วัดพระยืนพุทธบาทยุคล

 วัดพระยืนพุทธบาทยุคล อยู่เลยวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งไปตามทางหลวงหมายเลข 102 ประมาณ 500 เมตร วัดอยู่ทางซ้ายมือของถนนใกล้ทางแยก ภายในมีมณฑปเป็นศิลปะแบบเชียงแสน ครอบรอยพระพุทธบาทคู่ที่ประดิษฐานบนฐานดอกบัวสูงประมาณ 1.5 เมตร ที่วัดพระยืนพุทธบาทยุคลนี้ ยังมีพระพุทธรูปหล่อด้วยสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัยเรียกกันว่า หลวงพ่อพุทธรังสี เดิมประดิษฐานอยู่ในมณฑปมีปูนพอกหุ้มไว้ทั้งองค์ ต่อมาได้กระเทาะปูนออกและนำไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถที่สร้างใหม่

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 055-414218

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

สวัสดีอุตรดิตถ์ ต้องกล่าวคำนี้เพื่อเป็นการทักทาย เพราะผมเพิ่งจะเดินทางมาถึงจังหวัดอุตรดิตถ์ และกำลังจะสำรวจว่าอุตรดิตถ์มีที่เที่ยวอะไรบ้าง การเดินทางของผมไม่ได้มาตามเส้นทางปกติทั่วไป เพราะถ้าตั้งใจจะมาอุตรดิตถ์ใครๆ ก็คงขึ้นมาทางพิษณุโลก เรียกว่าเป็นเส้นทางปกติ แต่ผมมาจากสุโขทัย อำเภอศรีสัชนาลัยเป็นอำเภอสุดท้ายที่ผมเข้าไปสำรวจที่เที่ยวมา จากนั้นก็มาอุตรดิตถ์เข้าทางอำเภอลับแล ตามเส้นทางตั้งใจจะมุ่งหน้าเข้าไปในตัวเมืองก่อนแล้วค่อยสำรวจในวงที่กว้างออกไปเรื่อยๆ ตามอำเภอต่างๆ

แต่ระหว่างการเดินทางมาสะดุดเข้ากับความงดงามของวัดแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับถนนทางหลวงหมายเลข 102 ก็คือหน้าวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ก็เลยชะลอความเร็วลงมองกระจกหลังแล้วจังหวะยังไม่เหมาะที่จะจอดรถแล้วก็ไม่มีที่กว้างพอที่จะกลับรถด้วย สุดท้ายมาถึงทางโค้งเจอวัดอีกแห่งหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้กัน แล้วก็มีลานกว้างๆ อยู่หน้าวัดพอดี พอจังหวะรถว่างก็เลี้ยวเข้ามาจอดเตรียมพร้อมสำหรับการสำรวจสถานที่เที่ยวแห่งแรกของการมาเยือนอุตรดิตถ์ในทริปนี้

ซุ้มประตูโขง มีถนนทางลาดเข้าไปในวัดขนาบข้างด้วยบันไดมีพญานาคยาวเป็นทางพร้อมกับเสาโคมไฟที่สวยงามนี้ นี่คือวัดพระยืนพุทธบาทยุคล ถึงแม้ว่าในตอนแรกผมตั้งใจจะเข้าไปวัดพระแท่นศิลาอาสน์ แต่ในเมื่อวัดที่อยู่ตรงหน้ามีความงดงามขนาดนี้ จะไม่เข้าก็คงไม่ใช่ที่

วัดพระยืนพุทธบาทยุคล เป็นวัดเก่าแก่คู่กันมากับวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งอยู่บนเนินเขาลูกเดียวกันแต่คนละยอด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2492

อุโบสถวัดพระยืนพุทธบาทยุคล ก่อนที่จะขับรถขึ้นมาตามทางเนินเข้าวัด ผมเดินไปถามซุ้มขายน้ำเล็กๆ ที่อยู่ตรงลานจอดรถหน้าวัดว่าทางลาดเข้าวัดนี้เอารถขึ้นไปได้หรือเปล่า เพราะเห็นเป็นทางที่สร้างอย่างสวยงามเกรงว่าถนนวัดจะเสีย ระหว่างนั้นมีรถวิ่งลงมาก็เลยได้คำตอบว่าเอารถผ่านเข้าไปได้ แต่ต้องระวังหน่อยเพราะรถที่อยู่ในวัดจะไม่เห็นว่าเรากำลังขึ้นมา แล้วเราก็ไม่เห็นว่ามีรถกำลังออกมาจากวัดด้วยเหมือนกัน

ผมมาจอดอยู่ข้างอุโบสถ เพราะโดยทั่วไปน่าจะเป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุดในวัด เว้นเพียงแต่ว่าภายในวัดนั้นจะมีพระพุทธรูปที่สำคัญๆ ประดิษฐานอยู่ในวิหาร ซึ่งก็ต้องว่ากันไปว่าองค์ไหนเก่ากว่า ทางวัดก็จะเปิดให้เข้าไปนมัสการพระพุทธรูปองค์นั้น เดินสำรวจอยู่สักพักก็ได้กระจ่างว่า วัดพระยืนพุทธบาทยุคล มีสิ่งสำคัญอยู่ในมณฑปคือรอยพระพุทธบาท และก็มีสิ่งสำคัญอยู่ในอุโบสถอย่างหนึ่ง คือพระพุทธรูปหล่อด้วยสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัยเรียกกันว่า หลวงพ่อพุทธรังสี

หลวงพ่อพุทธรังสี หลวงพ่อพุทธรังสี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยหน้าตั้งกว้าง 55 นิ้ว สูง 66 นิ้ว เดิมประดิษฐานอยู่ในมณฑปมีปูนพอกหุ้มไว้ทั้งองค์ ต่อมาได้กระเทาะปูนออกและนำไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถที่สร้างใหม่

มณฑปรอยพระพุทธบาท

มีตำนานเรื่องเล่าของวัดแห่งนี้ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มาประทับยืนบนยอดเขานี้ เพื่อทอดพระเนตรไปยังทิศต่างๆ เป็นประมณฑล และได้ทรงอธิษฐานประทับรอยพระพุทธบาทไว้ จึงปรากฏรอยพระพุทธบาททั้งคู่บนศิลาแลง ต่อมาในสมัยสุโขทัย เจ้าธรรมราชกุมารผู้ครองนครศรีสัชนาลัย ได้โปรดให้สร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทไว้ ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ ได้มีการบูรณะพระมณฑป และทำหลังคาเป็นจุลมงกุฎ และในปี พ.ศ. 2444 ได้มีการปฏิสังขรณ์และเปลี่ยนหลังคาเป็นทรงจตุรมุขดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน

บริเวณรอบๆ วัด นี่ละครับสิ่งสำคัญภายในวัดพระยืนพุทธบาทยุคลผมก็ได้พาไปเที่ยวชม ไหว้พระกันทั่วแล้ว หลังจากนั้นก็เดินชมรอบๆ บริเวณวัดที่จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานยอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในบรรยากาศอันร่มรื่นของวัดที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ไปวัดพระแท่นศิลาอาสน์กันต่อเลยดีกว่าครับ