ข้อมูลเพิ่มเติม:ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0 5567 1466
http://www.tourismthailand.org/phrae
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองแพร่ ที่อยู่ไกลออกไปจากกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ของการเริ่มต้นเดินทางเที่ยวเมืองแพร่ ถ้ามองในแผนที่ดีๆ จะเห็นกลุ่มสถานที่สำคัญๆ ที่นักท่องเที่ยวน่าจะได้เข้าไปชม ไม่ว่าจะเป็นคุ้มเจ้าหลวง บ้านวงศ์บุรี บ้านประทับใจ วัดหลวง วัดพระนอน จะอยู่ใกล้ๆ กันหมด มีเฉพาะวัดจอมสวรรค์ที่อยู่ห่างออกไปตามเส้นทางไปทางบ้านทุ่งโฮ้ง หรือถนนยันตรกิจโกศล (ทางหลวง 101)
เพราะเหตุนี้พอเรามาเที่ยวแพร่ เราก็จะเที่ยวสถานที่ที่อยู่ใกล้กัน จนมาถึงวัดจอมสวรรค์เป็นวัดสุดท้าย เวลาก็ปาเข้าไปเกือบจะ 4 โมงเย็นแล้วครับ
การเดินทางมาวัดจอมสวรรค์สังเกตุง่าย เพราะวัดจอมสวรรค์อยู่ติดกับถนน ถ้ามาจากในเมืองวัดจะอยู่ขวามือ บริเวณหน้าวัดเป็นชมรมพระเครื่องวัดจอมสวรรค์ มีเซียนพระมาร่วมสมาคมนั่งส่องพระกันเยอะ ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง และเป็นที่จอดรถที่ดีสำหรับเซียนพระรวมทั้งชาวบ้านที่มาทำธุระในพื้นที่นี้
โบสถ์วิหารและกุฎิในหลังเดียว เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของวัดจอมสวรรค์ ก็คือการสร้างอาคารเพียงหลังเดียวตรงกลางพื้นที่ของวัด แม้ว่าในวัดไทยเองก็มีให้เห็นอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก การได้มาเห็นวัดที่เป็นศิลปะพื้นบ้านแบบนี้ก็ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจได้มาก เหมือนกับที่คนจากประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทางมาเห็นวัดไทยก็ประทับใจกลับไป
พื้นที่รอบวัดจอมสวรรค์เป็นรูปสี่เหลี่ยมเกือบจะเป็นจตุรัส ตรงกลางพื้นที่มีอาคารหลังใหญ่ โดยมีพื้นที่รอบๆ อาคารด้านละเท่าๆ กัน นอกเหนือจากอาคารหลังนี้ก็มีพระเจดีย์ที่มุมหนึ่งของวัด ส่วนห้องน้ำสร้างแยกไปทางด้านหลังสุดกำแพงวัด
พอขึ้นมาบนอาคารหลังนี้ (สดแท้แต่จะอยากเรียกว่าอะไรนะครับ โบสถ์ก็ได้ วิหารก็ได้) สิ่งที่สร้างความน่าประทับใจให้กับผู้พบเห็นคือศิลปะการประดับตกแต่งด้วยกระจกสี ที่มีอยู่บนเพดาน และเสาทุกต้น อาคารหลังนี้รวมทุกอย่าง ดังนั้นจึงมีขนาดใหญ่ ดูจากจำนวนเสาหลายต้นแบ่งออกเป็นห้องๆ ได้หลายห้อง วิหารหลักอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยส่วนที่ยื่นออกไปรอบๆ 2 ด้าน คือด้านหน้าและด้านขวาของอาคาร หลังคาจากวิหารหลักที่อยู่ตรงกลาง ลาดลงมาเชื่อมกับหลังคาของส่วนที่ยื่นออกมา มองจากด้านล่างที่เราอยู่มันก็ดูแปลกๆ ที่มีฝ้าเพดานหยักลงมา การเชื่อมต่อหลังคาแบบนี้ต้องมีการทำรางน้ำฝนที่ดีมากๆ ไม่งั้นคงมีน้ำหยดลงมาจนฝ้าเสียได้
มองลึกเข้าไปในวิหารที่อยู่ตรงกลาง เป็นที่ประดิษฐานพระประธานของวัดเหมือนกับในโบสถ์ทั่วไป ปีกของอาคารยังแบ่งออกเป็นห้องย่อยๆ เป็นกุฏิสงฆ์ แต่ปัจจุบันวัดจอมสวรรค์เป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ส่วนวิหารหลังนี้ก็กลายเป็นโบราณสถานที่เหมาะแก่การศึกษาหาความรู้ และมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย
ประวัติวัดจอมสวรรค์ ข้อมูลนี้ได้มาจากแผ่นจารึกที่อยู่หน้าวัดจอมสวรรค์ บางส่วนเริ่มเลือนลางไปบ้างแล้ว หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ เพราะสระและวรรณยุกต์ บางส่วนต้องอาศัยการเดา
วัดจอมสวรรค์ ตั้งอยู่บนถนนยันตรกิจโกศล ห่างจากศาลากลางจังหวัดแพร่ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร มีพื้นที่ 9 ไร่ 74 ตารางวา เป็นวัดโบราณ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 รูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะแบบไทยใหญ่ (เงี้ยว) สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ตัวอารามเป็นทั้งโบสถ์ วิหาร และกุฎิ เบ็ดเสร็จ ตามเสาและเพดานตกแต่ด้วยกระจกสีต่างๆ ส่วนใหญ่จัดทำเป็นรูปสัตว์หิมพานต์นานาชนิด นัวเป็นศิลปะที่งดงามมลังเมลืองมาก
วัดจอมสวรรค์จัดสร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวไทยใหญ่ ซึ่งเดิมมีถิ่นฐานอยู่ในประเทศพม่า ได้เข้ามาทำการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าพื้นเมืองกับชาวท้องถิ่นจังหวัดแพร่ บางส่วนได้เข้าไปทำงานอยู่ในห้างอีสต์เอเซียติค ซึ่งเป็นบริษัทของชาวยุโรปที่ได้รับสัมปทานการทำไม้ในจังหวัดแพร่ จนมีฐานะมั่งคั่งร่ำรวย ด้วยความเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนา พ่อเฒ่าคำอ่อง (ชาวเงี้ยว) ได้ร่วมมือกับพ่อฮ่อยกันตี (ต้นตระกูลเจริญกุศล) สร้่างวัดจอมสวรรค์ขึ้นในปี พ.ศ.2437 ใช้เวลาสร้างประมาณ 5 ปี จึงแล้วเสร็จ หลังจากนั้น วัดจอมสวรรค์ถูกปล่อยปละละเลย เนื่องจากเหตุการณ์เงี้ยวปล้นเมืองแพร่ วัดจึงมีสภาพทรุดโทรม พ่อฮ่อยกันตี นายฮ่อยคำมาด และแม่เฒ่าหล้า เจริญกุศล ได้บูรณะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีขึ้น ต่อมานายจอง นันตา (บิดาของแม่เตียว อักษรมินทร์) ซึ่งชาวอังกฤษเคยแต่งตั้งให้เป็น Headman มาก่อน เป็นชาวไทยใหญ่อีกคนหนึ่งที่ทำการค้าขายจนมีฐานะร่ำรวย ได้ร่วมมือกับแม่เฒ่ากุย ลูกสาวของพ่อฮ่อยกันตี ได้สร้างเสริมบูรณะเพิ่มเติม พร้อมกับได้สร้างเจดีย์ รูปแบบสถาปัตยกรรมพม่า ไว้ทางทิศตะวันออกของวัดด้วย
ของดีในวัดจอมสวรรค์มีหลายอย่าง นอกจากความงดงามของศิลปะการประดับตกแต่งกระจกตามเสาและเพดานแล้ว ยังมีคัมภีร์งาช้าง ซึ่งจารด้วยอักษรฝักขาม มีเนื้อความเกี่ยวกับกรรมวาจาจารย์ สำหรับพระบวชใหม่ ตัวคัมภีร์ทำงานจากงาช้างที่นำไปบดจนเป็นผงละเอียดผสมกับยางไม้ แล้วนำมารีดเป็นแผ่นผึ่งให้แห้งเสร็จแล้วจึงนำไปจารด้วยสีที่ได้จากยางไม้อีกครั้งหนึ่ง นับเป็นศิลปะวัตถุที่มีคุณค่ายิ่ง นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปที่สานด้วยไม้ไผ่ (หลวงพ่อสาน) ซึ่งมีหน้าตักกว้าง 54 เซนติเมตร สูง 80 เซนติเมตร ปางสะดุ้งมาร ประดิษฐานอยู่ ณ อารามแห่งนี้ด้วย
ลวดลายฝ้าเพดาน หลังจากที่เดินชมรอบๆ ตัวอาคารแล้ว ตอนนี้ผมให้ความสนใจกับลวดลายประดับที่อยู่บนฝ้า ในแต่ละห้องระหว่างช่องเสา จะมีฝ้า 1 แผ่น แต่ละแผ่นมีลวดลายประดับกระจกสีแตกต่างกันไป แต่ละช่องจะมีลวดลายพื้นคล้ายๆ กัน แต่จะมีรูปเทวดา และสัตว์หิมพานต์ที่อยู่ตรงกลางมีลักษณะไม่เหมือนกัน น่าจะเป็นเทพตามความเชื่อของชาวไทยใหญ่ ลวดลายเหล่านี้เป็นงานทำมือ จึงมีรูปร่างไม่แน่นอน อาจจะบิดเบี้ยวไปบ้าง และแต่ละชิ้นจะมีขนาดไม่เท่ากันเหมือนกับการใช้เครื่องจักรสมัยใหม่ แต่การนำเอาชิ้นงานเหล่านี้มาปะติดปะต่อกันได้พอดีก็เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความอุตสาหะเป็นอย่างมาก และถือเป็นงานศิลปะอย่างแท้จริงที่มากคุณค่าขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลาที่ผ่านไป
ลวดลายเสาวัดจอมสวรรค์ เสาทุกต้นในวิหารหลังนี้ จะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ แบบแรกคือเสาสี่เหลี่ยมประดับกระจกสี จะใช้กับส่วนที่ต่อจากวิหารหลัก ส่วนเสาอีกแบบหนึ่งคือเสากลมลวดลายสีทอง จะอยู่ในวิหารหลักทั้งหมด
ด้านหลังและด้านข้างของโบสถ์ และวิหารหลังนี้ มีส่วนที่ต่อออกมาจากอาคารหลังใหญ่ เป็นส่วนเล็กๆ ที่เป็นกุฏิที่พักสงฆ์ ด้านหลังมีบันไดเล็กๆ สำหรับขึ้นลงจากวิหารได้ เพื่อที่จะเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่แยกออกไปทางด้านหลัง
เจดีย์วัดจอมสวรรค์ เป็นเจดีย์ที่คล้ายกับเจดีย์ชเวดากอง มีเจดีย์ประธานอยู่ตรงกลาง และมีเจดีย์รายอยู่รอบๆ หลายองค์ เจดีย์องค์นี้ ตั้งอยู่มุมด้านหนึ่งของวัด ในเวลากลางวันจะมีคนเอารถมาจอดในวัดรวมทั้งรถของนักท่องเที่ยวที่มาวัดจอมสวรรค์มาจอดบัง บางทีถ้าไม่สังเกตุก็คงไม่เห็นเจดีย์องค์นี้ จึงนับเป็นเรื่องน่าแปลกที่วัดจอมสวรรค์มีพื้นที่รอบๆ โบสถ์ ทุกด้าน ด้านละหลายเมตร แต่กลับเลือกสร้างเจดีย์ไว้ที่มุมสุดของวัดจนแทบมองไม่เห็น
"สายหมอกจางจาง ที่วัดจอมสวรรค์เช้านี้ฟินที่เมืองแพร่"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-11-20 10:06:22
4/5 จาก 1 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ