ประเพณีบุญบั้งไฟ พนมไพร 2560

เริ่มต้นขึ้นแล้วสำหรับงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกงานหนึ่งของชาวพนมไพรและชาวร้อยเอ็ด กับประเพณีบุญบั้งไฟที่สืบทอดกันมายาวนาน ทัวร์ออนไทยได้นำเสนอเรื่องราวงานประเพณีนี้ไปแล้วครั้งหนึ่งก็เห็นมีคนเข้ามาดูมาอ่านกันไม่น้อย ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่เราจะมาเกาะติดความเปลี่ยนแปลงของประเพณีนี้กันอีกครั้ง งานบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพรมีการจัดงาน 2 วัน คือวันแห่กับวันจุด ที่เคยมาแต่ละครั้งวันแห่หรือพิธีเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟจะมีฝนตกลงมาก่อนแห่ พอขบวนแห่เริ่มเคลื่อนฝนก็หายไปอย่างน่าประหลาด ในปี 2560 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมาเพราะจะมีการจุดบั้งไฟจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย รวมประมาณ 1200 บั้ง แบ่งเป็นบั้งไฟหมื่น 800 บั้ง และบั้งไฟแสน 230 บั้ง และบั้งไฟอื่นๆ ตั้งแต่เวลาประมาณ 9.00 น. ไปจนถึง 18.00 น. ใครที่ได้มาดูงานบั้งไฟจะได้เห็นบั้งไฟพุ่งขึ้นฟ้านาทีละหลายบั้งเป็นอะไรที่ตระการตามาก

บั้งไฟอำเภอพนมไพรเป็นงานบั้งไฟประเพณีในการแห่จะมีขบวนแห่ที่สวยงามตระการตา ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นขบวนแห่บั้งไฟที่มากที่สุดในโลกด้วย

นายชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น กล่าวว่า การจัดงานบั้งไฟพนมไพรเป็นการร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของชาวร้อยเอ็ดที่สืบทอดต่อกันมายาวนานหลายชั่วอายุคนเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ดีงามให้คงอยู่ต่อไป และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ จะจัดเป็นประจำทุกปี วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 เพื่อเป็นการบูชา "พญาแถน" ผู้มีหน้าที่ทำให้ฝนตก การจุดบั้งไฟถวายจะเป็นการขอให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาลเพื่อทำการเพาะปลูก

งานบุญบั้งไฟพนมไพร จะยิ่งใหญ่ตระการตาแค่ไหนดูจากรูปหรือวิดีโอก็ไม่เข้าถึงอารมณ์ได้ดีเท่ากับการได้มาสัมผัสของจริงด้วยตาตัวเองเหมือนเราแน่ๆ ถึงได้มางานนี้อีกเป็นครั้งที่ 2 ติดตามเรื่องราวเหล่านี้ในรูปแบบวิดีโอด้านล่างเลย

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานขอนแก่น โทร. 0 4322 7714-5
http://www.tourismthailand.org/khonkaen

แก้ไขล่าสุด 2017-08-20 22:05:19 ผู้ชม 8533

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

เวลาประมาณ 10 โมงเช้า ของวันที่ 9 มิถุนายน เป็นวันแรกของการจัดงานประเพณีบั้งไฟพนมไพร ชาวพนมไพรและนักท่องเที่ยวจากหลากหลายจังหวัด มารวมตัวกันอยู่ที่หน้าเวทีพิธีเปิด ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอพนมไพร ร่วมกล่าวเปิดงาน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาแต่ก็ไม่ทำให้คนที่มาร่วมงานถอยหนีไปไหน ต่างคนต่างกางร่มสู้ฝนรอดูขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ของปีนี้

ขบวนแห่บั้งไฟนำขบวนโดยขบวนถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อด้วยร่างทรง หรือที่ชาวบ้านจะเรียกกันว่านางเทียม ผู้ทำหน้าที่ติดต่อกับจิตวิญญาณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือหลายองค์ แล้วค่อยต่อด้วยขบวนแห่บั้งไฟจากองค์กรหน่วยงานสถานศึกษาทุกหน่วยงานทุกสถานศึกษาในอำเภอพนมไพรยาวเหยียดให้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม

สำหรับปีนี้ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด และแขกอีกหลายท่านที่มาร่วมในงานให้เกียรติร่วมขบวนรำในขบวนแรก และยังมีมิสแกรนด์ร้อยเอ็ดร่วมเปิดงาน และกล่าวเปิดงานเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์งานนี้สู่สากล

ต่อจากขบวนแห่ที่สวยงามและยิ่งใหญ่ของพิธีเปิดงานประเพณีบั้งไฟพนมไพร 2560 รุ่งเช้าของวันใหม่ 10 มิถุนายน ที่ลานจุดบั้งไฟ ก็จะทำพิธีเซ่นไหว้ศาลเจ้าพ่อฟ้าระงึม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพศรัทธาเป็นอย่างมาก ศาลเจ้าพ่อฟ้าระงึมตั้งอยู่ในเขตลานจุด ปกติเป็นเขตหวงห้ามห้ามทุกคนเข้าในเขตนี้ แต่ด้วยความที่ชาวบ้านเดินทางมาดูการจุดบั้งไฟแน่นล้นหลามทุกปีก็จะมีไม่น้อยที่เข้ามาอยู่ในเขตนี้ (โฆษกจะประกาศเตือนตลอดเวลาหากเกิดอันตรายขึ้นประกันภัยจะไม่จ่ายค่าสินไหมให้ต้องรับผิดชอบตัวเองให้ดี) พิธีเซ่นไหว้เสร็จสิ้นลงจะมีการกล่าวเปิดงานการจุดบั้งไฟสั้นๆ อีกรอบ จากนั้นตลอดทั้งวันจนถึง 16.00 น. จะทำการจุดบั้งไฟบั้งสุดท้าย และมีการเซิ้งบั้งไฟเป็นพิธีการปิดงานประเพณีบั้งไฟอำเภอพนมไพร

การเดินทางเข้ามาที่ลานจุดบั้งไฟของอำเภอพนมไพรจากตัวเมืองร้อยเอ็ดมาใช้เวลานานพอสมควรอยู่นะเกินครึ่งชั่วโมงยิ่งเข้าใกล้ลานจุดรถยิ่งแน่นก็ยิ่งไปช้า ถ้าจะมาดูจริงๆ เราว่าจอดรถไว้ลานรับฝากรถข้างนอกแล้วนั่งมอไซค์ต่อเข้าไปจะดีกว่า ชาวบ้านที่นี่ที่มีมอไซค์จะเอารถมาออกวิ่งรับจ้างเฉพาะวันนี้วันเดียว แต่บางคนจะมีเสื้อวินเอามาใส่ให้รู้ว่าเป็นรถรับจ้าง ราคาค่ามอไซค์เข้างานแต่ละคันคิดไม่เท่ากันบอกเลยว่าแล้วแต่ดวง บางคันเอาถูกบางคันเอาแพงที่รู้เพราะเพื่อนๆ ในทริปมาคุยกันตอนขากลับแต่ละคนโดนไม่เท่ากันแต่ก็เอาเถอะปีละครั้งเดียวไอ้เราก็รีบๆ ไม่มีเวลาใส่ใจตรงนั้นเท่าไหร่ คันที่เรานั่งจากป่ายางรีสอร์ทไปลานจุดนั่ง 2 คน เค้าเก็บคนละ 50 บาทมาถึงกี่โมงก็แล้วแต่รับประกันได้ว่าได้เห็นบั้งไฟขึ้นทันทีแน่ๆ เพราะบั้งไฟที่นี่ต้องจุดมากถึง 1200 บั้งโดยเฉลี่ยทุกปีบั้งไฟจะขึ้นเร็วมาก มีฐานจุดบั้งไฟใหญ่ 5 ฐาน สร้างอย่างแข็งแรงถาวร ใช้จุดบั้งไฟ 5 หมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน บั้งไฟสิบล้าน ส่วนบั้งไฟที่เล็กกว่านั้นเรียกว่าบั้งไฟหมื่นจะมีฐานจุดเล็กแยกออกไปไม่ไกลมาก บั้งไฟล้านจะมีจุดบ้างในบางปีแต่ที่เคยมายังไม่เคยเห็นบั้งไฟล้าน และปีนี้ก็ไม่มีด้วยก็คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะมีให้เห็นเป็นบุญตาหรือเปล่า

เสียงของบั้งไฟก่อนที่จะขึ้นดังไม่ใช่เล่นคล้ายๆ เสียงเครื่องบินเวลาเทคออฟฐานไหนพร้อมสังเกตุธงสีเขียวจะมีคนคุมฐานจุดยกขึ้นเป็นสัญญาณ โฆษกเห็นก็จะประกาศว่าต่อไปฐานนั้นจะจุดทุกคนก็จะได้เตรียมตัว บั้งไฟสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนรู้สึกว่าโอกาสจะแตกหรือระเบิดมันน้อยมากอย่างปีนี้มาดูตั้งแต่ 9 โมง ถึงบ่ายสองได้เห็นบั้งไฟแตกแค่ 3 บั้งจากพันกว่าบั้ง และที่ระเบิดก็ไม่มีใครเป็นอะไร นอกเขตลานจุดบั้งไฟจะมีร้านขายของเต็มไปหมดทั้งของกินของใช้ของฝากคนมาขายก็ไม่ได้จะมีทีท่าจะกลัวเลย รอบเขตลานจุดมีบังเกอร์ดินสูงประมาณไหล่ถ้ามีคนนอกที่ไม่เกี่ยวกับบั้งไฟเดินเข้าไปจะงดการจุดจนกว่าคนๆ นั้นจะออกมา ช่างบั้งไฟจะเอาบั้งไฟขึ้นไปมัดที่ฐานก็ไม่ได้กลัวบั้งไฟที่อยู่ข้างๆ ที่กำลังมีไฟพุ่งออกมา เป็นภาพที่เห็นแล้วอึ้งมากๆ

หลังจากบั้งไฟจุดขึ้นไปแล้วบั้งต่อไปต้องเอาขึ้นฐานอย่างเร็วที่สุดกำหนดเวลาจุดบั้งสุดท้าย 4 โมงเย็น จะมีมากมีน้อยก็ต้องจุดให้หมดฐานไหนว่าโฆษกจะประกาศให้เร่งๆ มือเอาบั้งไฟขึ้นไปมัดให้เต็มตลอดเวลา บั้งไฟบางบั้งก่อนจะพุ่งขึ้นฟ้าพ่นควันออกมาจนมองไม่เห็นฐานจุดก็จะมีประกาศให้หยุดจุดบั้งไฟรอจนกว่าควันจะจางถึงจะจุดบั้งต่อไปได้

การเอาบั้งไฟขนาดใหญ่ขึ้นไปบนฐานเป็นเรื่องไม่ธรรมดาจริงๆ ต้องใช้คนเยอะมากเพราะมันหนักส่วนหนึ่งรั้งเชือกอยู่ด้านหน้า อีกส่วนหนึ่งคอยดึงอยู่ข้างหลังไม่รู้ว่าทำได้ไงเหมือนกันแค่ไม่กี่นาทีบั้งไฟบั้งใหญ่ๆ ที่เราเห็นเค้าแบกมาก็ไปติดอยู่บนฐานเรียบร้อยแล้ว

บรรยากาศฐานจุดบั้งไฟหมื่นก็สนุกสนานไม่แพ้กันการเอาบั้งไฟหมื่นขึ้นฐานจะทำพร้อมกันหลายๆ บั้ง การจุดบั้งไฟทั้งหมื่นและแสนใช้แบตเตอรี่รถยนต์ต่อสายไฟเข้าไปที่สายชนวนบั้งไฟแล้วให้สปาร์คจนไฟติดจากนั้นก็รอไม่กี่วินาทีบั้งไฟก็พุ่งออกจากฐานทะยานสู่ท้องฟ้าจนเหมือนจะหายไปในเมฆเลยแหละ ใช่ว่าบั้งไฟหมื่นจะขึ้นน้อยกว่าบั้งไฟแสนถ้ามานั่งดูดีๆ จะเห็นความสูงที่เราเห็นไม่ต่างอะไรมากมาย ระหว่างที่บั้งไฟลอยขึ้นท้องฟ้าบางบั้งจะมีการหมุนควงสว่านเป็นวงสวยๆ ให้ดูด้วย ชาวบ้านเค้าเรียกว่าบั้งไฟรำ ปกติถือว่าบั้งไฟรำนั้นไม่ดีถ้าแข่งกันแล้วเวลาจะน้อยกว่าบั้งไฟที่พุ่งตรงตามปกติ แต่ควันที่เราเห็นมันเป็นเกลียวสวยมาก ช่วงที่บั้งไฟแสนพักการจุดรอเอาบั้งไฟขึ้นฐานเราจะเห็นบั้งไฟหมื่นพุ่งขึ้นที่ละบั้งๆ ติดๆ กันเหมือนปืนต่อสู้อากาศยานในหนังสงครามเลย พอบั้งไฟแสนจะขึ้นบั้งไฟหมื่นก็หยุดเป็นพักๆ ปีนี้มีบั้งไฟหมื่นมาร่วมจุด 800 บั้ง บั้งไฟแสนอีก 230 บั้ง มีบั้งไฟ 5 หมื่นร่วมด้วย รวมแล้วประมาณ 1200 บั้ง ดูกันเพลิน เราก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ คัดเอาสวยๆ มาให้ดูกัน

พระอาทิตย์ทรงกลด ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คือประเพณีของชาวพนมไพรที่สืบทอดต่อกันมายาวนาน คนที่อยู่จังหวัดอื่นบางทีมีโอกาสมาเที่ยวร้อยเอ็ดไปบนบานว่าจะถวายบั้งไฟ พอได้สำเร็จสมปรารถนา ก็ต้องกลับมาจุดที่นี่เพราะฐานจุดบั้งไฟใหญ่ๆ ในเมืองไทยมีไม่กี่ที่ ฟังที่โฆษกประกาศบางคนมาจากนครพนมก็มี ยิ่งแสดงให้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อพระมหาธาตุวัดกลางอุดมเวทย์ ใครบน 10 บั้งก็ต้องถวาย 10 บั้ง ทำให้จำนวนบั้งไฟในแต่ละปีมีทะลุพันบั้งอย่างทุกวันนี้

เรื่องที่น่าแปลกอีกเรื่องก็คือ ระหว่างการจุดบั้งไฟจะมีช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราจะได้เห็นพระอาทิตย์ทรงกลดเกิดขึ้นเหนือลานจุด อย่างในปี 2558 ที่มางานบั้งไฟพนมไพรครั้งแรกก็มีพระอาทิตย์ทรงกลดเหมือนกัน เป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่น่าเชื่อ ส่วนปีต่อไปเราก็คงต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าจะมีพระอาทิตย์ทรงกลดอีกมั้ย เรื่องราวงานประเพณีที่ต้องเรียกว่า Amazing ที่สุดงานหนึ่งของประเทศไทย มีบั้งไฟมากที่สุดในประเทศไทย งานประเพณีบุญบั้งไฟอำเภอพนมไพร 2560 ก็ต้องจบลงเท่านี้ ไว้พบกันใหม่ปีต่อๆ ไป อ่านเรื่องราวบั้งไฟพนมไพรตำนานความเชื่อ ได้ที่ เล่าขานตำนานบั้งไฟ พนมไพร ร้อยเอ็ด

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานขอนแก่น