เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งใหม่ ชมดอกซากุระบานสะพรั่ง กว่า 100,000 ต้น ในพื้นที่รวมประมาณ 1,000 ไร่ ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นปีที่ 2 แล้ว ทุ่งดอกซากุระหรือพญาเสือโคร่ง เดิมนั้นเป็นพื้นที่ปลูกกระหล่ำปีของชาวม้ง ต่อมา ทางอุทยานฯ ต้องการให้ชาวม้งออกจากเขตพื้นที่ จึงได้ตกลงกับชาวม้งให้ปลูกพญาเสือโคร่งสลับกับการปลูกกระหล่ำปลีและต้องออก จากพื้นที่อุทยานในระยะเวลา 3 ปี เป็นการแลกแลกเปลี่ยน จนมา ปี 2550 บนภูลมโลเต็มไปด้วยพญาเสือโคร่งเป็นทุ่งซากุระบนพื้นที่1,200 ไร่กว่า 1 แสนต้น จากการเป็นพื้นที่ที่อุทยานฯ ตั้งอยู่ในเขตภาคเหนือแต่มีพื้นที่คาบเกี่ยวกับจังหวัดเลย โดยเฉพาะภูลมโลอยู่ในเขตจังหวัดเลยทั้งหมด โดยฤดูกาลท่องเที่ยวนี้คือขึ้นภูเดียว ชม 3 ภู 3 จังหวัด ได้แก่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณื ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก ภูขี้เถ้า จ.เลย โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และมากางเต็นท์นอนท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นอุณภูมิต่ำกว่า 10 องศา ดอกซากุระ (พญาเสือโคร่ง) ช่วงนี้ได้เบ่งบานออกดอกสีชมพูสด นักท่องเที่ยวจะชมดอกซากุระแบบทั่วทุ่งภูลมโล ต้องประมาณปลายเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ้งเป็นช่วงที่ดอกซากุระจะบานทั่วเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ พื้นที่ภูลมโล เป็นภูเขาสูงตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สูงจากระดับน้ำทะเล 1,664 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดยอดมีก้อนหินขนาดใหญ่ สามารถยืนชมทัศนียภาพของเทือกเขาสูงซ้อนทับกันสวยงาม และมองเห็นหมู่บ้านหมันขาว และไร่กระหล่ำปลีสีเขียวกว้างใหญ่ สามารถกางเตนท์นอนพักแรมชมทะเลหมอกปกคลุมผืนป่าเชิงภูลมโล ในช่วงฤดูฝนและหนาวสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย แนะนำว่าต้องเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์ จุดกางเต็นท์นอนสามารถดูดาวบนฟ้า และดาวบนดินแสงไฟจากหมู่บ้านข้างล่างได้อย่างชัดเจน ภูลมโลเดิมเป็นพื้นที่สีแดง คอมมิวนิสต์ใช้เป็นพื้นที่ตั้ง และเป็นสนามบินลำเลียงอาวุธ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอุทยานประวัติศาสตร์การสู้รบระหว่างคอมมิวนิสต์และทหาร มีร่องรอยการต่อสู้และการบันทึกเรื่องราวเป็นหลักฐาน มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติสวยงาม ท่ามกลางทะเลหมอกปกคลุมทั่วขุนเขา เรียนรู้วิถีชีวิตแบบอย่างการอยู่ร่วมกันระหว่างชาวบ้านกกสะทอนและชาวเผ่าม้ง เยี่ยมชมผลผลิตข้าวไร่ และสินค้าเกษตรคุณภาพดี กางเต็นท์พักนอนดูดาวท้าทายความหนาวธารพายุลม ชมทุ่งซากุระสีชมพูบานทั่วภู ช่วงกลางเดือนมกราคม ถึง กลางเดือนกุมภาพันธ์

การเดินทาง สามารถเดินทางโดยรถยนต์จากจังหวัดเลยสู่อำเภอด่านซ้าย ระยะทาง 89 กิโลเมตร และจากอำเภอด่านซ้ายไปอำเภอนครไทยแยกกิโลเมตรที่ 9 เข้าสู่เส้นลาดยางและคอนกรีตผ่านบ้านหัวนา บ้านน้ำเย็น และบ้านกกสะทอน เป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร จากที่ตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลกกสะทอนไปบ้านหมากแข้ง รวมระยะทาง 7 กิโลเมตรมุ่งสู่หมู่บ้านหมันขาวอีก 13 กิโลเมตร แวะชมความงามน้ำตกหมันแดงที่มีความสูงถึง 10 ชั้น แวดล้อมด้วยป่าอุดมสมบูรณ์ และชมรอยเท้าไดโนเสาร์กินเนื้อยุคเดียวกันกับอุทยานแห่งชาติภูเวียง ปรากฏรอยบนลานหินในลำห้วยหมันแดงมากกว่า 20 รอย เส้นทางต้องเดินเท้าเข้าไปเท่านั้น ไม่ห่างกันมากสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ไปยังอนุสรณ์สถานเทิดพระเกียรติ บ้านหมากแข้ง สถานประวัติศาสตร์การสู้รบ และฐานตั้งมั่นของทหารไทยที่สู้รบกับคอมมิวนิสต์ที่มาอาศัยอยู่ในป่าทางภู หินร่องกล้า โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมงกุฎราชกุมาร ทรงได้มาประทับพักแรมในครั้งนั้น ยังคงสภาพสมบูรณ์ สร้างเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงภาพ และเรื่องราวเป็นหลักฐานไว้ให้ชมศึกษา แล้วออกเดินทางสู่ภูทับเบิก 11 กิโลเมตร สู่ยอดเขาภูลมโล ระยะทาง 11 กิโลเมตร ผ่านทุ่งพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยออกดอกสีชมพูสวยงามพื้นที่ 1,200 ไร่ ณ บริเวณหินยักษ์ยอดภูลมโล นักท่องเที่ยวสามารถยืนชมหมู่บ้านทับเบิกที่อยู่เบื้องล่าง สัมผัสกับทัศนียภาพของเทือกเขาสวยงาม มีลมพัดตลอด ทำให้มีอากาศหนาวเย็น นักท่องเที่ยวต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวและน้ำดื่มไปเพราะบนนั้นไม่มีจุดบริการนักท่องเที่ยว หรือร้านค้า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยว

ติดต่อเข้าชมภูลมโล เข้าชมได้ 2 เส้นทาง

1. ชมรมท่องเที่ยวภูลมโลโดย อบต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย โทร. 085 7372785 คุณโสภณ

2.ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านร่องกล้า จ.พิษณุโลก

ติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยว กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านร่องกล้า

คุณเน้ง 089-959 5808 , คุณป๋อ 087-838 0195

ค่าบริการเหมารถขึ้นภูลมโล 

คันละ 800 บาท นั่งได้ 10 คน สามารถจอยกลุ่มกันได้

แต่ถ้าต้องการเข้าไปถึงภูขี้เถ้า คันละ 1200 บาท

จุดที่ไกด์ท่องถิ่นพาไปชม

1.จุดชมวิวป้ายภูลมโล ชมวิวทุ่งพญาเสือโคร่ง

2.ทุ่งพญาเสือโคร่ง แปลงในหุบเขา

3.จุดชมวิวยืนจุดเดียว 3 จังหวัด

4.ทุ่งพญาเสือโคร่ง แปลงบนเนินเขา

5.จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ชมวิวทุ่งพญาเสือโคร่ง

6.ทุ่งดอกกระดาษ

ไม่อนุญาตให้กางเต้นท์ เพื่อความสะอาดเรียบร้อยครับ

 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านร่องกล้า เป็นอาคารเล็กๆ ที่เราจะเห็นได้ก่อนใครหลังจากข้ามสะพานเข้ามาในหมู่บ้านร่องกล้า ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ด้านขวามือบนเนินมีลานจอดรถให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปชมพญาเสือโคร่งบนภูลมโล ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้บริการรถนำเที่ยวของชาวบ้าน (ในกรณีที่เราเอารถเก๋งมา) หมู่บ้านร่องกล้าเป็นชุมชนที่ประกอบไปด้วยชาวม้งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และมีการปลูกกะหล่ำเป็นจำนวนมากบนภูเขา บ้านร่องกล้าอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าประมาณ 6 กิโลเมตร หากมาทางอำเภอนครไทยให้ตรงไปทางบ้านทับเบิก จะเห็นสามแยกบ้านร่องกล้า ก่อนถึงบ้านทับเบิก 25 กิโลเมตร

 ท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านร่องกล้า ก่อนที่เราจะขึ้นไปบนภูลมโล อาจจะลองขับรถชมบริเวณหมู่บ้านดูสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ก่อน ซึ่งก็จะมีสถานที่กางเต็นท์พักแรมบนเนินเขาที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ของบ้านร่องกล้า มีพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยปลูกไว้เป็นแนวหลายต้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากเดินทางสู่ยอดภูลมโล หรืออาจจะมีปัญหาด้านสุขภาพไม่เหมาะกับการเดินทางบนเส้นทางลูกรังขึ้นภูลมโลก็สามารถรับบรรยากาศลมหนาวท่ามกลางพญาเสือโคร่งภายในหมู่บ้านได้ สถานที่นี้ก็คือลานกางเต็นท์พักแรมและจุดชมวิวของศูนย์เรียนรู้และสวัสดิการสังคม หน่วยพัฒนาสังคมบ้านร่องกล้า ชมวิถีชีวิตเกษตรกรรมไร่กะหล่ำ และการอนุรักษ์เครื่องแต่งกายประจำเผ่าของชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านร่องกล้าแห่งนี้ ลานกางเต็นท์พักแรมที่นี่มีร้านค้าบริการ มีห้องน้ำรองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก

 พญาเสือโคร่งบ้านร่องกล้า ด้วยการส่งเสริมให้ทุ่งพญาเสือโคร่งบนยอดภูลมโลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างจริงจัง จึงได้มีการปลูกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยไว้ในบริเวณหมู่บ้านหลายต้น เรียงกันตามข้างทางพญาเสือโคร่งที่บ้านร่องกล้ามักจะบานหลังปีใหม่เป็นประจำทุกปี แต่นักท่องเที่ยวก็เดินทางมาเที่ยวชมและค้างแรมที่บ้านร่องกล้าตั้งแต่ปลายฝน เพื่อพักผ่อนและท่องเที่ยวสถานที่อื่นๆ อย่างเช่นน้ำตกหมันแดง และสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อย่างลานหินปุ่ม ลานหินแตก ผาชูธง โรงเรียนการเมือง ในหมู่บ้านร่องกล้ามีหลายหลังคาเรือนที่เปิดให้เป็นที่พักแรมแบบโฮมสเตย์ และมีนักท่องเที่ยวมาพักจนเต็มโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล วันหยุดนักขัตฤกษ์ ได้แก่วันพ่อแห่งชาติ และช่วงปีใหม่ ที่พักในหมู่บ้านร่องกล้า โฮมสเตย์บ้านลุมหมัก โทร. (ลุงหมํก) 087-3142235, (จ่าหรอย) 081-4747825, (แจ๊ค) 088-1655854 บ้านใหม่ร่องกล้าฮิลล์ โทร. 081-3469097, 084-8220206 หรือสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านร่องกล้า โทร. 087-8380195

 เส้นทางสู่ยอดภูลมโล นี่เป็นตัวอย่างเส้นทางบางส่วนของถนนลูกรังที่จะพาเราขึ้นสู่ยอดภูลมโล เหตุผลหลักที่เราจะต้องจอดรถไว้ข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านร่องกล้าแล้วติดต่อหารถบริการซึ่งเป็นรถกระบะของชาวบ้าน ระยะทางจากบ้านร่องกล้าไปเป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร

 ภูสวรรค์ เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาตามเส้นทางขึ้นสู่ภูลมโล ภูสวรรค์อยู่ห่างจากหมู่บ้านร่องกล้าประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวจุดแรกที่เราพบบนเส้นทางสายนี้ ทิวทัศน์รอบๆ เป็นวิวที่สวยงามเหมาะแก่ชมวิวกว้างๆ โดยมีลานกว้างๆ รอบๆ หินขนาดใหญ่ มีห้องน้ำที่สร้างแบบเรียบง่ายไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว ลานหินเต็มไปด้วยพญาเสือโคร่งหรือซากุระสีชมพู หากมาในช่วงที่พญาเสือโคร่งแปลงนี้บานสะพรั่งจะนับว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยเลยทีเดียว

 ชมวิวสวยภูสวรรค์ บริเวณภูสวรรค์มองลงไปเบื้องล่างจะเป็นหมู่บ้านหมันขาว บริเวณที่เรายืนอยู่นี้เป็นรอยต่อของ 3 จังหวัดได้แก่ เลย เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ด้านหลังตามเส้นทางที่เราเพิ่งจะผ่านมาในภาพล่างซ้ายเป็นทุ่งพญาเสือโคร่งขนาดใหญ่ เป็นแปลงแรกที่เราได้พบบนเส้นทางภูลมโลนี้ 

 เส้นทางสู่ภูลมโล หลังจากภูสวรรค์อันเป็นจุดแรกบนเส้นทางท่องเที่ยวภูลมโล เรายังต้องเดินทางต่อไปตามเส้นทางเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นถนนดินมีร่องของล้อรถผ่านอยู่บ่อยๆ เพราะชาวบ้านบริเวณนี้ส่วนหนึ่งประกอบอาชีพเลี้ยงวัว และต้องเดินทางขึ้นลงตามเส้นทางนี้ทุกวันเพื่อดูวัวที่ตัวเองเลี้ยงไว้บนเขา เนื่องจากพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย เกิดขึ้นโดยการปลูกของชาวบ้าน มีการแบ่งเป็นแปลงๆ แต่ละแปลงอยู่ห่างกัน 300 เมตร บ้าง 500 เมตรบ้าง จำนวนหลายแปลง ตลอดระยะทางรวมเกือบๆ 5 กิโลเมตร (นับจากแปลงแรกที่บริเวณภูสวรรค์ ห่างจากหมู่บ้าน 3 กิโลเมตร ไปจนถึงแปลงสุดท้าย ห่างจากหมู่บ้าน 8 กิโลเมตร) ข้อดีของการเดินทางมาชมพญาเสือโคร่งที่ภูลมโลก็คือ แต่ละแปลงมีโอกาสที่จะบานไม่พร้อมกัน ทำให้เรามีเวลาในการมาเที่ยวที่นี่ได้นานกว่าที่อื่นๆ แต่ถ้าทุกแปลงบานพร้อมกันจริงๆ ก็คงจะเป็นภูเขาที่สวยงามมาก

 ทุ่งพญาเสือโคร่งภูลมโล จากเนินจุดชมวิว เราเข้าไปที่แปลงซากุระ เพื่อชมความงามกันใกล้ๆ

 ซากุระภูลมโล ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงแปลงสุดท้ายของทุ่งพญาเสือโคร่งที่ชาวบ้านบอกว่ายังคงมีดอกผลิบานอยู่จำนวนมาก จากจุดนี้เข้าไปอีกไม่กี่ร้อยแมตรก็จะเป็นที่จอดรถที่เหมาะๆ ใกล้ๆ ทุ่งพญาเสือโคร่งแล้วจากนั้นก็เป็นการเดินเท้าชมดอกซากุระ

 ซากุระภูลมโล พญาเสือโคร่งสะพรั่งสวยงามทั่วทุ่ง มากพอที่เราจะเก็บภาพประทับใจสวยๆ จากภูลมโลแห่งนี้ จากจุดเริ่มต้นในหมู่บ้านมายังที่นี่ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งพักชมวิวระหว่างทางก็ประมาณ 1 ชั่วโมง

 ทุ่งพญาเสือโคร่งภูลมโล หลังจากที่หาที่ร่มๆ จอดรถได้แล้วคราวนี้ก็เดินเข้าไปกลางทุ่งพญาเสือโคร่งหรือซากุระที่เราดั้นด้นมาหา

 วิวสวยๆ จากภูลมโล 

 วิวสวยๆ จากภูลมโล บริเวณแปลงพญาเสือโคร่งหลายๆ แปลงเป็นพื้นที่ลาดเชิงเขา เมื่อมองลงไปตามแนวพญาเสือโคร่งที่ปลูกเป็นเส้นตรงจะมองเห็นดอกพญาเสือโคร่งบานเป็นทางลงไป โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาที่ชาวบ้านทำเกษตรกรรมเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม พญาเสือโคร่งที่นี่มีอายุเพียงไม่กี่ปี ทำให้ยังเป็นต้นไม่สูงมากนัก หากจะเทียบความสวยงามของซากุระจากสถานที่อื่นๆ อันมีต้นพญาเสือโคร่งอายุนับสิบๆ ปี มีดอกดกบานสะพรั่งทั้งต้นสวยงามเต็มท้องฟ้าเมื่อยามที่เรายืนอยู่ใต้ต้นพญาเสือโคร่ง ที่ภูลมโลก็คงจะเทียบไม่ได้ แต่ถ้าหากมองในแง่ของวิวสวยๆ ของซากุระกว้างขวางเต็มขุนเขา ที่นี่ย่อมไม่แพ้ใคร อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ภูลมโลอาจจะถูกจัดว่าเป็นสถานที่ชมซากุระเมืองไทยที่สวยที่สุดก็อาจจะเป็นได้

 พญาเสือโคร่งภูลมโล อีกภาพของแนวต้นพญาเสือโคร่งที่เรียงกันเป็นแถวเต็มพื้นที่ในแปลงปลูก จนถูกเรียกว่า ทุ่งพญาเสือโคร่ง

 พญาเสือโคร่ง (ซากุระเมืองไทย) เมื่อชมทุ่งพญาเสือโคร่งหรือทุ่งซากุระที่เต็มไปด้วยสีชมพูบานสะพรั่งทั่วขุนเขากันมามากพอแล้ว ต่อจากนี้ไปจะเอาภาพแบบดอกเดี่ยวๆ หรือเป็นช่อๆ ของพญาเสือโคร่งสวยๆ มาให้ชมกันหลายๆ ภาพครับ

 พญาเสือโคร่งบนภูลมโล 

 พญาเสือโคร่งบนภูลมโล 

 พญาเสือโคร่งบนภูลมโล 

 เดินทางกลับหมู่บ้านร่องกล้า หลังจากเก็บภาพกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับหมู่บ้าน เป็นที่น่าเสียดายนิดหน่อยที่การเดินทางมายังภูลมโล ของเราในวันนี้มาช้ากว่าช่วงบานสะพรั่งไปเพียงไม่กี่วัน และยังมีฝนตกลงมาติดต่อกัน 2 วันจนดอกพญาเสือโคร่งที่มีอายุยังไม่มากร่วงโรยหมดไปจนเกือบไม่เหลือให้เห็น แต่ที่ยังเหลืออยู่ของแปลงสุดท้ายก็สร้างความประทับใจให้เราได้ไม่น้อย ในวันเดียวกันกับเราก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมซากุระที่นี่ไม่ขาดสาย อีกเพียงไม่นานเราก็จะได้ชมพญาเสือโคร่งที่เติบใหญ่เป็นต้นโตเต็มที่ที่ภูลมโล สถานที่ชมพญาเสือโคร่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย การเดินทางกลับเข้าหมู่บ้านร่องกล้า ชาวบ้านที่ขับรถพาเรามาเที่ยวเลือกที่จะใช้อีกเส้นทางหนึ่งจากภูลมโลลงไปยังหมู่บ้านเพื่อให้เราได้ขมวิวที่ไม่ซ้ำกับขาขึ้นมา เส้นทางใหม่ที่ลุงเลือกเป็นชากลับนี้ไกลกว่าเส้นทางขามาค่อนข้างมาก แต่วิวทิวทัศน์ก็สวยไม่แพ้กันเลยทีเดียว

 ฝูงวัวบนภูลมโล ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงเลี้ยงไว้บนภูเขา มีคอกแบบธรรมชาติให้เห็นอยู่ข้างทาง เช้าปล่อยวัวออกหากินเย็นก็ต้อนกลับเข้าคอกซึ่งอยู่บนเขา ไม่ต้องต้อนกันขึ้นๆ ลงๆ ภูเขาซึ่งคงจะทำให้เหนื่อยไม่น้อย แต่วิธีการนี้ก็ทำลายต้นพญาเสือโคร่งที่ปลูกไว้เป็นจำนวนมาก เราจะเห็นต้นพญาเสือโคร่งที่หักโค่นลงจนตายมากมายในทุ่งพญาเสือโคร่งแต่ละแปลง ทางผู้บริหารจัดการการท่องเที่ยวภูลมโล องค์การบริหารส่วนตำบลกกสะทอน ก็พยายามที่จะแก้ปัญหานี้อยู่ครับ

 ทุ่งพญาเสือโคร่งภูลมโล ช่วงหนึ่งของเส้นทางกลับหมู่บ้านร่องกล้าจะมีช่วงหนึ่งที่จะมองเห็นภูลมโลแต่ไกลๆ ลองใช้กล้องซูมเข้าไปให้มากที่สุดก็จะเห็นพุ่มไม้สีชมพูหลายๆ พุ่มอยู่ในบริเวณเดียวกันเป็นจำนวนมาก ทุ่งพญาเสือโคร่งหรือซากุระที่เห็นเป็นทุ่งที่เราเพิ่งจะเดินเข้าไปเก็บภาพสวยๆ มานั่นเอง

 ทุ่งดอกกระดาษ บางพื้นที่ของภูเขาที่ชาวม้งดำรงชีวิตอยู่ มีการปลูกดอกกระดาษเพื่อตัดไปขายให้แก่นักท่องเที่ยว ดอกกระดาษเหล่านี้จะถูกปลูกขึ้นเป็นทุ่งใหญ่ใกล้พื้นที่เพาะปลูกกะหล่ำ เมื่อตัดออกมาแล้วชาวบ้านจะนำมามัดเป็นช่อใหญ่ๆ ขายในราคาเพียง 20 บาท เราจะเห็นได้ที่ด่านตรวจทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ทางอำเภอนครไทย และร้านค้าที่ทางเข้าลานหินแตก

 ทุ่งดอกกระดาษ 

 ชมวิวหมู่บ้านร่องกล้า ทุงดอกกระดาษ จุดชมวิว ณ ทุ่งดอกกระดาษ เป็นภาพสุดท้ายที่เก็บมาระหว่างการเดินทางกลับหมู่บ้านร่องกล้า  ตามเส้นทางชมทุ่งซากุระผลิบานเต็มขุนเขา ภูลมโล แห่งนี้ โอกาสหน้าเราจะเตรียมตัวให้พร้อมมากกว่านี้เพื่อที่จะไปชมพญาเสือโคร่งบานพร้อมกันนับ 1,000 ไร่ แล้วจะมาอัพเดตกันใหม่ครับ