ตลาดริมน้ำโบราณบางพลี

ตลาดริมน้ำโบราณบางพลี ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพลีใหญ่ เป็นตลาดเก่าแก่ริมคลองสำโรง พื้นตลาดเป็นพื้นไม้ สามารถเดินติดต่อกันได้ เดิมชื่อตลาด ศิริโสภณ สันนิษฐานว่า ชาวจีนเข้ามาเปิดร้านในตลาดนี้ราว พ.ศ.2400 เป็นตลาดโบราณริมคลองสำโรงเพียงแห่งเดียวที่รอดพ้นจากไฟไหม้และยังคงสภาพเดิมเหมือนแรกสร้าง ตลาดริมน้ำโบราณบางพลีเป็นชุมชนใหญ่ชุมชนหนึ่งและมีความรุ่งเรืองมากในอดีต เป็นตลาดขนส่งสินค้าและผู้โดยสารจากภาคตะวันออกชายฝั่งทะเลสู่กรุงเทพมหานคร การเดินทางในสมัยก่อน ใช้เรือเป็นพาหนะเดินทางโดยการแจว พายและแล่นใบ เดินทางมาค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าจะอยู่ในคลองสำโรง ตลาดน้ำบางพลีถือเป็นตลาดน้ำประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและมีวัฒนธรรมที่ดีงามสั่งสมอยู่มากมายสมควรอนุรักษ์ฟื้นฟูให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาและหวงแหนวัฒนธรรมเก่าแก่ของบรรพบุรุษสืบต่อไปดังคำกลอนของสุนทรภู่

ถึงบางพลีมีเรือนอารามพระ
ดูระกะดาษทางไกลไปกลางทุ่ง
เป็นเลนลุ่มลึกเหลวเพียงเอวพุง
ต้องลากจูงจ้างควายอยู่รายเรียง
ดูเรือแพแออัดอยู่ยัดเยียด
เข้าเบียดเสียดแทรกกันสนั่นเสียง
แจวตะกูดเกะกะประกะเชียง
บ้างทุ่มเถียงโดนดุนกันวุ่นวาย

ระยะทางเกือบหนึ่งกิโลเมตร ตลอดแนวสองฝั่งทางเดินที่ขนานไปกับคลองสำโรงของตลาดน้ำโบราณบางพลี ถูกจับจองจากแม่ค้าพ่อค้าที่อาศัยอยู่มาแต่ดั้งเดิมจำหน่ายสินค้านานาชนิด ทั้งอาหารอร่อย ขนมหวาน ของใช้นานาชนิด ของตกแต่งบ้านเรือน ของฝาก ร้านเสริมสวย ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายสัตว์เลี้ยง ฯลฯ อิ่มตา ด้วยทิวทัศน์ของคลองสำโรงที่ประดับประดาไปด้วยเรือขายอาหาร ขนม ผลไม้ตามฤดูกาลของชาวบางพลีที่พายไปมา และเรือที่ชาวบ้านยังใช้สัญจรไปมาในชีวิตประจำวัน

เดินเท้ามาถึงกลางตลาด ชาวชุมชนได้จัดเป็นนิทรรศการ ภาพเก่าเล่าเรื่อง จัดแสดงภาพถ่ายสมัยเก่าเมื่อเริ่มแรกตั้งตลาด และเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพการประมงและการเกษตร อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาจัดในนิทรรศการได้รับบริจาคมาจากคนเก่าคนแก่ที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีตและได้เก็บรักษาเป็นอย่างดี

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดสมุทรปราการฝั่งบางพลี ต้องไม่พลาดแวะเที่ยวในสามจุดสำคัญนี้ ปิดทองหัวใจพระที่วัดบางพลีใหญ่กลาง, กราบขอพรหลวงพ่อโตที่วัดบางพลีใหญ่ใน, จากนั้นใช้เวลาสัก 1 ชั่วโมงเดินมาท้ายวัดเลือกซื้ออาหารอร่อย ขนมหวาน หรือของฝากที่ตลาดน้ำโบราณบางพลี ชมวิถีชีวิตริมน้ำ ก่อนเดินทางกลับ

การเดินทาง
จากกรุงเทพ ฯ มุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรปราการ ใช้ถนนสุขุมวิท เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกบางนา จากนั้นใช้ถนนบางนาตราด ขับตรงไปประมาณ 12 กิโลเมตร กลับรถเพื่อตัดเข้าถนนกิ่งแก้ว – บางพลี (ประมาณ 2 กิโลเมตร) เลี้ยวซ้าย ถึงวัดบางพลีใหญ่ใน เดินเท้าอีกนิดไปที่ท้ายวัดจะถึงตัวตลาดน้ำโบราณบางพลี นักท่องเที่ยวสามารถนำรถไปจอดได้ที่ วัดบางพลีใหญ่ใน และบิ๊กซีบางพลี

ติดต่อสอบถามที่ เทศบาลตำบลบางพลี โทร. 0-2337-3086, 0-2751-2494 ต่อ 15

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา โทร.038 514 009
https://www.facebook.com/TAT-Chachoengsao-175554016247495/

แก้ไขล่าสุด 0000-00-00 00:00:00 ผู้ชม 41210

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

รู้จักตลาดโบราณบางพลี จากท่าน้ำหน้าวัดบางพลีใหญ่ใน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดหลวงพ่อโต เดินเลียบคลองสำโรงไปทางขวามือจะเป็นจุดเริ่มต้นการเดินเข้าตลาดโบราณบางพลี ในกรณีที่เดินทางมายังวัดหลวงพ่อโต ส่วนอีกทางหนึ่งที่สามารถเข้าตลาดโบราณบางพลีได้ ก็คือหลังห้าง Big C บางพลี มีเส้นทางเดินข้ามสะพานข้ามคลองไปยังตลาดโบราณได้เหมือนกัน แต่ผมมักจะเลือกมาทางวัดหลวงพ่อโตมากกว่าเพราะในวัดบางพลีใหญ่ในก็มีร้านค้าขายอาหารเครื่องดื่มของกินของใช้ของเล่น มากมายให้เลือกเผื่อว่าจะได้อะไรติดมือกินไปตามทางระหว่างเดินตลาด
ก่อนที่จะข้ามสะพานเข้าตัวตลาดโบราณอายุ 150 ปีแห่งนี้ เรามาทำความรู้จักความเป็นมาของตลาดจากป้ายประวัติที่ติดไว้ริมคลองข้างสะพานเข้าตลาดกันก่อนดีกว่า

ตลาดโบราณริมคลองสำโรง อำเภอบางพลี เป็นตลาดขายของและร้านอาหารริมน้ำที่มีมานาน ถือเป็นตลาดประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง ซึ่งอดีตเคยมีความเจริญรุ่งเรืองมากตั้งแต่สมัยที่คนไทยยังใช้ชีวิตอยู่ตามริมคลองและพายเรือจ้ำเรือแจวเป็นพาหนะ เดิมชื่อ "ศิริโสภณ" สันนิษฐานว่าชาวจีนเข้ามาเปิดร้านในตลาดแห่งนี้ราว พ.ศ.2400 ปัจจุบันตลาดยังคงสภาพเดิม คือพื้นตลาดเป็นไม้ สามารถเดินติดต่อกันได้มีความยาวราว 500 เมตร และบ้านไม้ทั้งหลังก็ยังคงสภาพเดิมตั้งแต่แรกสร้าง ชาวบางพลีใหญ่ยังดำเนินชีวิตแบบปกติดั้งเดิมมีร้านค้าริมคลอง วัดอยู่ใกล้บ้าน มีความเกื้อหนุนจุนเจือกันแบบสังคมไทยยุคก่อนๆ

ตลาดโบราณบางพลีเป็นชุมชนที่สอดรับกับแนวทางพระราชดำรัส "พอเพียง" ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และยังคงประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะประเพณีสำคัญที่สืบทอดกันเป็นงานประจำปี คือ ประเพณีรับบัว โดยจะแห่หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน ไปตามคลองสำโรงให้ประชาชนที่อยู่ริมคลองสองฝั่ง โยนดอกบัวลงบนเรือหลวงพ่อเป็นการบูชาสักการะ หากโยนลงเรือหลวงพ่อได้ก็ถือว่าเป็นสิริมงคล พิธีรับบัวนี้จะจัดขึ้นในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี

สะพานเข้าตลาดโบราณบางพลี เอาละทีนี้ก็เป็นเวลาในการเดินเข้าไปสำรวจตลาดแห่งนี้กันแล้ว และแน่นอนว่าสะพานทางเข้าตรงนี้จะเป็นจุดหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปที่ระลึกกันอย่างมาก ข้ามสะพานนี้ไปแล้วบรรยากาศของตลาดโบราณก็จะอยู่รอบตัวเราแล้ว

ตลาดโบราณบางพลี ก้าวแรกเดินเข้ามาเราก็จะได้เห็นร้านขายดอกไม้ธูปเทียนและเครื่องสังฆทาน อยู่ติดๆ กัน คงจะเป็นเพราะเป็นร้านที่อยู่ใกล้วัดบางพลีใหญ่ใน หรือวัดหลวงพ่อโตกว่าใครการเลือกขายเครื่องสังฆทานและดอกไม้ธูปเทียนก็เป็นทางเลือกที่ดี เผื่อว่าจะมีคนที่ต้องการซื้อดอกไม้ธูปเทียนใหม่ๆ ของตัวเองไม่ต้องใช้ดอกไม้เวียนในวัดมาไหว้ขอพรหลวงพ่อโต จากนั้นพอเดินต่อเข้าไปเรื่อยๆ เราก็จะเริ่มเห็นร้านอาหาร ซึ่งก็มีบางร้านที่ขายอาหารแบบนั่งกินในร้านได้ แต่ก็จะมีโต๊ะไม่มากนัก บางร้านอย่างก๋วยเตี๋ยวหมูริมน้ำ มีคนยืนรอกินก๋วยเตี๋ยวเพราะโต๊ะไม่ว่างกันหลายคน ส่วนอาหารอื่นๆ ก็ได้รับความนิยมรองลงมา อาจจะเป็นเพราะว่าร้านไม่ได้อยู่ฝั่งที่จะนั่งริมคลองก็เป็นได้ อย่างร้านส้มตำโบราณครบรสในภาพล่างซ้าย ก็มีเมนูหลากหลาย อย่างทอดมันปลากราย ทอดมันหน่อกะลา ขนมจีนสมุนไพรสูตรชาววัง และยังมีไก่ย่างเขาสวนกวางอีกด้วย จึงเป็นร้านที่มีคนนั่งมากหน่อย ติดกันก็มีขนมจีนแม่สมจิตร น้ำยาปลาช่อนกะทิสด ร้านข้าวเหนียวปิ้งสำหรับกินเล่นระหว่างเดินตลาด ร้านข้าวแกงที่ขายแบบใส่ถุงไปกินบ้าน ฯลฯ

ตลาดโบราณบางพลี เดินลึกเข้ามาอีกหน่อยบรรยากาศของร้านค้าจะเริ่มมีของใช้ในชีวิตประจำวันเข้ามามากขึ้น ในขณะที่ร้านอาหารก็จะลดลงไปบ้าง ของกินเล่น ของหวาน และขนมไทยก็เริ่มจะมีให้เห็นมากขึ้น ข้าวห่อใบบอนก็เป็นเมนูแปลกที่ไม่ค่อยได้พบเห็นมากนักนอกจากตามตลาดโบราณต่างๆ ขนมชั้น ทองม้วนทองพับ ก็ขายดีจนคนขายมือไม่ว่างเลยทีเดียว ส่วนเรื่องร้านของใช้ก็จะมีของใช้ต่างๆ มากมาย ที่ใช้กันจริงๆ ในชีวิตประจำวันของชาวบ้านในสมัยก่อน อย่างเช่นเครื่องประทินผิวในสมัยที่คุณแม่ยังสาวๆ มีร้านขายยาที่ในร้านเต็มไปด้วยยาแผนโบราณ ที่ปรุงจากสมุนไพร

ของใช้ในตลาดโบราณบางพลี เดินเข้ามาอีกนิดเราก็จะได้เห็นของใช้สำหรับชาวบ้านละแวกนี้ที่ต้องใช้กันบ่อยๆ มีกระติบข้าวเหนียว ตะกร้อสอยมะม่วง ที่ไม่ค่อยจะได้เห็นกันแล้วนอกจากในบ้านที่มีสวน อีกร้านที่ขายเฟอร์นิเจอร์ก็เป็นโต๊ะไม้ตัวเล็กๆ เหมาะกับบ้านเล็กๆ ที่นอนหมอนมุ้งมีให้บริการแบบครบเครื่อง ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าก็จะมีหม้อหุงข้าวขนาดไม่ใหญ่มาก มีพัดลม เป็นสิ่งจำเป็นวางขายในร้านมากมายหลายชิ้น ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดูฟุ่มเฟือยอย่างเครื่องเสียง เครื่องเล่นอะไรต่างๆ จะไม่มีวางขาย จึงทำให้เราเข้าใจว่าตลาดโบราณบางพลีเป็นชุมชนที่ยังคงสภาพความเป็นอยู่เดิมๆ ขนานแท้ สินค้าที่ประดิษฐ์ขึ้นมาให้เหมาะกับยุคสมัย สำหรับขายให้นักท่องเที่ยว จะไม่ค่อยมีเหมือนกับตลาดอื่นๆ คนที่จะมาเที่ยวที่นี่ก็จะรู้สึกเหมือนกับไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ แต่ถ้าเที่ยวด้วยหัวใจอนุรักษ์ เราจะเห็นว่าเป็นตลาดที่คงไว้ซึ่งความทรงจำอันดีของอดีต ที่จะถ่ายทอดไปยังคนรุ่นหลัง และควรรักษาให้คงอยู่ต่อไป

ที่ทำการชุมชนตลาดบางพลี เดินมาถึงประมาณกลางตลาด จะมีห้องเล็กๆ ที่เปิดไว้เป็นที่ทำการชุมชน ห้องสมุดชุมชน และเหมือนว่าจะเป็นศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวตลาดโบราณบางพลี เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมภาพประวัติศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินเยือนวัดบางพลีใหญ่ใน เพื่อทรงทอดกฐินต้น มีนิราศเมืองแกลงที่เกี่ยวข้องกับบางพลี ที่ประพันธ์โดยสุนทรภู่ มีมุมให้ถ่ายรูปที่ระลึก จุดนี้จึงมีนักท่องเที่ยวมาออกันเยอะ

ภาพประวัติศาสตร์บางพลี และในศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวตลาดโบราณบางพลี มีพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินทอดกฐินต้น แต่ละภาพมีข้อความบรรยายเหตุการณ์ในครั้งนั้นอย่างเช่น

"...รุ่งอรุณวันประวัติศาสตร์ของวัดบางพลีใหญ่ใน วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2504 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงทอดกฐินต้น ณ วัดบางพลีใหญ่ใน ชาวบางพลีจัดซุ้มสร้างรับเสด็จ ณ สะพานรุ่งเรือง ที่เชื่อมสองฝั่งคลองสำโรงหน้าวัดบางพลีใหญ่ใน..."

มีภาพสำคัญๆ เก็บไว้แล้วนำมาแสดงให้เรามีโอกาสได้เห็น ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวแห่งนี้จึงเป็นศูนย์ความรู้ให้กับเราได้เป็นอย่างดี

นิราศเมืองแกลง เป็นผนังด้านหนึ่งของศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว จะมีบทหนึ่งของนิราศเมืองแกลงที่กล่าวถึงบางพลีดังนี้

...ถึงบางพลีมีเรือนอารามพระ ดูระกะดาษทางไปกลางทุ่ง
เป็นเลนลุ่มลึกเหลวเพียงเอวพุง ต้องลากจุงจ้างควายอยู่รายเรียง
ดูเรือแพแออัดอยู่ยัดเยียด เข้าเบียดเสียดแทรกกันสนั่นเสียง
แจวตะกูดเกะกะปะกระเชียง บ้างทุ่มเถียงโดนดุนกันวุ่นวาย ...
นิราศเมืองแกลง สุนทรภู่

มุมถ่ายรูปตลาดโบราณบางพลี มุมนี้ก็เป็นมุมนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนตลาดแห่งนี้ ที่คงจะต้องแวะเข้ามาต่อคิวถ่ายรูปตรงนี้กลับไปด้วย

ตลาดโบราณบางพลี ช่วงท้ายของตลาด เราจะได้เห็นของใช้ ของตกแต่ง ประดับบ้าน ของฝากมากขึ้น แต่ก็ไม่มากนักถ้าจินตนาการว่าการมาเที่ยวตลาดโบราณบางพลีจะเหมือนกับตลาดแห่งอื่นๆ อย่างเช่น อัมพวา เดี๋ยวจะรู้สึกผิดหวัง เพราะบรรยากาศยังคงความเก่าแก่เอาไว้ ร้านค้าต่างๆ ก็ไม่ได้เปิดขายสินค้าอะไรมากไปกว่าของที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ส่วนเรื่องอาหารในตลาดโบราณอาจจะมีไม่มาก แต่ก็ชดเชยได้ด้วยการไปเดินตลาดในวัดบ้างพลีใหญ่ในซึ่งมีให้เลือกกินกันแบบไม่หวาดไม่ไหวกันทีเดียว ที่น่าสังเกตุก็คือ ขนาดเดินลึกเข้ามาถึงช่วงท้ายตลาดแล้ว ก็ยังคงมีบ้างร้านที่เปิดขายเครื่องสังฆทานและเครื่องบูชาพระ เพียงแต่ไม่ใช้ดอกไม้สดเท่านั้น มีร้านเสื้อผ้าที่ออกแบบมาอย่างร่วมสมัย ดูเป็นชุดไทยแบบประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยใส่ได้หลายโอกาส มีกลิ่นอายของเสื้อผ้าชุดไทยแบบเก่าผสมอยู่อย่างลงตัว เดินไปอีกก็มาสะดุดอยู่กับร้านดอกไม้ประดิษฐ์ที่นำเอาผลงานออกมาวางขายหน้าร้านมีอยู่มากมายหลายแบบหลายสี ดูเป็นร้านที่สดใสกว่าใคร

ทางแยกท้ายตลาดโบราณบางพลี สุดทางเดินเลียบคลอง มีร้านค้าอยู่ไม่มาก คนที่เดินบริเวณนี้ก็ดูจะน้อยกว่าช่วงแรกๆ ที่อยู่ใกล้วัดหลวงพ่อโต มีร้านกาแฟสด กาแฟโบราณ เสื้อยืดลายตลาดน้ำโบราณบางพลึ และก๋วยเตี๋ยวลุยสวน จากนั้นก็มาถึงทางเลี้ยวข้ามสะพาน จากตรงนี้ข้ามสะพานไปก็เป็นทางเดินไปยังตลาดส่วนที่จะมุ่งไปหลังห้าง Big C แต่ผมก็ไม่ได้เดินไปจนถึงตรงนั้น คิดว่าเอาแค่นี้ก็พอแล้ว ถ้ายังไงค่อยมาใหม่ ตอนนี้เดินกลับวัดบางพลีใหญ่ในก่อนดีกว่า

ตลาดโบราณบางพลี บ้านเรือนย่านตลาดบางพลี เมื่อได้เดินขึ้นมาชมวิวบนสะพานข้ามคลองก็จะเห็นบ้านเรือนทุกหลังที่ยังคงรักษาสภาพเอาไว้เป็นอย่างดี ผ่านไป 150 ปี แต่ที่นี่ก็ดูไม่เปลี่ยนแปลง

ตลาดโบราณบางพลี ภาพสุดท้ายของตลาดโบราณบางพลีสำหรับวันนี้ ตอนนี้หิวแล้วไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า แล้วไปไหว้พระหลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ในกันครับ