ำไหลลงมาเฟิร์นเลยมีชีวิตอยู่ได้

ปล่องขนาดใหญ่อีกด้านหนึ่งของถ้ำอยู่ค่อนข้างสูง มีเชือกผูกไว้ให้ ถ้ามั่นใจว่าปีนได้ก็ปีนขึ้นไป แต่บอกเลยว่ากว่าจะขึ้นถึงด้านบนเหนื่อยพอสมควรเลย ในถ้ำที่มืดมิดพอมีปล่องให้เห็นแสงลอดเข้ามาและมองออกไปเป็นท้องฟ้าสีครามก็แลดูสวยดี ช่วงเวลาเหมาะๆ มีคนเล่าว่าแสงจะส่องเข้ามาในถ้ำเป็นลำสวยมาก

ออกมานอกถ้ำไม่มีทางไปต่อ มองลงด้านล่างเป็นผาสูงมีต้นไม้เต็มไปหมด มองขึ้นด้านบนก็เป็นหน้าผาเหมือนกัน

เรียนรู้เรื่องมนุษย์ถ้ำ ในพื้นที่ที่กว้างใหญ่ เค้าจัดพื้นที่เอาไว้ให้เราได้เรียนรู้การใช้ชีวิตของชาวมนุษย์ถ้ำ มีทั้งการก่อไฟ และกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน โซนหนึ่งทำเป็นรูปปั้นทหารชาวญี่ปุ่นตั้งแคมป์ในถ้ำในสมัยสงครามโลก

อีกโซนหนึ่งทำเป็นรูปปั้นมนุษย์ถ้ำกำลังเขียนภาพเขียนลงบนผนังถ้ำ โดยใช้การจำลองภาพเขียนโบราณที่พบในที่ต่างๆ ของจังหวัดกระบี่

เหมียวกังฟูแสนรู้ ออกจากถ้ำกันดีกว่าหลังจากที่เราเดินชมทั่วถ้ำแล้ว เราจะออกเดินทางไปที่เที่ยวอื่นๆ ต่อ แต่พอดีขากลับเดินมาที่ด่านเก็บค่าเข้าชม มาเจอแมวตัวนี้เข้าชื่อกังฟู เป็นแมวที่เจ้าของเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก ให้ตุ๊กตาเป็นเพื่อนเล่น จากนั้นมันก็ต้องมีตุ๊กตาตลอด พอตัวเก่าพังเค้าก็ซื้อตัวใหม่ให้ แม้เวลานอนมันก็ไม่เคยห่างจากตุ๊กตา ท่านอนของมันสะดุดตาทุกคนที่เดินผ่าน จนมีนักข่าวจากต่างประเทศมาทำสกู๊ปเรื่องเจ้ากังฟูไปแล้วด้วย มันก็น่าอยู่หรอกนะ จบการนำเที่ยวเขาขนาบน้ำเอาไว้เท่านี้