ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานขอนแก่น โทร. 0 4322 7714-5
http://www.tourismthailand.org/khonkaen
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
กลางวัดแห่งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นที่ตั้งของสิม โบสถ์เก่าแก่หลังเล็กๆ ที่สร้างกันขึ้นมานานนับร้อยปี จุดเด่นของวัดไตรภูมิคณาจารย์ ก็คือพระธาตุเจดีย์ล้อมด้วยเสาหลัก 3 ต้น แลดูเหมือนศาล ส่วนที่มาของหลักทั้งสามไม่มีใครบอกได้ชัดเจน แต่น่าจะเกี่ยวกับที่มของชื่อวัดที่ชื่อ ไตรภูมิ เหมือนมีความหมายว่า ศาลพระภูมิ 3 หลัง อะไรทำนองนี้ ส่วนสิมอยู่ถัดจากหลักทั้ง 3 ไป
ตาล 3 ต้น วัดไตรภูมิคณาจารย์ นอกเหนือจากเสาหลักปริศนาทั้ง 3 ที่อยู่ข้างสิม หน้าสิมยังมีต้นตาลสูงใหญ่ตระหง่านอยู่อีก 3 ต้น ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ไม่น่าเชื่อ
หน้าบันไม้แกะสลัก จุดเด่นอย่างหนึ่งที่เราเห็นในการมาชมสิมแดนอีสาน คือหน้าบันที่มีลวดลายต่างๆ กันไป ตามความนิยมของพื้นที่ที่สิมตั้งอยู่ สิมทุกหลังมีหน้าบันแกะสลักที่สวยงาม
ความสำคัญของสิมวัดไตรภูมิ จากคำบอกเล่าของปราชญ์ชาวบ้าน คุณลุงจันทร์ดี พลงาม ลุงสุจิตร สุดชาลี อายุเกินหลัก 70 กันแล้ว เล่าว่า เกิดมาก็เห็นสิมหลังนี้ตั้งอยู่ในวัดแห่งนี้แล้ว เดิมมีชื่อว่า วัดป่า น่าจะสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยพระครูหลักคำเป็นผู้สร้างและได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดไตรภูมิบ้านตากแดด เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2341 ภายในวัดเดิมทีมีหอไตรกลางน้ำแต่ได้ถูกรื้อถอนออกไปแล้ว พบเพียงแผ่นไม้สีแดงจารึกอักษรธรรมระบุว่าสร้างในพ.ศ. 2400 พระพุทธรูปคู่วัดไตรภูมิคณาจารย์ คือพระแก้วมรกต เคยประดิษฐานอยู่ในสิมหลังนี้ ตอนนี้ได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนศาลาเพื่อความปลอดภัย ในสมัยคุณลุงยังเด็กมีเรื่องราวปาฏิหารย์หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของพระครูหลักคำ (เดิมทีจำชื่อของพระครูไม่ได้ แต่ที่เรียกติดปากมาว่าพระครูหลักคำ เพราะในสมัยนั้น หลักคำ เป็นยศขั้นหนึ่งของพระภิกษุต่อมายศนี้ก็ถูกเลิกใช้ไป ชาวบ้านเรียกติดปากกันว่าพระครูหลักคำ มาตลอด) พระครูหลักคำเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบศึกษาธรรมะจนแตกฉาน ว่ากันว่า สามารถเก็บเรียงใบลานตามลำดับได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ครั้งหนึ่งมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่รู้เรื่องพระครูหลักคำ ว่าศึกษาธรรมะจนแตกฉาน เรียงหนังสือใบลานได้รวดเร็ว ถูกต้อง จึงเดินทางมาที่บ้านตากแดด ฝนตกตลอดทาง หนังสือใบลานเปียกฝนพอแดดออกจึงได้ทดสอบพระครูหลักคำ ให้ทำการเก็บเรียงหนังสือใบลานที่ตากไว้ ปรากฏว่า พระครูหลักคำใช้กิ่งไม้เขี่ยๆ ใบลานเข้าหากันเป็นผูกอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จนทำให้พระเถระจากฝั่งลาวนับถือ
มาว่ากันเรื่องสิมกันต่อ หลังจากที่ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตไปประดิษฐานที่ศาลาแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงพระพุทธรูปเก่าๆ ที่ชำรุดหักพังตั้งอยู่บนฐานในสิมอย่างที่เห็น
ฮูปแต้ม จิตรกรรมฝาผนัง สิม การเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์ ดูเหมือนว่าจะเริ่มกันมาหลายร้อยปี จนหาข้อมูลไม่ค่อยจะได้ ในสิมที่สร้างตั้งแต่รัชกาลที่ 4 ก็ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง แต่ด้วยฝีมือของช่างที่พอจะหาได้ในแต่ละพื้นที่ คงจะไม่ได้วิจิตรงดงามเหมือนอย่างวัดในเมืองหลวง แต่ก็เปี่ยมด้วยคุณค่าที่ยังคงเหลือไว้จนถึงทุกวันนี้ ภาพจิตรกรรมฝาผนังสิมวัดไตรภูมิคณาจารย์ มี 4 ภาพ ตามคำบอกเล่าของลุงทั้ง 2 ตอนนี้เหลืออยู่เพียงส่วนน้อย ทั้ง 4 ภาพ เท่าที่ลุงจำได้ มีทั้งรามเกียรติ์ พุทธประวัติ และตำนานสังข์สินไชย หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า สินไซ
ลุงผู้มีอาวุโสสุดในหมู่บ้าน ที่ได้เติบโตมาผูกพันธ์กับสิมหลังนี้ เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เราได้ฟัง รวมทั้งประวัติของวัดเท่าที่ลุงจะจำได้ มีตอนหนึ่งเล่าว่า วัดไตรภูมิคณาจารย์สมัยพระครูหลักคำนั้น ชาวบ้านจะขึ้น-ลงศาลาการเปรียญ ต้องถอดรองเท้า วันหนึ่งครูมาสอนหนังสือลุงในวัด เดินขึ้นศาลาไม่ถอดรองเท้า ถึงกับล้มชักลงต่อหน้า ต้องหาธูปเทียนมาจุดขอขมาแล้วจึงหาย
เรื่องราวของพระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปที่เชื่อว่าเป็นเครื่องบรรณาการ ที่ชาวบ้านเรียกว่า ส่วย ที่ชาวบ้านทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวจะนำมาถวายพระครูหลักคำด้วยความเลื่อมใสศรัทธาเป็นประจำทุกปี ในวันขื้น 15 ค่ำ เดือน 5 (ราวๆ ใกล้เคียงกับวันสงกรานต์) แก้วแหวนเงินทอง ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องสังฆทาน ต่างๆ นานา ที่ชาวบ้านจะนำมาถวายด้วยเลื่อมใสในพระครูหลักคำเป็นอย่างมาก พระแก้วมรกต ชาวบ้านเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก
เมื่อประมาณ พ.ศ.2480 นายอำเภอคนใหม่ย้ายมาจากเมืองร้อยเอ็ดมาเป็นนายอำเภอสุวรรณภูมิ รู้ข่าวความศักดิ์สิทธิ์ของพระแก้วมรกตวัดไตรภูมิคณาจารย์ จึงได้ขอยืมจากชาวบ้านเพื่อนำไปสักการะบูชาที่อำเภอ ชาวบ้านให้ยืมไป ต่อมาปีพ.ศ. 2484 นายอำเภอต้องย้ายไปประจำที่อีกอำเภอหนึ่ง จึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตติดขบวนย้ายตามไปด้วย แต่ปรากฏว่าเกวียนของนายอำเภอติดไปไหนไม่ได้ วัวเทียมเกวียนวิ่งชนเสาโทรเลขพังเสียหาย จนนายอำเภอต้องให้เข้าบ้านไปรับพระแก้วมรกตกลับคืน ชาวบ้านใช้เสลี่ยงไปอัญเชิญพระพุทธรูปกลับ นายอำเภอถึงเดินทางต่อไปได้
พระพุทธรูปเก่าแก่ เป็นพระพุทธรูปแบบอีสานขนาดใหญ่ ได้อัญเชิญมาจากวัดใต้วิไลธรรม มาประดิษฐานอยู่ที่วัดไตรภูมิคณาจารย์เมื่อนานมาแล้ว อยู่ด้านหลังสิม เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือมาก
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ