ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานหาดใหญ่ 0 7423 1055, 0 7423 1055, 0 7423 8518
http://www.tourismthailand.org/hatyai
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ริมน้ำลำปำ จากตัวเมืองพัทลุงใช้เวลาเพียง 5 นาที เราก็มาถึงหาดลำปำแล้วละครับ ที่นี่เดิมทีเป็นตัวเมืองพัทลุงก่อนที่จะย้ายไปอยู่ในที่ที่เราเห็นในปัจจุบัน เพราะว่าการเดินทางในสมัยก่อน ใช้เรือเป็นพาหนะหลักของการเดินทาง ตัวเมืองที่อยู่ติดน้ำจะสะดวกต่อการเตินทางติดต่อค้าขายมากกว่า นอกจากอยู่ริมน้ำแล้ว หาดแสนสุขลำปำยังมีสภาพเป็นแหลมยาวลึกด้านหนึ่งติดทะเลสาบ อีกด้านเป็นคลองลำปำ เป็นที่ตั้งของท่าเทียบเรือลำปำ มีบริการเรือนำเที่ยว อีกฟากหนึ่งของคลองมีรีสอร์ทและร้านอาหารท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำอันแสนสงบ มีบริการจักรยานน้ำด้วย
การมาเที่ยวหาดแสนสุขลำปำจะต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถแล้วเดินเข้าไป ก่อนที่จะเข้าไปจะหาซื้อของกินติดไม้ติดมือไปด้วยก็คงจะดีจะได้ไม่ต้องเดินออกมาซื้ออยู่บ่อยๆ
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างขึ้นเพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ครั้งเมื่อ ร.ศ.108 (พ.ศ.2432) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสหัวเมืองพัทลุง ระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม พ.ศ. 2432 โดยมีเส้นทางเสด็จ ดังนี้
เสด็จประพาสและประทับแรม ณ เกาะหัวมวย บริเวณหมู่เกาะสี่เกาะห้า ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. 108 ไว้ที่หน้าผาเทวดา
เสด็จประพาสและประทับแรม ณ ชายหาดลำปำ ตำบลลำปำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ได้เสด็จประพาสวัดวัง ตำบลลำปำ และเสด็จทอดพระเนตรถ้ำคูหาสวรรค์ วัดคูหาสวรรค์ และทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. 108 ไว้ที่เพิงหินภายในถ้ำคูหาสวรรค์
เจ้าเมืองพัทลุงในสมัยนั้น ได้สร้างพลับพลา เรียกชื่อว่า "ภัตตาคาร" เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ณ ชายหาดลำปำ และมีการสร้างทางเดินไม้เชื่อมไปยังท่าเทียบเรือในทะเลสาบด้วย แต่เมื่อเวลาล่วงผ่านไป สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวก็ชำรุดไปตามกาลเวลา
ประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงวิริยะ อุตสาหะ ใฝ่พระทัยดูแลทุกข์สุขของราษฎรอย่างทั่วถึง ทรงปฏิรูปการปกครอง เลิกทาส วางพื้นฐานการศึกษา ศาสนา เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และศิลปวัฒนธรรมของชาติ ยังความเจริญก้าวหน้าให้ปรากฏทัดเทียมนานาอารยประเทศตราบถึงทุกวันนี้ จึงพร้อมใจกันจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ไว้เพื่อเทิดพระเกียรติให้ปรากฏแผ่นไพศาลสืบไป
ทางเดินหาดแสนสุขลำปำ วันนี้อากาศดีท้องฟ้าแจ่มใสทั้งๆ ที่ยังอยู่ในช่วงมรสุม ตอนเช้ามักจะมีฝนตก ตอนเย็นก็ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตก มีช่วงสายๆ ถึงเที่ยงที่เราจะได้เห็นท้องฟ้าสีคราม ในจังหวัดพัทลุง หลังจากที่ทุกคนซื้อน้ำคนละแก้วสำหรับแก้กระหายเพราะคิดว่าเราจะต้องใช้เวลาชมวิวทั่วหาดแสนสุขลำปำกันพักใหญ่ ตอนนี้ทุกคนก็แยกย้ายกันไปเดินชมวิวตามจุดต่างๆ ตามอัธยาศัย ผมจะพาเดินเข้าไปตามทางเดินเรื่อยๆ เริ่มจากอาคารหอกลองขนาดใหญ่ตรงนี้เลยก็แล้วกัน
หนังตะลุง เป็นผลงานการสร้างแผ่นหนังให้เกิดเป็นลวดลายตามตัวละครที่จะนำมาใช้ในการแสดง ที่เราเห็นอยู่นี้จะเป็นซุ้มแผ่นหนังที่มีตัวหนังอยู่หลายตัว ทำจากหนังเหมือนกับที่ใช้ในการแสดงหนังตะลุงจริงๆ ใส่กรอบพลาสติกใสๆ เอาไว้ แล้วสร้างเป็นซุ้มรูปกรอบสี่เหลี่ยม กันแดดกันฝน ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมกันทีละตัวๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงสุดทางเดิน
รูปปั้นโนราห์ เป็นการแสดงอีกอย่างหนึ่งที่ขึ้นชื่อรู้จักกันไปทั่วโลก มีถิ่นกำเนิดอยู่ในภาคใต้ของไทย หาดแสนสุขลำปำก็สร้างเป็นรูปปั้นจำลอง ล้อมรอบด้วยสวนดอกไม้ เป็นอีกมุมหนึ่งที่จะมีคนมาถ่ายรูปกันเยอะ ด้านหลังของรูปปั้นเป็นปากน้ำลำปำ จุดที่คลองมาบรรจบกับทะเลสาบ
พื้นที่บริเวณกว้างและเป็นแนวยาวตามรูปของแหลมที่ยื่นเข้าไปในทะเลสาบ จัดเป็นโต๊ะใต้ต้นไม้เอาไว้ให้พักผ่อน ปกติคนจะมาออกกำลังกาย นั่งพักผ่อนรับลมเย็นๆ กันมากในช่วงเย็น พวกเรามากันตั้งแต่เที่ยงก็เลยดูโล่งๆ ไปหมด ต้นไม้ใหญ่ที่นี่จะเป็นต้นสน ให้ร่มเงาหลบแดดกันได้เป็นอย่างดี แม้ว่าอากาศตอนเที่ยงจะร้อน แต่ก็มีคนเลือกหาดแห่งนี้เป็นที่พักผ่อนกันไม่น้อย
รอบๆ บริเวณสร้างเป็นแนวเขื่อน เมื่อยามน้ำขึ้น เรามองไม่เห็นหาดทรายเบื้องล่าง แต่จะเห็นผืนน้ำกว้างใหญ่ไม่ต่างอะไรกับท้องทะเล แต่การมาเที่ยวที่นี่ให้ความแตกต่างจากทะเลอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือลมที่พัดเข้ามาไม่ทำให้เหนียวตัว อันนี้แหละที่ผมชอบที่นี่มาก ต้นไม้ใหญ่ๆ สูงๆ เป็นต้นสน แต่ตรงแนวเขื่อนจะเป็นตะแบกหลายต้น กระจายกันไปเป็นระยะๆ ช่วงที่ตะแบกออกดอกบานสะพรั่ง ดูสวยงามไปอีกแบบ เป็นต้นไม้ที่ผมชอบมากเป็นพิเศษ เพราะปลูกง่ายดอกสวยและดก ปลูกได้ในทุกภาคของไทย
ใกล้ๆ จะสุดปลายแหลมแล้ว ตรงนี้จะมีสัญลักษณ์ของหาดแสนสุขลำปำ นั่นก็คือวงเวียนปลาลำปำ เป็นปลาประจำถิ่นของที่นี่ ผมเองก็ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ เหมือนกัน
วงเวียนปลาลำปำ นอกจากเจ้าปลาประจำถิ่นที่เป็นสัญลักษณ์อยู่บนวงเวียนน้ำพุของหาดลำปำแล้ว ก็ยังมีโลมาอิรวดี ด้วย
ที่นี่ลำปำ ใกล้ๆ จะสุดแหลมแล้วครับ ใกล้ๆ วงเวียนปลาลำปำมีซุ้มให้เราถ่ายรูปเล่น พร้อมกับป้ายที่เขียนว่า ที่นี่ลำปำ ทั้ง 2 ด้าน ชอมด้านไหนก็ถ่ายรูปด้านนั้น ถ้าเรายืนหันหลังให้วงเวียนปลาลำปำ เราก็จะหันหน้าออกทะเลสาบที่กว้างใหญ่ มองไม่เห็นฝั่ง รู้สึกยังกับว่าเราอยู่ที่ทะเล
เกาะลอยลำปำ ระหว่างแหลมที่เรายืนอยู่ จะมีคลองลำปำกั้นกลาง มองข้ามไปอีกฟากหนึ่งของคลองจะเห็นเกาะลอย เป็นเกาะที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีสะพานเชื่อมไปถึงกันได้ เห็นแบบนี้ใครจะนึกละครับว่าเกาะลอยนี้เกิดจากการทับถมกันของตะกอน อันเนื่องมาจากทิศทางของน้ำซึ่งตรงนี้เป็นปากน้ำลำปำ นั่นเอง บนเกาะลอยมีหอสำหรับชมวิวขึ้นไปชมกันได้ด้วย มองทะเลสาบสุดลูกหูลูกตาสวยๆ
สะพานข้ามเกาะลอยลำปำ
ศาลาลำปำที่รัก หลังจากที่เราเดินข้ามมาอยู่กลางสะพานเกาะลอย ลองมองกลับไปดูจุดที่เรายืนอยู่เมื่อกี้ เราจะเห็นปลายแหลมเล็กนิดเดียว สุดปลายมีสะพานเชื่อมไปศาลาที่อยู่กลางน้ำ ศาลาหลังนั้นเป็นจุดชมวิวหาดแสนสุขลำปำที่สวยงามทีเดียว มีชื่อเรียกกันว่า ศาลาลำปำที่รัก
เกาะลอยลำปำ ตอนนี้เราก็ขึ้นมาอยู่บนเกาะลอยกันแล้วครับ อยากจะบรรยายให้เห็นภาพว่าเกาะแห่งนี้มันใหญ่ขนาดไหนก็คงอธิบายลำบาก พื้นที่บนเกาะปลูกต้นไม้เอาไว้หลายชนิดให้ความร่มรื่นเหมาะสำหรับการพักผ่อน ถ้ามีเวลาว่างๆ ก็อยากจะมานอนหลบร้อนที่นี่นานๆ เหมือนกัน ภายในพื้นที่อันกว้างขวางก็มีศาลาสร้างเอาไว้ให้เป็นที่พักผ่อน แล้วก็หอชมวิวสูงๆ ที่จะสามารถชมวิวรอบหาดลำปำได้ทั่ว
ความสวยงามของหมู่มวลดอกไม้ที่ปลูกเอาไว้ทั่วบริเวณ ไม่ใช่ว่าจะสวยเฉพาะบนต้น หลังจากที่มันร่วงหลุดลงมาบนพื้นจำนวนมากๆ มันก็ยังคงสวยงามอยู่ได้อีก
ศาลาและสวนดอกไม้เกาะลอยลำปำ รายล้อมไปด้วยสวนทานตะวันอันสวยงาม สร้างความประหลาดใจเล็กๆ ให้กับเรา เพราะไม่นึกว่าจะได้เห็นทางตะวันในพัทลุง
ชมวิวบนเกาะลอย เอาละครับสุดทางเดินบนเกาะลอยแล้ว บนเกาะแห่งนี้มีต้นไม้หลายชนิดดีครับ ร่มรื่นกว่าตรงแหลมตามแนวเขื่อนฝั่งหาดแสนสุขลำปำ แต่ดูจากสภาพรวมๆ แล้วคิดว่าคนคงจะข้ามมาเที่ยวกันไม่เยอะ บรรยากาศอันแสนสงบ ปกคลุมไปด้วยต้นสนสูงตระหง่านรอบๆ เกาะ มองไปเห็นแนวชายฝั่งที่ติดน้ำสุดสายตา
แม้ว่าจะเสียดายอยู่สักนิดที่ไม่ได้เห็นหาดทราย แต่ที่นี่ก็นับว่าเป็นสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุดในเมืองพัทลุงเลยละ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ