ภูลมโล 59

กลับมาอีกครั้งกับดินแดนสีชมพูที่ภูลมโล สถานที่แห่งนี้เรามาหลายครั้งหลายคราว แต่คราวนี้พิเศษกว่าครั้งก่อนๆ เพราะเรามาในงานเทศกาลหนาวลมห่มฟ้าริมผาสีชมพู ที่ภูลมโล เป็นเทศกาลเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภูลมโลประจำปี 2559 เป็นวันพิเศษวันเดียวในรอบปีที่อุทยานภูหินร่องกล้าเปิดให้นักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนผ่านเฟสบุคจำนวน 200 คน มีโอกาสได้สัมผัสลมหนาวอย่างใกล้ชิดกับดอกพญาเสือโคร่งกว่าใครๆ คือได้นอนกางเต็นท์บนภูลมโลใต้ต้นพญาเสือโคร่งที่กำลังออกดอกเบ่งบานสีชมพูสะพรั่งไปทั้งขุนเขา

นอกจากจะได้สิทธิ์พิเศษกว่าใครๆ ในเรื่องการนอนกางเต็นท์บนนี้แล้ว ยังมีกิจกรรมพิเศษมากมาย มีอาหารเครื่องดื่ม ดนตรีบรรเลง พร้อมการแสดงน่ารักๆ ของเด็กชาวดอยให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ประทับใจไปอีกนาน ค่ำคืนที่หนาวเย็นของวันนี้กับพญาเสือโคร่งสมญาซากุระเมืองไทยจะอยู่ในความทรงจำของเราไปอีกนาน

ติดต่อเข้าชมภูลมโล เข้าชมได้ 2 เส้นทาง

1.ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านร่องกล้า จ.พิษณุโลก

ติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยว กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านร่องกล้า

คุณเน้ง 089-959 5808 , คุณป๋อ 087-838 0195

ค่าบริการเหมารถขึ้นภูลมโล

คันละ 800 บาท นั่งได้ 10 คน สามารถจอยกลุ่มกันได้

แต่ถ้าต้องการเข้าไปถึงภูขี้เถ้า คันละ 1200 บาท

จุดที่ไกด์ท่องถิ่นพาไปชม

1.จุดชมวิวป้ายภูลมโล ชมวิวทุ่งพญาเสือโคร่ง

2.ทุ่งพญาเสือโคร่ง แปลงในหุบเขา

3.จุดชมวิวยืนจุดเดียว 3 จังหวัด

4.ทุ่งพญาเสือโคร่ง แปลงบนเนินเขา

5.จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ชมวิวทุ่งพญาเสือโคร่ง

6.ทุ่งดอกกระดาษ

2. ชมรมท่องเที่ยวภูลมโลโดย อบต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย โทร. 085 7372785 คุณโสภณ

ไม่อนุญาตให้กางเต้นท์ เพื่อความสะอาดเรียบร้อยครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม:อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร. 0 5523 3527
ททท.พิษณุโลก โทร.0 5525 2742-3, 0 5525 9907, 0 5523 1063
http://www.tourismthailand.org/phitsanulok

แก้ไขล่าสุด 2017-02-12 03:13:26 ผู้ชม 18994

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

จุดชมวิวภูลมโล วันนี้เป็นวันพิเศษ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจัดกิจกรรมเทศกาลเปิดฤดูท่องเที่ยวภูลมโล ในชื่อหนาวลมห่มฟ้า ริมผาสีชมพู @ภูลมโล เป็นวันเดียวในรอบ 1 ปี ที่จะเปิดให้คนมานอนกางเต็นท์ชมดอกพญาเสือโคร่งกับลมหนาวอย่างสุดยอดบรรยากาศ คนจะขึ้นมาได้ต้องมีรายชื่อเป็นคนที่ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมเท่านั้น และนอกจากวันนี้จะไม่อนุญาตให้กางเต็นท์โดยเด็ดขาด ดังนั้นเราจึงขึ้นมาบนภูลมโลในช่วงบ่ายเที่ยวไปรอบๆ ก่อนที่จะเข้าที่พักในเต็นท์ที่เราได้รายชื่อเป็นผู้จองเอาไว้โดยความช่วยเหลือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานพิษณุโลก พอมีเวลาเหลือสำหรับวันนี้เลยมาเที่ยวที่จุดชมวิวแล้วก็ถ่ายรูปตามแปลงซากุระไปพลางๆ ก่อนงานจะเริ่ม

ดงพญาเสือโคร่งใหญ่สุดในประเทศไทย ที่จุดชมวิวบนเขาสูงของภูลมโลมองลงไปข้างล่างเราจะเห็นแปลงพญาเสือโคร่งที่เบ่งบานออกดอกสีชมพูจนเป็นสีชมพูไปทั่วทั้งเขา คนมาเที่ยววันนี้มีไม่น้อยแค่มีข่าวออกมาว่าพญาเสือโคร่งบานแล้วเท่านั้นแหละ ดูเหมือนหลายคนเฝ้ารอคอยวันนี้มานานบนภูลมโลมีรถขึ้นมาเยอะมาก จนต้องมีการห้ามไม่ให้รถเก๋งขึ้นมาแต่ก็มีหลายคนเอาขึ้นมาจนได้แล้วก็ทำให้รถติดอยู่บนเขา แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เราใช้วิธีง่ายๆ เช่ารถขึ้นมาตั้งแต่ตอนบ่ายแล้วรถจะพาเที่ยวนิดหน่อยก่อนจะลงไปแล้วขึ้นมารับเราอีกครั้งในตอนเช้า เท่านี้ก็ฟินแล้วไม่เสี่ยงรถพังด้วย เหมารถแบบนี้ราคาประมาณ 1200 (ถ้าปกติจะขึ้นเช้าลงเย็น เพราะไม่ให้กางเต็นท์ข้างบน)

พระเจดีย์วัดทับเบิก จากจุดชมวิวของภูลมโลนอกจากจะมองลงไปเห็นหมู่บ้านหมันขาวด้านล่าง บนยอดเขาที่อยู่ตรงข้ามกับเราก็จะเห็นเจดีย์องค์ใหญ่ที่กำลังสร้างเป็นเจดีย์วัดทับเบิกของภูทับเบิกนั่นเอง อากาศวันนี้หนาวมากมีทะเลหมอกล้อมภูทับเบิกมองจากภูลมโลเห็นแต่หมอกที่ลอยสูงขึ้นมาท่วมเจดีย์ของวัด

แสงเย็นบนภูลมโล ภาพหนึ่งที่หาชมยากคือแสงยามเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก ส่วนใหญ่เวลาเหมารถขึ้นมาเที่ยวรถจำกำหนดเวลาลงจากเขาประมาณ 5 โมงเย็น ยังไม่ได้เวลาที่จะได้เห็นแสงนี้ แต่เฉพาะวันพิเศษวันนี้เราจะได้เห็นพระอาทิตย์ค่อยๆ คล้อยลงอย่างสวยงาม ยามเย็นนี้ถ่ายดอกพญาเสือโคร่งไม่ค่อยสวย เราเลยเปลี่ยนความคิดมองหาจุดที่จะชมพระอาทิตย์ตกที่หาดูยากนี้ ด้วยการออกจากดงพญาเสือโคร่งไปที่จุดชมวิว

พระอาทิตย์ตกที่ภูลมโล กลับมานั่งที่จุดชมวิวทันอย่างฉิวเฉียด แสงอาทิตย์สีชมพูเข้ากับภูลมโลที่กำลังมีพญาเสือโคร่งเบ่งบาน เราถือว่าวันนี้เป็นวันที่โชคดีสุดติ่งกระดิ่งแมวเลยละ

หนาวลมห่มฟ้า ริมผาสีชมพู ที่ภูลมโล เมื่อสิ้นแสงอาทิตย์บนจุดชมวิว เราต้องรีบเดินทางกลับลงมาที่ลานกางเต็นท์ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภูลมโลอย่างเป็นทางการ ในงานนี้ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ประชาสัมพันธ์จังหวัด และแขกผู้มีเกียรติอีกหลายท่านเข้าร่วมเปิดงาน เราเอาผ้าใบผืนใหญ่มาปูนั่งฟังเพลง คนเริ่มหลั่งไหลมารวมกันที่เวที มีกองฟางให้นั่งฟังเพลงเพราะๆ มีอาหารบริการ สุดยอดบรรยากาศเกินบรรยาย

การแสดงของเด็กชาวเขา ช่วงการเปิดงานเด็กๆ ชาวเขาเตรียมการแสดงเต้นน่ารักๆ มาให้เราได้ชมกัน หลังจากนั้นมีดนตรีบรรเลงเพลงมากมายต่อเนื่องยาวไป หลายชั่วโมง อาหารก็ทยอยออกมาคนมาเที่ยวเยอะมากจนคนทำอาหารทำไม่ทัน ต่อคิวกันยาวเฟื้อยกว่าจะได้กิน แต่ทุกคนก็ยังคงมีรอยยิ้มและความสุขกับงานนี้ หลายคนมาตั้งแต่ปีที่แล้วพอจัดเป็นปีที่ 2 ก็ยังคงจองลงทะเบียนมาอีกและคงจะมาอีกทุกปี ฉะนั้นแล้วปีหน้าถ้าอยากฟินแบบนี้ต้องติดตามเพจเฟสบุคของอุทยานให้ดีๆ นะครับ

รุ่งเช้าที่ภูลมโล ค่ำคืนอันหนาวเย็นที่อุณหภูมิ 6 องศา ได้ผ่านพ้นไปเรานอนในเต็นท์ที่อุทยานเตรียมไว้ให้ หลังจากที่ฟังเพลงอยู่จน 4 ทุ่ม โดยประมาณ ตอนตี 5 เราตกลงกันว่าจะเดินทางจากลานกางเต็นท์ไปที่จุดชมวิว แต่พอเดินมาตรงระเบียงที่ใกล้ๆ เวทีจัดงานเห็นแสงสีส้มกำลังโผล่ขึ้นมากับแนวต้นพญาเสือโคร่งตรงหน้าคิดว่าอยู่ตรงนี้น่าจะดีกว่า เลยเอาขาตั้งกล้องมาตั้งรอตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ดาวมากมายก่อนหน้านี้เริ่มหายไปจากท้องฟ้าด้วยแสงสว่างที่กำลังขึ้นมาทดแทนในทิศตะวันออก มองไปตรงทางขึ้นจุดชมวิวเห็นรถกำลังวิ่งขึ้นไปไม่ขาดสาย ไฟหน้าของรถพุ่งเป็นเส้นทางยาวขึ้นไปบนเนินเขาตลอดเวลา

วิวสวยแห่งภูลมโล เป็นอีกภาพประทับใจสุดๆ จากทริปนี้ เป็นภาพหายากแห่งปีเพราะโอกาสที่จะได้ถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นบนภูลมโลแบบนี้จะมีเพียงวันนี้เท่านั้น ด้วยการจัดการที่ดีของอุทยานและชาวบ้านร่องกล้า เช้าขึ้นมาวันนี้เราแทบไม่เห็นขยะที่น่าจะถูกทิ้งเกลื่อนอยู่บริเวณหน้าเวทีเมื่อคืนนี้ รอบๆ บริเวณยังคงดูสะอาดเหมือนก่อนที่จะมีคนขึ้นมา หลายคนตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นจุดเดียวกับเรา กว่าฟ้าจะสางเวลาก็ผ่านไปนานทีเดียวแต่ก็คุ้มค่าของการรอคอย ท้องฟ้าเป็นสีส้มกว้างตลอดแนวเส้นขอบฟ้า ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น แสงสว่างที่เริ่มเปิดให้ดงพญาเสือโคร่งข้างหน้าเราสว่างขึ้นมาทำให้เรารู้ว่าเป็นความคิดที่ถูกแล้วที่เรารอดูอยู่ตรงนี้แทนที่จะไปจุดชมวิว

บรรยากาศการกางเต็นท์ภูลมโล ย้ำอีกครั้งว่าภูลมโลห้ามกางเต็นท์ ที่เราเห็นกางเต็นท์ในภาพนี้เป็นวันเทศกาลหนาวลมห่มฟ้า ริมผาสีชมพู ที่ภูลมโล วันเดียวเท่านั้น ไม่ต้องมาถามกันอีกนะครับ ถ้าอยากไปต้องลงทะเบียนกับทางอุทยานผ่านเฟสบุคเท่านั้นจำกัด 200 คนครับ เต็นท์ที่ทางอุทยานจัดไว้ให้ เราไม่ต้องเตรียมไป จัดไว้กลางดงพญาเสือโคร่งให้ฟินอย่างจุใจเลยทีเดียว

พญาเสือโคร่ง ภูลมโล 59 พอแสงแดดเริ่มสว่างจ้า เราก็ออกเดินทางจากบริเวณลานกางเต็นท์ ขึ้นไปเที่ยวชมพญาเสือโคร่งหรือซากุระบ้านเรา ความใหญ่โตของดงพญาเสือโคร่งที่ชาวบ้านช่วยกันปลูกเมื่อประมาณปี 50 ขนาดกว่า 1000 ไร่ แบ่งออกเป็น 8 แปลงใหญ่ๆ อยู่ห่างกันพอสมควร คือว่าควรจะเช่ารถเอาอย่าเดินเลยมันไกลเกินไป แต่ละแปลงจะบานไม่พร้อมกันตามกลไกของธรรมชาติ ดอกพญาเสือโคร่งที่อยู่ตรงบริเวณที่หนาวเย็นกว่าจะบานก่อน แล้วค่อยไล่ลำดับกันไป ทำให้มีพญาเสือโคร่งให้คนมาเที่ยวได้นานกว่าที่อื่นใดในเมืองไทย คือประมาณ วันเด็กไปเรื่อยๆ จนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์เลยทีเดียว ดอกพญาเสือโคร่งมีลักษณะเหมือนกันหมดทุกต้น เราเลยเลือกที่จะมาที่แปลงที่ 2 แปลงเดียวเพื่อเก็บภาพทั้งที่มีอีกหลายแปลงที่เบ่งบานทั่วภูลมโล (แค่แปลงเดียวก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงละครับ)

อุโมงค์พญาเสือโคร่ง บริเวณแปลงที่ 2 จะมีพื้นที่ต้นพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่แบ่งเป็น 2 ฝั่งมีถนนตัดตรงกลาง ถ้าหามุมยืนถ่ายดีๆ เราจะเห็นเหมือนว่าถนนสายนี้เป็นอุโมงค์พญาเสือโคร่งเลย

แน่นอนว่าเมื่อมีดอกไม้สวยๆ ขึ้นมากมายการถ่ายรูปทั้งรูปวิวรูปเซลฟี่ไปจนถึงพรีเวดดิ้งก็ต้องมีเป็นธรรมดา คนมาเที่ยวกันเยอะคนถ่ายรูปก็ต้องหามุมหลบไปเรื่อยแบ่งๆ กันไป

ภูลมโล พอถ่ายรูปในแปลงพญาเสือโคร่งแปลงที่ 2 เสร็จแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาอันสมควรที่จะเดินทางลงไปเที่ยวที่อื่นกันต่อ เพราะไปแปลงอื่นก็คงจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ เรามาตรงจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งของภูลมโลเป็นทางที่เราจะลงจากเขา เมื่อเช้าเราเห็นรถวิ่งขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเป็นทางยาวก็คือตรงนี้แหละ มองย้อนกลับไปจะเห็นจุดที่มีงานเทศกาลเมื่อคืน และลานกางเต็นท์ที่ยาวมากๆ ห้อมล้อมไปด้วยแปลงซากุระหรือพญาเสือโคร่งขนาดใหญ่ สมกับชื่องาน หนาวลมห่มฟ้าริมผาสีชมพู จริงๆ

ตลาดนัดเด็กดอย ลงจากภูลมโล โหยบอกเลยฝุ่นเต็มตัวไปหมด ผมเหนียวเลย เสื้อผ้าก็แดง พอมาถึงไม่เป็นอันทำอะไรปัดฝุ่นออกจากตัวให้หมดก่อน เอากระเป๋าลงจากรถกระบะย้ายไปเก็บรถตู้ แล้วไปเดินตลาดอุดหนุนเด็กๆ ชาวดอยกันที่ตลาดเด็กดอยนี่แหละ อยู่ข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบ้านร่องกล้าที่เราติดต่อรถกระบะนั่นเอง

ตลาดนัดเด็กดอย พอเดินเข้ามาในตลาดก็มีร้านขายของเรียงกันอยู่ 2 ด้านเว้นทางเดินตรงกลาง สภาพของตลาดสมชื่อตลาดเด็กดอย พ่อค้าแม่ค้าที่มานั่งขายส่วนใหญ่เป็นเด็กชาวเขาตัวน้อยๆ ของที่เอามาวางขายก็เป็นของจากท้องถิ่น เป็นผักต่างๆ และก็มีของที่ระลึก และดอกกระดาษ พ่อค้าแม่ค้าหลายคนนั่งทำการบ้านไปด้วยขายของไปด้วยน่ารักมากๆ

ปิดท้ายการเดินทางเที่ยวภูลมโลของเราเอาไว้เท่านี้ ปีหน้าเราคงได้ขึ้นมารายงานสถานการณ์สดๆ กันอีกครั้ง ไว้ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวภูลมโลขากลับอย่าลืมอุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าตัวน้อยๆ ในตลาดนัดเด็กดอยกันนะครับ