ข้อมูลเพิ่มเติม:ที่ว่าการอำเภอบางพลี โทร. 0 2337 3490-1
ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา โทร.038 514 009
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ท่าน้ำวัดบางพลีใหญ่ใน สถานที่ในการจัดงานประเพณีรับบัวเป็นจุดที่มีประชาชนเดินทางมาร่วมงานบุญมากที่สุด ถึงแม้ว่าตลอด 2 ฝั่งคลองตั้งแต่ที่ว่าการอำเภอจนถึงวัดบางพลีใหญ่ใน เราสามารถที่จะยืนรอที่ไหนก็ได้ เพราะจะมีการแห่เรือประดิษฐานหลวงพ่อโตองค์จำลองผ่านตลอดทาง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะประชาชนที่มาร่วมในงานนี้หลายคนเป็นคนต่างพื้นที่ ไม่รู้ว่าจะมีจุดไหนที่จะยืนรอโยนบัวได้บ้าง อีกส่วนหนึ่งก็อยากจะร่วมทำบุญในงานนี้โดยเฉพาะเจาะจงว่าจะยืนอยู่ที่ท่าน้ำหน้าวัดแห่งนี้ก็มี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 เป็นประจำทุกปี จะมีการจัดงานประเพณีรับบัวขึ้น ซึ่งมีอยู่หลายปีที่วันดังกล่าวตรงกับวันธรรมดา อย่างในปีนี้ ก็ตรงกับวันจันทร์ ประชาชนที่มาก็จะน้อยกว่าในปีที่วันจัดงานตรงกับวันหยุดแต่ทั้งๆ ที่น้อยกว่า ก็ยังมองไม่เห็นว่าจะมีที่ไหนเป็นที่ว่างให้เราเข้าไปยืนอยู่ด้วยได้
งานนี้ผมออกเดินทางตั้งแต่ตี 5 เพื่อให้มาถึงงานก่อน 6 โมงเช้า เรือหลวงพ่อโตจะเคลื่อนออกจากท่าน้ำหน้าวัดบางพลีใหญ่ในเวลาประมาณ 7.09 น. เพื่อล่องไปตั้งขบวนแล้วแห่กลับมาตามคลองสำโรงผ่านหน้าวัดบางพลีใหญ่ในอีกครั้ง แล้วแห่เรื่อยไปถึงหน้าที่ว่าการอำเภอบางพลี ผมมาถึงที่วัดก่อน 6 โมงเหมือนกันที่วางแผนเอาไว้ ลานจอดรถของวัดเต็มแน่น ต้องไปจอดที่ร้านหมูกะทะ มีอยู่ร้านเดียวที่เปิดบริการที่ฝากรถ ส่วนอีกร้านเป็นพื้นที่ของหน่วยฉุกเฉินจองเอาไว้เพื่ออำนวยความสะดวก หลังจากที่เข้าจอดรถค่าฝากรถ 60 บาท ถึงจะรู้สึกว่าแพงเกินเหตุ แต่ก็เป็นเพราะงานแบบนี้มีปีละครั้งเดียวก็ยอมให้เค้าไป ก่อนที่ฟ้าจะสางทางวัดเปิดไฟที่องค์เจดีย์ริมคลองสำโรงสวยมาก แต่ดันลืมเอาขาตั้งกล้องมาด้วย ต้องเดินกลับไปที่รถอีกรอบพอกลับมาที่สะพานข้ามคลองสำโรงฟ้าก็สว่างพอดี สิ่งที่เราเห็นที่อีกฟากหนึ่งของคลองคือฝูงชนหนาแน่นอยู่ริมท่าน้ำยาวตลอดแนวตลิ่งของคลองทีเดียว
บรรยากาศงานรับบัว เนื่องจากงานนี้สิ่งที่จะต้องใช้ก็คือดอกบัวจำนวนมาก เรียกว่านับไม่ถ้วน มีพ่อค้าแม่ค้าเอาบัวมานั่งขายตามฟุตบาททางเดินตั้งแต่สามแยกถนนเทพารักษ์ยาวมาจนถึงหน้าวัดบางพลีใหญ่ใน แต่ละคนที่มางานก็จะซื้อบัวคนละกำ มาถึงก็จับจองที่นั่งแล้วเริ่มจับกลีบดอกบัวให้สวยงามทีละดอกๆ เป็นการฆ่าเวลาอย่างหนึ่ง ถ้าระหว่างทางที่เราเดินมาถึงฝั่งคลองไม่ได้ซื้อบัวติดมือมาด้วยในคลองก็ยังมีเรือบริการดอกบัวให้ถึงที่พายมาไม่กี่นาทีบัวในเรือก็ขายหมด ในระหว่างนี้เรือสวยงามที่เข้าร่วมการประกวดขบวนแห่เรือหลวงพ่อโตก็จะเคลื่อนมาจากหน้าอำเภอบางพลีผ่านหน้าวัดบางพลีใหญ่ใน เลยไปจนถึงจุดเริ่มต้นของขบวนประมาณเกือบ 1 กิโลเมตรนับจากวัด ทิศทางของเรือที่แล่นผ่านจุดที่ผมยืนอยู่ทำให้รู้ว่าตำแหน่งนี้ไม่เหมาะที่จะมานั่งรอเก็บภาพขบวนแห่ เพราะจะทำให้ได้ภาพเรือจากด้านหลังความสวยงามก็จะลดลงไป ผมเริ่มมองหาจุดใหม่ที่เหมาะกว่าแล้วก็เตรียมตัวย้ายที่
เรือหลวงพ่อโตเคลื่อนขบวน เวลาตามฤกษ์ที่กำหนดไว้ 7.09 น. เรือประดิษฐานพระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ในเคลื่อนตัวออกจากท่าหน้าวัด ก่อนที่จะเคลื่อนออกประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมงานได้ขึ้นไปสักการะองค์พระบนเรือ นำดอกบัวไปวางบนพระเพลา (ตัก) ของหลวงพ่อโต
ดอกบัวแห่งศรัทธารอบหลวงพ่อโต ในช่วงเวลาตั้งแต่ประมาณตี 5 ที่ผมเห็นประชาชนที่ท่าน้ำวัดบางพลีใหญ่ในเดินเข้าไปวางบัวบนเรือหลวงพ่อโต จวบจนเวลา 7 โมง ซึ่งขบวนเริ่มเคลื่อนออกจากท่าน้ำ ดอกบัวที่นำมาไหว้หลวงพ่อโตท่วมท้นองค์หลวงพ่อจนมองเห็นเพียงครึ่งองค์ ประมาณจำนวนคงเป็นพันดอก หลายคนก็นำบัวไปไหว้ 1 ดอก จากนั้นที่เหลือก็เก็บไว้สำหรับโยนบัว เป็นการอธิษฐานเสี่ยงให้ดอกบัวตกลงบนเรือหลวงพ่อโต เชื่อกันว่าถ้าดอกบัวตกลงไปในเรือสิ่งที่อธิษฐานจะสำเร็จสมปรารถนา ทันทีที่เรือหลวงพ่อโตขยับออกจากท่า เราก็จะได้เห็นดอกบัวจำนวนนับไม่ถ้วนลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าจากทั้ง 2 ฝั่งคลองเพื่อให้ดอกบัวตกในเรือ เป็นภาพที่จะมีให้เห็นเพียงที่นี่ที่เดียวในโลก
หลายคนที่ได้เห็นรูปงานรับบัว ก็คงสงสัยว่าประชาชนขึ้นไปยืนบนกลางสะพานข้ามคลอง แล้วเรือหลวงพ่อลอดไปหรือเปล่า น่าจะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ที่จริงแล้วเรือประดิษฐานหลวงพ่อโตองค์จำลอง จะหยุดที่ใกล้ๆ สะพาน จากนั้นก็จะมีการประกาศจากจ้าหน้าที่ให้ประชาชนบนสะพานได้หลบลงมาจากสะพาน ก่อนที่เรือจะเคลื่อนที่ต่อไป แสดงให้เห็นศรัทธาของประชาชนที่มีต่อองค์หลวงพ่อโตมายาวนานอย่างแท้จริง
มวยผีทะเล นอกจากเรือหลวงพ่อโต เรือขบวนแห่ที่สวยงามเข้าประกวด ก็จะมีเรือประเภทตลก ที่ส่งเข้าร่วมงานจากหลายชุมชนในพื้นที่อำเภอบางพลี บนเรือลำนี้ก็เป็นลำหนึ่งของประเภทเรือตลก ข้างเรือเขียนว่า สงครามซาไก โดยมีเด็กๆ แต่งตัวตลกๆ มาแข่งมวยทะเล เรียกเสียงฮาให้คนดูได้ไม่น้อย เด็กๆ ทั้ง 2 คนเอาแป้งทาจนตัวขาว ต่างขยันต่อยเพื่อให้อีกฝ่ายตกลงมา สมกับที่เรียกว่าเรือประเภทตลกจริงๆ
สายฝนทดสอบศรัทธา ก่อนจะถึงเวลา 08.00 น. เพียงไม่กี่นาที สิ่งที่ไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดก็เกิดขึ้น ท้องฟ้าที่เห็นในตอนเช้ามืดไม่เห็นมีเค้าฝน แต่ก็มีฝนตกลงมาอย่างหนักผมต้องย้ายกล้องเข้าไปหลบใต้สะพาน ดีว่าเลือกยืนอยู่ข้างสะพานตั้งแต่แรกขยับนิดหน่อยก็หลบฝนพ้นแล้ว แต่ปัญหาก็คือตอนนี้ใต้สะพานมีคนอยู่เต็มไปหมด มองไปอีกฟากหนึ่งของคลองก็เห็นคนเอาร่มออกมากางกันหมด รู้สึกว่าจะมีการเตรียมพร้อมกันมาเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ได้ตั้งตัวก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนริมฝั่งคลองหวันไหว ต่างคนก็หาที่หลบเท่าที่มี คนมีร่มก็เอาออกมากาง คนที่หลบใต้สะพานพอเห็นเรือตลกมวยทะเลของเด็กตัวน้อยก็หัวเราะร่า เทพีประจำเรือที่นั่งเรือตามไปที่จุดเริ่มต้นเพื่อตั้งขบวนแห่ก็ยังคงต้องไปตามปกติ คนที่ไม่อยากโยนบัวจากริมคลองก็เช่าเรือไปวางบัวกลางน้ำก็มี
เรือหลวงพ่อโตมาถึง เมื่อเรือทุกลำทุกประเภทเดินทางไปตั้งขบวนที่จุดเริ่มต้นจากนั้นขบวนเรือก็เคลื่อนที่มาที่ท่าน้ำหน้าวัดบางพลีใหญ่ในอีกครั้ง คราวนี้เป็นการแห่จริง ดอกบัวจำนวนมากกว่าตอนแรกก็ล่องลอยจาก 2 ฝั่งคลองมายังเรือหลวงพ่อโต ชาวบ้านที่รอเวลานี้อยู่ริมคลองก็ลุกขึ้นยืนหามุมที่จะไปยืนริมน้ำเพื่อให้โยนบัวได้ถนัดที่สุด ทั้งดอกบัวทั้งหัวคนก็ขึ้นมาบังกล้องเต็มไปหมด
นาวาพยัคฆเวนไตยเทิดไท้องค์ภูมินทร์ เรือประกวดประเภทสวยงามประจำงานประเพณีรับบัววัดบางพลีใหญ่ใน มีอยู่ด้วยกันหลายลำ สร้างด้วยแรงสามมัคคีของชาวบ้านในแต่ละชุมชน มีความสวยงามเป็นอย่างมาก แต่ละลำจะมีชื่อเรือ โดยส่วนมากจะเน้นการใช้สัตว์หิมพานต์มาเป็นหัวเรือ รวมทั้งส่วนต่างๆ ของเรือ ประกอบไปด้วยเทพีประจำเรือ จากนั้นจะมีการใช้สเปเชียลเอฟเฟค ไอหมอกสีขาวพวยพุ่งออกมารอบเรือต่อจากนี้จะให้ชมรูปเรือประเภทสวยงามทีละลำๆ ก็แล้วกันครับ
คชปักษา
กบิลปักษานาวาเฉลิมพระเกียรติ์
มัจฉาสวรรค์เริงร่า เป็นเรือประเภทสวยงามอีกลำหนึ่งที่ออกแบบให้เป็นปลา
ปิดท้ายกันด้วยเรือสวยงามลำนี้ครับ ต่อจากนี้ก็ยังมีเรือประเภทตลกอีกหลายลำ แต่ละลำก็มีการแฝงแง่คิดต่างๆ เตือนใจ และเป็นสีสันความสนุกสนานตลอดจนจบขบวนเรือทุกลำ เป็นเวลาประมาณเกือบ 10.00 น. สิ่งที่น่าประทับใจคือแม้ว่าฝนจะเทลงมาอย่างหนัก แต่ทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปด้วยดี ความสวยงามของขบวนเรือทุกลำที่เห็นในวันนี้ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเกิดขึ้นในคลองสำโรง งานประเพณีที่ผมคิดว่ามีเพียงเรือหลวงพ่อโตและการโยนบัว กลับยิ่งใหญ่อลังการได้ถึงเพียงนี้ ปีหน้าอย่าลืมไปชมกันด้วยตัวเองสักครั้ง และขอให้วันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ในปีต่อๆ ไปตรงกับวันหยุดนะครับจะได้ไปงานนี้กันได้ทุกคน
จบการนำเที่ยวประเพณีรับบัวสมุทราปราการ ก่อนที่จะเดินทางกลับก็เข้าไปไหว้หลวงพ่อโตองค์จริงในโบสถ์ วัดบางพลีใหญ่ใน
""
Koonsak Kudisi
2018-03-02 08:55:07
"กลับมาอีกครั้ง ปีนี้ มาแต่เช้าเหมือนเดิมครับ"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-10-04 05:50:48
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ