อุทยานแห่งชาติหาดวนกร

อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2535 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 76 และเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลลำดับที่ 18 สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณ สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่งประกอบด้วยไม้ผลัดใบหลายชนิดปะปนได้แก่ ไผ่ป่า ประดู่ มะค่าโมง เดิมพื้นที่ป่าเป็นป่าปลูกผสมผสานกับป่าธรรมชาติที่ฟื้นตัว พันธุ์ไม้ที่ปลูกได้แก่ เสลา ตะแบก สัก พะยอม สนทะเลและสนประดิพัทธ์ สัตว์ป่าพบจำนวนน้อยชนิด ส่วนใหญ่จะพบนกชนิดต่างๆได้แก่ นกขมิ้นท้ายทอยดำ นกยางทะเล นกแซงแซวหางปลา นกตะขาบทุ่ง และนกอีกหลายชนิดมากมาย อุทยานครอบคลุมพื้นน้ำประมาณ 15.36 ตารางกิโลเมตร สัตว์น้ำที่พบมีปลาน้ำจืดได้แก่ปลาดุก ปลาช่อน ปลาหมอ ปลานิลและปลาทะเลต่างๆ ชายหาดมีความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร เรียงรายด้วยทิวสนทะเลเป็นแนวไปตามชายหาด ภายในบริเวณอุทยานฯ มีสถานที่น่าสนใจ คือ

หาดวนกร หาดทรายขาวสะอาดทอดตัวเป็นแนวยาวสลับกับหัวกรังที่ยื่นลงไปในทะเลเป็นตอนๆ เหนือขึ้นมาบนชายฝั่งมีทิวสนทะเลเป็นแนวยาวขนานไปกับทะเล ตั้งแต่คลองน้ำจืดจนถึงห้วยบ้านยางระยะทาง 7 กิโลเมตร หาดทรายเมื่อน้ำลงต่ำสุดจะยื่นออกไปในทะเล 150 เมตร

อ่าวมะค่า เป็นบริเวณคุ้งน้ำชายฝั่งทะเลจากบ้านวังด้วนจนถึงปากคลองน้ำจืด ลักษณะเป็นหน้าผาริมทะเล มีโขดหิน ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเล เกาะจานและเกาะท้ายทรีย์

ดำน้ำดูปะการัง เกาะจาน และเกาะท้ายทรีย์ ค่าใช้จ่าย 500 บาท/คน มีอุปกรณ์ในการดำน้ำให้ คือ ชูชีพ สน๊อกเกิ้ล อาหารพร้อมน้ำดื่ม (ข้าวกล่อง) ถ้ามาไม่ถึง 5 คน จะต้องเหมาลำ 2,500 บาท ใช้เวลาในการเดินทาง 20 นาที่ ดำนำดูปะการัง 2 ชั่วโมง และเดินทางกลับ 20 นาที

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติหัวกรังและหินจวง ลักษณะเป็นห้องเรียนกลางแจ้งให้ได้เรียนรู้ เข้าใจความสัมพันธ์ของธรรมชาติและสร้างจิตสำนึกในการดูแลรักษาธรรมชาติ แต่ละสถานีแสดงความสัมพันธ์ของชีวิตที่พึ่งพาอาศัยกันในผืนป่าแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ชนิดต่างๆ เช่น ไผ่ มะกอกป่า มะม่วงป่า รังมด จอมปลวกและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในอีกหลายสถานีรวมทั้งหมด 28 สถานี เส้นทางเดินมี 3 เส้นทาง เส้นทางแรกระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เส้นทางที่ 2 ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมง เส้นทางที่ 3 ระยะทาง 6 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ช่วงเดือนที่เหมาะสมในการดำน้ำคือ มีนาคม-เมษายน

ลานข่อย เกาะจานและเกาะท้ายทรีย์ (เป็นแหล่งสัมปทานรังนกนางแอ่น และบริเวณรอบเกาะมีแนวปะการัง) สำหรับการดำน้ำดูปะการังติดต่อได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ

อุทยานฯ มีบริการเต็นท์และบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว ติดต่อได้ที่ อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77130 โทร. 0 3261 9030, 08 1327 5210
หรือที่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เขตบางเขน กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th
หรือ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ติดต่อสอบถามสำรองที่พักได้ที่ โทร. 0 2579 0520, 0 2942 8111 (มีบังกะโลและเรือนนอนในบริเวณอุทยานฯ)

การเดินทาง

รถยนต์ จากตัวเมืองไปตามถนนเพชรเกษมประมาณ 24 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายประมาณกิโลเมตรที่ 345 และมีทางเข้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง ลงรถที่ตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ แล้วเหมารถสองแถวไปส่งระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร

รถไฟ ลงที่สถานีรถไฟห้วยยางแล้วเดินทางต่อโดยรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์รับจ้าง

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.ประจวบคีรีขันธ์ โทร.0 3251 3885, 0 3251 3871, 0 3251 3854
http://www.tourismthailand.org/prachuapkhirikhan

แก้ไขล่าสุด 2016-04-04 10:14:59 ผู้ชม 31562

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

เดินทางสู่หาดวนกร จากถนนเพชรเกษมเลี้ยวซ้ายเข้ามาตามทางที่จะมีป้ายบอกทางเข้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร หาไม่ยาก เลี้ยวเข้ามาแล้วจะเจอด่านเก็บค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติ หลังจากนั้นขับตรงมาอย่างเดียว สิ่งที่ต้องระวังคือการข้ามทางรถไฟ เนื่องจากเป็นถนนที่มีรางรถไฟตัดผ่าน ก่อนที่จะถึงทางรถไฟจะมีคลื่นให้เราชะลอความเร็วลง มันเป็นคลื่นที่ค่อนข้างสูงหากไม่ชะลอก็คงจะรู้สึกสะเทือนไม่น้อย นอกจากสูงและถี่แล้ว ยังมีจำนวนมากอีกด้วย สรุปว่าใครผ่านมาทางนี้ไม่ชะลอก็ให้รู้ไป จากนั้นมาสุดทางที่ป้ายนี้ ยินดีต้อนรับสู่หาดวนกร เป็นทางแยกเลี้ยวซ้ายหรือขวา ถ้ายังอยากขับรถชมวิวก็ไปทางซ้ายก่อนก็ได้ เป็นถนนเลียบหาดทะเลเหนือ ส่วนเลี้ยวขวาไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยวซึ่งมีลานจอดรถหลายแห่ง หรือจะไปจอดข้างร้านสวัสดิการอุทยานก็ได้

พักผ่อนริมหาดวนกร กิจกรรมอันดับแรกๆ ของการมาเที่ยวที่นี่คือการพักผ่อน แต่ถ้าสนใจอยากจะเดินศึกษาธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติหาดวนกรก็มีไว้ให้ มี 3 เส้นทาง ระยะทางเริ่มจาก 2 กิโลเมตร ไปจนถึง 6 กิโลเมตร แต่ตอนนี้เอาเป็นการพักผ่อนริมหาดกันก่อน ทางอุทยานจัดโต๊ะกับม้านั่งไว้ให้จำนวนมากเพียงพอกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ นักท่องเที่ยวที่มาค้างแรมที่นี่ด้วยการกางเต็นท์จะเลือกกางที่ใกล้ๆ กับโต๊ะเหล่านี้เป็นหลักถือว่ามีดีกว่าไม่มี

นอนเปลริมหาดวนกร ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เด็กๆ ที่มาที่นี่ก็จะชอบการลงเล่นน้ำ ในฤดูที่คลื่นลมไม่แรงนักก็ลงเล่นกันได้ โดยมีผู้ใหญ่ดูแลอย่างใกล้ชิด ถึงยังไงทะเลก็ยังคงเป็นทะเลบางทีก็น่ากลัวครับ สำหรับการมาเที่ยวแบบครอบครัว เด็กที่เล่นน้ำจนเหนื่อยหรือไม่อยากลงเล่นน้ำหรืออยากจะนอนก็จับนอนลงในเปลของอุทยานที่มีอยู่หลายแห่งระหว่างต้นสน

แนวสนริมหาดวนกร เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของที่นี่ สนเหล่านี้มีจำนวนมาก ขึ้นเรียงกันเป็นแนว หลายแนว เกิดเป็นความร่มรื่นสำหรับเราที่นั่งรับลมทะเลในร่มและอากาศบริสุทธิ์แสนสบาย การกางเต็นท์ก็หาช่องว่างระหว่างต้นสนกางเป็นภาพที่เห็นได้ทั่วไปตามหาดวนกร หากมาแล้วไม่ได้ค้างก็คงจะไม่รู้ว่าบรรยากาศการนอนฟังเสียงคลื่นมันสงบสุขแค่ไหน

หาดวนกร บางครั้งที่เราเดินทางมาในช่วงที่มีพายุเข้าก็คงเป็นโชคร้ายของเราที่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ คลื่นลมระหว่างมีมรสุมนั้นแรงมากน้ำก็จะไม่ใส แต่ที่เห็นก็ยังมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยียนหาดวนกรอยู่ตลอด

หาดวนกร การกลับมาครั้งที่ 2 มาเพื่อเก็บภาพถ่ายซ่อมจากครั้งแรกที่ตรงกับช่วงพายุ หาดวนกรยามบ่ายพระอาทิตย์คล้อยไปด้านหลังของแนวสนเกิดเป็นความร่มรื่นยื่นยาวไปถึงหาด ทำให้การเล่นน้ำทะเลไม่ต้องกังวลเรื่องแสงแดดที่ร้อนแรง หลายครอบครัวเลือกที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนประจำวันหยุดสุดสัปดาห์

หาดวนกร ท้องฟ้าสดใสคู่กับท้องทะเลสีคราม นักท่องเที่ยวที่มากันเป็นคู่ก็จะได้บรรยากาศโรแมนติกมากๆ ที่หาดวนกรแห่งนี้ เนื่องจากหาดนี้มีความยาวมาก จะหาสถานที่สำหรับลงเล่นน้ำห่างไกลจากนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ได้ไม่ยากเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มาก

น้ำใสๆ กับฟองคลื่น ในฤดูกาลที่สภาพอากาศปกติ คลื่นที่หาดวนกรเป็นคลื่นเล็กๆ ไม่แรงมาก เหมาะแก่การลงเล่นน้ำของเด็กๆ น้ำทะเลที่ใสสะอาดฟองคลื่นสีขาวแวววับยามต้องแสงแดดเป็นท้องทะเลที่น่าเที่ยวจริงๆ ครับ

วิวสวยหาดวนกร หลังจากลงไปชมน้ำทะเลกับหาดทรายแล้วคราวนี้ก็ลองมาหามุมถ่ายภาพวิวผ่านใบสนที่มีอยู่มากมายบนหาดวนกรแห่งนี้กันบ้าง

แนวสนบนหาดวนกร มีภาพแนวต้นสนมาให้ชมกันอีกภาพ หากต้องการเช่าเต็นท์ไปติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้ ราคาหลังละ 225 บาท ร้านสวัสดิการที่อุทยานแห่งชาติหาดวนกร มีอาหารอร่อยๆ ไว้บริการ แต่ละเมนูเด็ดๆ ทั้งนั้น แต่ถ้าจะเอาอาหารจานเดียว ยกตัวอย่างเช่นข้าวผัด ผัดกะเพรา ข้าวต้ม อร่อย ส่วนเมนูข้าวต้มแนะนำให้เป็นมื้อเช้า เสริฟมาร้อนๆ สุดยอดมาก หากเดินไปหลังร้านสวัสดิการ จะมีลานข่อยให้ได้ชมกัน สำหรับลานข่อยนั้นเป็นสถานที่สำหรับถ่ายภาพแต่งงานนอกสถานที่ของบางสตูดิโอด้วยนะครับ ตื่นมาในตอนเช้าแสงนุ่มๆ มีช่างภาพกับคู่บ่าวสาวมาถ่ายรูปให้ได้เห็นกันด้วยในบางวัน ถัดเข้าไปเป็นห้องน้ำ มีบริการมากเพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำทะเล

หาดวนกรยามเย็น เป็นภาพที่ผมได้มาโดยบังเอิญเนื่องจากในทริปนี้ผมไม่รู้ข้างขึ้นข้างแรมเลย แต่วันที่ไปนั้นเป็นวันพระจันทร์เต็มดวงพอดี พระจันทร์ขึ้นมางามเด่นเหนือท้องทะเลเวิ้งว้าง เป็นภาพที่สวยมากโดยเฉพาะในวันที่มีแสงทไวไลท์ก่อนจะมืดลง ทำให้ท้องฟ้ามีสีสันสวยงามมากยิ่งขึ้น

วิวสวยหาดวนกร ปิดท้ายด้วยภาพนี้ครับ แต่อยากจะบอกว่ามันมีต่อจากนี้อีก เวลาประมาณ 2 ทุ่ม แสงจันทร์สะท้อนบนผิวน้ำระยิบระยับ สวยมาก ทำให้เข้าใจได้เลยว่าทำไมจึงมีคนชอบเที่ยวงานฟูลมูนปาร์ตี้ หรือนั่งชมทะเลในคืนวันเพ็ญ แต่ที่ไม่มีรูปมาให้ดูกันเพราะว่าแบตเตอรี่หมดเสียก่อน สำหรับเรื่องราวในการเดินทางครั้งนี้มีให้อ่านกันอย่างละเอียดที่ //www.touronthai.com/forum/index.php/topic,1076.0.html อ่านกันให้ได้นะครับมีที่เที่ยวมากมายในประจวบที่ผมเขียนได้ละเอียดมากให้อ่านกัน