ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.พิษณุโลก โทร.0 5525 2742-3, 0 5525 9907, 0 5523 1063
http://www.tourismthailand.org/phitsanulok
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
การเดินทางมายังอช.ภูหินร่องกล้า อย่างที่บอกไว้ในส่วนข้อมูลด้านบนว่าสามารถเดินทางมาได้ 2 เส้นทาง ซึ่งผมก็เคยลองมาแล้วทั้ง 2 ทาง และก็พบว่าการเดินทางมาด้วยเส้นทาง พิษณุโลก - นครไทย จะง่ายกว่ามาทางเพชรบูรณ์ - หล่มเก่ามากทีเดียว แต่ถ้ามองเรื่องวิวสวย เส้นทางที่ 2 ดูจะสวยกว่าทางแรก
เมื่อถึงด่านเก็บค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เราก็จอดรถลงไปชำระค่าเข้า อีกด้านหนึ่งของด่านจะมีตลาดเล็กๆ ของชาวบ้านในละแวกนี้เอาสินค้าหลายชนิดมาขาย สิ่งหนึ่งที่เห็นได้มากหน่อยก็คือดอกกระดาษ เพราะพื้นที่ส่วนหนึ่งในบริเวณอุทยานแห่งชาติ ชาวบ้านได้อาศัยปลูกทุ่งดอกกระดาษกว้างใหญ่เอาไว้ขาย และกลายเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว
จากด่านตรวจขับตามทางมาเรื่อยๆ จะถึงฐานพัชรินทร์ และลานหินแตกสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากนั้นอีกไม่นานก็จะถึงบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านสวัสดิการ และร้านกาแฟ
ส่วนถ้ามาจากเพชรบูรณ์ก็จะผ่านโรงเรียนการเมืองการทหาร และลานหินปุ่มก่อนที่จะถึงที่ทำการอุทยาน
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อช.ภูหินร่องกล้า เป็นอาคารหลังเล็กๆ อยู่สูงกว่าร้านสวัสดิการนิดหน่อย เป็นสถานที่แรกที่เราจะเข้ามาติดต่อทุกๆ ครั้งที่เรามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เพราะที่นี่เป็นเสมือนศูนย์รวมข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด เราจะได้ไม่พลาดข้อมูลสำคัญๆ และไปได้ครบทุกจุดที่เราสนใจ
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เฮลิคอปเตอร์ที่เราเห็นเพียงบางส่วนตั้งอยู่ในลักษณะหางชี้ฟ้านี้ เป็นเครื่องที่ถูกยิงตกในการรบ เป็นลำเดียวที่ไม่ได้ถูกนำกลับหลังการรบเพราะสภาพที่เห็นนี้เลยนำมาทำเป็นอนุสรณ์ในการรำลึกถึงการรบ ตั้งอยู่โดดเด่นหน้าศูนย์บริการ
ลานหินแตก สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าที่จะแนะนำเป็นแห่งแรก ลานหินแตกอยู่ใกล้ๆ กับฐานพัชรินทร์ ห่างกันประมาณ 300 เมตร เป็นแหล่งศึกษาทางธรณีวิทยา เราจะได้เห็นความมหัศจรรย์ของเปลือกโลกที่สร้างสรรค์ผลงานแปลกตาไว้ให้เราได้เห็น
ลานหินแตก จากจุดเริ่มต้นเดินเข้ามาเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เส้นทางที่เราเดินพาเรามายังลานหินกว้างใหญ่ไพศาล แต่ที่แปลกคือแผ่นหินขนาดใหญ่บริเวณนี้ไม่ได้ติดเป็นแผ่นเดียวกัน มีรอยแยกน้อยใหญ่ บ้างก็กว้างไม่มาก บ้างก็กว้างพอก้าวข้ามได้ บางช่วงก็กว้างจนต้องสร้างสะพานทางเดินข้ามรอยแยก ผิวบนของแผ่นหินมีลักษณะตะปุ่มตะป่ำ คล้ายลานหินปุ่ม แต่ต่างกันตรงรอยแยกมากมาย อย่างที่เราเห็น รอยแยกบางแห่งไม่อาจประเมินความลึกได้
ลานหินแตก อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
จุดชมวิวลานหินแตก เป็นจุดสิ้นสุดของลานหินมหัศจรรย์แห่งเดียวของไทย บริเวณนี้เป็นหน้าผาซึ่งมีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก เพราะมีรอยแยกขนาดใหญ่ก่อนจะถึงหน้าผา หลานคนเดินมาถึงแค่ตรงรอยแยกก็ไม่เดินไปต่อ ทิวทัศน์ที่เราเห็นอยู่เบื้องหน้า เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ป่าอันอุดมสมบูรณ์ แต่ถ้าหากจะเทียบความสวยงามของจุดชมวิวแห่งนี้กับจุดชมวิวลานหินปุ่มดูเหมือนว่าที่ลานหินปุ่มจะสวยกว่า
บรรยากาศทางเดินศึกษาธรรมชาติ ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ โดยเฉพาะด้านธรณีวิทยาอยู่ 2 แห่ง คือลานหินแตกกับลานหินปุ่ม ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากก็คือเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกหมันแดง
ที่เราเห็นในภาพนี้เป็นทางเดินไปยังลานหินปุ่ม มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร หากมาในฤดูฝน เราจะได้เห็นไอหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ เป็นบรรยากาศที่สวยงามมาก
ดอกไม้ป่าในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เอามาให้ชมกันส่วนเดียวจากจำนวนนับไม่ถ้วนของพันธุ์ไม้ในป่าอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ ดอกไม้ป่าชนิดหนึ่งที่พบเห็นได้มากก็คือลิ้นมังกร ทางเดินไปยังลานหินปุ่มจะมีลิ้นมังกรสีส้มอยู่มากมาย แต่ถ้าอยากจะเห็นลิ้นมังกรสีชมพูต้องเข้าไปชมที่น้ำคกหมันแดง ว่ากันว่าหาชมได้ยากยิ้ง มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นในประเทศไทย แต่เส้นทางที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปชมได้จริงๆ นั้นจะมีเพียงน้ำตกหมันแดงเพียงแห่งเดียว จึงกล่าวกันกว่า ลิ้นมังกรสีชมพูมีที่เดียวในประเทศไทย
สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากในการมาเดินป่าที่นี่ก็คือเจ้าพืชตระกูลเห็ดดอกจิ๋ว เล็กเท่าหัวไม้ขีด มีสีเหลืองสด ขึ้นอยู่ท่ามกลางมอสเฟิร์นสีเขียวเหมือนผีนพรมอย่างสวยงาม
ลานหินปุ่ม อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ระยะทางเพียง 1 กิโลเมตร จะว่าใกล้ก็ไม่ใกล้ จะว่าไกลก็ไม่ไกล เราใช้เวลาเดินเกือบ 30 นาที ไม่ใช่เพราะว่าเดินเต็มที่แล้วต้องใช้เวลาตั้งครึ่งชั่วโมงกับระยะทางแค่ 1 กิโลเมตร แต่เป็นเพราะสิ่งสวยงามทางธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเราตลอดทางเดิน ทำให้เราต้องใช้เวลาศึกษาและชื่นชม แต่ละเมตร แต่ละก้าว ในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายที่ลานหินปุ่ม ในหน้านี้เราจะพูดเรื่องการเดินทางแบบย่อๆ เพราะเป็นหน้าที่ต้องรวมที่เที่ยวของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หลายแห่งไว้ด้วยกัน ถ้าสนใจจะดูภาพและข้อมูลการเดินทางมายังลานหินปุ่ม ให้คลิกไปที่หน้าลานหินปุ่ม โดยเฉพาะอีกหน้าหนึ่งดีกว่า
ภาพสวยๆ จากลานหินปุ่ม สายหมอกที่ปกคลุมขาวโพลนไปทั่วบริเวณแม้ว่าจะปิดทิวทัศน์อันสวยงามของจุดชมวิวของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าที่ลานหินปุ่มไปหมด แต่บรรยากาศแบบนี้ก็ใช่ว่าจะหาชมกันได้ง่ายๆ หากวันใดได้มาเห็นวิวสวยบนผาลานหินปุ่ม ก็จะไม่ได้ชมสายหมอก เช่นเดียวกัน
วิวสวยลานหินปุ่มอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อีกภาพจากอีกทริปที่ได้ไปเยือนลานหินปุ่มรอบที่ 2 ภาพนี้เป็นช่วงฤดูหนาวหลังปีใหม่ สายหมอกไม่ได้ปกคลุมทุกอย่างให้ขาวโพลนอย่างทริปแรก แต่เปิดให้ผมได้เห็นวิวกว้างเบื้องล่างหน้าผา ลานหินปุ่มแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่หากย้อนไปในอดีต ช่วงที่ยังคงมีการสู้รบกับขบวนการคอมมิวนิสต์ ที่นี่เป็นสถานที่พักฟื้นของผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ และยังสามารถสอดแนมฝ่ายข้าศึกเพราะมองเห็นได้ไกลมากนั่นเอง
โรงเรียนการเมืองการทหาร สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบันให้เราได้เห็นและรำลึกถึงสงคราม ผู้เสียสละทุกๆ ท่าน ที่ทำให้เราได้มีแผ่นดินอันสงบสุข และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามให้กับเรา หาไม่แล้วพื้นที่ป่าบริเวณนี้คงยากที่เราจะได้เข้ามาสัมผัส
น้ำตกหมันแดงและลิ้นมังกรสีชมพู สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่กล่าวมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าถึงได้ไม่ยาก เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม คราวนี้มาดูสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าไม่น้อย เพราะดอกลิ้นมังกรสีชมพูที่ขึ้นอยู่บริเวณนี้ เป็นดอกไม้ป่าที่หาชมได้ยากมาก จะบานเฉพาะเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เป็นประจำทุกปี และจะบานที่ชั้น 5 เป็นต้นไป การเดินป่าเข้าชมลิ้นมังกรสีชมพูเต็มไปด้วยอุปสรรค ทางเดินที่เป็นดินเมื่อฝนตกก็กลายเป็นโคลนลื่นตลอดทาง และมีทากจำนวนมาก ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทากชุมมากแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยเหตุที่กล่าวมานี่เองทำให้ยังคงมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไม่กล้าเข้ามาเดินในป่าแห่งนี้ แต่ความสวยงามของผืนป่าและน้ำตก ยังคงรอคอยผู้กล้า ท้าทายให้เข้ามาชม ชมรูปและข้อมูลเพิ่มเติมของน้ำตกหมันแดง คลิกที่นี่
บ้านพักอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า กลุ่มบ้านพักในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งมีชื่อต่างกันไป เช่น หมันแดง ลานหิน ร่องกล้า ฯลฯ มีลักษณะของตัวบ้านพักคล้ายๆ กัน แตกต่างกันนิดหน่อย ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาใช้บริการ ที่นี่มีบ้านพักจำนวนมาก รวมทั้งลานกางเต็นท์และเครื่องนอน แล้วยังมีค่ายพักสำหรับการเข้าพักเป็นหมู่คณะอีกด้วย ส่วนทีมงานเราพักที่บ้านร่องกล้าครับ
ที่นี่จะมีลานรอบกองไฟไว้ให้ และมีกฎห้ามนักท่องเที่ยวก่อไฟนอกจุดที่กำหนดให้
ลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พื้นที่ตั้งแคมป์หรือลานกางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ามีหลายจุด แต่ละจุดสามารถรองรับเต็นท์ได้เป็นจำนวนมาก ห้องน้ำบริการนักท่องเที่ยวตั้งแคมป์มีมากพอ บรรยากาศรอบๆ ลานกางเต็นท์เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ปกคลุมอย่างร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อมาในฤดูฝน บรรยากาศรอบๆ จะมีแต่สีเขียวขจีทุกด้าน
พญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย คราวนี้ก็เป็นช่วงท้ายของการพาเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ากันแล้วครับ เพราะพาไปชมที่เที่ยวมากมายหลายแห่งมาแล้ว ตอนนี้มาถึงช่วงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของที่นี่ ที่ผมเอาพญาเสือโคร่งมาให้ชมกันนี้เพราะปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเป็นสถานที่ชมดอกพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่ทุดในประเทศไทยไปแล้วครับ มีการปลูกต้นไม้ชนิดนี้ขึ้นกินพื้นที่เกือบ 1,000 ไร่ เรียกว่า ภูลมโล อยู่ห่างจากหมู่บ้านร่องกล้า 8 กิโลเมตร
พญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย ภาพที่เห็นนี้ถ่ายมาจากบริเวณทางเข้าบ้านพักของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หลายๆ คนก็คงจะเคยเห็น หลายๆ คนก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มีพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่ พญาเสือโคร่งที่นี่บานในช่วงปีใหม่เหมือนกันกับในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ช้า - เร็ว กว่ากันเล็กน้อย หลายคนเลยถือโอกาสไปเที่ยวชมพญาเสือโคร่งที่เชียงใหม่ แล้วก็มาที่ภูหินร่องกล้าแห่งนี้ หลายคนก็มาดูที่นี่เพราะไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ ก็ว่ากันไปตามความชอบและความสะดวกครับ
ชมดอกไม้ในบริเวณอุทยาน รอบๆ พื้นที่บ้านพัก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านค้าสวัสดิการ ร้านอาหาร ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีดอกไม้นานาชนิดให้เราชม มีทั้งดอกไม้ที่ปลูกประดับบ้านทั่วๆ ไป มีทั้งดอกไม้ป่า อย่างเช่น บ้านลานหิน ลานหินเป็นชื่อของบ้านพักที่ทางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ามีไว้บริการนักท่องเที่ยว จุดพิเศษของบ้านลานหินคือ มีทุ่งบัวดิน หรือบัวสวรรค์ สีขาวโพลนรอบบ้านเต็มไปหมด
ดอกลำโพงหรือระฆังเงินระฆังทอง มีให้เห็นเป็นระยะๆ ตามธรรมชาติ หรือบางทีร้านอาหารเอามาปลูกประดับหน้าร้านก็มี
ชมดอกไม้ในบริเวณอุทยาน ภาพนี้ก็มีทั้งดอกไม้และพืชอื่นๆ ที่เราพบในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เอามาให้ชมกันเพียงบางส่วน ถ้าสนใจจะศึกษาเรื่องนี้แบบเจาะลึก คงต้องลองไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าดูสักครั้ง ความหลากหลายของพันธุ์ไม้จะทำให้เราเรียนรู้จนเพลินไปเลยทีเดียว ภาพชุดนี้มีทั้งดอกไม้ที่ปลูกรอบศูนย์บริการฯ และที่พบในป่าอย่างเช่น
บีโกเนีย Begonia บีโกเนีย เป็นพืชที่มีหลากหลายสายพันธุ์ ปกติอยู่ในอากศเย็นหรือเย็นจัด มีการดัดแปลงสายพันธุ์ให้อยู่ในอากาศร้อนได้แต่ไม่สวยนัก
ม้าลาย ชื่อวิทยาศาสตร์ Haworthia reinwardtii ตระกูล LILIACEAE ถิ่นกำเนิด อัฟริกาใต้ ชอบแสงแต่ไม่ชอบแสงแดดโดยตรง อุณหภูมิ ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 22 องศาเซลเซียส แต่ไม่ต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ต้องการความชื้นในอากาศน้อยมาก เนื่องจากเป็นพืชอวบน้ำ จึงไม่ต้องการน้ำมาก
ข้อมูล http://www.maipradabonline.com/
โคมญี่ปุ่น โคมญี่ปุ่น ชื่อพื้นเมือง ตุ้มหูนางฟ้า , โคมญี่ปุ่น
ชื่อสามัญ Fuchsia, Lady's Eardrops ชื่อวิทยาศาสตร์ Fuchsia hybrids วงศ์ ONAGRACEAE
ฟุกเซีย หรือ ฟิวเซีย เป็นไม้ดอก ลำต้นมีทั้งชนิดพุ่มและชนิดเลื้อย บางพันธุ์มีลำต้นสีแดงเลือดหมู ใบรูปไข่หรือใบหอก ขอบจักฟันเลื่อย ดอกเดี่ยวหรือออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน ดอกรูปถ้วยคว่ำ กลีบเลี้ยงรูปรีแกมไข่ มี 4 กลีบ ปลายโค้งขึ้น กลีบดอก 4 กลีบหรือมากกว่า ซ้อนเกยกันอยู่กลางดอก กลีบดอกมีสีขาว ชมพู แดง ม่วง และสองสีในดอกเดียวกัน
ภาพนี้ก็จะมีพืชอีกหลายชนิดที่อยู่ในป่า ตามเส้นทางเดินที่เราเดินผ่านไป ลองสังเกตุและค้นหาเราจะพบว่ายังมีพืชแปลกๆ อีกมากมายหลายชนิดที่เราไม่ได้เห็นบ่อยๆ นอกจากในผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์
ภูลมโล นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ อยู่ที่พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีดอกพญาเสือโคร่งปลูกไว้มากมาย แบ่งพื้นที่ปลูกเป็นแปลงหลายแปลงงด้วยกัน เมื่อรวมเอาพื้นที่ที่ปลูกทั้งหมดมารวมกัน จะเป็นพื้นที่เกือบ 1,000 ไร่ มีดอกพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่มากมาย และบานในช่วงใกล้ๆ ปีใหม่ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาแวะเวียนชม แต่ถ้าสนใจจะค้างแรมบนภูลมโลก็สามารถทำได้ มีห้องน้ำชั่วคราวบริการที่ลานกางเต็นท์สำหรับรายละเอียดของ ภูลมโล ให้คลิกอ่านเลยครับ
"เป็นคนพิดโลกคะวันปีมหม่ทุกปีจะขึ้นไปรับปีใหม่บนภูร่องกล้าทำอย่างนี้มา13ปีแล้วปีประทับใจทุกครั้งปีนี้ปีที่14ยังประทับใจอยู่ ยกเว้น การเสียค่าเข้าอุทยานเราเสียค่าเข้าครั้งแรกไปกางเต้นนอนตื้นเช้ามาเราออกมาเที่ยวเดินบานหินปุ่มหินแตกซื้ออาหารจะเข้าที่พักคือเต้นที่เรากางไว้ว่าจะนอนเป็นคืนที่สองพอจะผ่านด่านเจ้าหน้าที่บอกให้เราหยุดแล้วให้เราจ่ายเงินอีกรอบเราก็บอกเรานอนมาคืนหนึ่งแล้วจะต้องจ่ายอีกทำไมเราก็เอาบัตรที่เราจ่ายให้เค้าดูแค่ได้คำตอบว่าค่านอนต่อคนต่อคืนนอนสองคืนพี่ก็ต้องจ่ายสองครั้งเราก็ยอกว่าทุกปีไม่มีนะเค้าบอกว่าปีนี้เป็นปีแรก สรุป เราก็ต้องจ่ายอีก1คืน ไม่เห็นตรงกับที่ยอกเลยว่าโชว์บัตรทุกครั้งที่เข้าออกเสียความรู้สึกมากๆค่ะ"
Pom Nu
2019-01-02 16:07:42
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ