ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานจังหวัดกระบี่ โทร. 0 7562 2163
http://www.tourismthailand.org/krabi
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ซุ้มประตูมหาโพธิสัตว์ รุ่งเช้าวันใหม่ของทริปเที่ยวกระบี่ เราวางแผนที่จะมาที่นี่เพื่อถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น แต่ทว่า เมื่อคืนทำงานดึกไปนิด พอล้มตัวลงนอนก็ไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก เก็บของเช็คเอาท์ไม่ทัน สุดท้ายก็เลยตามเลยออกจากที่พักที่นพรัตน์ธารา 6 โมงเช้า มาที่นี่ก็สายแล้วละ เคยได้ยินชื่อเสียงวัดถ้ำเสือว่าเป็นวัดที่มีบันไดสูงลิบพันกว่าขั้น แต่ไม่นึกว่าภายในวัดจะมีอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ แค่มองหาบันไดขึ้นเขาที่ว่าก็เดินวนไปวนมาจนต้องถามคนในวัด
ก่อนที่จะขึ้นไปบนยอดเขา เค้าแนะนำให้เราไปไหว้พระและเจ้าแม่กวนอิมซะก่อน เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย เป็นสิริมงคล การเดินทางจะได้ราบรื่นก็เดินไปตามทางเดินที่มีซุ้มประตูแบบจีนนี่แหละ คือซุ้มประตูมหาโพธิสัตว์
พระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นคำเรียกขานที่เหมาะสมสำหรับขนานนามท่าน แม้ว่าหลายคนจะเรียกเจ้าแม่กวนอิมก็ตาม เพราะง่ายกว่า กายละเอียดของท่านแท้จริงไม่มีเพศ แต่การสร้างนิยมสร้างให้เป็นเพศหญิง เพื่อให้ดูมีเมตตาสูงเลยถูกเรียกว่าเจ้าแม่กวนอิมไปโดยปริยาย พระโพธิสัตว์กวนอิมที่นี่ประดิษฐานอยู่ในเก๋งจีนทรงสูงลิบ สวยงามมาก
ทางเดินขึ้นวัดถ้ำเสือ 1237 ขั้น หลังจากสักการะพระโพธิสัตว์ นมัสการพระพุทธรูปก็ได้เวลาอันเป็นมงคลแก่เราที่จะเดินขึ้นบันไดไปบนยอดเขา บันไดนั้นเริ่มต้นตรงนี้ ด้านบนเห็นพระพุทธรูปปางประทานพรยืนบนฐาน ด้านขวามองเลยบันไดไปจะมีเทพเจ้าเห้งเจีย ตามบันไดเห็นเจดีย์องค์เล็กๆ เรียงกันไปเป็นระยะๆ เจดีย์แต่ละองค์จะมีพระนามพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์
บันไดขั้นที่ 100 สำหรับคนที่ไม่เคยมาวัดถ้ำเสือ อยากรู้ว่าขึ้นบันได 1237 ขั้นนั้นยากหรือง่ายประมาณไหน จะเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่า บันไดที่นี่ทีแรกก็คิดว่านานมากสำหรับ 1 พันขั้น แต่ลองจินตนาการดูว่า พอเดินขึ้นมาเลยพระยืน 3 องค์ที่เราเห็นตอนก่อนขึ้น ตรงนี้ก็เป็นบันไดขั้นที่ 100 กว่าแล้ว เรียกว่าไม่กี่นาทีเอง แค่เดินแบบนี้ไปอีก 11 ครั้ง ครั้งละ 100 ก็ไม่ยากมากอะไร สุดแท้แต่กำลังของแต่ละคน ว่าจะเริ่มขาตึงกันที่ขั้นไหน ส่วนใหญ่จะไปถึง 400-700 ขั้น จากนั้นก็จะเริ่มช้าลงเรื่อยๆ และหยุดพักกันถี่ขึ้น
พระมหาเจดีย์สร้างใหม่ ตรงนี้บริเวณขั้นที่ 200 กว่าๆ มองไปจะเห็นยอดพระมหาเจดีย์ที่สร้างสูงใหญ่มากอยู่กลางวัด ใครมาหลังจากนี้อีกสักปีคงจะได้เห็นเจดีย์ที่เสร็จสมบูรณ์อย่างสวยงามจากบนยอดเขาด้วย มาถึงตรงนี้ ลิงที่อาศัยอยู่รอบๆ บันไดก็จะเริ่มเข้ามาใกล้ๆ เรา มองหาว่าในมือเราถืออะไรอยู่ มันจะแย่งทุกอย่างที่มันคิดว่ากินได้ แม้ว่าของสิ่งนั้นจะกินไม่ได้ก็ตาม ดังนั้นต้องระวังให้มาก ในวัดเป็นเขตอภัยทานห้ามทำร้ายสัตว์ พอถูกแย่งก็ได้แต่ทำใจ วันนั้นเราใจดีซื้อน้ำดื่มเกลือแร่ขวดส้มๆ ม่วงๆ หวังว่าจะเอาไปเผื่อเพื่อนและกินเอง เลยโดยลิงรุมกันใหญ่กว่าจะเดินขึ้นไปได้แต่ละขั้นต้องคอยหลบหลีกลิงที่รุมเข้ามาจากทุกด้านเลยยิ่งเหนื่อยเร็วเข้าไปใหญ่
บันไดของวัดถ้ำเสือ จะสร้างต่อเนื่องยาวเรียงติดกันไป มีจุดพักเป็นช่วงๆ แต่ละช่วงจะเกิน 60 ขั้น บางช่วงอาจจะเกิน 100 ขั้น ตัวเลขทำให้เรารู้สึกว่ามันมาก แต่พอเดินจริงไม่ถึง 2 นาทีเราก็ไปถึงจุดพักอีกช่วงหนึ่งแล้ว หลังจากถึงจุดจำกัดของตัวเองแล้วมันจะก้าวได้ช้าลง ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงบนยอดเขา เสาราวบันไดจะมีตัวเลขบอกจำนวนขั้นเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น ที่เรายืนอยู่นี้ขั้นที่ 122 ส่วนที่เราเห็นสุดบันไดลิบๆ ในรูปนี้ คือชั้นที่ 352 ยาวตั้ง 130 ขั้นเลย
ปรับบันไดสายใหม่ สำหรับคนที่เคยมาเมื่อหลายปีก่อน จำนวนขั้นบันไดอาจจะไม่ใช่ 1237 ขั้น เพราะบางช่วงที่ชันมากเกินไปทางวัดได้ทำการสร้างใหม่ปรับให้ชันน้อยลง อย่างตรงโค้งนี้ จะเป็นบันไดเก่าคู่กับบันไดใหม่ ทำให้จำนวนขั้นเปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นมา
บันไดขั้นที่ 400 หลังจากที่เดินฝ่าฝูงลิงที่จ้องจะแย่งน้ำเกลือแร่ของเรามาได้ ถึงประมาณขั้นที่ 300 ลิงพวกนั้นจะเลิกตามแย่งของจากเรา ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เราเดินขึ้นมาเรื่อยๆ มาชอบมุมนี้เลยหยุดพักถ่ายรูปเจดีย์ที่เรียงรายอยู่ใกล้ๆ บันไดตรงนี้มีที่นั่งพักให้เป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว ถามคนเดินหลายคนบอกว่าจะมาหมดแรงเอาช่วงขั้นที่ 400 บ้าง 500 บ้าง ประมาณนี้
จาก 400 ถึง 500 เมื่อหลายคนหมดแรงที่ประมาณขั้นที่ 400 จึงทำให้ช่วงต่อจากนี้ค่อนข้างยาก พอมองขึ้นไปตามบันไดรู้เลยว่าชันกว่าช่วงที่เดินขึ้นมาช่วงแรกแบบเอาเรื่องเลย ถ้าไม่มาตอนเย็นหรือเช้ามืด เราจะเริ่มโดนแดดตั้งแต่บริเวณนี้ไป ยิ่งทำให้เหนื่อยและร้อนแบบสุดๆ
ขีดจำกัดของร่างกายหลายคนมาถึงตรงนี้ ขั้นนี้ประมาณ 570 ซึ่งพอทำการปรับบันไดตรงช่วงที่ชันมากทำให้จำนวนขั้นมันเปลี่ยนไป จาก 570 ต้องเป็น 600 เสาต่อไปขั้นที่ 618 ช่วงหักมุมเลี้ยวขั้นที่ประมาณ 640 ช่วงนี้ทั้งหอบทั้งช้า เดินๆ หยุดๆ ยังดีที่มีร่มเงาของป่าไผ่มาช่วย พอช่วงไหนมีแดดส่องจะอยากเดินผ่านไปให้ไวๆ แล้วไปเดินช้าๆ ช่วงที่มีร่ม
เย้ 2 ใน 3 แล้วววว ถ้าจำไม่ผิดช่วงนี้ยาวประมาณ 100 กว่าขั้น จาก 700 กว่าๆ ไปถึง 821 จะมีพื้นที่พักให้นั่งหายใจรับลมเย็นๆ ชมวิวไปพลางๆ ก่อนที่จะเดินกันต่อไป
ชมวิวระหว่างทาง ถึงขั้นที่ 800 กว่า ใจชื้นขึ้นมาเยอะ เรายังพอมีแรงเหลือที่จะเดินอีก 400 ขั้น แต่หลายๆ คน มาถึง 400 กว่ารู้ตัวว่าไม่ไหวเดินกลับลงไปก็มี อย่างน้อยพอรู้ว่าเรายังเดินไหวก็ดีใจแล้ว หันมามองข้างหลัง วิวสวยเหมือนกันนะ นี่ถ้ามาทันพระอาทิตย์ขึ้นคงจะดีมาก แต่ช่างภาพ 3 คนที่เดินสวนลงมาจากยอดเขาบอกว่าวันนี้พระอาทิตย์ขึ้นไม่สวยและไม่มีหมอก เฮ้อ ก็ยังดี เอาไว้โอกาสหน้าจะมาเพื่อขึ้นวัดอย่างเดียวเลย
ศาลปู่ฤๅษี มีชื่อปู่ฤๅษีด้วยแต่คนทำแก้วล้มบังป้ายชื่อมองไม่เห็น เราพยายามถ่ายมุมนี้ให้ติดบันไดช่วงที่เราเดินขึ้นมา จากขั้นที่ 821 ตรงนี้เป็นขั้นที่ 948 เป็นอีกช่วงที่โหดมาก เพราะชันและยาวตั้ง 127 ขั้น แต่ถ้าเดินเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องให้ถึงพักแต่ละพักก็ได้นะ แต่มันจะแดดร้อนเท่านั้นเอง เลยรีบเดินให้พ้นแดดจากนั้นค่อยว่ากันมาถึงตรงนี้ น้ำเกลือแร่ขวดของเราหมดไปเรียบร้อย เหลือแต่ของเพื่อน 2 ขวด ต้องถือไปให้ถึงให้ได้ ระหว่างที่เดินขึ้นมาไม่เห็นมีน้ำให้กินนะ มาเห็นที่ข้างศาลปู่ฤๅษีน่าจะกินได้แต่ต้องผ่านด่าน 900 ขั้นมาให้ได้ก่อน
300 ขั้น สู่วัดถ้ำเสือ ภาพที่เห็นแล้วท้อที่สุดของการเดินวันนี้ คือภาพนี้แหละ จากขั้นที่ 900 ไปถึง 1200 โดนแดดเต็มๆ ต้องพยายามเดินผ่านไปให้เร็วที่สุด ก่อนหน้านั้นถ้าจะเข้าห้องน้ำ ให้จัดการให้เรียบร้อย ตรงนี้ที่ยืนถ่ายรูปนี้มีห้องน้ำเป็นห้องน้ำเพียงจุดเดียวของเส้นทางเดินนี้
ระเบียงวิววัดถ้ำเสือ ชัยโยยยยย สุดยอดครับ มันสุดยอดมากที่เราเดินมาถึงตรงนี้ 1200 ขั้นผ่านไป เราทำได้สำเร็จแล้ว ตอนนี้เรามาอยู่ใต้ฐานของเจดีย์และพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่อยู่บนเขาแก้ว อ่าวลูกธนู หรือ วัดถ้ำเสือกระบี่ นั่นเอง จากตรงนี้ขึ้นไปอีก 37 ขั้นเท่านั้น แต่ก่อนอื่นขอชมวิวตรงนี้หน่อยก่อน เพราะขาตึงสุดๆ ไปไม่ไหวแล้ว
ตรงนี้จะมีถังน้ำดื่มไว้บริการ คนที่ไม่ได้เอาน้ำขึ้นมาก็ได้พึ่งพาน้ำในถังที่ฐานพระตรงนี้ ดับกระหายก่อนที่จะเดินกลับลงไปด้านล่าง
วัดถ้ำเสือ กระบี่ พอขึ้นมาที่ลานเจดีย์ยอดเขา เฮ้อ ต้องขอพักก่อนสักครู่ ไปนั่งกันอยู่ในร่มของเจดีย์สีทอง หายเหนื่อยแล้วค่อยเดินดูรอบๆ ว่าบนนี้เรามองเห็นอะไรได้บ้าง สิ่งแรกคือบริเวณทั้งหมดของวัด พระมหาเจดีย์องค์ใหญ่ที่กำลังสร้าง สระน้ำ อาคารต่างๆ จนไปถึงหมู่บ้านที่อยู่รอบๆ วัด ป่าไม้ เขียวขจี
จุดชมวิวเมืองกระบี่ พอชมบริเวณวัดแล้วมองยาวออกไปด้านหน้า เราจะมองเห็นเขาขนาบน้ำ โอ้ว สุดยอด ไม่เคยเห็นภาพเขาขนาบน้ำจากมุมนี้มาก่อนเลย เขาขนาบน้ำเวลามองจากลานปูดำ เราเห็นเขาใหญ่มาก พอมาตรงนี้เขาขนาบน้ำเล็กจนมองแทบไม่เห็น เลยเขาขนาบน้ำไปเราเห็นปากน้ำที่แม่น้ำไหลลงทะเลได้ด้วย เทือกเขารอบๆ เราทั้งหมดนี้คือเขาแก้ว อ่าวลูกธนู
เจดีย์วัดถ้ำเสือ เป็นเจดีย์องค์เล็ก ตั้งอยู่บนลานคอนกรีตที่สร้างอย่างแข็งแรง อีกด้านหนึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ใครมีโดรนหรือเครื่องบินถ่ายรูปลองมาบินมุมวัดนี้สวยมาก เราก็ได้สักการะองค์เจดีย์ และพระพุทธรูปแล้วก็เดินชมวิวไปรอบๆ แบบเอาให้คุ้มกับที่เดินมาเลยทีเดียว บนนี้สวยจนไม่รู้จะบรรยายอะไร ชมภาพกันเองก็แล้วกัน
เขาขนาบน้ำ สุดยอดที่สุดของการขึ้นมาบนนี้คือการได้เห็นตัวเมืองกระบี่ในมุมที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เราอยู่ด้านตรงข้ามกับภาพเขาขนาบน้ำที่เราเคยเห็นหรือเคยไปยืนถ่ายที่ลานปูดำ เราเห็นแม่น้ำสายใหญ่ไหลลงทะเล อาคารบ้านเรือนในตัวเมืองกระบี่กับผืนป่าชายเลนขนาดใหญ่มากๆ
เข้าถ้ำเสือ มาวัดถ้ำเสือทั้งทีถ้าไม่เข้าถ้ำเสือเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง หลังจากที่ไหว้พระถ่ายรูปบนยอดเขากันจนเป็นที่พอใจแล้ว เราก็เดินย้อนกลับลงมาจากเขา ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีกว่าๆ ก็ถึงด้านล่าง จากนั้นก็ไปหาน้ำเย็นๆ กินกันให้ชื่นใจ ต่อจากนั้นเดินชมบริเวณวัด ก็จะมีบริเวณที่เรียกว่าถ้ำเสือ เป็นที่อยู่ของเสือในสมัยก่อน ก่อนจะถึงโพรงที่เสืออยู่จะมีถ้ำโถงใหญ่ที่สร้างเป็นเหมือนศาลาการเปรียญ สำหรับทำบุญ ถวายสังฆทาน ไหว้พระขอพร
ถ้ำเสือ ไหว้พระที่โถงใหญ่แล้วก็เดินมาตามป้าย จะมีทางเข้าถ้ำเสือ เป็นปากโพรงเล็กๆ เหมาะสำหรับอยู่อาศัยของเสือ เพื่อป้องกันอันตรายให้ลูกน้อย ก่อนที่จะพัฒนาเป็นวัดขึ้นมีเสืออยู่ในถ้ำนี้จริงๆ จนเมื่อหลวงพ่อจำเนียร สิลเสฏโฐ นำคณะสงฆ์และแม่ชีมาอยู่ปฏิบัติธรรมบริเวณนี้ เสือจึงได้ย้ายออกไปยังเทือกเขาพนมที่อยู่ติดกับเทือกเขาถ้ำเสือ และไม่มีใครพบเห็นเสืออีกเลย นอกจากนี้ก็จะมีรอยพระพุทธบาทให้สักการะด้วย
พระบรมสารีริกธาตุ สุดท้ายของการพาเที่ยววัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่ในวันนี้ พาไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ที่อยู่ในตู้กระจกที่โถงใหญ่ปากถ้ำเสือ แล้วถ้ามีโอกาสกลับไปอีกครั้งจะนำภาพของพระมหาเจดีย์ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์มาอัพเดตกัน ตอนนี้ขอไปกินข้าวเช้าก่อน หิวมาก
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ