ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา โทร.038 514 009
https://www.facebook.com/TAT-Chachoengsao-175554016247495/
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
บรรยากาศลานจอดรถ หลังจากที่เดินทางออกมาจากวัดปากน้ำโจ้โล้ เพียงไม่นานก็จะเจอสะพานข้ามคลอง ข้ามสะพานมาได้แล้วจะมีทางแยกขวามือมีป้ายบอกว่ามีสถานที่น่าสนใจอะไรบ้าง ซึ่งได้แก่อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และร้านร่มไม้สายธาร ทางแยกขวามือนี้เป็นถนนตรงเข้าไปสุดทางที่อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศสร้างอยู่ปลายแหลม มีสายน้ำ 2 สายขนาบข้างเป็นแผ่นดินที่กว้างเพียงไม่กี่สิบเมตร เดินประมาณ 30 ก้าวก็จะสุดจากด้านซ้ายไปด้านขวา ลานจอดรถจะอยู่ห่างจากองค์พระสถูปเจดีย์ประมาณไม่ถึง 100 เมตร โชคดีที่วันนี้ฟ้าสดใสเลยถ่ายรูปเก็บไว้เยอะหลายมุมมาก
บรรยากาศโดยรอบ สายน้ำที่ขนาบข้างของแหลมที่กว้างไม่มากนักนี้ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีน่าเป็นที่พักผ่อน และเนื่องมาจากการสร้างศาลาสำหรับนั่งพักผ่อน 4 หลัง ที่นี่จึงไม่ว่างเว้นจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมานั่งพักผ่อนกับอากาศบริสุทธิ์ ลมพัดเย็นสบาย ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำมีบ้านเรือนอยู่ไม่มาก บ้างก็เป็นร้านอาหารพร้อมบริการเรือนำเที่ยว อย่างในภาพล่างซ้าย เป็นร้านอาหารและมีเรือนำเที่ยวชื่อ ท่าเรือวนะภูติ เบอร์โทร.ติดต่อ 081-7814981 และ 089-5099822 มีเรือบรรทุกผู้โดยสารตั้งแต่ 6-150 คน มีเรือรอบ 12.00-14.00 น.(ในกรณีที่มากันไม่กี่คน ราคาผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท)
สุดปลายแหลมมองเห็นวิวทิวทัศน์ของบ้านเรือนและหลังคาอุโบสถสีทองวัดปากน้ำโจ้โล้ อยู่ไกลๆ อีกด้านหนึ่งของสายน้ำเป็นเกาะลัดสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของฉะเชิงเทรา
พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หลังจากชมบรรยากาศรอบๆ กันแล้วคราวนี้เข้าไปที่ลานประทักษินองค์พระสถูปเจดีย์ ด้านหน้าขององค์พระสถูปเจดีย์จะมีศาลเล็กๆ แยกสร้างต่างหากภายในเป็นพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีคาถาบูชา พร้อมธูปเทียนวางไว้โดยให้ประชาชนหยอดเงินลงไปในตู้เพื่อทำบุญบูชาธูปเทียนที่นำมาจุด
อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เริ่มแรกขอถ่ายภาพมุมเฉียงนิดๆ จะได้เห็นองค์พระสถูปเจดีย์ และศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินด้านหน้า และยังมีรูปปั้นไก่และม้า ประดับด้วยกระจกแวววาวสดใสสวยงามมาก
ประวัติการสร้างอนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
อำเภอบางคล้า เป็นสถานที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าล้อมเมืองไว้ก่อนที่จะเสียกรุงครั้งที่ 2 ชาวบ้านเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพระยาวชิรปราการ ได้ตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าออกจากกรุงศรีอยุธยาก่อนกรุงแตกในปี พ.ศ.2310 เพื่อไปรวบรวมไพร่พลกอบกู้เอกราช ณ เมืองจันทบุรี จึงได้สร้างพระสถูปเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะของพระองค์ในบริเวณนี้ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แห่งของอำเภอบางคล้า ที่สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์สถานที่พระองค์ยาตราทัพผ่าน ส่วนอนุสรณ์สถานอีก 2 แห่ง คือวิหารวัดแจ้ง และวิหารวัดโพธิ์
พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขากล่าวว่า หลังจากที่พระวชิรปราการตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าออกจากกรุงศรีอยุธยาทางตะวันออก ในวันจันทร์ขึ้น 13 ค่ำ เดือนยี่ ได้เดินทัพเข้าในป่าและหยุดประทับที่หนองน้ำหุงอาหาร แม่ทัพพม่าได้ทราบข่าวว่ากองทัพซึ่งยกทัพตามกองทัพของพระยาวชิรปราการพ่ายแพ้หลายครั้ง จึงเกณฑ์ทัพเรือให้ยกหนุนมาเพิ่มเติม และให้กองทัพบกยกลงมาตั้ง ณ ปากน้ำโจ้โล้ เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อรวมกำลังกับกองทัพเรือ และในวันอังคาร ขึ้น 14 ค่ำ เดือนยี่ กองทัพพม่า ได้ยกจากปากน้ำโจ้โล้ติดตามกองทัพของไทย พระยาวชิรปราการรู้ตัวว่ากองทัพพม่ายกติดตามมา จึงนำพลทหารร้อยหนึ่งให้ขุดสนามเพลาะเป็นกำบัง คอยซุ่มยิงกองกำลังทหารพม่าที่ยกตามมาล้มตายเป็นจำนวนมาก พม่าก็แตกพ่ายกระจัดกระจายกันออกไป
ส่วนคำบอกเล่าของชาวบ้านมีรายละเอียดเพิ่มเติมว่า หลังจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้อิสรภาพจากพม่าได้สำเร็จ และปราบดาภิเษกขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 (พระเจ้ากรุงธนบุรี) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปเจดีย์ขึ้นบริเวณปากน้ำโจ้โล้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ แต่พระสถูปองค์เดิมที่สร้างขึ้นได้ถูกกระแสน้ำไหลกัดเซาะพังทลายลงแม่น้ำตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491
ต่อมาได้รับงบประมาณจากกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกองสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมิสซังโรมันคอทอลิกจันทบุรี อนุญาตให้ใช้ที่ดินสร้าง จำนวน 2 ไร่ 2 งาน 38.4 ตารางวา สร้างพระสถูปเจดีย์ขึ้นมาใหม่บริเวณเดิม ตามรูปแบบของกองสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆัง มีซุ้มทั้ง 4 ด้าน โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2539 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 เป็นเงินทั้งสิ้น 36,562,338 บาท
นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินทางมาสักการะพระสถูปเจดีย์ หรือนั่งพักผ่อนชมภูมิทัศน์ริมแม่น้ำบางปะกง และเกาะลัด
อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คราวนี้มาชมภาพด้านข้างกันครับ อย่างน้อยๆ จะได้เห็นว่าลานประทักษินรอบองค์พระสถูปเจดีย์นี้กว้างมาก ล้อมด้วยระเบียงทุกด้าน แต่ละด้านมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามของฝั่งน้ำ 2 สาย เป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก
อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภาพนี้เป็นภาพด้านหลังมองจากด้านหลังไปด้านหน้าจะเห็นศาลาสำหรับนั่งพักผ่อนมีข้างละ 2 หลังแต่เรียงตรงกันอยู่เลยมองเห็นเป็นหลังเดียว สุดระเบียงด้านหลังจะมีวิวบ้านเรือนและท่าน้ำวัดปากน้ำ เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่จอดรอผู้โดยสารแสดงให้เห็นว่าการล่องเรือเที่ยวที่นี่เป็นที่นิยมพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นวิวริมน้ำ 2 ข้างของแหลมพระสถูปเจดีย์ที่เรียกว่าปากน้ำโจ้โล้ เห็นแล้วอยากลองล่องเรือเที่ยวเหมือนกัน
ม้าคู่ สิ่งที่อยู่ตรงทางเข้าลานประทักษินพระสถูปเจดีย์มีรูปปั้นม้ากับช้างอย่างละคู่ โดยเป็นสีดำ 1 ตัว และประดับกระจก 1 ตัว
ช้างคู่
วิถีชีวิตริมน้ำ นอกจากวิวสวยๆ ของแม่น้ำบางปะกงแล้วก็ยังได้ชมวิถีชีวิตชาวบ้านในละแวกนี้กับการอาศัยทำมาหากินในสายน้ำบางปะกง แม่น้ำแห่งชีวิตของชาวฉะเชิงเทราอีกด้วย
บรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้ข้างศาลา จบด้วยภาพนี้ละกันครับ ว่างๆ แวะมาเที่ยวชมวิวพักผ่อน และสักการะพระสถูปเจดีย์ พระบรมรูปกันครับ นอกจากนี้ยังได้มาเที่ยววัดโพธิ์บางคล้า ตลาดน้ำบางคล้า วัดปากน้ำโจ้โล้ ด้วย
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ