ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานเพชรบุรี โทร. 0 3247 1005-6
http://www.tourismthailand.org/phetchaburi
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ถึงแล้วโฮมสเตย์บ้านถ้ำเสือ การเดินทางตามเส้นทางสายธรรมชาติของเรา มาที่ อ.แก่งกระจาน พื้นที่ที่มีผืนป่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ตั้งชื่อกันว่าบ้านถ้ำเสือ เราได้ฟังคำบอกเล่าจากลูกหลานของผู้บุกเบิกก่อตั้งหมู่บ้านขึ้น ว่าในสมัยก่อนที่นี่เป็นป่าดงดิบ เคยมีเสืออาศัยอยู่ในถ้ำของหมู่บ้าน ปัจจุบันเสือก็เข้าป่าลึกหายไป มีผู้คนมาอาศัยอยู่แทน
ที่นี่เหมาะที่จะเป็นที่พักผ่อนสัมผัสธรรมชาติขนานแท้ หายากลงไปทุกวันในสังคมที่กำลังพัฒนาจนเจริญรุ่งเรือง เป้าหมายเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ดูงานของคนที่สนใจจะตั้งธนาคารต้นไม้ แต่ถึงไม่ได้ทำธนาคารต้นไม้แต่ชอบอยู่กับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ที่นี่ก็ยินดีต้อนรับทุกคนที่มาเยือน
แผนผังธนาคารต้นไม้บ้านถ้ำเสือ หมู่บ้านแห่งนี้แม้จะไม่ใหญ่โตมากมาย แต่ก็ใหญ่เพียงพอที่จะทำเป็นป่าไม้ในโครงการธนาคารต้นไม้ ข้อมูลของโครงการเราเล่าไปแล้วในตอนแรก แต่จะเล่าย่อๆ พอเข้าใจอีกครั้งว่า ธนาคารต้นไม้เหมือนกับธนาคารการเงิน คือเอาต้นไม้ไปฝาก แล้วออกดอกเบี้ย เมื่อถึงเวลาตัดขาย นอกจากนั้นในอนาคตอันใกล้ จะมีการใช้ต้นไม้แทนหลักทรัพย์สำหรับกู้เงินจากธนาคารได้ด้วย แน่นอนว่าโครงการลักษณะนี้ต้องสนับสนุนโดย ธนาคารเพื่อการเกษตร หรือ ธกส. นั่นเองตลอดหลายปีที่ผ่านมาโครงการนี้ค่อยๆ เติบโดขึ้นเรื่อยๆ จนทุกวันนี้บ้านถ้ำเสือกลายเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการทำโครงการธนาคารต้นไม้ที่ดีแห่งหนึ่งของประเทศ
ต้นไม้ในโครงการทุกต้น ติดแทกโลหะ ระบุพิกัดดาวเทียม GPS หาได้จากใน Google Map แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่โครงการของเกษตรกรที่ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นโครงการที่ได้รับการดูแลสนับสนุนอย่างเป็นระบบของหลายหน่วยงานเข้าด้วยกัน เพื่อประโยชน์ของทุกๆ คน ไม่ใช่เฉพาะเจ้าของต้นไม้ในโครงการเท่านั้น แต่การปลูกป่าแบบนี้ยังให้ประโยชน์แก่คนอีกมากมายหลายคนที่อยู่ในเมืองในเรื่องของแหล่งน้ำและออกซิเจน รวมไปถึงการลดโลกร้อนได้อีกด้วย
เมื่อเข้ามาถึงบ้านถ้ำเสือแล้ว หลายๆ หลังคาเรือน หรือเรียกว่าเกิน 80% เป็นสมาชิกโครงการธนาคารต้นไม้ และทำการเกษตรหลายอย่าง ทั้งปลูกไม้มีค่า ทำสวนผลไม้ เลี้ยงหมูหลุม ทำน้ำสัมควันไม้ หลายๆ อย่างที่เราจะเห็นได้จากแหล่งเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เราก็เพียงแต่ถามหาผู้ใหญ่บ้าน และผู้ดูแลโครงการ เพื่อที่จะได้พาเราไปชมสถานที่ต่างๆ ของโครงการ ในระหว่างตามหาผู้ใหญ่บ้าน เราก็เห็นโฮมสเตย์หลายหลัง ที่เรียกโฮมสเตย์ บอกเลยว่าเป็นห้องพักที่อยู่ชายคาเดียวกันกับเจ้าของบ้าน ห้องพักอาจจะไม่หรูหราเหมือนรีสอร์ท แต่ก็เพียงพอสำหรับการต้อนรับแขกที่ต้องการมาเรียนรู้เรื่องราวของการเกษตร และโครงการธนาคารต้นไม้
ธนาคารต้นไม้ เอาละ เจอผู้ใหญ่บ้านแล้ว ตอนนี้พ่อผู้ใหญ่บ้านและพี่น้อยผู้ริเริ่มโครงการธนาคารต้นไม้บ้านถ้ำเสือ นำทางเราไปที่ท่าน้ำของหมู่บ้าน ซึ่งเมื่อก่อนที่นี่ชื่อบ้านท่าน้ำเพราะมีท่าน้ำนี่เอง ที่ท่าน้ำจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้เรื่องราวของโครงการ เรียกว่าเป็นฐานแรก
เส้นทางเดินลงไปยังท่าน้ำ เป็นป่าไม้สูงใหญ่ ที่มารู้ทีหลังว่าเป็นต้นไม้ที่อยู่ในพื้นที่นี้มานานแล้ว เป็นต้นไม้มีค่าที่สามารถเข้าร่วมโครงการธนาคารต้นไม้ได้ ชาวบ้านต้องช่วยกันดูแลรักษา แล้วก็ปลูกเพิ่มเติมขึ้นมาตามความสามารถของแต่ละคน อากาศที่นี่แม้แดดจะร้อน แต่พอเดินเข้าไปท่ามกลางป่าไม้ใหญ่ ความร่มรื่นก็ทำให้เราเดินสบายๆ อากาศบริสุทธิ์มากอย่างรู้สึกได้เมื่อเทียบกับเมืองหลวงที่เราอยู่
ท่าน้ำบ้านถ้ำเสือ เดินไม่กี่นาที เราก็มาถึงท่าน้ำแล้ว เห็นแพไม้ไผ่จอดอยู่ลำเดียว มีต้นก้ามปูใหญ่มากแผ่กิ่งก้านเข้าไปในลำน้ำ แสงแดดส่องลงมากระทบแลดูสวยงาม น้ำใสไหลเย็น เชี่ยวพอสมควรเลย เห็นแบบนี้เลยลองถามผู้ใหญ่บ้าน อยากให้มีกิจกรรมสนุกๆ ให้คนที่มาเที่ยวได้ลอง ล่องเรือตามลำน้ำชมวิวหมู่บ้าน ได้ความว่าต่อไปจะลองทำกันดู แต่ตอนนี้ยังไม่มีนะครับ
จุดหมายสู่ความพอเพียง มั่งคั่ง ยั่งยืน ฐานแรกของการเรียนรู้เรื่องธนาคารต้นไม้ เป็นอาคารเล็กๆ มานั่งรวมๆ กัน เป็นวงกลม จากนั้นผู้ใหญ่และพี่น้อยก็จะเล่าเรื่องราวน่ารู้และความเป็นมาของโครงการให้ฟัง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ถ้ามีคำถามก็จะได้ถามให้เข้าใจก่อนที่จะเดินไปฐานต่อไปเพื่อดูของจริง
คุณภาพถ่านความร้อนสูง ที่เห็นอยู่นี้ พี่น้อยได้นำเอาถ่าน ไม่ใช่ถ่านไฟฉายนะครับ ถ่านหุงข้าวเรานี่แหละ แต่การเผาถ่านของพี่น้อยใช้เตาความร้อนสูงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้ถ่านมีคุณสมบัติที่ให้ความร้อนได้นานกว่าถ่านจากการเผาปกติ ถ่านที่ได้คุณภาพดีจะสามารถนำไฟฟ้าได้ ทำให้หลอดไฟสว่างขึ้นมาอย่างที่เห็น ถ่านเหล่านี้จะมีการตรวจเช็คทุกก้อนก่อนจะบรรจุไปขาย ติดตราของบ้านถ้ำเสือ เช่นเดียวกันกับสินค้าทางการเกษตรอื่นๆ ที่ต้องเน้นการคัดสรรคุณภาพที่ดีที่สุดเท่านั้นจึงจะวางขายในแบรนด์บ้านถ้ำเสือได้ ลูกค้าที่ต้องการของมีคุณภาพจะมาเลือกซื้อถึงที่
ต้นกล้าของโครงการ เอาละออกจากฐานเรียนทฤษฎี เข้าสู่ชั่วโมงปฏิบัติ โครงการนี้เริ่มต้นจากการลงทุนซื้อต้นกล้าของไม้ต่างๆ ไปปลูก อยากมีเงินให้ลูกหลานใช้ที่แสนกี่ล้านคำนวณเอา ขึ้นอยู่กับต้นไม้ที่จะปลูก มีทั้งสัก พะยูง ใช้เวลา 20 จากค่าต้นกล้า 10 บาท ก็จะกลายเป็น 30000 บาท เรียกกว่าไม่มีการลงทุนใดจะให้ผลตอบแทนขนาดนี้สำหรับเกษตรกร ปลูก 10 ต้น 20 ปี ก็มีเงิน 3 แสน แต่จะให้หาเงินเก็บ 3 แสนในเวลา 20 ปี น้อยคนที่จะทำได้ นี่คือหลักแนวคิดที่พี่น้อยพยายามจะให้เพื่อนบ้านลองคิดดู ตอนนี้ก็เหลือเพียงส่วนน้อยที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการ ด้วยเห็นว่าเวลา 20 ปี มันนานไป แต่ความจริงแล้ว พอมันผ่านไปคนส่วนใหญ่เพิ่งจะรู้ตัวว่าไม่มีอะไรงอกเงยขึ้นมาเลย มีแต่ความแก่เท่านั้นที่เพิ่มขึ้น
ธนาคารต้นไม้ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสร้างความมั่งคั่งให้เกษตรกรอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต
สาธิตการทำน้ำยาเอนกประสงค์
การเลี้ยงหมูหลุม เป็นอีกหนึ่งกระบวนการเลี้ยงหมูที่เกษตรกรควรจะศึกษาและนำไปใช้ ขุดหลุมลึก 1 เมตร ปูด้วยใบไม้แล้วขี้วัว พอเอาหมูไปเลี้ยงจะไม่เหม็นเหมือนคอกหมูทั่วไป มีสาธิตให้ดูกันที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงทุกแห่ง
จบการนำเที่ยวบ้านถ้ำเสือ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เอาไว้เท่านี้ครับ
ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง
โฮมสเตย์บ้านถ้ำเสือ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ