ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 0 7641 1136, 0 7641 2188
http://www.dnp.go.th/
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จุดเริ่มต้นของการเดินทางเที่ยวอ่าวพังงาด้วยเรือ ที่นี่นับเป็นที่ที่สะดวกแห่งหนึ่งสำหรับการติดต่อเรือนำเที่ยว ภายในอุทยานมีร้านค้าสวัสดิการเหมาะสำหรับมื้อกลางวัน หรือซื้อน้ำเพื่อติดตัวไปเที่ยว น้ำดื่มในร้านสวัสดิการอาจจะราคาสูงกว่าร้านค้าทั่วไป แต่ถ้าไปซื้อบนเกาะจะแพงกว่าอีก ถ้าจะล่องเรือเที่ยวควรติดต่อทางอุทยานไว้ล่วงหน้าเพื่อความสะดวกแล้วก็มารอที่ร้านค้าสวัสดิการแห่งนี้ ท่าเรืออยู่ใกล้ๆ ร้านค้านั่งกินลมชมวิวหรือกินข้าวกันให้อิ่มแล้วค่อยเดินทาง
ปากน้ำอ่าวพังงา พอเรือมารับเราก็นั่งเรือไปตามลำน้ำเรื่อยๆ ออกสู่ท้องทะเล อ่าวพังงานับเป็นอ่าวที่มีความสวยงามมากเพราะมีเกาะมีเขามากมายสลับซับซ้อนกว่าอ่าวที่อื่นๆ ทำให้วิวที่เราเห็นดูสวยงามกว่าท้องทะเลที่ว่างเปล่า สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็อยู่ไม่ไกลกัน เที่ยววันเดียวจบได้แบบสบายๆ นั่งเรือไม่นานเราก็จะเห็นหมู่บ้านที่อาศัยอยู่บริเวณอ่าวเป็นชุมชนเล็กๆ ที่อยู่กันอย่างหนาแน่น
เขาหมาจู เป็นภูเขาหินเล็กๆ มองไกลๆ มีลักษณะเหมือนสุนัขแบ่งเป็นมีหัว ลำตัวและหางเป็นพู่ แลดูน่ารักดี ที่เที่ยวต่างๆ จะอยู่ด้านขวาเป็นส่วนมาก ด้านซ้ายของลำน้ำเป็นป่าชายเลนที่หากินของชาวบ้านที่จะมาหาปลาไม่ว่าจะทอดแหหรือเครื่องมืออื่นๆ เรียกว่าไม่ใช่วิวสวยอย่างเดียวแต่ยังเป็นประโยชน์เลี้ยงชีพผู้คนจำนวนมากได้ด้วย
เกาะปันหยี หลังจากที่ผ่านเขาหมาจูมาได้ไม่นานลำน้ำก็ค่อยๆ กว้างขึ้น น้ำตรงนี้เป็นน้ำเค็มเอามือแตะน้ำมาชิมดูเค็มได้ใจจริงๆ เบื้องหน้ามีเขาสูงตระหง่านนึกว่าเขาตาปูเพราะมีรูปร่างเหมือนกัน แต่ที่จริงนี่เป็นเกาะปันหยี มีชุมชนอาศัยอยู่จำนวนมากเรียกว่าเป็นตำบลกันเลยทีเดียว การเดินทางล่องเรือเที่ยวของเราจะแวะเข้าไปบนเกาะนี้เพื่อไปดูสนามบอลลอยน้ำ ที่ว่ากันว่ามีแห่งเดียวในประเทศไทยก็ว่าได้
เกาะปันหยี พอเรือแล่นมาเรื่อยๆ เราจะเห็นอีกด้านหนึ่งของเกาะปันหยี จึงได้รู้ว่ารูปร่างของเกาะยาวออกไปทางด้านหลัง มองด้านหน้าเห็นรูปร่างเหมือนเขาตาปูแต่ซ่อนแนวเขาหินไว้ด้านหลังอีกยาวเลย
เทียบท่าเกาะปันหยี เนื่องจากที่นี่มีผู้คนอาศัยอยู่เยอะเรียงกันไปตามแนวยาวของภูเขาที่เป็นเกาะ การจะขึ้นมาเที่ยวเกาะปันหยีจึงมีทางขึ้นหลายทางล้วนแต่เป็นของเอกชน ที่สะดวกที่สุดก็น่าจะเป็นที่ร้านอาหารเกาะปันหยีวิลเลจ เป็นร้านอาหารประจำสำหรับทริปอ่าวพังงา เรียกว่านักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวมักจะเลือกเป็นร้านสำหรับมื้อกลางวันเพราะอยู่กลางทาง แต่ราคาของอาหารจะเป็นมาตรฐานของร้านบนเกาะคือแพงกว่าบนฝั่ง แต่เพื่อให้ได้ความรู้สึกว่ามาเที่ยวเกาะหลายคนก็ไม่เกี่ยงเรื่องราคา
หลังจากที่จัดการอาหารมื้อกลางวันที่ราคาแพงอยู่สักหน่อย สามรายการ 600 กว่าบาท (เลยแนะนำให้กินที่ร้านสวัสดิการของอุทยานไง) เราก็ออกเดินชมวิถีชีวิตชาวปันหยี ชาวบ้านที่นี่เป็นมุสลิมมีมัสยิดที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีรูปแบบที่สวยงาม เห็นยอดมัสยิดได้แต่ไกล งานอดิเรกของชาวบ้านคือการค้าขายของที่ระลึกเลี้ยงนกกรงหัวจุกเป็นเพื่อน
ของที่ระลึกเกาะปันหยี บนเกาะนี้หลายบ้านเปิดเป็นร้านค้าขายของเล็กๆ น้อยๆ ของที่เห็นบ่อยๆ มีหลายร้านก็คือเสื้อผ้าลวดลายแบบชาวพื้นเมือง มีโปสการ์ด แมกเน็ตรูปที่เที่ยวในพังงานซึ่งก็ไม่พ้นเขาตาปู จะมีรูปสนามบอลลอยน้ำอยู่บ้างก็ไม่มากเท่าไหร่ อีกอย่างที่เห็นเยอะคือเครื่องประดับที่เป็นมุกมีเยอะมากขายกันหลายร้าน ส่วนเสื้อลายพังงาก็มีเหมือนที่เที่ยวอื่นๆ บนเกาะมีร้านขายโทรศัพท์มือถือร้านเดียว แต่ก็ไม่ได้ขายอะไรมากคงจะเป็นบัตรเติมเงินมากกว่า มีตู้เอทีเอ็มของ TMB อยู่ตู้เดียวซึ่งก็เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตบนเกาะนี้
บรรยากาศในหมู่บ้าน งานประจำหรืออาชีพหลักของคนที่อยู่กลางทะเล คงไม่มีอะไรนอกจากการประมง เรือประมงเล็กๆ จะออกหาปลาแล้วก็นำมากินมาขายกันบนเกาะ ส่วนใหญ่จะเอามาตากเพื่อให้เก็บได้นานๆ เรือของแต่ละบ้านจะจอดไว้ใต้ถุนบ้าน พอน้ำลงเรือก็ออกไปไหนไม่ได้ จอดไว้แบบนั้นจนกว่าจะน้ำขึ้น
อาหารบนเกาะปันหยี สำหรับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านไม่กี่หลังคาเรือน ข้าวกล่องเล็กๆ กับเมนูง่ายๆ ก็เพียงพอแล้วสำหรับอาหาร 1 มื้อ ถ้าหาได้มากก็เอามาขาย เอามาตากไว้ ของหวานก็ง่ายๆ ไปตามเรื่อง
สนามบอลลอยน้ำ ทางเดินในหมู่บ้านไม่ได้ตัดเป็นเส้นตรง มีซอกซอยแยกหลายจุด แต่ถ้าจะมาเที่ยวชมสนามบอลลอยน้ำแห่งเดียวของเราก็ถามทางชาวบ้านมาเรื่อยๆ ก็ได้ หรือดูป้ายที่เขียนว่าไปมัสยิดก็ได้เหมือนกัน พอถึงมัสยิดก็เดินเลยไปอีกใช้เวลาไม่นานเลยในการเดินเลาะตามหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เราก็มาโผล่ที่ด้านหลังของเกาะแล้ว มีสะพานเป็นท่าเรืออีกแห่งหนึ่งที่เรือนำเที่ยวไม่ค่อยได้มาเทียบเหมือนด้านหน้าเกาะ ส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดเรือของชาวบ้าน สนามบอลลอยน้ำเมื่อก่อนเป็นไม้ ดูขลังมาก พอนานไปสนามไม้ก็ผุไปตามกาลเวลา เลยถูกเปลี่ยนมาเป็นพลาสติคแบบนี้แต่ก็ยังนับว่าเป็นอีกหนึ่งความแปลกของสนามกีฬาบ้านเรา ลองจินตาการดูว่าเวลาลงไปเล่นจะสนุกขนาดไหน วิ่งไปโคลงไป บอลหล่นน้ำก็ว่ายไปเก็บ ที่ดินรอบเกาะปันหยีแทบไม่มีเลยมีแต่บ้านที่สร้างแบบใต้ถุนสูงหนึน้ำเวลาน้ำขึ้นน้ำลง สนามบอลแห่งนี้เลยเป็นเหมือนลานกว้างแห่งเดียวที่เด็กๆ จะได้วิ่งเล่นกัน
สนามบอลลอยน้ำ
มัสยิดเกาะปันหยี จากสนามบอลลอยน้ำถ้าลงเรือออกมามองไกลๆ ก็จะเห็นวิวที่สวยงามนี้ มัสยิดที่อยู่กลางเกาะแบบนี้เป็นภาพที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ ต่อไปก็จะมีการขยายอะไรออกมาอีกเยอะเพื่อรองรับจำนวนประชากรที่เพิ่งมากขึ้น
เกาะปันหยี เราใช้เวลา 20 นาทีสำหรับการเดินสำรวจหมู่บ้านบนเกาะและสนามบอลลอยน้ำ จากนั้นเราก็ต้องเดินทางไปกันต่อ สถานที่ต่อไปของการเที่ยวอ่าวพังงาก็คือถ้ำลอด เรือพาเราไปไกลจากเกาะปันหยีมากขึ้นเรื่อยๆ จนมองเห็นหมู่บ้านทั้งหมู่บ้าน
มุ่งหน้าสู่ถ้ำลอด พอเรือแล่นมาได้สักพักเราก็จะเห็นบรรยากาศแบบนี้ มีเรือขนาดใหญ่จอดอยู่หน้าปากถ้ำ เป็นเรือที่บริการอาหารและเรือคายัคหรือเรือแคนู มีอยู่หลายเจ้าด้วยกัน สำหรับคนที่อยากจะสัมผัสบรรยากาศการพายเรือลอดถ้ำก็ติดต่อเรือคายัคได้ที่นี่ แต่ปกติถ้ำลอดเป็นถ้ำขนาดใหญ่เรือโดยสารขนาดกลางที่เรานั่งอยู่ก็ลอดได้ เห็นทีแรกนึกว่าโรงแรมลอยน้ำเลย ลำแรกคือ นิวเฟิร์น ซีแคนู (New Fern Sea Canoe) 089-7273339, 081-6778985 อีกลำคือ อันดามันซีฟู๊ด ปันหยี พังงา 081-7879299, 089-9732700 ส่วนอีกลำอยู่ไกลจนเก็บภาพมาไม่ได้ สนใจก็ลองติดต่อสอบถามกันไปเลยนะครับ
ปากถ้ำลอด
ถ้ำลอด เป็นภูเขาลักษณะเกาะทะลุ ปากถ้ำกว้างประมาณ 50 เมตร สูง 40 เมตร เรือขนาดเล็กสามารถแล่นผ่านทะลุไปอีกด้านของถ้ำได้ บนเพดานถ้ำมีหินย้อยดูแปลกตา
ถ้ำลอด อ่าวพังงา
เขาตาปู เกาะรูปร่างสูงโปร่งสัญลักษณ์ของอ่าวพังงาและจังหวัดพังงา อยู่ห่างจากถ้ำลอดประมาณ 10 นาที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าถ้ามาพังงาแล้วไม่มาเขาตาปูถือว่ามาไม่ถึง เขาตาปูหรือเขาตะปูแห่งอ่าวพังงาตั้งอยู่ในบริเวณทะเลด้านนอก ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยานฯ ตามลำคลองเกาะปันหยีไป เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเกาะเจมส์บอนด์อยู่ทางด้านเหนือในเวิ้งอ่าวของเกาะเขาพิงกัน ตามทฤษฎีธรณีวิทยา เกาะนี้เป็นเกาะเดียวกันกับเกาะเขาพิงกันเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 250 ล้านปีมาแล้ว เมื่อ 10000 ปีก่อนพื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นทะเลและมีการเลื่อนของเปลือกโลกทำให้เขาตาปูแยกตัวออกจากเกาะเขาพิงกัน แล้วน้ำทะเลก็เข้ามากัดเซาะสมัยนั้นน้ำทะเลสูงกว่าทุกวันนี้อยู่ 4 เมตร รอยกัดเซาะด้านบนจึงปรากฏให้เราเห็นมาจนทุกวันนี้ ส่วนรอยกัดเซาะที่อยู่ตรงระดับน้ำปัจจุบันเริ่มเกิดเมื่อ 6000 ปีมานี้เอง (น้ำทะเลลดลง) ตอนที่เปลือกโลกเลื่อนยังทำให้แผ่นหินบนเขาพิงกันขาดออกจากกันแล้วหล่นลงมาพังกันอย่างที่เห็น ตอนที่ไม่เคยมาที่นี่เคยคิดว่าเขาตาปูเป็นเขาที่สูงใหญ่มาก แต่พอมาดูด้วยตัวเองถึงเห็นว่ามีเขาบนเกาะที่สูงกว่าเขาตะปูเยอะ
เทียบท่าเกาะเขาพิงกัน เขาตะปูหรือเกาะเจมส์บอนในอ่าวพังงาเป็นเกาะที่อยู่กลางน้ำไม่มีดินเชื่อมถึงเกาะข้างๆ การไปเที่ยวจะเที่ยวได้เฉพาะชมไกลๆ มุมที่นิยมกันก็คือมุมที่ยืนถ่ายอยู่บนเกาะเขาพิงกัน พอเรือจอดก็จะต้องเสียค่าเข้าชมตามอัตราของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา คือ 20 บาทสำหรับคนไทย เกาะเขาพิงกันมีที่ให้จอดเรือได้ 2 ด้าน คือในรูปนี้กับด้านหลังของเขาตะปู ทางด้านหลังดูเหมือนคนจะนิยมกว่าเพราะถ้ามาถึงช่วงบ่ายจะเป็นช่วงที่ได้ร่มเงาเย็นสบายส่วนด้านนี้จะโดนแดดร้อน
เขาตะปู หรือเกาะเจมส์บอนด์เมื่องลงเรือแล้วก็เดินไปตามทางเดินระยะทางไม่กี่เมตรก็จะได้เห็นเขาตะปูจากมุมสูงสวยๆ เนื่องจากที่เดินบนเกาะนี้มีไม่มากเราจึงได้เห็นภาพของเขาตะปูในมุมคล้ายๆ กัน
เขาพิงกัน อยู่ห่างจากหาดที่ชมเขาตะปูแค่ไม่กี่เมตร ทีแรกก็นึกว่าอยู่คนละที่ เดินไปเดินมาก็มาถึงตรงนี้แล้ว บนเกาะมีร้านค้ามากมายหลายร้านส่วนมากเป็นของฝาก มีร้านเครื่องดื่มปิดประมาณ 4 โมงเย็น เรามาถึง 4 โมงกว่าๆ ก็ปิดแล้ว เลยต้องเน้นนิดนึงว่าควรซื้อน้ำจากฝั่งหรือร้านสวัสดิการติดมาบ้าง ไม่งั้นต้องทนหิวน้ำจนกว่าจะกลับถึงฝั่งเลย
เขาเขียน ภาพเขียนโบราณที่ปรากฎอยู่บนถ้ำบนเขาสูงเกือบ 20 เมตร เป็นหลักฐานก่อนยุคประวัติศาสตร์ว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่ และอาจจะมีชีวิตอยู่ในช่วงที่พื้นตรงนี้เป็นทะเลไปแล้ว ถ้ำจึงถูกใช้เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคนั้น เขาเขียน อยู่ระหว่างการเดินทางกลับเข้าฝั่งหลังจากจบทริปการเดินทางเที่ยวอ่าวพังงาจนครบแล้วจำได้ว่าอยู่ก่อนถึงเกาะปันหยี ถ้าใครไปคนขับเรือก็น่าจะชี้ให้ดู จบทริปการล่องเรือเที่ยวอ่าวพังงาไว้เท่านี้ครับ ถ้ามีโอกาสคงได้กลับไปอัพเดตกันอีกครั้ง ^_^
""
จัตุรงค์ แก้วอุ่นเรือน
2017-11-24 17:23:38
3/5 จาก 1 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ