ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานอุบลราชธานี โทร. 0 4524 3770, 0 4525 0714
http://www.tourismthailand.org/ubonratchathani
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
แรกเริ่มในวัดบูรพาราม จากตัวเมืองอุบลราชธานี มุ่งหน้าไปทางด้านตะวันออกระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถ้ามาไม่ถูกเริ่มต้นที่ทุ่งศรีเมือง ไปทางทิศเหนือจะมีถนนพโลรังฤทธิ์ มุ่งหน้าไปทางขวาไปเรื่อยๆ จะมองเห็นหลังคาศาลาของวัดบูรพารามสูงเด่นสะดุดตากว่าใคร ศาลาหลังนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้วประมาณเกินครึ่ง เริ่มมองเห็นความสวยงามของศาลาหลังนี้ได้รางๆ เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วคงจะมีความสวยงามมาก ในพื้นที่อันกว้างขวางของวัดบูรพารามแห่งนี้ผมก็ขอเริ่มต้นจากข้างศาลาหลังนี้แล้วเดินดูรอบๆ ว่าจะสามารถเก็บภาพจากส่วนไหนมาให้ชมกันได้บ้าง
พระพุทธรูปปางนาคปรก ด้านข้างของศาลาหลังใหญ่มีอุโบสถอยู่ใกล้กัน แต่ทางวัดไม่ได้เปิดให้เข้าชมหรือไหว้พระ ก็ต้องมองไปอีกทางหนึ่งจะมีพระพุทธรูปปางนาคปรกที่สวยงามเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่มากเหมือนกัน อยู่กลางลานกว้าง ด้านหลังขององค์พระมีหอไตร 2 หลังคู่กัน ใช้เสาไม้กลมหลังละ 8 ต้น มีชานเชื่อมตรงกลางหลังคาทรงจั่ว ทำลวดลายรัศมีพระอาทิตย์ ฝาผนังไม้ตีแนวเฉียงลายก้างปลา หน้าต่างข้างละ 3 บาน รองรับด้วยหย่องลายแข้งสิงห์ตอนล่างของผนังอาคารตกแต่งด้วยลายบัวฟันยักษ์ประดับกระจกเหลือง ขาว เขียว จะว่าผมบรรยายมากมายทำไมไม่มีรูปให้ดู ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ แต่โชคไม่ดีที่การ์ดเสียอ่านไฟล์ไม่ได้ น่าเสียดายจริงๆ ไว้คราวหน้าจะไปถ่ายใหม่
หอกลอง เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ปี พ.ศ. 2537 แต่ก็สร้างด้วยลวดลายสลักที่สวยงาม หอกลองอยู่ไม่ไกลจากหอไตรคู่มากนัก
วิหารเก่า มองภายนอกเหมือนศาลาธรรมดา วิหารหลังนี้เป็นวิหารเก่าแก่ที่ชำรุดไปคงเหลือเพียงผนังบางส่วน ต่อมาได้ทำการบูรณะต่อเติมผนังจากของเดิมออกมา แล้วสร้างอาคารคลุมไว้ชั้นนอกอีกทีหนึ่ง
ผนังวิหารเก่าหลังบูรณะ ภายในวิหารหลังนี้จะมีภาพเก่าๆ ก่อนการบูรณะติดอยู่ที่ผนัง มีประวัติของวัดย่อๆ ให้ศึกษากันด้วย การสร้างอาคารคลุมไว้ชั้นนอกเพื่อรักษาให้วิหารหลังนี้คงอยู่สภาพที่ดีได้นานๆ
ภายในวิหารเก่าวัดบูรพาราม ประวัติความเป็นมาของวัดที่ยาวนานกว่า 100 ปี เริ่มต้นจากการเป็นป่าโปร่งเงียบสงัด ซึ่งเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม หลวงปู่สีทา ชยเสโน และหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ท่านได้มาอยู่ปฏิบัติธรรม ณ ที่นี้ ต่อมาหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทราบจึงได้เดินทางมาฝากตัวเป็นศิษย์ร่วมปฏิบัติธรรมด้วย ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นสำนักสงฆ์อยู่ ต่อมากรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ (ข้าหลวงต่างพระองค์) ได้เกิดศรัทธา จึงได้บริจาคที่ดินและทรัพย์สินเพื่อให้ได้สร้างเป็นวัด วัดบูรพาราม จึงกล่าวได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของวัดสายวิปัสสนากรรมฐาน พระอาจารย์สายวัดป่าทั่วประเทศได้เคยมาปฏิบัติธรรม ณ วัดบูรพาแห่งนี้กว่า 100 ปีเศษ ปัจจุบันจึงได้มีการสร้างรูปเหมือนของพระอาจารย์สายกรรมฐานหลายองค์ไว้ในวิหารเก่าแก่หลังนี้
กุฏิเรือนไทย ด้านข้างของวิหารเก่าแก่ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือกุฏิเรือนไทย
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ