พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ

พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ตั้งอยู่ในวัดพุทธาธิวาสบนเนินเขาในตัวเมืองเบตง นับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวเบตง จังหวัดยะลา ด้านหน้าวัดติดถนนรัตนกิจ ลักษณะเจดีย์ก่อสร้างแบบศรีวิชัยประยุกต์ สีทองอร่าม สูง 39.9 เมตร มองเห็นได้ชัดจากหลายจุดในตัวเมืองเบตง และทำให้เกิดความรู้สึกอยากจะเดินทางเข้ามาชมใกล้ๆ สำหรับคนที่ได้พบเห็น จากเจดีย์องค์นี้จะสามารถมองเห็นวิวทัศนียภาพของเมืองเบตงได้สวยงาม

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานนราธิวาส 0 7352 2411
http://www.tourismthailand.org/narathiwat

แก้ไขล่าสุด 2016-12-06 13:50:36 ผู้ชม 6604

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ เช้าวันหนึ่งหลังจากที่ตื่นขึ้นมามองจากโรงแรมการ์เด้นวิวที่พักสำหรับทริปเบตงของเรา เรามองเห็นยอดของเจดีย์องค์สีทองนี้เลยต้องออกไปหาเส้นทางที่จะเดินทางไปยังวัดที่ตั้งของเจดีย์เพื่อที่จะได้มาไหว้เจดีย์และชมความสวยงามใกล้ๆ แต่ยามเช้าของเมืองเบตงจะว่าไปสำหรับคนไม่เคยมาก็ไม่รู้ว่าจะเดินทางยังไงรถรับจ้างก็ไม่เห็นมีคนขับเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากลองเดินไปตามถนนคิดว่าอยู่ไม่น่าไกล ไปถึงถนนอีกสายหนึ่งก็ถามชาวบ้านไปเรื่อยๆ พอดีเจอพระเดินบิณฑบาตรท่านก็บอกทางให้จากนั้นก็เดินไปขึ้นเนินเจอทางแยกก็เลี้ยวตามพระบอก นึกว่าจะเจอทางเข้าวัดที่ไหนได้ต้องเดินต่อไปอีกเป็นทางขึ้นเนินไปเรื่อยๆ จนมีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งผ่านมาก็ถามทางอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เจ้าของมอเตอร์ไซค์ใจดีบอกทางให้แต่ทางนั้นยังอีกไกลเลยอาสาไปส่งเพราะจะผ่านหน้าวัดอยู่พอดี เลยสบายไปส่วนขากลับไว้ค่อยคิดว่าจะกลับยังไง

มอเตอร์ไซค์ใจดีมาส่งที่หน้าวัดแล้วยังต้องเดินตามถนนในวัดขึ้นไปที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์เป็นทางขึ้นเนินอีกแล้ว วันนี้เลยสรุปว่าเหนื่อยแต่เช้าเลยแต่ในที่สุดก็มาถึงได้เห็นเจดีย์สีทองอยู่ตรงหน้าใกล้ๆ บอกเลยว่าคุ้มค่าที่ดั้นด้นมาแต่เช้า

ภายในบริเวณวัตพุทธาธิวาสแบ่งส่วนของพื้นที่ที่เป็นอาคารหรือเสนาสนะออกจากบริเวณกุฏิที่พักสงฆ์อย่างเป็นระเบียบ ถ้าเข้ามาคนเดียวระวังหมาที่อยู่ในวัดเพราะหมาจะเห่าคนแปลกหน้าบางทีตัวที่ไม่เห่าจะวิ่งเข้ามาหาเราอันนี้น่ากลัวกว่าหมาเห่า ให้ระวังหน่อยแต่พอเราอยู่ไปสักพักหมามันจะเลิกสนใจเราไปเอง เราสามารถมาไหว้พระมหาธาตุเจดีย์ได้ตลอดวันแต่ไม่ได้เปิดให้เข้าไปด้านใน บันไดรอบองค์เจดีย์ขึ้นไปข้างบนได้

พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ เป็นปูชนียสถานที่มีความสวยงามแบบศิลปะศรีวิชัยประยุกต์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ด้วยความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร วัตถุประสงค์ของการสร้างเจดีย์องค์นี้เพื่อถวายเป็นประราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2535 โดยมีนายสวัสดิ์ โชติพานิช ประธานศาลฎีกาในขณะนั้นเป็นผู้ริเริ่ม ท่านอาจารย์ ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี สถาปนิกพระราชวัง ศิลปินแห่งชาติ สาขาสถาปัตยกรรมไทย เป็นผู้ออกแบบ

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2536 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานประกอบพิธี ทรงเจิมพระบรมสารีริกธาตุและทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ รวมทั้งทรงทำพิธียกยอดฉัตรทองคำขึ้นประดิษฐานบนยอดองค์พระมหาธาตุเจดีย์อีกด้วย

บริเวณวัดพุทธาธิวาส ชื่อเดิมของวัดนี้คือ วัดเบตง ได้รับอนุญาตให้สร้างปีพ.ศ. 2460 โดยมีคณะผู้ริเริ่มการสร้างคือพระพิทักษ์ธานี (เล็ก) นายอำเภอเบตง นายพุ่ม คชฤทธิ์ นายกิมซุ้ย ฟุ้งเสถียร และนายผล สุภาพ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร และได้ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2510 วัดแห่งนี้ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขาลาดลงมาจรดถนนรัตนกิจ ท่ามกลางตัวเมืองเบตง สามารถมองเห็นยอดเจดีย์ของพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศได้จากหลายๆ จุดในเมืองเบตง วัดแห่งนี้มีเนื้อที่ 23 ไร่ 3 งาน 30 ตารางวา โดดเด่นด้านศิลปะการจัดวางสถาปัตยกรรม ได้แก่ พระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ อุโบสถที่สวยงาม ศาลาการเปรียญ กุฏิ สร้างอย่างมีชั้นเชิงและเหมาะสมตามสภาพความลาดของพื้นที่ในวัด จนเหมือนตั้งใจที่จะสร้างลดหลั่นกันอย่างที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนนั้นวัดแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานรูปหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดในวิหารอีกด้วย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยกวัดพุทธาธิวาสเป็นอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญตั้งแต่วันที่ ๒ เดือน ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๖

พระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน ถ้ามองจากด้านหน้าวัดเราจะเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่นี้ก่อน ด้านหลังจะเป็นอุโบสถส่วนองค์มหาธาตุเจดีย์จะอยู่สูงขึ้นไปคือจุดสูงสุดของวัด เป็นภาพการลำดับชั้นอย่างสวยงามเหมือนตั้งใจสร้าง แต่ความจริงแล้วที่ตรงนี้เป็นเนินค่อนข้างลาดมากอยู่แล้ว เมื่อสร้างอย่างเป็นลำดับเลยเป็นภาพที่สวยกว่าวัดอื่นๆ พระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธานนับเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

วัดนี้มีถนนอยู่ด้านข้างเอารถขึ้นไปได้จนถึงองค์มหาธาตุเจดีย์ ส่วนอื่นๆ ของวัดเป็นบันไดทั้งหมดเดินขึ้นจากองค์พระพุทธรูปไปจนถึงเจดีย์ได้ แต่ก็เหนื่อยพอสมควรเลย วิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดเป็นวิหารหลังเล็กๆ อยู่ด้านข้างโบสถ์สร้างในรูปแบบเดียวกับโบสถ์มองไปดูกลมกลืนกันไปหมด เรียกว่ามาวัดนี้ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลายอย่างในที่เดียว

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคใต้ มา ณ โอกาสนี้ครับ