ตลาดน้ำบางคล้า

 อยู่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรบางคล้าและที่ว่าการอำเภอบางคล้า อยู่ห่างจากตัวเมืองฉะเชิงเทรา 30 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำบางปะกงในเขตอำเภอบางคล้า เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมการท่องเที่ยวรับประทานอาหารในบรรยากาศธรรมชาติริมแม่น้ำ เดิมทีมีทั้งตลาดบนบกริมฝั่งและร้านบนโป๊ะยาว 3 หลังคลุมหลังคา ปัจจุบันเป็นตลาดที่ขายสินค้าบนแพโป๊ะยาว 9 หลังเชื่อมด้วยสะพานเดินทะลุถึงกันได้ทั้งหมด สำหรับเดินเลือกซื้ออาหารหลากหลายทั้งคาวหวาน อาทิ ก๋วยเตี๋ยว หอยทอด ไอศกรีม เฉาก๊วย ฯลฯ มีโต๊ะเก้าอี้นั่งรับประทานอาหาร และมีเรือพ่อค้าแม่ค้าจอดเทียบจำหน่ายผลิตผลเกษตรพื้นบ้านตามฤดูกาลมากมาย โดยเฉพาะมะม่วงและน้ำตาลสด ที่ขึ้นชื่อของบางคล้า นอกจากนี้ยังมีบริการเรือท่องเที่ยวล่องไปตามลำน้ำบางปะกงสำหรับชมทิวทัศน์ ค่าบริการเหมาลำ ไม่เกิน 4 คน 200 บาท เกิน 4 คนคิดเพิ่มคนละ 50 บาท เรือไม่เกิน 10 คน เหมาลำ 500 บาท เรือโดยสารขนาดใหญ่ออกตามตารางเวลา ค่าบริการคนละ 50 บาท เด็ก 30 บาท

 เวลาทำการตลาดน้ำบางคล้า เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระหว่างเวลา 8.00 - 18.00 น. เวลาที่เหมาะสม 9.00 - 16.00 น. เป็นช่วงที่ร้านค้าเปิดร้านเต็มพื้นที่และมีคนเที่ยวคึกคักมาก

 การเดินทางมาตลาดน้ำบางคล้า ทางที่สะดวกคือทางหลวงหมายเลข 304 ฉะเชิงเทราพนมสารคาม สี่แยกเข้าอำเภอบางคล้าเลี้ยวซ้าย เข้าตัวอำเภอไปให้สุดถนนแล้วเลี้ยวขวา จากนั้นจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายเข้าตลาดน้ำบางคล้าใกล้วัดแจ้ง (ทางเดียวกับสถูปพระเจ้าตากสิน และวัดปากน้ำโจ้โล้)

 บริเวณของตลาดน้ำบางคล้าเป็นแพโป๊ะ 9 หลังเชื่อมต่อกันยาวตั้งแต่หน้าที่ว่าการอำเภอบางคล้าไปจนถึงวัดแจ้ง สามารถจอดรถได้ทั้งรอบที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ และภายในวัดแจ้ง มีทางเดินลงโป๊ะหลายจุด

เวลาเปิด-ปิด:09:00 - 17:00

โทร:038 541 027

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา โทร.038 514 009
https://www.facebook.com/TAT-Chachoengsao-175554016247495/

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ตลาดน้ำบางคล้า ภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายจากกลางแม่น้ำบางปะกงเข้าหาฝั่ง จะเห็นแพโป๊ะเรียงกัน 9 หลัง จากแรกเริ่มเดิมที มีเพียง 3 หลังเท่านั้น เวลาที่ผ่านมาหลายปีมีการพัฒนาปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังมีการสร้างแนวเขื่อนตามแนวตลิ่งแม่น้ำและสร้างทางเดินคอนกรีตลงมายังโป๊ะ ภาพตลาดน้ำบางคล้าในปัจจุบันช่างต่างกับสภาพที่เคยเห็นเมื่อหลายปีก่อนอย่างสิ้นเชิง ก่อนที่จะได้นั่งเรือออกมาถ่ายรูปกลางแม่น้ำ เดี๋ยวผมจะพาเข้าไปชมบรรยากาศของตลาดแห่งนี้เอาแบบโป๊ะแรกยันโป๊ะสุดท้ายชนิดที่ไม่มีใครละเอียดเท่ากันเลยดีกว่า

การเดินทางมาตลาดน้ำบางคล้า เริ่มแรกการเดินทางผมจะใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 304 ฉะเชิงเทรา - พนมสารคาม ที่จะไปกบินทร์บุรี แต่แยกเข้าอำเภอบางคล้าถึงก่อนพนมสารคาม ถ้ามาไหว้พระหลวงพ่อโสธร จะมีเส้นทางมายังบางคล้าได้ 2 เส้นทาง ทางหนึ่งคือไปตลาดบ้านใหม่ เลยไปแล้วจะมีแยกเลี้ยวขวาไปบางคล้า แต่ทางนี้ค่อนข้างซับซ้อน สู้ออกจากวัดหลวงพ่อโสธรไปทางที่จะเข้าลาดกระบัง แล้วเลี้ยวซ้ายไปพนมสารคามจะง่ายกว่า ถนนก็ใหญ่กว่าด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแผนการเดินทางของแต่ละคนเพราะบางคนก็อยากจะเที่ยวตลาดในฉะเชิงเทราต่อจากไหว้หลวงพ่อโสธรด้วยก็ว่ากันไป

ในกรณีที่มาเส้นทางเดียวกับผมคือพนมสารคามเลี้ยวเข้าบางคล้าปุ๊บขับตรงมาเรื่อยๆ จนเห็นพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน เป็นทางวันเวย์ให้ชิดซ้ายไปตามถนนจนสุดทางทีนี้ก็เลี้ยวขวาไปทางที่ว่าการอำเภอบางคล้า ไม่นานก็จะมีซุ้มประตูโขงวัดแจ้ง ซึ่งที่จริงแล้วเข้าวัดแจ้งเลยก็ได้ ไปจอดหน้าศาลาหลังวัด (ภาพบนกลาง) มีทางเดินลงตลาดน้ำ หรือจะเลยวัดแจ้งไปหน่อยแล้วจะมีซอยให้เลี้ยวซ้ายไปหน้าที่ว่าการอำเภอบางคล้า จอดรถหน้าสถานีตำรวจ (ภาพบนซ้าย) ที่อยู่ติดที่ว่าการอำเภอแล้วก็มีทางเดินลงตลาดน้ำเหมือนกัน

ผมจอดวัดแจ้งแล้วเดินเข้าตลาดน้ำบางคล้า เป็นโป๊ะที่ 9 (ขอเริ่มนับจากที่ว่าการอำเภอเป็นโป๊ะแรกแล้วกัน) แล้วก็เดินตามโป๊ะที่มีสะพานเชื่อมถึงกันหมดมาที่โป๊ะแรกหน้าที่ว่าการอำเภอ เดินแบบนี้จะทำให้เราเห็นร้านอาหารทั้งหมดแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะกินอะไรเป็นมื้อเช้า จะว่าไปแล้วตอนที่ผมมาตลาดน้ำบางคล้าคราวที่แล้วก็ผ่านไปหลายปี จำได้ว่ามาตอนบ่าย ตลาดเริ่มวายแล้ว ร้านค้าก็เหลืออยู่น้อยนิด มาวันนี้ผมก็เลยมาแต่เช้ามาถึง 8 โมงครึ่ง ตลาดแห่งนี้ก็มีแม่ค้าพ่อค้ามาเริ่มขายของกันเกินครึ่งแล้วแต่ก็ยังไม่ครบทุกร้าน ผมสั่งอาหารง่ายๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวมากินกะว่ากินเสร็จตลาดก็เปิดเต็มร้อยจะได้ถ่ายรูปรวดเดียวเสร็จ

เริ่มโป๊ะแรกที่หน้าที่ว่าการอำเภอและสถานีตำรวจ โป๊ะนี้เป็นโป๊ะที่ไม่มีร้านค้ามากนักครึ่งหนึ่งเปิดเป็นพื้นที่นวดเพื่อสุขภาพ (ภาพบนขวา) ที่เหลือก็เปิดเป็นร้านนิดหน่อย ได้แก่โรตีสายไหม (ภาพล่างซ้าย) ขนมจากตา-ยาย (ภาพล่างกลาง) ก๋วยเตี๋ยวโบราณ (ภาพล่างขวา)

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 2 จากโป๊ะแรกพอเดินข้ามสะพานเชื่อมโป๊ะ บรรยากาศก็จะเปลี่ยนไปนิดหน่อย เพราะโป๊ะที่ 2 เป็นต้นไปจะอัดแน่นไปด้วยร้านค้าที่ขายกันบนเรือจอดเทียบข้างโป๊ะ แต่ละโป๊ะจะมีเรือเทียบข้างละประมาณ 6-8 ลำ มีส่วนน้อยที่เปิดเป็นร้านบนโป๊ะ ก็อย่างเช่นขนม ของฝาก และ OTOP

เพื่อให้เห็นว่ามีอะไรน่ากินบ้างก็เลยถ่ายรูปมาเกือบหมด ร้านน้ำ เครื่อมดื่ม กาแฟ บางร้านก็ขออภัยด้วยนะครับที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะแค่ของกินก็ได้เป็น 100 รูปแล้ว กราบโป๊ะด้านซ้ายมือตรงช่วงสะพานเชื่อมโป๊ะ 1 กับ 2 ประเดิมด้วยของฝากอย่างปลา ต่อด้วยของหวานและเครื่องดื่มได้แก่น้ำดอกอัญชัน ลอดช่องดอกอัญชัน เฉาก๊วย คุณติ๋ว แล้วจากนั้นก็จะมีร้านแหนมคลุกหรือยำแหนม ส้มตำ ผลไม้ เจ๊เพ็ญ จากนั้นเป็นเรือขายหมูสะเต๊ะ ต่อด้วยชานมไข่มุก ไอติมกะทิ น้ำผลไม้ปั่น น้ำแข็งไส ปังเย็น ร้านสุดท้ายของภาพนี้ก็จะเป็นสารพัดเครื่องดื่ม อย่างชา กาแฟ โกโก้ น้ำมะพร้าว กระเจี๊ยบ ลำใย โอเลี้ยงน้ำอัดลม ฯลฯ

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 2 ภาพอักชุดจากโป๊ะ 2 เป็นกราบขวา เริ่มจากก๋วยเตี๋ยวเรือเจ๊ต้อย หมูน้ำตก ไพโรจน์คอหมูย่าง ข้าวเหนียว ตับหวาน เจ๊แต๋วส้มตำรสเด็ด ปูนึ่งหนึ่งในเมนูหลากหลายของร้านคุณปราณีซีฟู๊ด นอกจากนี้ก็ยังมีหอยแมงภู่ หอยแครง จากนั้นก็จะเป็นเรือของร้านหอยครก แล้วก็แหง๋วกุ้งสะเต๊ะเจ้าแรก แหม แค่ 2 โป๊ะผ่านไปก็มีกี่เมนูแล้วเนี่ย จะกินอะไรจากร้านไหนดีละ

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 3 เดินต่อไปอย่าเพิ่งตัดสินใจจนกว่าจะเดินครบทุกโป๊ะ แล้วจะรู้ว่าตลาดน้ำบางคล้าวันนี้มีของกินไม่แพ้ที่ใดในโลก ภาพบนซ้ายเป็นเรือที่อยู่โป๊ะ 2 เหลือมาอยู่ในภาพโป๊ะ 3 เพราะมีเรือจอดมากกว่า 6 ลำ ในกราบซ้ายมือ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดกุยช่าย ถัดมาตรงสะพานข้ามโป๊ะ มีเรือกุ้งเผา ที่ต้องมีคนเผากุ้ง 2 คน คิดเงินอีกคน ข้ามมาโป๊ะ 3 ร้านป้าแดงของหวานเชื่อม กินที่นี่ก็ได้ซื้อกลับบ้านก็สะดวก เดินต่อไปอีกหน่อยเป็นร้านหอยแมลงภู่ หอยแครง พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ร้านเล็กๆ ตั้งโต๊ะบนขอบโป๊ะเป็นของหวานทำจากชอคโกแลต รูปดาว รูปผีเสื้อ เดินมาอีกนิดสุดโป๊ะ 3 ที่ร้านกุ้งสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ บาร์บีคิวหมูนิ่ม สูตรคุณยายของครูผึ้ง

ของหวานของฝากบางคล้า กราบซ้ายของโป๊ะ 3 แล้วเดินมาชมกราบขวาบ้าง ยังคงมีเรือขายอาหารหลายชนิดเหมือนกันแล้วก็ต่อด้วยร้านของฝากขึ้นชื่อของฉะเชิงเทรา เริ่มจากร้านเจ๊แอ๋วก๋วยเตี๋ยวหลงคลอง ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก น้ำใส เย็นตาโฟ ต่อมาเป็นห่อหมกปลากรายร้านเจ๊มุก ประกอบด้วยห่อหมกขนาดกะทัดรัด มีกะหล่ำปลี ใบยอ โหระพา ห่อละ 10 บาท ก็เลยเลือกชิมได้หลายแบบ ต่อมาก็เป็นร้านคุณนายฉวี จุดเด่นที่เมนูเส้นแต่ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวเพราะเป็นผัดไทย แล้วทีเด็ดก็ยังมีกุ้งอบวุ้นเส้นของโปรดของผม สนนราคาอยู่ที่ 50-80 บาท เท่านั้น เดินต่อๆ มาที่กราบขวาทีนี้บรรยากาศก็จะเปลี่ยนไป เป็นร้านของฝากตั้งแผงบนโป๊ะแทนที่จะเป็นเรือเหมือนที่ผ่านมา ของฝากขึ้นชื่อไม่ว่าจะเป็นรินขนมไทยของดีแปดริ้ว ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง วรพรมะม่วงแปรรูป ณัฐพรมะพร้าวแก้ว หมี่กรอบคุณย่าพูล ต่อมาเป็นร้านเครื่องจักสานมานพ หัตถกรรมกะลาหนองยาว ฮู้ตระการตาจริงๆ ของกินมากมายก่ายกองให้เลือก

ลาบพันอ้อย หอยทอดสมุนไพร ข้ามมาที่โป๊ะ 4 พอดีถ่ายแนวตั้งมา 2 ร้านก็เลยวางกับร้านอื่นไม่ลงตัว 2 ร้านนี้ไม่ได้เป็นร้านแรกของโป๊ะ 4 หรอกครับ แต่เอามาเรียงตามความเหมาะสม เมนูที่เค้านำเสนอน่าสนใจลองเอามาชิมซะเหลือเกิน ลาบพันอ้อยไม้ละ 10 บาท ส่วนหอยทอดก็เห็นราคาโต้งๆ ในตลาดน้ำบางคล้าราคาของอาหารอยู่ในมาตรฐานทุกร้านไม่ต่างกันมากนัก เดินเลือกๆ ชอบร้านไหนก็สั่งจ่ายเงินแล้วเอาไปนั่งที่โต๊ะกลางโป๊ะที่จัดไว้ แต่ละโป๊ะนั่งได้เกือบ 60 คนเลยทีเดียว

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 4 เดินมากราบซ้ายของโป๊ะที่ 4 ในโป๊ะนี้มีร้านที่ผมเลือกเป็นอาหารเช้าอยู่ด้วย จะว่าไปก็เดินกันมาเกือบครึ่งทางของตลาดแล้ว แต่เห็นมั้ยละว่าตั้งแต่โป๊ะแรกมาถึงตรงนี้มันมีของกินเยอะขนาดไหน เปิดโป๊ะด้วยร้านอรอนงค์ข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่าง เมนูส้มตำมีดังนี้ ตำไทย ตำปู ตำปลาร้า ตำแตง ตำถั่ว ตำข้าวโพด ตำไข่เค็ม ตำหอยดอง ตำขนมจีน ตำป่า ตำซั่ว ตำแตง แล้วก็ยังมีปลาเผาด้วย เห็นแล้วน้ำลายไหล แต่หลายคนว่าไม่เหมาะสำหรับมื้อเช้าไว้ตอนเที่ยงเจอกัน ติดกันก็เป็นข้าวหน้าเป็ด ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น ปอเปี๊ยะสดนายเอี้ย แล้วก็ร้านลาบพันอ้อยที่รูปก่อนนี้ ร้านผัดไทยรูปบนขวา ซีฟู๊ดเจ๊ลออรูปล่างซ้าย มีหอยกุ้งและปลา ต่อมาก็มีของแก้เผ็ดมะพร้าวน้ำหอม ลูกละ 10 บาท เพราะบางคล้าเป็นแหล่งมะพร้าวน้ำหอม ราคาก็เลยถูกว่าที่อื่นแบบเห็นๆ ต่อมาก็มีของกินเล่นเพลินๆ ขนมเจลลี่ ไข่นกกระทาทอด ซ้อนอยูด้านหลังร้านขนมก็จะมีเรือหมูสะเต๊ะบางสวน เป็นหมูสะเต๊ะสมุนไพร เอกลักษณ์ของร้าน แล้วก็บาร์บีคิวหมูนุ่ม

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 4 มาดูด้านกราบขวาบ้าง ร้านณัญพรกับรินอยู่โป๊ะ 3 โป๊ะ 4 เริ่มจากร้านน้ำมะนาวหอม ไข่เค็มใบเตย และของฝากมากมายมีให้เลือกกัน ต่อมาเป็นขนมกงใบเตยแม่ส้มลิ้มหากินยากขึ้นทุกวัน ต่อมาอีกหน่อยมีร้านหวีแล้วก็ของใช้จากไม้และเขาสัตว์ ข้ามไปโป๊ะ 5 (เพราะเป็นร้านหน้ากว้างมากแต่ละโป๊ะก็เลยมีร้านน้อย) โป๊ะ 5 มีแผงพระและวัตถุมงคลเผื่อว่าใครสนใจทางนี้ก็ไปนั่งส่องกันได้ มีทางเดินเชื่อมไปยังแพที่เป็นร้านอาหารผูกติดกับโป๊ะของตลาดน้ำบางคล้าอยู่ แล้วก็ยังมีเรือบริการนำเที่ยวชื่อท่าเรือร้านแม่น้ำ จากนั้นก็จะเป็นของฝากอย่างไข่เค็ม กะปิ ไชโป้ว 3 รส ฯลฯ

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 5 เดินต่อเรื่อยๆ ครับ กราบซ้ายของโป๊ะ 5 มีอะไรกินบ้างเอ่ย เริ่มจากก๋วยเตี๋ยวผัดไทยโบราณแม่บุญมี สั่งกี่จานๆ ก็จะผัดทีละจาน เลยคงรสชาตสม่ำเสมอ เรือลำใกล้ๆ กันก็เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำแม่บุญมี เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำเสวย ปรุงโดยคุณบุญมีเจ้าของร้าน ทูลเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งเสด็จจังหวัดสระแก้ว เป็นที่มาของสมยาก๋วยเตี๋ยวเสวย ถ้าอยากลองชิมแนะนำให้ชิมก่อนปรุงรสนะครับ เพราะรสชาตอร่อยอยู่แล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวผัดไทยที่ไม่ได้ขายแต่ก๋วยเตี๋ยวมีขนมจากมาฝากวางหน้าร้านด้วย เป็นขนมจากย่าเป้า ทำจากมะพร้าวน้ำหอมอ่อน อร่อยอย่าบอกใคร เดินต่อไปเรือลำใกล้ๆ กันเป็นก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก๋วยจั๊บ กระเพาะปลา เจ๊แก้ว ร้านนี้ผมลองชิมเย็นตาโฟดูแล้ว เครื่องที่ใช้จะสดมากลูกชิ้นทำจากปลาก็ปลาจริงๆ เส้นใหญ่จะหนานุ่มกว่าร้านอื่นๆ รสน้ำซุปจะมาอ่อนๆ ปรุงได้ตามใจชอบ เป็นเย็นตาโฟที่ไม่มีกลิ่นไม่พังประสงค์ปนมา เดินต่อไปก็จะมีร้านขนมจากอีกแล้ว แล้วก็หมูย่างนมสดเนื้อนุ่มๆ ตบท้ายรูปนี้ด้วยของหวานคุณติ๋ว เป็นลอดช่องดอกอัญชัน น้ำตอกอัญชัน

กราบขวาของโป๊ะที่ 5 จากฝั่งซ้ายย้ายมาดูฝั่งขวากันบ้าง จะเน้นไปทางของกินเล่นเบาๆ แล้วก็ของเล่น เสื้อผ้า ภาพบนขวาเป็นขนมหลายชนิดด้วยกัน ได้แก่ขนมฟักทอง ขนมตาล ขนมเทียน เผือก ไข่หงส์ ขนมถ้วย สนนราคาที่กล่องละ 20 บาท แต่กินทุกอย่างไม่ไหวเลยขอซื้อแบบปนกันในกล่องเดียว 20 บาท ได้ชิมทุกขนม ต่อจากนั้นเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่องโบราณ ต่อด้วยทองม้วนสดแอบแปะเนื้อมะพร้าวน้ำหอมอ่อนเข้าไปด้วย หอม หวานมัน อร่อยจริงๆ จากนั้นก็เป็นไอติมมะพร้าวน้ำหอม

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 6 แป๊บเดียวเดินมา 6 โป๊ะแล้ว ของกินเริ่มที่จะบางตาลงไปบ้าง น่าจะเป็นเพราะว่าคนมาเที่ยวที่นี่มักจะมาทางที่ว่าการอำเภอ โป๊ะต้นๆ ทางก็เลยมีร้านค้ามากหน่อย แล้วค่อยบางลงในตอนท้าย แต่ถึงจะพูดว่าร้านค้าบางตาลงแต่ก็ยังเยอะอยู่นะครับ เริ่มจากร้านเจ๊ต้อยซีฟู๊ด หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยเชลล์ หอยหวานย่าง หอยชักตีนก็มีอีกต่างหาก สมแล้วที่ชื่อร้าน เจ๊ต้อยซีฟู๊ดหอยยกซด แล้วยังมีปลาเผาอีกด้วย ร้านติดกันมีหมึกไข่มานั่งย่างกันตัวอวบอ้วน ต่อจากนั้นเป็นร้านสารพัดตำ ชื่อส้มตำหมวยแซบ (ร้านแม่น้ำ) นอกจากเมนูตำ ก็ยังมียำได้แก่ยำสามกรอบ ซุปหน่อไม้ด้วย ส่วนไก่ย่างข้าวเหนียวไม่ต้องพูดถึงของคุ่กันอยู่แล้ว ติดๆ กันมาเลยก็จะเป็นร้านเจ๊เต็มกุ้งย่างปลาเผา ปลาสดตัวอวบอ้วนน่ากิน กุ้งย่างหลายไซส์ราคาต่างกันไป ต่อจากนั้นเป็นของดังบางคล้าขนมเปี๊ยะจากร้านอึ๊งมุ่ยเส็ง ติดกับร้านน้ำผลไม้ปั่นมีกาแฟด้วย ต่อด้วยก๋วยเตี๋ยวอีกสูตรหนึ่งของแม่บุญมี คือก๋วยเตี๋ยวปลาสด สรุปว่าเป็นเจ้าแห่งก๋วยเตี๋ยวจริงๆ มีทั้งผัดไทย หมูต้มยำ เย็นตาโฟ แล้วก็ก๋วยเตี๋ยวปลาสดด้วย ทั้ง 3 ขายแยกกันบนเรือคนละลำ กระจายอยู่ด้านซ้ายของโป๊ะต่างๆ เดินๆ หาดูละกัน

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 7 ช่วงท้ายของโป๊ะ 6 ต่อโป๊ะ 7 ประเดิมด้วยพลอยใสไข่เจียว ขอให้เป็นเรื่องไข่เจียวร้านนี้มีทุกอย่าง เรียกว่าไข่เจียวทรงเครื่อง ได้แก่ มะเขือเทศ หอมแดง หอมใหญ่ หมูสับ แฮม ปูอัด สนนราคาไส้ทุกอย่าง 30 บาท ติดๆ กันก็มีเรือขายหอยทอด ต่อไปก็ผัดไทยกุ้งสด ผัดไทยยอดมะพร้าว ผลไม้แช่อิ่ม ต่อจากนั้นส้มตำเจ๊อี๊ด มีเมนูตำมากมายก่ายกองให้เลือกแต่ไม่เพียงส้มตำเท่านั้น ร้านนี้ยังมีกุ้งเผา ปลาเผา ยำถั่วพู ยำปลาดุกฟู คอหมูย่าง น้ำตกหมู ฯลฯ คงเป็นเพราะโป๊ะท้ายๆ มีร้านค้าน้อย เรือจะจอดขนาบขนานโป๊ะเลยมีไม่กี่ลำ แต่ละลำก็เลยขายอาหารหลายเมนูหน่อย จะได้สะดวกคนกินไม่ต้องเดินไปเดินมาหลายร้าน ติดๆ กันก็เป็นร้านส้มตำเช่นเดียวกัน มีกุ้งเผา 2 ขนาด 150 กับ 300 ขนาดของกุ้งต่างกันชัดเจน ราคาขนาดนี้เท่ากันเกือบทุกร้าน จะมีบางร้านที่ขาย กุ้งดิบ 300 กุ้งเผา 400 ก็มีแต่ก็เป็นเพราะขนาดกุ้งที่ใหญ่กว่าใคร สรุปว่าถูกกว่าตลาดหลายๆ แห่งที่เคยไปมา ต่อจากนั้นก็มีร้านสมุนไพรเล็กๆ เช่นยาหอมวัดโพธิ์ สมุนไพรท่าพระจันทร์ น้ำผึ้งแท้ๆ ฯลฯ

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 8 มาถึงโป๊ะนี้จะไม่มีโต๊ะเก้าอี้เรียงกันเยอะๆ เหมือนโป๊ะอื่นๆ ร้านอาหารก็จะไม่มีแล้ว โซนนี้ไปจนถึงโป๊ะสุดท้ายจะออกแนวของกินเล่นนิดหน่อย ของฝาก แล้วก็พืชผักทางการเกษตร เป็นของชาวบ้านบางคล้านำมาขาย มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน มีบะห์จ่างศิริชัย ออกทีวีมาแล้ว จากนั้นของกินที่น่าสนใจเกิดจากไอเดียล้วนๆ ก็คือไข่ระเบิด ไข่เค็ม ไข่เยี่ยวม้า ไข่ต้ม นำมาทำเป็นไข่ระเบิด ราคา 20 บาท ถ้ามีหมูด้วยก็ 25 บาท ถ้าสงสัยว่ามันคืออะไร ไข่ระเบิดก็คือไข่สุกข้างใน ไม่ว่าจะเป็นไข่ต้มหรือไข่เค็มหรือไข่เยี่ยวม้า เอามาห่อด้วยแป้งที่ทำทอดมัน แล้วก็ลงทอดทั้งใบ ผักที่วางขายที่นี่สดเขียวน่ากินทั้งนั้น

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 9 ตอนนี้มาก็เดินมาถึงสุดทางแล้ว จากโป๊ะสุดท้ายของตลาดน้ำบางคล้ามีทางเดินขึ้นฝั่งไปตลาดบนบก แต่ไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก เพราะหลายๆ ร้านก็ปิดบางร้านก็ลงมาขายของบนโป๊ะ ถ้าเดินจากโป๊ะ 8 ขึ้นฝั่งจะเป็นท่าน้ำวัดแจ้งที่เราจอดรถอยู่แล้วก็เดินลงมาเป็นจุดแรก โป๊ะ 9 จะมีปลาแดดเดียววางขายอยู่ ตอนที่เดินไปถึงมีตัวต่อ 2 ตัวกำลังเจาะเอาเนื้อปลา ก็พอจะรู้ว่ามันกินเนื้อแต่ไม่ยักรู้ว่ามันหาเนื้อกินด้วยการขโมย มันค่อยๆ แทะเนื้อปลาให้หลุดมาเป็นก้อนแล้วอุ้มไป ชาวบ้านก็ปล่อยให้มันขโมยปลาของมันไปโดยไม่สนใจซะด้วย คงกลัวโดนมันต่อยเอา

ตลาดน้ำบางคล้า โป๊ะ 9 ภาพนี้เป็นกราบด้านขวาของโป๊ะ 9 ก็จะมีต้นไม้ดอกไม้ประดับในสวนหลายชนิด แลัวยังมีชาวบ้านนำเอาพันธุ์มะพร้าวน้ำหอมมาขายด้วย สมกับที่เป็นแหล่งมะพร้าวน้ำหอมสำคัญๆ ของไทย

ล่องเรือเที่ยวเกาะลัด กิจกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดสำหรับการมาเที่ยวตลาดน้ำบางคล้า ก็คือการล่องเรือ เรือบริการนำเที่ยวรอบเกาะลัดมีหลายขนาดด้วยกัน เริ่มตั้งแต่เรือเล็ก 6 ที่นั่ง ให้เหมาลำ นั่งไม่เกิน 4 คน ลำละ 200 บาท ถ้านั่ง 6 ก็ 300 บาท เรือขนาดกลางเหมาลำ นั่งได้ไม่เกิน 10 ที่นั่ง ก็ 500 บาท ส่วนลำใหญ่ก็ออกเป็นเวลา ราคาผู้ใหญ่ 50 เด็ก 30 สรุปไม่ว่าจะนั่งแบบไหนค่าใช้จ่ายก็ประมาณ 50 บาท สำหรับคนที่ต้องการล่องเรือไปยังสถานที่อื่นๆ นอกเส้นทางรอบเกาะลัด ก็จะมีราคาบอกให้ แต่ในที่นี้ผมพาไปนั่งรอบเกาะก่อนแล้วกัน

หลังจากที่เดินถ่ายรูปตลาดน้ำ 1 รอบ ตั้งแต่หัวจรดท้ายตลาด ตอนนี้ก็เวลา 11.10 น. มีเรือจะออกเวลา 11.30 น. ผมก็เลยตกลงซื้อบัตรแล้วเดินเล่นอีกหน่อยก็จะถึงเวลาเรือออก สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาควรจะเหมาลำเอานะครับ เพราะถ้ารอเรือเที่ยวบางเที่ยวคนน้อยเกินไปเรือก็ไม่ออกนะ โดยเฉพาะช่วงเช้าๆ ตลาดยังไม่คึกคัก กว่าจะมีคนไปนั่งเรือเที่ยวก็ต้องกินกันก่อน ช่วงการกินก็จะใช้เวลานาน กว่าจะอิ่มกว่าจะอยากนั่งเรือก็ช่วงเที่ยงเป็นต้นไปนี่แหละ พอเรือออกจากข้างโป๊ะไปกลางแม่น้ำเราก็จะเห็นตลาดน้ำบางคล้าแบบเต็มๆ ทั้ง 9 โป๊ะเลย

เด็กๆ ริมน้ำ เป็นเรื่องที่เห็นกันมาเจนตาตั้งแต่ผมเป็นเด็ก สมัยนั้นผมกับน้ำก็สนิทกันพอสมควร ว่างเมื่อไหร่เป็นได้หนีไปลงน้ำ ตอนนั้นไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องอันตราย เล่นสนุกๆ แล้วก็กลับบ้าน จนทุกวันนี้เราก็ยังคงเห็นเด็กๆ ไปลงเล่นน้ำอยู่เสมอๆ ไม่ว่าที่ไหน เด็กๆ ก๊วนนี้หน้าตาเอาเรื่องดีพอเห็นผมถือกล้องถ่ายรูปก็พุ่งลงน้ำกันหมดโชคดีที่เก็บภาพตอนนั่งอยู่ในโคลนมาได้ทัน จากนั้นไม่นานเรือก็พาเราไปจอดเทียบท่าวัดโพธิ์บางคล้า เราก็ขึ้นไปไหว้พระทำบุญปิดทอง ชมค้างคาวแม่ไก่ รายละเอียดอีกมากมายของการล่องเรือรอบเกาะลัดผมเขียนรีวิวไว้อีกหน้าหนึ่งแล้วครับที่ ล่องเรือรอบเกาะลัด

กินอะไรกันที่ตลาดน้ำบางคล้า จบการนำเที่ยวตลาดน้ำบางคล้าแล้วละ ด้วยรูปจำนวนมากมายนับ 100 รูป เอามาย่อๆ รวมๆ กันเข้าเพื่อไม่ให้มันโหลดช้าจนเกินไป นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีรูปมากที่สุดในทัวร์ออนไทยดอทคอมเลยก็ว่าได้ นี่ขนาดไม่ได้ถ่ายครบทุกร้านนะเนี่ย มาดูกันว่ามีอะไรที่น่ากินกันบ้าง เริ่มจากมื้อเช้า ผมเดินจากวัดแจ้งเข้าตลาดน้ำบางคล้าจากโป๊ะ 8 แล้วสำรวจไปจนถึงโป๊ะแรกใกล้ที่ว่าการอำเภอบางคล้า เจอร้านส้มตำที่ขายแหนมคลุก ก็ได้ติดมือมา 1 จาน จากนั้นก็เดินเลือกก๋วยเตี๋ยวเพราะมื้อเช้าไม่อยากให้หนักมาก ร้านค้าก็ยังมาไม่ครบ กินเบาๆ ไปก่อนด้วยก๋วยเตี๋ยวแล้วค่อยหนักมื้อกลางวัน ผมได้เย็นตาโฟร้านเจ๊แก้ว เครื่องเย็นตาโฟสดทุกอย่าง หมึกไม่กระด้างจนน่ากลัว ไม่มีกลิ่นประหลาดๆ ด้วย เส้นใหญ่หนานุ่ม น้ำมีรสชาตอ่อนๆ กินได้ทุกวัย ปรุงรสง่าย ส่วนผู้ช่วยได้ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำเสวย ร้านแม่บุญมี อันนี้อร่อยมากชิมก่อนปรุงด้วยละ จากนั้นของหวานใช้ถั่วแปบแป้งสด จบมื้อเช้า

สำหรับกลางวันหลังจากล่องเรือเที่ยวมาแล้ว เรือออก 11.30 น. กลับมา 12.30 น. พอเหมาะกับเวลามื้อเที่ยง จัดให้หนักขึ้นหน่อยด้วยกุ้งเผา 1 ชุด ราคา 300 บาท (ไซส์ใหญ่) แล้วก็ปลาเผาเปิดหนังให้ 1 ด้าน พร้อมน้ำจิ้มและเครื่องเคียงที่เรียกกันว่าเมี่ยงปลาเผานั่นแหละ ข้าวไม่เอาเพราะอยากกินแต่กับ มากัน 2 คน จะกินมากกว่านี้ก็ไม่ได้ น่าเสียดายจริงๆ ไม่งั้นจะชิมมาเล่าทุกร้านเชียว

เล็กๆ น้อยๆ จากตลาดบางคล้า ของหวานของมื้อเที่ยงที่เล่าไปบ้างแล้วว่าเราไปซื้อขนมจากโป๊ะ 5 ขายขนมตาล ขนมฟักทอง เผือก ไข่หงส์ กล่องละ 20 บาท แต่ละกล่องจะมีขนมอย่างเดียว แต่เราขอเป็นกรณีพิเศษเพราะอยากกินหลายอย่างแต่ไม่อยากซื้อ 4 กล่อง เพราะกินไม่หมด แม่ค้าใจดีจัดให้ รวมทุกอย่างในกล่องเดียว 20 บาท

ก่อนกลับมีไข่เค็มพอกดินกลับมาด้วย ความเค็มนั้นเค็มกว่าไข่เค็มไชยานิดหน่อย สำหรับคนที่ชอบไข่เค็มที่ออกรสมันๆ มากกว่ารสเค็มอาจจะไม่ประทับใจเท่าไหร่ แต่ก็ยังรับได้ไม่ถือว่าเค็มจนต้องควักไข่ขาวทิ้ง ส่วนไข่เค็มใบเตยไม่ได้ซื้อมาชิม ลืมอะ

รวมๆ แล้วตลาดน้ำบางคล้าก็นับว่าเป็นแหล่งอาหารชั้นเยี่ยม สวรรค์ของซีฟู๊ดเลิฟเวอร์ ส่วนคนที่ชอบแนวตำๆ ยำๆ ลองมาเถอะได้เลือกกินจนตาลายแน่ ไว้มีโอกาสจะไปชิมร้านอื่นๆ มาเล่าสู่กันอีกครั้ง อย่าลืมกลับเข้ามาชมเป็นระยะๆ ละ