ข้อมูลเพิ่มเติม:ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0 5567 1466
http://www.tourismthailand.org/phrae
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
บ้านประทับใจหรือบ้านเสาร้อยต้น เมื่อเดินทางมาถึงบ้านประทับใจหรือที่เรียกว่าบ้านเสาร้อยต้น มีลานจอดรถที่หน้าทางเข้า ก่อนที่จะเข้าชมภายในบริเวณบ้านจะมีการเก็บค่าเข้าชม 20 บาท และได้รับพวงกุญแจที่ระลึกบ้านประทับใจ จังหวัดแพร่ คนละ 1 ชิ้น หน้าบ้านประทับใจมีร้านขายของที่ระลึกเป็นซุ้มเล็กๆ มีสินค้ามากมายหลายอย่างเมื่อเดินผ่านซุ้มประตูบ้านประทับใจเข้าไปแล้วจะมีการตกแต่งด้วยสวนไม้ดอกสวยงาม มีเกวียนจอดไว้ให้ชม 2 เล่มมีลวดลายสวยงามเพราะเป็นเกวียนสำหรับการเดินทางมากกว่าการบรรทุกของ ไม่ไกลนักก็ถึงทางเข้าตัวบ้านประทับใจ ที่มองเห็นจากภายนอก บ้านประทับใจมีลักษณะไม่สูงนักจนคิดว่าเป็นบ้านชั้นเดียวมากกว่าที่จะเป็น 2 ชั้น แต่ใต้ถุนบ้าน มีเครื่องตกแต่งบ้านเช่นโต๊ะ เก้าอี้ ม้านั่ง และอื่นๆ เก็บรักษาไว้ และมีการกั้นผนังล้อมรอบใต้ถุน จนกลายเป็นบ้าน 2 ชั้น
บ้านประทับใจชั้นล่าง เริ่มต้นการเดินชมบ้านประทับใจจากชั้นล่างหรือใต้ถุนบ้าน ภายในนี้มีอุปกรณ์เครื่องตกแต่งบ้านหลายอย่างมากมาย ซึ่งล้วนแต่ทำจากไม้สักทั้งสิ้น ดูจากขนาดของโต๊ะซึ่งใช้แผ่นไม้สักปูเพียง 2 แผ่น แสดงให้เห็นว่าขนาดของต้นสักที่ใช้กันในสมัยนั้นต้นใหญ่ขนาดไหน นอกจากนี้ยังมีตู้เก็บของไว้โชว์ของเล็กๆ หลายๆ ชิ้น เป็นตู้กระจกทำด้วยไม้สักแกะสลักสวยงามภาพล่างขวา เป็นชั้นสองของตัวบ้านประทับใจซึ่งมีบันไดทางขึ้นอยู่นอกชานด้านหน้าบ้าน บริเวณนี้เป็นโถงโล่งไม่มีหลังคาตามแบบการสร้างบ้านในสมัยนั้น จัดไว้เป็นชุดสำหรับรับแขก หรือนั่งเล่นยามว่าง
โคนเสาแกะสลักเอกลักษณ์บ้านประทับใจ ส่วนหนึ่งที่เป็นจุดเด่นที่สุดของบ้านประทับใจหรือบ้านเสาร้อยต้นก็คือลวดลายการแกะสลักที่โคนเสา มีลวดลายช้างและป่าไม้เป็นส่วนใหญ่ การแกะสลักลวดลายที่สวยงามนี้บนโคนเสาทุกต้นของตัวบ้านทำให้เกิดความสวยงามน่าประทับใจและประหลาดใจยิ่งไปกว่าการสร้างบ้านด้วยไม้สักทั้งหลัง
ชั้นสองของบ้านประทับใจ เนื่องจากบ้านประทับใจ เป็นบ้านที่ทำการเชื่อมต่อบ้านทั้งหมด 9 หลังเข้าด้วยกัน จึงดูเหมือนว่าเป็นบ้านหลังเดียวขนาดใหญ่มาก ชั้นสองของตัวบ้านเดินถึงกันได้ จึงมีมากมายหลายห้องแต่ละห้องตกแต่งด้วยโต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้ ม้านั่ง แคร่ และเครื่องประดับบ้านอื่นๆ ซึ่งทำจากไม้สักทั้งหมด บ้านหลังนี้ปัจจุบันจึงไม่อาจประเมินค่าได้ และเก็บไว้ให้ลูกหลานได้เข้าชมดังคำกลอนที่ติดไว้บนตัวบ้านดังนี้
ด้วยหัวใจเราตระหนักประจักษ์จิต จึงอุทิศชีวามาสร้างสรรค์
ไม้หมดเมืองเมืองหมดไม้ไปทุกวัน จะหาทางป้องกันนั้นอย่างไร
เราตรากตรำลำบากยากยิ่งแท้ จนเปลี่ยนแปรเป็นบ้านได้อาศัย
เป็นอนุสรณ์คงอยู่คู่เมืองไทย ตั้งชื่อบ้าน"ประทับใจ"ให้กับเรา
สร้างจากบ้านเรือนเก่าถึงเก้าหลัง ใช่เราหวังทำลายป่าเช่นใครเขา
หวังเชิดชูคุณค่าไม้ให้นานเนา หวังเพียงลูกหลานเราจะได้ดู
ท่านผู้ชมทำใจให้ประเสริฐ อย่าบังเกิดอคติที่อดสู
ท่านอยากดูเราให้ท่านได้ดู แต่จงรู้เหตุผลคนสร้างเอย
ห้องต่างๆ ในบ้านประทับใจ ชุดอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่มีมาแต่ดั้งเดิมและส่วนที่ตกแต่เพิ่มเติมในภายหลังที่นำเอาข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ เป็นหลัก มาจัดวางเรียงกันประกอบไปด้วยตู้ที่เป็นแผ่นไม้ทึบแกะสลักลวดลายสวยงาม เข้ากันกับตัวบ้าน นอกจากที่เห็นอยู่นี้บ้านประทับใจยังมีหนังเสือ สำหรับประดับบ้านซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนมีฐานะดีจะนำมาประดับไว้หลายตัว แต่เจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้เข้าชมในห้องดังกล่าว ได้เพียงแต่มองผ่านช่องประตูเข้าไปเท่านั้น การสร้างบ้านประทับใจหลังนี้มีความเป็นมาดังนี้
บ้านประทับใจเป็นบ้านไม้สักหลังใหญ่ จัดได้ว่าเป็นบ้านไม้สักหลังใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 13 ต.ป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่ มีเนื้อที่ทั้งหมดจำนวน 34 ไร่ เริ่มทำการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2515 ภายใต้การควบคุมดูแลของคุณพ่อกิจจา ชัยวัณณคุปต์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน บ้านหลังนี้ใช้เวลาก่อสร้างถึง 5 ปี จึงสร้างเสร็จสมบูรณ์
บ้านประทับใจ เกิดจากแรงบันดาลใจของคุณพ่อกิจจา ท่านต้องการปลูกสร้างบ้านไม้สักเป็นที่อยู่อาศัย และคนที่ได้พบเห็นเกิดความประทับใจ ท่านจึงได้คิดออกแบบแปลนด้วยตัวของท่านเองด้วยน้ำพักน้ำแรง ด้วยการซื้อไม้บ้านเก่าจากชาวบ้านอำเภอรอบนอกจำนวน 9 หลังมารวบรวมต่อเติมเป็นบ้านหลังใหญ่ สิ่งที่น่าประทับใจและสะดุดตามากที่สุดของบ้านหลังนี้คือเสาบ้านซึ่งใช้ไม้สักทองท่อนใหญ่จำนวนถึง 130 ท่อน ตัวของบ้านเป็นแบบทรงไทยประยุกต์มีหลังคาหน้าจั่วประด้วยกาแล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของบ้านทรงไทยภาคเหนือ ประตูหน้าบ้านเป็นไม้สักแผ่นทึบมีสลักไม้ชั้นใจเป็นกลอนประตูสมัยอยุธยา ฝากระดานและพื้นกระดานใช้ไม้สักมีความกว้างถึง 20-40 นิ้ว เนื้อที่ปลูกสร้างบ้านเฉพาะตัวบ้านรวม 1 ไร่ 3 งาน เศษ ประกอบด้วยห้องพักส่วนตัว ห้องรับแขก ห้องโถงใหญ่ ชานมะปรางซึ่งเป็นชานนั่งเล่นมีต้นมะปรางยืนตระหง่านอยู่ตรงกลางบ้าน มีห้องพักรับแขกถึง 5 ห้อง ด้านหลังมีชานตะวันเพื่อสำหรับนั่งรับแสงแดดในตอนเช้าพร้อมชุดเก้าอี้รับเขกแกะสลักและชุดนั่งเล่น พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งที่เสาะหามาจากต่างประเทศและของเก่าพื้นบ้านทุกชนิดเพื่อความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ และในขณะนี้ก็มีการตกแต่งเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากมีเจตจำนงค์ที่จะจัดบ้านให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ติดตาตรึงใจของผู้ที่เข้ามาเที่ยวชม ส่วนใต้ถุนบ้านชั้นล่างของตัวบ้านได้จัดเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกทางภาคเหนือด้วยฝีมือปราณีต ภายในบ้านมีคนคอยดูแลและทำความสะอาดถึง 20 คน ซึ่งได้นำรายได้จากค่าเข้าชมบ้านมาเป็นค่าใช้จ่าย
ผางลางและกะแหล่ง ภาพซ้ายที่เห็นอยู่นี้เรียกกันว่า ผางลาง ผางลางเป็นเครื่องทำเสียงสัญญาณคล้ายกะลอหรือกะแหล่ง สำหรับแขวนคอวัว ควาย แต่มีขนาดใหญ่กว่า ทำด้วยโลหะรูปร่างคล้ายระฆัง แต่เป็นสี่เหลี่ยมด้านบนโค้งมน มีหูสำหรับสอดไม้ แขวนลอยอยู่ระหว่างขาไม้โค้งเป็นรูปวงรีซึ่งตั้งอยู่บนฐานไม้ ผางลาง จะใช้วางไว้บนหลังวัว หรือบนเกวียนเล่มแรกของขบวนกองร้อยขนสินค้าด้วยวัวต่าง เพื่อให้เกิดเสียงดังเช่นเดียวกับกระดิ่งหรือกะลอที่แขวนไว้ที่คอวัว แต่ผางลางจะมีเสียงดัง ก้องกังวานไปได้ไกล เป็นสัญญาณให้ขบวนวัวต่าง หรือกองเกวียนที่อยู่ถัดไปตามได้ถูก และรู้ตำแหน่งของหัวหน้ากองร้อยหรือผู้นำของตน ผางลาง จึงเป็นเครื่องทำเสียงสัญญาณที่จำเป็นในการเดินทางของกองร้อยขนสินค้า หรือกองวัวต่างในอดีต ขณะที่ไม่มีเครื่องส่งสัญญาณที่ทันสมัยเช่น แตร กริ่ง หรือวิทยุใช้อย่างปัจจุบัน ส่วนอีกภาพเรียกว่ากะลอหรือกะแหล่ง
เครื่องใช้ประกอบพิธีทำขวัญนาคแก้ว ที่เห็นอยู่ในภาพนี้เป็นภาพที่ค่อนข้างสำคัญจึงให้ดูกันแบบใหญ่หน่อย สิ่งที่เห็นเป็นลักษณะพญานาคตรงกลางของโต๊ะเป็นสิ่งที่ใช้ในงานพิธีทำขวัญนาคแก้วตามประเพณีของชาวเหนือ ล้อมรอบด้วยสำรับกับข้าวที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า ขันโตก
ขันโตกเป็นประเพณีการเลี้ยงขันโตก เป็นประเพณีของชาวเหนือที่นิยมปฏิบัติสืบต่อกันมา ตั้งแต่โบราณ การเลี้ยงแขกโดยการกินข้าวขันโตก ซึ่งอาจมีหลายชื่อทีใช้เรียก ขานกัน เช่น กิ๋นข้าวแลงขันโตก หรือเรียกสั้นๆ ว่า ประเพณี ขันโตก หรือสะโตก
"ขันโตก" เป็นวัฒนธรรมในการรับประทานอาหารแบบหนึ่งของชาวภาคเหนือ เป็นรูปแบบการรับประทานโดยการ นั่งบนพื้นเรือนและมีการแสดงพื้นบ้านของชาวเหนือ เพื่อใช้ในการต้อนรับแขกคนสำคัญ โดย จัดสำรับอาหารใส่ในภาชนะรอง ที่เรียกว่า "ขันโตก" หรือ "โตก"
"ขันโตก" หรือ "โตก" เป็นภาษาดั้งเดิมของชาวเหนือ หมายถึงภาชนะสำหรับวางรอง สำรับอาหาร บางที่เรียก "สะโตก" มีรูปร่างทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลางโดยประมาณ ๓๐ เซนติเมตรขึ้นไป ความสูงประมาณ ๑ ฟุต มีทั้งที่ทำจากไม้ และหวาย ขันโตก มีใช้กันทั่วไปในภาคเหนือ โดยที่สมาชิกในครอบครัวหรือแขกที่มาบ้าน จะนั่งล้อมวงกันรับประทานอาหาร นอกจากจะใช้วางถ้วยกับข้าวแล้ว ยังใช้โตกเป็นภาชนะ สำหรับใส่เข้าของอย่างอื่นด้วย โดยเปลี่ยนชื่อเรียกตามสิ่งของที่ใส่
*ที่มา ขันโตก.com
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ