www.touronthai.com

หน้าหลัก >> เพชรบุรี >> อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม

อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม

 ตั้งอยู่ที่ตำบลพุสวรรค์ มีพื้นที่ประมาณ 180 ไร่ ภายในบริเวณแบ่งออกเป็น แดนมหายานเต๋า แดนพุทธเกษตร มีพระพุทธรูป รูปปั้นเทพต่างๆ ในศาสนาฮินดู-พราหมณ์ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ที่น่าสนใจ คือ รูปปั้นพระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกร แกะสลักจากไม้การบูรหอมจากประเทศจีน องค์สูงใหญ่ที่สุดในโลก สามารถเดินเที่ยวชมจุดที่น่าสนใจต่างๆ ในบริเวณได้ต่อเนื่องกัน หรือใช้บริการรถพ่วง 30 บาทต่อคน เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น.

การเดินทางจากถนนเพชรเกษม บริเวณอำเภอท่ายางแยกเข้ามาตามเส้นทางเลียบคลองชลประทานถึงเขื่อนเพชร มีทางแยกขวาไปอุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิมอีก 12 กิโลเมตร หรือจากถนนเพชรเกษมจะแยกเข้าทางอำเภอบ้านลาดก็ได้ เป็นระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 3242 2048-9
 หรือ http://www.religiouspark.org/

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 0 3242 2048-9
http://www.religiouspark.org

แก้ไขล่าสุด 2017-02-12 02:57:33 ผู้ชม 49690

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ
เต็นท์จุดเทียนธูปและถวายเครื่องสักการะ

เต็นท์จุดเทียนธูปและถวายเครื่องสักการะ หลังจากที่เดินทางมาถึงอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิมจะมีรถขนาดใหญ่ไว้ให้เรา จากนั้นนั่งรถบริการของอุทยานมายังวิหารพระแม่กวนอิม ถึงด้านหน้าวิหารบริเวณนี้ทำเป็นเต็นท์ไว้ สำหรับประชาชนที่มาก็จะมีการซื้อส้มและเครื่องสักการะถวายอื่นๆ มาถวายโดยมีโต๊ะจัดไว้ให้ การจุดธูปเทียนทำได้ที่ด้านนอกวิหารเท่านั้นและตามความเชื่อเมื่อถวายเสร็จแล้วจะนำผลส้มเหล่านั้นกลับบ้านไปกินกันเพื่อความเป็นสิริมงคล

พระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกร

พระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกร พระแม่กวนอิมปางพันเนตรพันกร หรือเจ้าแม่กวนอิมพันกร แกะสลักจากไม้การบูรหอมจากประเทศจีน องค์สูงใหญ่ที่สุดในโลก องค์นี้ประดิษฐานในวิหารที่สูงใหญ่จนไม่สามารถเก็บภาพได้หมด (ตอนนั้นยังใช้กล้องคอมแพคอยู่ครับ) จึงได้แต่เก็บภาพองค์พระแม่กวนอิมแต่ก็ด้วยความยากลำบากเนื่องจากระยะในการถ่ายไม่ค่อยจะพอ หากพิจารณาถึงรายละเอียดกันให้ดีองค์พระแม่กวนอิมแกะสลักได้ละเอียดปราณีตงดงามมาก

รูปปั้นเซียน

รูปปั้นเซียน หลังจากไหว้พระแม่กวนอิมแล้วเราเลือกที่จะเดินชมรอบบริเวณอุทยานแทนการนั่งรถรางกลับไปยังด้านหน้าที่ลานจอดรถเพื่อชมสถานที่บางส่วน ส่วนที่สร้างเสร็จและมีมาก่อนก็ได้แก่แดนมหายาน-เต๋า ภายในอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม มีบริเวณกว้างใหญ่มาก มีพื้นที่ประมาณ 180 ไร่มีบริการรถพ่วง 30 บาทต่อคน และเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น. หากเดินเที่ยวชมให้ทั่วจะใช้เวลาค่อนข้างนาน ในระหว่างที่เราเดินบริเวณเห็นมีสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในระหว่างการสร้างอยู่หลายอย่าง ซึ่งเข้าใจว่าจะมีการสร้างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนเต็มพื้นที่ นอกเหนือจากองค์เจ้าแม่กวนอิมปางพันกร ยังมีรูปปั้นเซียน อีกหลายแห่งซึ่งเดินถึงกันได้ อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้เรียกว่าแดนมหายาน-เต๋า เช่นรูปปั้นเง็กเซียนฮ่องเต้

เง็กเซียนฮ่องเต้ เป็นชื่อที่ได้ยินกันมาช้านานหากไม่ใช่ชาวไทยเชื้อสายจีนคำว่าเง็กเซียนฮ่องเต้จะได้ยินกันจากภาพยนตร์จีน มาดูข้อมูลของเง็กเซียนฮ่องเต้กันดีกว่า หรือ เง็กอ๋องไต่เต่ หรือ หยกอ๋องฮ่องเต้ หรือ หยกอ๋องส่องเต่ หรือ หยกอ๋องไต่เทียนจุน หรือ เหล่าโจ้วกง หรือ สมเด็จพระจักรพรรดิหยก หรือ เหวินเทียนจิ่วไจ้อิ้ว หวงเทียนจุน หรือ อิ้วหวงซังตี้ หรือ อิ้วหวงต้าตี่ หรือที่รู้จักกันดีในนาม ทีกง หรือ เทียนกง แปลว่า ปู่สวรรค์ หรือปู่ฟ้า เป็นเทพเจ้าสูงสุดของจีน ซึ่งเป็นชื่อที่ชาวฮกเกี้ยนและชาวไต้หวันเรียกขานนามของพระองค์ท่านแบบใกล้ชิดเสมอญาตินั่นเอง พระรูปปั้นและรูปวาดขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ จะทรงฉลองพระองค์เช่นเดียวกับฮ่องเต้ คือ มีพระมาลา ด้านหน้ามีเส้นร้อยไข่มุกเป็นแถวห้อยลงมาหน้าพระพักตร์ พระหัตถ์ทรงถือพระป้ายซือฮุดหน้าพระอุระ ด้านหลังมีพนักงานสองคนคอยโบกพัด ด้านหน้ามีองครักษ์สององค์ทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋น พระองค์ทรงได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าสูงสุดตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๔
เป็นต้นมา คำว่า เง็กเซียนฮ่องเต้ คนคนไทยเรียกกันเกิดจากการผสมภาษาจีนระหว่าง 2 สำเนียง ฮกเกี้ยน กับ แต่จิ๋ว คือ เง็ก(แต้จิ๋ว) เซียน (ฮกเกี้ยน) ฮ่องเต้ (ฮกเกี้ยน)

ที่มาhttp://th.wikipedia.org/wiki/เง็กเซียนฮ่องเต้

เทพเจ้ากวนอู

เทพเจ้ากวนอู บริเวณใกล้เคียงกันกับรูปปั้นเง็กเซียนฮ่องเต้จะมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ เช่นเทพเจ้ากวนอูในรูปนี้ เหตุที่ชาวจีนนับถือเทพเจ้ากวนอูว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์นั้นมีความเป็นมาดังนี้

กวนอู (นามสกุลคือกวน) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก เกิดเมื่อวันที่ 24 เดือน 6 จีนศักราชเอี่ยงฮี ปี พ.ศ.703 ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั้นฮวนเต้ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เดือนที่ 7 จีนศักราชเคี่ยงเซ้ง ปี พ.ศ. 762 ในรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นเหี้ยนเต้ มีชื่อรองว่า "หุนเตี๋ยง" เป็นชาวอำเภอไก่เหลียง ลักษณะตามคำบรรยายในวรรณกรรมสามก๊ก กวนอูเป็นผู้มีรูปร่างสูงใหญ่ 9 ฟุตจีนหรือประมาณ 6 ศอก ใบหน้าแดงเหมือนผลพุทราสุก นัยน์ตายาวรี คิ้วดั่งหนอนไหม หนวดเครางามถึงอก มีง้าวรูปจันทร์เสี้ยว ยาว 11 ศอก หนัก 82 ชั่ง เป็นอาวุธประจำกายเรียกว่า "ง้าวมังกรเขียว" หรือ "ง้าวมังกรจันทร์ฉงาย" ในจินตนาการของศิลปินมักวาดภาพหรือปั้นภาพให้กวนอูแต่งกายด้วยชุดสีเขียวและมีผ้าโพกศีรษะ

กวนอูมีความเชี่ยวชาญและเก่งกาจวิทยายุทธ จงรักภักดี กตัญญูรู้คุณ มีคุณธรรมและซื่อสัตย์เป็นเลิศในวัยหนุ่มฉกรรจ์กวนอูได้พลั้งมือฆ่าปลัดอำเภอและน้าชายตายจนต้องหลบหนีการจับกุม และพบกับเล่าปี่และเตียวหุยจนร่วมสาบานตนเป็นพี่น้องกันในสวนท้อ ร่วมทำศึกกับเล่าปี่มาโดยตลอด เป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของเล่าปี่ ครองเกงจิ๋วร่วมกับกวนเป๋งบุตรบุญธรรมและจิวฉอง ภายหลังถูกแผนกลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเลของลกซุนและลิบองจนเสียเมืองเกงจิ๋ว กวนอูคับแค้นใจที่พลาดท่าเสียทีลกซุนและลิบองจึงนำทัพไปตีเกงจิ๋วเพื่อแย่งชิงคืน แต่ถูกจูเหียนและพัวเจี้ยงจับได้พร้อมกวนเป๋งที่เขาเจาสัน ซุนกวนพยายามเกลี้ยกล่อมให้กวนอูยอมจำนนและสวามิภักดิ์แต่ไม่สำเร็จ จึงถูกประหารพร้อมกับกวนเป๋งบุตรบุญธรรมในเดือนสิบสองของปี พ.ศ.762 รวมอายุได้ 59 ปี

ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/กวนอู

เทพเจ้าเห้งเจียและเทพเจ้าองค์อื่นๆ

เทพเจ้าเห้งเจียและเทพเจ้าองค์อื่นๆ ตามจุดต่างๆ ของแดนมหายาน-เต๋ามีรูปปั้นเทพเจ้าอีกหลายองค์ระหว่างทางเดินมีต้นไม่ร่มรื่นเป็นระยะๆ ให้ได้พักจากจุดนี้ไม่ไกลมากนักก็เดินถึงลานจอดรถด้านหน้าได้ หากวันไหนมีเวลาและโอกาสอำนวยได้กลับมายังอุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งนี้อีกคงจะได้ภาพในส่วนอื่นๆ มาอย่างครบถ้วนครับ

เทพเจ้าเห้งเจีย เห้งเจีย เป็นหนึ่งในตัวละครเอกเรื่องไซอิ๋ว ซึ่งเห้งเจียเดิมเป็นหินที่ถูกแสงสุริยันจันทราอาบมากว่า 1,000 ปี วันหนึ่งจึงแตก และมีลิงตัวหนึ่งกระโดดออกมา เจ้าลิงตัวนั้นจึงได้ไปอยู่กับฝูงลิงที่เขาไม้ผล (เขาฮวยก๊วยซัว จีนกลางเรียกว่า เขาฮัวกั่วซาน) และตั้งตัวเป็นหัวหน้าฝูง บรรดาลิงในฝูงนับถือเป็นท่านอ๋อง ฉายา "มุ้ยเกาอ๋อง" (พญาวานรโสภา)
วันหนึ่ง เจ้าลิงหินตัวนี้ เห็นลิงในฝูงตัวหนึ่งตายลงด้วยความแก่ จึงเกิดความคิดจะออกเดินทางไปหาวิชาที่จะไม่ทำให้เจ็บ ไม่ทำให้ตาย จึงออกจากฝูงเดินทางเสาะแสวงหาผู้รู้ไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็พบกับเซียน "โผเถโจ๊ซือ" (สุภูติ) เมื่อเซียนรับเป็นศิษย์ ได้ฝึกวิชาต่าง ๆ เช่น การแปลงกายที่แปลงได้ 72 ร่าง, ตีลังกาได้ไกลกว่า 300 ลี้, ยืด-หดตัวได้, ถอนขนเสกเป็นของต่าง ๆ, ขี่เมฆวิเศษ เป็นต้น พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า "ซุนหงอคง" เมื่อฝึกวิชาสำเร็จแล้ว หงอคง เกิดลำพองใจ ไปอาละวาด อวดวิชาตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งสวรรค์หรือบาดาล ทำให้ 3 โลก ปั่นป่วนไปหมด เง็กเซียนฮ่องเต้ส่งทหารสวรรค์นับ 10 หมื่นนาย และเทพต่าง ๆ ไปจับ ก็จับไม่ได้ กลับถูกเห้งเจียปราบกลับมาจนเข็ดเขี้ยวตามๆ กัน ในที่สุด เง็กเซียนฮ่องเต้ ต้องยอมให้เห้งเจียขึ้นเป็นใหญ่ พร้อมตั้งให้เป็น "มหาเทพ" (ฉีเทียนต้าเซิ้น แปลตามตัวว่า ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน) จากเดิมที่เป็นเพียงคนเลี้ยงม้า (ปี้ม่าอุน) แต่หงอคงก็ยังเหิมเกริมไม่เลิก ในที่สุด องค์ยูไล(พระพุทธเจ้าในความเชื่อของชาวจีน) ต้องเสด็จมาปราบเอง โดยให้หงอคงถูกทับด้วยภูเขาหินนาน 500 ปี และผู้ที่จะช่วยออกมาได้ คือ พระถังซัมจั๋ง ผู้เดียวเท่านั้น และเห้งเจียต้องบวชเป็นลูกศิษย์รับใช้พระถังซัมจั๋งไปชมพูทวีป และมีหน้าที่คุ้มครองพระถังซัมจั๋งไปตลอดทาง
เมื่อพระถังซัมจั๋งรับหงอคงเป็นศิษย์แล้ว จึงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "เห้งเจีย" หรือ "ซุนเห้งเจีย" แต่เห้งเจียก็ยังคงติดนิสัยเดิมๆ คือ ใจร้อน ห่าม ดื้อรั้น ไม่เชื่อฟังพระถังซัมจั๋ง พระถังซัมจั๋งมีไม้ตายที่ปราบพยศเห้งเจียคือ รัดเกล้า ที่ได้รับประทานจากพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่รัดอยู่กับหัวของเห้งเจีย เมื่อเห้งเจียพยศเมื่อไหร่ พระถังซัมจั๋ง จะสวดมนต์ เห้งเจียจะเจ็บปวดมาก รัดเกล้าอันนี้จะหายไปเมื่อภารกิจได้เสร็จสิ้นแล้ว
ตลอดระยะเวลาการเดินทาง ต้องผจญกับอุปสรรคนานับประการ โดยเฉพาะปีศาจ ที่มักปลอมตัวมาหลอกลวงให้เข้าใจผิด โดยเฉพาะกับพระถังซัมจั๋ง ซึ่งเห้งเจียมักจะมองปีศาจออกก่อนทุกครั้ง และลงมือทำร้ายไปก่อน จึงสร้างความขัดแย้งให้กับศิษย์ อาจารย์ คู่นี้ไปตลอด ว่ากันว่า เป็นการเจตนาสร้างความขัดแย้งของตัวละคร ซึ่งสะท้อนถึงบุคคลิกของบุคคลในลักษณะต่างๆ
อาวุธสำคัญของเห้งเจีย คือ กระบองวิเศษ ที่ปกติจะเก็บไว้ในรูหู สามารถยืด-หดได้ ซึ่งเดิมเป็นเสาค้ำมหาสมุทร ของเจ้าสมุทรทะเลใต้ (ทะเลตงไห่) และมีพาหนะเป็นเมฆวิเศษ
ปัจจุบัน หงอคง หรือ เห้งเจีย ได้รับการนับถือจากชาวจีน โดยตามศาลเจ้าบางแห่ง จะมีรูปเคารพ และนับถือเป็น เทพวานร หรือเจ้าพ่อเห้งเจีย เป็นต้น

ที่มาhttp://th.wikipedia.org/wiki/เห้งเจีย

0/0 จาก 0 รีวิว

10 ที่พัก/โรงแรมใกล้ อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม เพชรบุรี
บังกะโล 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำส่วนตัว ขนาด 114 ตร.ม. – แก่งกระจาน เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  13.86 km | แผนที่ | เส้นทาง
Rain Cha-am/Hua Hin No.182 เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  16.81 km | แผนที่ | เส้นทาง
ไร่สุขแสงจันทร์ รีสอร์ท เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  19.21 km | แผนที่ | เส้นทาง
บ้านเดี่ยว 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำส่วนตัว ขนาด 25 ตร.ม. – แก่งกระจาน เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  19.99 km | แผนที่ | เส้นทาง
อพาร์ตเมนต์ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำส่วนตัว ขนาด 29 ตร.ม. – แก่งกระจาน เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  20.14 km | แผนที่ | เส้นทาง
The Canel Garden Resort
  22.50 km | แผนที่ | เส้นทาง
ไทยไดมอนด์แลนด์ แก่งกระจานคันทรีคลับ แอนด์ รีสอร์ท
  22.85 km | แผนที่ | เส้นทาง
Mighty Mountain Thailand เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  23.22 km | แผนที่ | เส้นทาง
แสงจันทร์ การ์เด้นท์ เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  23.59 km | แผนที่ | เส้นทาง
Clair De Lune - Villa 1 เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  24.97 km | แผนที่ | เส้นทาง
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม เพชรบุรี
อุทยานศาสนาพระโพธิสัตว์กวนอิม เพชรบุรี
  0.00 km | แผนที่ | เส้นทาง
หมู่บ้านผ้าทอกะเหรี่ยง เพชรบุรี
  8.36 km | แผนที่ | เส้นทาง
ฟาร์มแกะเขากลิ้ง khaokling sheep farm
  16.37 km | แผนที่ | เส้นทาง
เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง เพชรบุรี
  16.40 km | แผนที่ | เส้นทาง
หมู่บ้านอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าบ้านฝั่งท่า ประจวบคีรีขันธ์
  22.37 km | แผนที่ | เส้นทาง
โฮมสเตย์บ้านถ้ำเสือ เพชรบุรี
  23.22 km | แผนที่ | เส้นทาง
น้ำตกกวางโจว
  24.41 km | แผนที่ | เส้นทาง
ตลาดน้ำตกกวางโจว เพชรบุรี
  24.43 km | แผนที่ | เส้นทาง
เขื่อนแก่งกระจาน เพชรบุรี
  25.69 km | แผนที่ | เส้นทาง
ล่องแก่งเขื่อนแก่งกระจาน เพชรบุรี
  25.98 km | แผนที่ | เส้นทาง

*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ

Line id: @touronthai (ใส่ @)
www.touronthai.com