ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.พังงา 076 481 900-2
เฟสบุ๊ค TAT Pangnga
http://www.tourismthailand.org/pangnga
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 20 (เมือง พังงา) ก่อนอื่นเล่าให้ฟังคร่าวๆ ก่อนว่าป้ายที่เห็นติดอยู่ที่ทางเข้าป่าชายเลนนี้มีชื่อกำกับไว้ว่าหน่วยจัดการป่าชายเลนที่ พง.10 (วังหม้อแกง) เป็นชื่อที่ใช้กันมาตั้งแต่ปี 2530 จนถึง 2545 จึงได้ชื่อใหม่เป็นสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 20 (วังหม้อแกง พังงา) โดยประวัติความเป็นมามีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง อย่างไรก็ตามหน่วยนี้มีหน้าที่ในการจัดการพัฒนา อนุรักษ์ป่าชายเลน โดยร่วมมือกับชาวบ้านในพื้นที่ การสงวนอนุรักษ์ป่าชายเลนของที่นี่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2511 หรือ 43 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีพื้นที่ป่าชายเลนเขียวขจีมีชาวบ้านที่ดำรงชีวิตอยู่โดยการพึ่งพาอาศัยพื้นที่ป่าชายเลน และเป็นสถานที่พักผ่อน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน เมื่อย่างก้าวเข้ามาแล้วจะรู้สึกเหมือนเดินอยู่ท่ามกลางป่าไม้เป็นโลกสีเขียวตลอดเส้นทาง พืชหลากหลายชนิดเกิดและเติบโตที่นี่บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายแสงแดดลอดลงมาได้ไม่มากในช่วงที่มีต้นไม้อยู่หนาแน่น
เมล็ดพืช การขยายพันธุ์ของพืชที่ใช้เมล็ดร่วงหล่นลงมาบนพื้นหากได้หล่นลงสู่ดินจะได้เติบโตเป็นต้นใหม่สืบต่อไป
เมล็ดรูปหัวใจ เครื่องหมายแห่งความรักของต้นไม้ที่มีให้กับมนุษย์ และมนุษย์ก็ต้องให้ความสำคัญแก่ต้นไม้เหล่านี้เพื่อให้ทุกชีวิตได้ดำรงต่อไปในโลกใบเดียวกัน
ผืนป่าชายเลนพังงา สภาพอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนที่พังงาเยี่ยมยอดมากร่มรื่นเย็นสบายแม้ว่าจะเดินกันไกลก็ไม่ร้อน
ลานพักผ่อนกลางป่าชายเลน ช่วงหนึ่งของทางเดินที่สร้างให้กว้างหน่อยเป็นที่นั่งพักผ่อน ศึกษาความรู้เรื่องพรรณพืชในป่าชายเลน พืชที่สำคัญของป่าชายเลนแห่งนี้ได้แก่ ตะบูนขาว ตาตุ่มทะเล ฯลฯ
ตะบูนขาวเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก- กลาง สูง 8-20 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นสั้น แตกกิ่งใกล้โคนต้นมีพูพอนแผ่ออกคดเคี้ยวต่อเนื่องกับรากหายใจที่แบนคล้ายแผ่นกระดาน เปลือกเรียบบาง สีเหลืองแต้มเขียวอ่อน หรือสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแกมชมพู ลักษณะคล้ายต้นฝรั่งหรือต้นตะแบก เปลือกหลุดออกเป็นแผ่นไม่แน่นอน ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ชั้นเดียว ไม่มียอด เรียงสลับ ใบย่อยมักมี1-2 คู่ เรียงตรงข้าม หรือเยื้องกันเล็กน้อย แผ่นใบรูปไข่กลับ ขนาด 2-5 x 7-14 ซม. แผ่นใบสมมาตรกัน ปลายใบกลม ฐานใบลิ่ม ดอกออกเป็นช่อที่ง่าม ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ยาว 3-8 ซม.แต่ละช่อมี 8-20 ดอก เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.2 ซม. เป็นดอกแยกเพศ ก้านดอกย่อยยาว 0.4-1 ซม.กลีบเลี้ยง 4 กลีบ ยาว 0.2 ซม. กลีบดอก 4 กลีบไม่ติดกัน สีขาวครีม เกสรเพศผู้8อันดอกมีกลิ่นหอมตั้งแต่บ่ายถึงค่ำผล ลักษณะกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 15-20 ซม.แบ่งเป็น 4 พู เท่าๆ กัน แต่ละผลมี 7-17 เมล็ดลักษณะโค้งนูน หนึ่ง ด้าน กว้าง 6-10 ซม. ผลแก่สีน้ำตาลแดง คล้ายผลทับทิม ออกดอก- ผล ตลอดทั้งปี
การเจริญเติบโต มักขึ้นปะปนกับพันธุ์ไม้ป่าชายเลนหลายชนิด เช่นไม้พังกา หัวสุมดอกขาว ถั่วดำตาตุ่มทะเลและไม่โกงกางใบเล็กเป็นต้นขึ้นได้ดีในน้ำกร่อยพบบ้างเล็กน้อยในบริเวณน้ำจืด
ตาตุ่มทะเล ไม้ยืนต้น ใบใหญ่หนาทึบ รูปร่างขอบขนาน ปลายแหลมมน ใบติดกับกิ่งแบบเวียน มีผิวมัน ดอกออกเป็นช่อเรียวยาว ตามโคนและก้านใบ ลำต้นและส่วนต่างๆ มียางขาว ขึ้นตามชายน้ำ ป่าชายเลน ส่วนที่เป็นพิษ คือ ยางจากต้น และสารจากต้น สารพิษคือ oxocarol, agalocol, isoagalocol ellagic acid, gallicacid การเกิดพิษ จากยาง หรือควันไฟจากการเผาไหม้ตาตุ่มทะเลเข้าตา จะทำให้ตาเจ็บ ถ้ามากอาจทำให้ตาบอดได้ถ้าหอยปูไปเกาะไม้ตาตุ่ม เมื่อนำมารับประทานจะทำให้เกิดอาการพิษ ท้องเสียอย่างรุนแรง อาเจียน รักษาโดยวิธีล้างน้ำยางออกจากผิวหนังโดยใช้สบู่ และน้ำอาจให้ยาทา สเตียรอยด์ ถ้ารับประทานเข้าไปให้เอาส่วนที่ไม่ถูกดูดซึมออกใช้ activated charcoal ล้างท้อง หรือทำให้อาเจียร และรักษาตามอาการ
ข้อมูล วิทยาศาสตร์กับสุราษฎร์ธานี
สภาพความอุดมสมบูรณ์ในระบบนิเวศ
สภาพความอุดมสมบูรณ์ในระบบนิเวศ เราใช้เวลากว่า 40 นาทีในป่าชายเลนแห่งนี้เพื่อเดินศึกษาธรรมชาติให้รอบๆ รับอากาศบริสุทธิ์กันให้เต็มปอดเพราะนานๆ ถึงจะได้มาสัมผัสอากาศแบบนี้ซักที
วิถีชีวิตรอบป่าชายเลน การอยู่โดยได้พึ่งพาอาศัยกันของป่าชายเลนกับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่
วิถีชีวิตรอบป่าชายเลน จบการนำเที่ยวชมป่าชายเลนในเมืองพังงาเท่านี้ครับ หากได้ไปพักที่พังงาอย่าลืมสถานที่พักผ่อนที่เต็มไปด้วยสาระความรู้เรื่องธรรมชาติป่าชายเลนที่นี่
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ