เมื่อวันที่ 2-20 พฤศจิกายน 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นภูมิภาคแรกอย่างทั่วถึงจึงเป็นที่ปลาบปลื้มปิติยินดีของมวลพสกนิกรทั้งหลายยิ่งนัก ในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ทำให้พระองค์ทรงประสบปัญหาความทุกข์ยากของราษฎร ภาคอิสานว่าแร้นแค้นยิ่งนัก อีกทั้งการคมนาคมหลายแห่งทุรกันดารยิ่งและถือได้ว่าการเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนั้นทำให้ทรงได้รับรู้ข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นที่สำคัญด้านการพัฒนา และเป็นรากฐานสู่การพัฒนาศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จุดกำเนิดศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมากพระราชดำริ
จารึกประวัติศาสตร์เกี่ยวกับต้นเหตุปัญหาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพะราชดำริ จากเอกสารข้อมูลส่วนพระองค์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานแก่สำนักงาน กปร. (สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) มีความตอนหนึ่งว่า
"...ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เดิมเป็นป่าโปร่งคนไปตัดไม้สำหรับเป็นฟืนและใช้พื้นที่สำหรับทำการการเกษตรกรรมป่าไม้ที่อยู่เหนือพื้นที่ถูกทำลายไปมาก จึงไม่มีน้ำในหน้าแล้ง น้ำไหลแรงในหน้าฝน ทำให้มีการชะล้าง (Erosion) หน้าดิน (Top Soil) บางลง และเกลือที่อยู่ข้างใต้จะขึ้นเป็นหย่อมๆ..."
พร้อมกันนี้ได้พระราชทานข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาของดินบริเวณศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ว่า
"...เป็นดินทราย ดินเค็ม ขาดน้ำ..."
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2525 พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธ์ องคมนตรี และนายสุนทร เรืองเล็กอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายเล็ก จินดาสงวน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ กรมราชองครักษ์ สวนจิตรลดาได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ เป็นครั้งแรก โดยทรงให้พิจารณาวางโครงการจัดหาน้ำสนับสนุนโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานตามพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทดลอง งานพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ อันได้แก่ การพัฒนาป่าไม้ การเกษตรต่างๆ ตามความเหมาะสม รวมทั้งการดำเนินงานด้านเกษตรอุตสาหกรรม สำหรับเป็นตัวอย่างให้ราษฎรนำไปปฏิบัติในพื้นที่ของตนเองได้ อันจะนำไปสู่ความสามารถในการพึ่งตนเองได้ ต่อไป และได้พระราชทานพระราชดำริ ให้กรมชลประทานพิจารณาวางโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตาดไฮใหญ่ เพื่อจัดหาน้ำสนับสนุนศูนย์ฯ พื้นที่โครงการประมาณ 1,800 ไร่ ให้สามารถ ส่งน้ำใช้ทำการศึกษาและทดลองได้ตลอดทั้งปี
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2526 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จทอดพระเนตรตรวจสภาพพื้นที่บริเวณ บ้านนานกเค้า และเสด็จพระราชดำเนินเข้าไปถึงพื้นที่บริเวณที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตาดไฮใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานพระราชดำริ ให้พิจารณานำน้ำจากอ่างเก็บน้ำตาดไฮใหญ่มาสนับสนุนพื้นที่ เกษตรกรบริเวณบ้านนานกเค้า และทรงคัดเลือกพื้นที่จัดตั้งศูนย์ ณ บริเวณบ้านนานกเค้า ตำบลห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ด้วยพระองค์เอง เพื่อเป็นพื้นที่ตัวแทนของภูมิภาคทั้งหมด ด้วยพื้นที่นี้มีลักษณะสภาพธรรมชาติแวดล้อม และวงจรชีวภาพที่คล้ายคลึงกับภูมิภาคโดยทั่วไป ของภาคอิสาน
ดังนั้น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อเป็นแบบจำลองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเป็นพื้นที่ส่วนย่อที่สอดค้องกับการแก้ปัญหา และศึกษาวิธีการพัฒนาของภูมิภาคนี้ได้อย่างเหมาะสม
ในปี พ.ศ. 2527 ได้ดำเนินการก่อตั้งที่ทำการของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ หมู่บ้านนานกเค้า ตำบลห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร
เป็นศูนย์ทดลองงานพัฒนาการเกษตรสาขาต่างๆ บนพื้นที่ดินปนทราย ที่เป็นดินเค็มและขาดแคลนน้ำและนำผลการทดลองที่ได้เป็นแบบอย่างให้ราษฎรนำไปปฏิบัติในที่ดินของตนเพื่อเพิ่มผลผลิตและรายได้ ผลการทดลองที่ประสบผลสำเร็จมีหลายด้าน เช่น การผลิตข้าวพันธุ์ดีเหมาะกับท้องถิ่น ได้แก่
การปลูกพืชไร่ปลอดสารเคมี การเพาะเห็ด การปลูกยางพารา หวายดง การเลี้ยงสัตว์แบบง่ายๆ เช่น สุกรเหมยชานและไก่พื้นเมือง การเลี้ยงปลาแบบผสมผสาน ระบบการทำฟาร์ม การบำรุงดินอย่างถูกวิถีฯ,ฯ ตลอดจนการให้ความรู้อาชีพอุตสาหกรรมในครัวเรือนเพื่อพัฒนาอาชีพของราษฎรในพื้นที่
ข้อมูลเพิ่มเติม:สอบถามเพิ่มเติม โทร. 042 712 975, 042 711 008, 0-4274-7458-9
แก้ไขล่าสุด 2016-12-28 14:02:45 ผู้ชม 10853
การเดินทาง
แผนที่
ที่เที่ยว/ที่พัก
กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ
ฝายแห่งความทรงจำ ภาพประวัติศาสตร์ที่หลายๆ คนคงเคยเห็นผ่านหน้าจอทีวี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินข้ามฝายเล็กๆ แห่งนี้ ไม่ว่าใครที่มาที่ศูนย์ฯ แห่งนี้จะมาที่นี่ทั้งนั้น เส้นทางท่องเที่ยวในศูนย์นี้กว้างมากจะมีรถรางนำเที่ยวไปทีละสถานีและแน่นอนว่าจุดแรกต้องมาที่นี่ก่อน ใกล้ๆ ฝายจะมีพระบรมฉายาลักษณ์ครั้งเสด็จที่นี่ติดเอาไว้ด้วย
ป้อนนมปลาคาร์ฟ กิจกรรมสุดอินเทรนด์คือการป้อนนมปลาคาร์ฟ ทีแรกสงสัยมากว่าปลาคาร์ฟจะกินนมด้วยเหรอแต่มารู้ทีหลังว่าในขวดนมเป็นอาหารปลานั่นเองแต่ก็ดูน่ารักดี
รถรางพาเราเที่ยวไปเรื่อยๆ มีไร่กาแฟด้วย ในยุคแรกของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีการทดลองปลูกพืชหลายอย่างเพื่อดูว่าพืชชนิดไหนที่สามารถเจริญเติบโตให้ผลผลิตได้ดีเหมาะที่จะแนะนำให้ชาวบ้านเอาไปปลูกสร้างรายได้ กาแฟก็ขึ้นได้ดีที่ภูพานเหมือนกัน ต่อจากนั้นจะมีโซนประมง มีบ่อปลามากมายหลายแบบให้ศึกษาชาวบ้านเอาไปทำตามได้ตามความเหมาะสมของที่ดินของแต่ละคน มีทั้งก่อเป็นขอบบ่อสูง มีบ่อที่ตั้งขอบเตี้ยๆ ง่ายๆ ไม่ต้องขุด มีบ่อขนาดใหญ่เลี้ยงปลาและเก็บน้ำไว้ใช้ในพื้นที่เอง คนที่สนใจติดต่อสอบถามเข้ามาเรียนรู้และพักในศูนย์ฯ ได้ด้วย เรียกว่าทำจนกว่าจะเป็นแล้วค่อยกลับไปทำที่บ้านต่อ
การเลี้ยงกบคอนโด เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยๆ โดยเฉพาะในศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การทำเกษตรผสมผสาน ตามแนวพระราชดำรืที่ทรงพระราชทานแก่พสกนิกรเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน กบคอนโดคือการเลี้ยงกบในบ่อปลา อาหารที่ให้กบจะเหลือเป็นอาหารของปลาได้อีกทอดหนึ่ง ทั้งปลาและกบก็เป็นสัตว์ที่ขายได้ราคาดีด้วย
ไก่ดำภูพาน นอกเหนือจากการเพาะปลูก การประมง คราวนี้มาดูการเลี้ยงสัตว์บกกันบ้าง มีคำพูดที่ว่า 3 ดำภูพาน คือสัตว์เศรษฐกิจที่ราคาดี นิยมเลี้ยงกันกว้างขวางในพื้นที่ ได้แก่ ไก่ดำ หมูดำ และวัวดำ ใครสนใจจะลองเลี้ยงมาศึกษาหาความรู้ติดต่อซื้อพันธุ์สัตว์ได้ที่นี่
การเลี้ยงหม่อนไหม อีกหนึ่งกิจกรรมของหลายกิจกรรมที่เราไม่สามารถพาไปดูได้ทั้งหมดของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาดูการเลี้ยงหม่อนไหม ที่นี่มีผ้าไหมขายด้วยเพราะไหมจากการเลี้ยงนี้นำเอาไปทอเป็นผ้า นอกจากนั้นแล้วที่ร้านสินค้าผลิตภัณฑ์จากศูนย์ มีให้เลือกมากมายหลายอย่างด้วย
ไว้มีโอกาสเราจะมาอัพเดตกันใหม่ วันนี้จบเท่านี้ครับ พบกันใหม่รีวิวต่อไป ขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคอีสานมา ณ โอกาสนี้ครับ