ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานขอนแก่น โทร. 0 4322 7714-5
http://www.tourismthailand.org/khonkaen
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
วัดสระเกตุ เป็นวัดที่สะกดด้วย ตุ แค่แรกเข้ามาในวัดเห็นชื่อวัดก็แปลกใจนิดๆ ที่การสะกดคำไม่เหมือนกับวัดสระเกศ หรือ วัดสระเกษ ที่เราคุ้นเคย แต่ก็ทำให้เราจำชื่อวัดนี้ได้แม่น เข้ามาด้านในจะเห็นอาคารเก่าแก่เล็กๆ 2 หลังเรียงกัน พอดีว่ามาตอนช่วงสงกรานต์ ชาวบ้านกำลังจัดงานต้อนรับผ้าป่าจากกรุงเทพฯ เป็นงานใหญ่สำหรับที่นี่เลยก็ว่าได้ เลยทำให้วัดดูครึกครื้นกว่าปกติ
วิหาร สิม อันดับแรก มาดูวิหารที่อยู่ใกล้กว่ากันก่อน ด้านหน้ามีแผ่นไม้แกะสลักใหญ่ๆ ลายแกะสลักสวย ประดับด้วยอะไรหลายอย่าง เรียกว่า หน้าบัน ไม่ว่าจะเป็นวิหารหรือโบสถ์ที่อยู่ด้านข้างก็สร้างฐานสูงเหมือนกันทั้งคู่
ตามประวัติบอกไว้ว่าวิหารสร้างก่อนสิม และวิหารก็เคยใช้เป็นสิมมาก่อน หน้าบันที่สร้างดูใหญ่และสวยกว่าสิมหลังที่ 2
หลวงพ่อใหญ่ วัดสระเกตุ ตามธรรมเนียมของการสร้างวัด ไม่รู้ว่าเริ่มกันมาแต่ช่วงไหน หากว่าในวัดมีพระพุทธรูปที่สำคัญๆ ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมากๆ จะประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นั้นไว้ในวิหาร มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่จะประดิษฐานไว้ในโบสถ์ และวัดที่ประดิษฐานพระศักดิ์สิทธิ์ไว้ในโบสถ์ มักจะไม่มีวิหาร ชาวบ้านเล่าว่าทุกคนศรัทธาเคารพพระพุทธรูปในวิหารหลังนี้เป็นอย่างมากเรียกกันติดปากว่าหลวงพ่อใหญ่ ประวัติของพระพุทธรูปองค์นี้ไม่มีเขียนไว้อย่างชัดเจน เลยไม่แน่ใจว่าสร้างขึ้นก่อนที่จะสร้างสิมหลังที่ 2 หรือเปล่า วัดสระเกตุเปิดให้เข้าไปไหว้พระทั้งในวิหาร และในสิม แต่ชาวบ้านจะคอยบอกนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดว่าให้ไหว้พระหลวงพ่อใหญ่ในวิหารให้ได้
สิม วัดสระเกตุ หลังจากชมวิหารไหว้หลวงพ่อใหญ่ขอพรเป็นสิริมงคลแล้ว เดินมาอีกหน่อยเข้าสิม หรือโบสถ์ ที่สร้างในสมัย รัชกาลที่ 4 ดูแผ่นไม้แกะสลักหรือหน้าบันก็จะเห็นความแตกต่างของลายแต่ก็บ่งบอกว่า หน้าบันคือสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของโบสถ์ วิหาร และอาคารต่างๆ ในวัด
พระประธานในสิม
สิมคู่ วัดสระเกตุ มุมสูงที่ถ่ายลงมาจากหอระฆัง เห็นชัดเลยว่าทั้งสองหลังคล้ายกันมาก และมีเพียงคู่เดียวในประเทศไทย
ทำบายศรีรับผ้าป่า ประเพณีวัฒนธรรมความเชื่อเป็นเรื่องที่สืบทอดกันมาแต่ปู่ย่าตายาย และถอยหลังขึ้นไปอีกไม่รู้กี่รุ่น สำหรับภาคอีสาน ประเพณีงานบุญงานพิธีต่างๆ จะต้องมีการทำพานบายศรี หรือไม่ก็ขันหมากเบ่ง (ขันหมากเบ่งหรือขันหมากเบ็ญ หรือเบญจ ที่แปลว่า 5 นั่นเอง ใช้ใบตองเป็นวัสดุหลัก แต่มีรายละเอียดแตกต่างกันและใช้ในพิธีที่ต่างกัน) พอรู้ว่าจะมีผ้าป่ามาจากกรุงเทพฯ เป็นผ้าป่ากองใหญ่ ชาวบ้านก็มาช่วยกันทำงานที่วัดจัดสถานที่ให้สวยงาม มีริ้วผ้าต่างๆ อย่างที่เห็นในรูป ส่วนผู้สูงอายุจะมาช่วยกันทำพานบายศรีขนาดใหญ่ใต้ร่มโพธิ์ แบ่งกันทำงานเป็นแผนกๆ น่ารักมาก
จบการนำเที่ยวชมสิมคู่ วัดสระเกตุ จังหวัดร้อยเอ็ดเอาไว้เท่านี้ครับ
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น และ กองประชาสัมพันธ์ภายในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ