ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.เชียงใหม่ 0 5324 8604, 0 5324 8607, 0 5324 8605
http://www.tourismthailand.org/chiangmai
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ทางแยกวัดจอมคีรีสู่ป่าเกี๊ยะ จากตัวเมืองเชียงใหม่เดินทางด้วยทางหลวงหมายเลข 107 ไปตามเส้นทางสู่อำเภอเชียงดาว หรือวัดถ้ำเชียงดาว ถึงบ้านแม่นะประมาณ 60 กิโลเมตร สังเกตุป้ายพระพิฆเณศซ้ายมือ จะมีป้ายบอกทางไปวัดจอมคีรีเมื่อถึงแยกวัดจอมคีรีจะมีป้ายบอกทางขึ้นหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน จากตรงนี้ไปยังหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมานระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร เป็นทางลาดชันขึ้นเขา ทางลูกรังขรุขระมีหลุมมาก แนะนำให้ใช้รถกระบะ แต่ในฤดูฝนคงต้องเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ในฤดูแล้งรถเก๋งก็พอจะเดินทางขึ้นไปได้แต่ต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก ปกคิก็ประมาณ 1 ชั่วโมง - 1 ชั่วโมงครึ่ง ช่วงแรกทางเป็นถนนคอนกรีตผ่านหมู่บ้านเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร
ด่านตรวจสัตว์ป่าจอมคีรี ขึ้นเขามาได้สักพักจะมีด่านตรวจก่อนขึ้นและลงเขา มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่มีลานพอที่จะจอดรถได้และมองเห็นวิวหมู่บ้านจอมคีรีเบื้องล่าง
ชมวิวจอมคีรี ด่านตรวจสัตว์จอมคีรีมองเห็นทิวทัศน์ทุ่งนากว้างขวางของชาวบ้าน ในบางวันมีหมอกขาวสวยงามช่วงพระอาทิตย์กำลังเคลื่อนตัวขึ้นสูง
ครึ่งทางแม่ตะมาน การเดินทางผ่านถนนลูกรัง 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเกือบ 50 นาที ผ่านหมู่บ้านชาวเขาซึ่งมีอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน มีโรงไฟฟ้าสำหรับผลิตไฟฟ้าใช้ในชุมชนขนาดเล็กๆ ชาวเขาที่นี่มีไฟฟ้าใช้ ที่พอจะมองเห็นเครื่องใช้ไฟฟ้าตั้งอยู่นอกตัวบ้านก็มีตู้เย็น และบางหลังก็มีทีวีดูด้วย
พญาเสือโคร่ง (ซากุระ) ผ่านจุดครึ่งทางสู่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมานมาได้สักพักจะมีหมู่บ้านอีกกลุ่มหนึ่ง มีต้นพญาเสือโคร่งขึ้นประปรายกระจายอยู่ในหมู่บ้าน พอให้ได้แวะชมระหว่างการเดินทางอันยาวนานได้
ทางแยกเด่นหญ้าขัด ชื่อ เด่นหญ้าขัด บางคนก็ไม่รู้จัก แต่หลายๆ คนที่เคยเดินป่าพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาวมาแล้วจะรู้จักชื่อเด่นหญ้าขัดเป็นอย่างดี เพราะเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินเท้าขึ้นพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาวอันยิ่งใหญ่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย โดยมีทางขึ้นที่ปางวัวอีกทางหนึ่ง ปกติปางวัวเป็นเส้นทางที่นิยมกันมากกว่า โดยเดินทางไปติดต่อคนนำทางได้ที่วัดถ้ำเชียงดาว ดูรายละเอียดท่องเที่ยวดอยหลวงเชียงดาวได้ที่ ดอยหลวงเชียงดาว (แนะนำว่าควรคลิกดูครับรูปสวยมาก)
เส้นทางถนนลูกรังสู่แม่ตะมาน ตัวอย่างของถนนที่เป็นถนนลาดยางบางๆ แต่ชำรุดเป็นหลุมจำนวนมากมายมาให้ชมเพียงสั้นๆ เส้นทางสายนี้ช่วงที่เป็นลูกรังบางช่วงมีหลุมและร่องลึกอันเกิดจากทางน้ำไหลผ่านถนน และรอยล้อรถที่เดินทางมาในช่วงฤดูฝน
ใกล้ถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน เดินทางขึ้นเขามาเรื่อยๆ ได้ระยะทางโดยประมาณ 19 กิโลเมตร จะรู้สึกได้ว่าสภาพป่าบริเวณนี้เปลี่ยนไป มีลักษณะของต้นไม้ที่ขึ้นอยู่มากมายต่างจากป่าในช่วงที่ผ่านมา ต้นไม้บริเวณนี้ขึ้นหนาแน่น ลำต้นใหญ่ มีหลายต้นที่ผลัดเปลือกของลำต้นลอกออกมาเป็นแผ่นๆ ดูแปลกตา
ต้นไม้ลอกคราบ
หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ในที่สุดเราก็มาถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน แต่ที่นี่ไม่ใช้เป้าหมายของการเดินทางของเราในวันนี้ เพราะสถานที่ที่เราจะไปคือสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว ซึ่งต้องไปต่ออีกประมาณ 500 เมตร
หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ไหนๆ ก็ผ่านมาทางนี้แล้วลองขึ้นไปชมวิวที่ระเบียงชมวิวของหน่วยฯ ดูกันครับ บริเวณนี้ถ้ามองไปด้านตรงข้ามกับดอยหลวงเชียงดาวก็จะเห็นวิวเทือกเขากว้างไกล อาจจะมีทะเลหมอกให้ชมกันในบางวันด้วยครับ
ชมวิวแม่ตะมาน เสียดายที่วันนี้ฟ้าปิด เมฆมากมองเห็นวิวไม่ค่อยสวย ต้องหาโอกาสดีๆ มาชมวิวกันใหม่ ด้านล่างใกล้ๆ กับขอบระเบียงของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน จะมีต้นพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยเรียงรายอยู่หลายต้น แต่น่าเสียดายที่โรยไปหมดแล้ว เป็นสิ่งที่ทำให้เราใจเสียได้มากเหมือนกันเพราะเหตุผลที่เราเดินทางมายังสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว ก็เพื่อถ่ายรูปดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่งโดยมีฉากหลังเป็นดอยหลวงเชียงดาวนั่นเอง แต่ก็ยังมีอีกหลายต้นมีดอกบานสวยอยู่ด้านหน้า
พญาเสือโคร่งแม่ตะมาน ด้านหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน มีการเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชบางชนิด มีต้นพญาเสือโคร่งริมทางระหว่างทางไปสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว ต้นนี้ที่มีดอกมากอยู่เป็นกำลังใจให้เรามีความหวังที่จะได้เห็นต้นที่อยู่หน้าดอยหลวงเชียงดาวบานสวยเหมือนกัน
สถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว ที่นี่อยู่ห่างจากหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน 500 เมตร เป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตรงทางเข้ามีประตูเปิดปิดมีป้ายบอกให้ขับเบาๆ เพราะมีฝุ่นมาก พ้นประตูเข้าไปแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ หากต้องการสอบถามเรื่องที่พักก็ติดต่อได้เลยครับ แต่ทางที่ดีควรโทรไปติดต่อล่วงหน้า หมายเลขโทรศัพท์อยู่ที่ข้อมูลด้านบนของหน้าครับ
บริเวณสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว เมื่อเข้ามาแล้วเอารถไปจอดที่ลานจอดรถ เป็นลานกว้างจอดได้มากมายหลายคัน จากนั้นจะเดินชมบริเวณรอบๆ มีลานกว้างๆ อยู่ด้านหน้า ลานโล่งแห่งนี้เป็นลานกางเต็นท์ที่เหมาะสำหรับเทศกาลที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากๆ มองเห็นวิวดอยหลวงเชียงดาวได้ชัดเจนสวยงามมาก มีบ้านพักหัวหน้าสถานีฯ และบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว
ชมวิวแม่ตะมาน-เชียงดาว วันนี้เดินทางมาถึง 8.30 น. เรียกว่าสายมากแล้วแต่สภาพอากาศท้องฟ้าปิดเลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรือทะเลหมอก เห็นเพียงแต่แสงส่องลงมาทะลุเมฆเป็นลำไปในหุบข้างล่าง วิวสวยๆ หน้าบ้านพักหลังเล็กๆ ที่รองรับได้สูงสุด 4 คน มีห้องครัวภายในหลังนี้ เห็นแล้วอยากมาค้างดูบ้าง
บ้านพักป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว ลงมามองด้านข้างของบ้านพักครับ รูปทรงน่าพักมาก มีระเบียงสำหรับนั่งชมวิวสวยๆ ในตอนเช้าด้วย
ดอกฝิ่น เป็นพืชที่ปลูกอยู่สถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว น่าจะเป็นการปลูกเพื่อการศึกษาและประดับให้สวยงาม มีอยู่จำนวนไม่กี่ต้น เรียกความสนใจของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ดอกฝิ่นดอยเชียงดาว แปลงดอกไม้เล็กๆ เป็นรูปวงกลมอยู่ตรงลานชมวิวและกางเต็นท์ เยื้องๆ กับหน้าบ้านพักของสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว พอที่จะทำให้เราหามุมที่มีฉากหลังเป็นดอยหลวงเชียงดาวอยู่ไกลๆ ได้อย่างลงตัว เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่จะเอาดอยหลวงเชียงดาวแห่งนี้เป็นฉากของรูป
ซากุระกับดอยหลวงเชียงดาว พญาเสือโคร่งจำนวนไม่กี่ต้นที่เรียงรายอยู่ตรงขอบลานกว้างๆ มีอยู่ต้นเดียวที่ยังคงผลิดอกบานสะพรั่งเหมือนรู้ว่าเราจะมาในวันนี้ พญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปชมกันในหลายๆ พื้นที่ได้แก่ ขุนช่างเคี่ยน ขุนวาง ขุนแม่ยะ แม่จอนหลวง (ซากุระขาว) จ.เชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน จ.น่าน และที่มีเพิ่มขึ้นมาใหม่อยู่ที่ภูลมโล จ.เลย แต่ละพื้นที่บานไม่พร้อมเพรียงกัน การเที่ยวชมให้ได้ครบทุกที่บางทีก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนอยากจะทำให้ได้ แต่หลายๆ ครั้งโชคก็ไม่ได้เข้าข้าง อุตส่าห์เดินทางมาแสนไกลแต่มาถึงช่วงยังไม่บานบ้าง โรยแล้วบ้าง ก็ต้องพยายามกันต่อไปครับ ส่วนแต่ละที่เป็นแบบไหนมากน้อยอย่างไรติดตามอ่านกันได้ในเว็บทัวร์ออนไทยดอทคอมนี่ละครับ เราจะรวบรวมมาให้ชมให้ครบให้ได้
ซากุระกับดอยหลวงเชียงดาว ภาพประทับใจที่ได้เห็นพญาเสือโคร่งหรือซากุระบานสะพรั่งหน้าดอยหลวงเชียงดาวลองเก็บมาเพียงเป็นช่อๆ แทนที่จะถ่ายมาให้ชมกันทั้งต้นก็สวยประทับใจไปอีกแบบ
ลานกางเต็นท์ เอามาให้ชมกันครับวันนี้มีนักท่องเที่ยวมากันไม่มาก เป็นโรงเรียนสอนถ่ายรูปด้วยมีนักเรียนมากันเยอะทีเดียวแต่หลายๆ คนเลือกที่จะนอนในบ้านพักแบบเป็นหมู่คณะ เหลือบางคนที่นอนเต็นท์เอาบรรยากาศอยู่ข้างบ้านพัก
วิวสวยๆ จากสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว เป็นวิวสวยๆ ที่อยู่ในลานกว้างของสถานี ปลูกดอกไม้แปลงใหญ่ กับต้นไม้สูงลิบ 2 ต้นคู่กัน ข้างแปลงดอกไม้มีเรือนเพาะชำ ปลูกรองเท้านารีไว้จำนวนมาก
ดอกกระดาษ เป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งมีกลีบหลายชั้นดูเหมือนดอกบัว เวลาเอามือไปจับจะมีเสียงเหมือนจับดอกไม้ที่ประดิษฐ์มาจากกระดาษ หรือเสียงเหมือนขยำกระดาษ เป็นที่มาของชื่อดอกกระดาษ ดอกไม้ชนิดนี้มีหลายสี กลีบดอกวงในและวงนอกมีสีต่างกัน เมื่อปลูกจำนวนมากๆ จะดูสวยไปทั้งแปลง สถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว ปลูกดอกกระดาษเรียงกันเป็นแนวยาวอยู่ตรงประตูทางเข้า
บ้านพักแบบหมู่คณะ เป็นอาคารไม้ห้องติดกันหลายห้องเรียงกันยาวๆ สำหรับนักศึกษาที่มาศึกษาเกี่ยวกับวิชาการเกษตรที่สถานีแห่งนี้ หรือบางในโอกาสก็จะมีการเรียนการสอนเรื่องการถ่ายภาพที่นี่ก็เดินทางมาพักกันเป็นคณะใหญ่ๆ ได้โดยต้องติดต่อไว้ล่วงหน้า รอบบริเวณๆ อาคารจะมีเรื่องราวข้อมูลการปลูก ไปจนถึงกระบวนการเก็บเกี่ยวและแปรรูปเมล็ดกาแฟให้อ่านกันด้วย
จบการนำเที่ยวสถานีวิจัยเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะดอยเชียงดาว ไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ ที่นี่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายหลายอย่าง เอาไว้โอกาสหน้าเราจะเก็บมาให้ครบเลยครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ