ข้อมูลเพิ่มเติม:Tel. 087-701-2878
http://www.kwan-riamfloatingmarket.com/
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ก้าวแรกในตลาดน้ำขวัญเรียม วันนี้เป็นวันที่ 4 ที่ตลาดน้ำแห่งนี้เปิดให้บริการหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มิถุนายน 2555 ทำไมเราจึงเลือกวันอาทิตย์ที่ 2 ของการเปิดตัว นั่นก็เพราะว่าอยากจะเห็นบรรยากาศจริงๆ ของตลาด เพราะวันแรกมักจะมีคนมากันมากกว่าปกติเสมอ เราเลือกใช้ถนนบางนาตราดจากบ้านไปถนนกิ่งแก้ว ต่อด้วยถนนร่มเกล้า ไปทะลุถนนรามคำแหงเลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเรื่อยๆ (ตรงแยกถนนรามคำแหงจะตรงไปเข้าถนนสีหบุรานุกิจ เลี้ยวซ้ายไปบรรจบถนนเสรีไทย เข้าวัดบำเพ็ญเหนือก็ได้) จนเห็นซุ้มประตูวัดบางเพ็งใต้ จากนั้นก็ชิดขวาเตรียมหาที่กลับรถ เพื่อมาเข้าซอยรามคำแหง 187 ซึ่งก็คือซอยที่มีซุ้มประตูวัดตั้งตระหง่านอยู่นั่นเอง เข้ามาแล้วเลี้ยวซ้ายที ขวาที ก็ถึงลานจอดรถนอกวัด เป็นลานโล่งเตรียมไว้ให้คนมาตลาดน้ำขวัญเรียมโดยเฉพาะ จอดรถได้แล้วก็ตลุยตลาดกันเลย
เริ่มแรกเราจะเห็นอาคารหลังคาสูงโล่ง โปร่งสบาย เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายโดยมากร้านแรกๆ จะมีของกินเยอะหน่อย แล้วมีของใช้ เครื่องประดับ ของที่ระลึกประปราย โซนนี้เป็นฝั่งบางเพ็งใต้ พื้นที่แบ่งเป็นล็อคๆ มีทางเดินระหว่างล็อค ก่อนที่เราจะตัดสินใจกินอะไรก็เดินดูให้ทั่วๆ กันก่อนดีกว่า แต่รู้สึกว่าร้านค้าหลายร้านจะขายอาหารอร่อย คนเข้าคิวรอซื้อกันยาว โดยเฉพาะกุ่ยช่าย แม่ค้าทำไม่ทัน คนสั่งเอาไว้แล้วเดินกลับมาพอดีเหลือกล่องเดียวถ้าไม่ได้กล่องนี้ก็ต้องรอกะทะต่อไป ลูกค้าก็เริ่มทะเลาะกันว่าใครมาก่อน คนนึงสั่งไว้แล้วเดินไปซื้อของ อีกคนมายืนเข้าแถวอยู่นานแล้ว แหม ท่าจะอร่อยจริงๆ ผ่านมากี่รอบๆ ก็มีคนเข้าแถวรอตลอดเลย ส่วนร้านอาหารตามสั่งแบบมีโต๊ะให้นั่งก็มื ร้านของกินเล่นแบบโฉบมาซื้อแล้วเดินต่อก็เยอะ อย่างข้าวแช่ชื่อเสียงโด่งดังตำรับแม่เล็กมาจากเพชรบุรีก็น่าสนใจ ลงหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ออกทีวีรายการคุณสรยุทธ์ นอกจากที่ถ่ายรูปมาก็ยังมีอีกเยอะแยะให้เลือกกันครับ
ไก่ทอดอารัตน์อร่อย ไก่ทอดสูตรอารัตน์เป็นสูตรเฉพาะของร้านนี้ ว่าแต่ว่าอารัตน์คือใคร อันนี้ผมไม่รู้นะ แต่ผมก็โฉบน่องไก่มา 1 ชิ้น 20 บาท เอาแบบกระดาษห่อไม่ต้อง เดินกินชมตลาดไปเรื่อยๆ ร้านนี้คอนเฟิร์ม อร่อยจริงครับ (ถ้าใครเช้ามาทางเดียวกับผมแนะนำให้ซื้อติดมือไปเลยเพราะอีกฟากหนึ่งไม่มีขายนะครับ)
ตลาดน้ำขวัญเรียม อันนี้เป็นภาพมุมสูง ที่ตลาดน้ำแห่งนี้จะสร้างอาคารมี 2 ชั้น ทั้ง 2 ฟากฝั่งคลองแสนแสบ ฝั่งบางเพ็งใต้มีบ้านลมเป็นที่สนุกสนานของเด็กๆ ในระหว่างที่ผู้ใหญ่หาของกินหรือช๊อปปิ้ง บนชั้น 2 จะมองเห็นตลาดน้ำขวัญเรียมในมุมกว้าง ในคลองแสนแสบมีเรือจอดเรียงราย เรือเหล่านี้เป็นเรือที่ตกแต่งให้ย้อนยุคมีหลังคาและหน้าต่างปิดเปิดได้ เรือแต่ละลำโยงถึงกันมีทางเดินเชื่อมไปยังเรือแต่ละลำให้เลือกนั่งได้ เรือเหล่านี้จะมีอาหารหลายอย่างให้เลือก แต่เนื่องจากเรือลำไม่ใหญ่จุคนได้ไม่มาก นอกจากเราจะเลือกอาหารที่อยากกินแล้วก็ต้องอาศัยดวงดีเรือลำนั้นมีที่นั่งว่างด้วยนะ อย่ามัวแต่มองอยู่เลยครับเดินลงไปเลยดีกว่า
กินไก่กะทิในเรือ นี่ก็เป็นเรือที่ผมอธิบายไปแล้ว ร้านนี้ขายไก่ย่างสูตรไก่กะทิเจ้าเดียวในตลาดแห่งนี้
บรรยากาศเรือในตลาดน้ำ ร้านนี้ตกแต่งแบบญี่ปุ่น ธงรูปปลาคาล์ฟบนหลังคาเรือ ส่วนรูปล่างเป็นอีกลำหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร เพราะเรือลำนี้ไม่ได้ขายอาหารแต่วางขายของตกแต่งกาน้ำชาลวดลายน่าใช้ และก็ยังมีอีกหลายรายการวางเรียงรายอยู่ริมหน้าต่าง
มุมถ่ายรูปที่ระลึกขวัญ-เรียม เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศชื่อตลาดที่ตั้งขึ้นเพื่อลำรึกเรื่องราวนวนิยายยอดนิยมในอดีต ก็ต้องมีพี่ขวัญกับน้องเรียม และควายคู่ใจ เป็นจุดถ่ายรูปจุดหนึ่งที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะบ่งบอกว่าได้มา ณ ตลาดน้ำขวัญเรียมแห่งนี้ ข้างๆ ยังมีทุ่งนาผืนน้อยที่ปลูกข้าวจริงๆ เอาไว้ด้วย เครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำนาแบบเก่าๆ ก็มีตั้งไว้ให้ชมกัน ต่อจากนี้ไปจะเป็นสะพานข้ามคลองแสนแสบไปยังอีกฟากหนึ่งของตลาด นอกจากที่เอารูปมาให้ชมกันนี้ยังมีร้านค้าอีกมากมายหลายร้าน ทั้งอยู่ในอาคารและอยู่ในเต็นท์เรียงเป็นแถวข้างกำแพงวัด
ศาลขวัญ-เรียม ในการสร้างตลาดแห่งนี้ขึ้นมาก็ได้ทำการตั้งศาลขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลของสถานที่แห่งนี้ พ่อค้าแม่ค้าก็มากราบไหว้กันจะได้ขายดีๆ หน้าศาลขวัญ-เรียมมีนักเรียนมานั่งบรรเลงดนตรีไทยหารายได้ด้วย เราเดินตลาดก็จะได้ฟังดนตรีไทยกันเพลินๆ และเข้ากับบรรยากาศย้อนยุคไปด้วย
สะพานโครงเรือ เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของตลาดน้ำขวัญเรียม ผู้สร้างจงใจสร้างไว้แบบนี้เหมือนเรือที่มีแต่โครง สะพานแห่งนี้จะเชื่อมตลาดน้ำขวัญเรียมทั้ง 2 ฟาก เข้าด้วยกันเป็นเป็นจุดถ่ายรูปที่นิยมกันมากที่สุดของตลาดเลย เมื่อข้ามฟากมาแล้วมองย้อนกลับไปก็จะเห็นวัดบางเพ็งใต้ที่เราอาศัยจอดรถ อีกด้านหนึ่งก็จะเป็นตลาดบกและตลาดน้ำมีเรือเรียงรายกันอยู่หลายลำแต่ไม่มากเท่าฝั่งบำเพ็ญเหนือเดี๋ยวค่อยๆ เดินชมกันไปครับ
ตลาดน้ำขวัญเรียม ที่ฝั่งบำเพ็ญเหนือ จะมีอาคาร 2 ชั้นเหมือนกับบางเพ็งใต้ แต่ฝั่งนี้สร้างเป็นระเบียงยาวๆ เลยทำให้เรามีมุมในการเก็บภาพบรรยากาศและวิวสวยๆ ของตลาดน้ำขวัญเรียม ได้มากมายหลายมุม ระเบียงยาวๆ นี้มีร้านค้าเรียงรายกันอยู่หลายร้านโดยแบ่งเป็นห้องกว้างพอประมาณ มีสินค้าหลายประเภท
เรืออาหารตลาดน้ำขวัญเรียม เมื่อเราอยู่บนระเบียงที่เชื่อมเข้ากับสะพานแล้วมองลงไปก็จะเห็นเรืออาหารหลายลำที่ฝั่งเหนือ เป็นที่นิยมของหมู่นักท่องเที่ยวเพราะถือว่าเมื่อมาเดินตลาดน้ำขวัญเรียมแล้วไม่เข้าไปนั่งกินในเรือก็ยังไม่ได้บรรยากาศ ทางเดินเลียบริมคลองแสนแสบไม่กว้างมากนัก พอให้เดินสวนกันได้น่าเสียดายที่เรือขนาดเล็กไปนิด จุลูกค้าได้ประมาณ 10 คน จะไปนั่งแช่ก็เกรงใจแม่ค้าเพราะมีลูกค้าหลายคนหาที่นั่งว่างในเรือ เกิดอยากกินหลายอย่างสั่งข้ามเรือได้นะครับ จ่ายเงินแล้วค่อยเข้ามานั่งในเรือลำเดียวกันก็ได้
สัญลักษณ์แห่งตลาดน้ำขวัญเรียม สิ่งหนึ่งที่เราจะเห็นได้บ่อยๆ ก็คือรูปกระบือหรือว่าเจ้าควายนี่แหละ วาดมาเป็นสไตล์การ์ตูนประดับหน้าร้าน
สินค้าประเภทเครื่องหอม เป็นร้านแรกที่อยู่สุดระเบียงเจ้าของรูปควายน่ารักๆ ที่ตั้งอยู่หน้าร้านภายในร้านก็ตกแต่งแบบลูกทุ่งไม่แพ้กันสินค้าเป็นประเภทเครื่องหอมที่ทำมาจากสมุนไพรและส่วนประกอบอื่นๆ ตามสูตรเฉพาะของร้านนี้ สินค้าที่ถูกใจผมก็คือสบู่ได้ติดมือมาก้อนนึง สนนราคาอยู่ที่ 80 บาท ยังไม่ได้ทดลองใช้เลย
ตลาดน้ำขวัญเรียม มุมสวยอีกมุมหนึ่งของสะพานข้ามคลองแสนแสบ ในระหว่างที่เรือนำเที่ยวล่องผ่านมาใต้สะพาน
ร้านค้าต่างๆ ฝั่งเหนือ มีอีกมากมายหลายร้านทีเดียวที่ไม่ได้เก็บภาพมา ร้านที่น่าสนใจอีกร้านหนึ่งก็เห็นจะเป็นร้านนาฬิกาโบราณ มีนาฬิกาหน้าตาแปลกๆ หลายเรือน โดยมีช่างนาฬิกาทำงานอยู่ในร้าน (เจ้าของร้านนั่นเอง) ภาพล่างขวาเป็นงานศิลปะดัดแปลงมาเป็นของใช้ของตกแต่งบ้าน ในร้านนี้ยังมีขนมอร่อยๆ ที่ออกจะดูไม่เข้ากับร้านผลงานศิลปะเท่าไหร่ ก็เลยลองซื้อมาชิมถุงละ 25 บาท เป็นโมจิที่อร่อยมากครับ ผิดคาด
ตลาดฝั่งเหนือชั้นล่าง สุดระเบียงมีบันไดเดินลงชั้นล่าง บันไดกว้างมากมองลงมาก็จะเห็นร้านค้ามากมายหลายร้าน มีทั้งของกินของใช้อีกแล้ว ไปเลือกดูกันเองอีกทีนะครับที่ถ่ายรูปมาไม่ครบทุกร้านหรอก บริเวณนี้เป็นโซนที่คนจะมารวมกันอยู่เยอะมากกว่าจุดอื่นๆ น่าจะเป็นเพราะของกินมากมายหลายเมนู มีท่าน้ำสำหรับลงเรือไปล่องเรือเที่ยวคลองแสนแสบ เป็นทางเดินไปยังเรือที่ขายอาหารเรียงรายกันอยู่หลายลำริมคลองอีกด้วย สินค้าบางรายการที่สะดุดตาผมกว่าอย่างอื่นคือผ้าย้อมสีธรรมชาติ สีสันอ่อนๆ จนเกือบทำให้ภาพเป็นภาพขาว-ดำ อย่างในรูปล่างซ้าย ส่วนรูปล่างขวาก็เป็นผลงานรูปน้องหมาน่ารักทีเดียว ทำมาจากกระดาษแบบที่ผมเคยเรียนตอนสมัยเด็กๆ เอากระดาษเหลือใช้มาแปะๆ เป็นรูปที่ต้องการแล้วลงสี พอทำออกมาเป็นรูปน้องหมาก็ออกแบบให้ใช้งานได้หลายอย่าง มีพวงกุญแจด้วย น้ำหนักเบาน่าใช้ทำง่ายจากเศษวัสดุด้วย สุดยอด
ลูกชิ้นหมูตังค์เต็ม ภาพซ้ายเป็นบรรยากาศการต่อคิวรอลูกชิ้นหมูไม้ละ 10 บาท ถือว่าไม่แพงแล้วสำหรับสมัยนี้ ที่คนมารอคิวกันยาวๆ ไม่ใช่ว่าจะเป็นช่วงๆ นะครับ ผมเห็นคนมารอแถวแทบจะไม่สั้นลงเลย ผมก็อยากจะถ่ายรูปหน้าร้านก็วนเวียนมาหลายรอบกว่าจะได้ภาพหน้าร้านว่างๆ ก็ตอนน้ำจิ้มจะหมดแล้วละ ช่วงเย็นๆ ที่คนเริ่มจะซาลงหน้าร้านจะว่าง อันนี้ก็แสดงให้เห็นว่าของเค้าอร่อยจริง และเพราะว่าของกินเล่นจะขายดีเป็นพิเศษ ขายดีกว่าอาหารมื้อหนักๆ เพราะว่าคนจะได้ซื้อแล้วถือกินไประหว่างการเดินตลาด เราจึงเห็นลูกชิ้น ไส้อั่ว และของกินเล่นอื่นๆ ค่อนข้างขายดี ส่วนรูปขวาล่างก็คือของหวาน อยู่สุดทางเดินก่อนถึงลานจอดรถวัดบำเพ็ญเหนือ พอเดินผ่านผมก็จัดรวมมิตรมา 1 ชุดแล้วไปนั่งกินริมคลอง
ตลาดน้ำขวัญเรียมฝั่งเหนือ ยังมีอีกมากมายก่ายกองที่สาทยายกันไม่หมด อย่างข้าวขาหมูโกยตังค์ใกล้ร้านลูกชิ้นตังค์เต็มก็ที่นั่งเต็มตลอด เดินไปอีกหน่อยก็ยังมีมามาสเต็ก ข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว (มากะเค้าด้วย) อาหารตามสั่งส้มตำ ฯลฯ เรียกว่าจัดหนักมื้อใหญ่ๆ ได้สบายๆ
ของหวานริมคลอง เดินตลาดบกมาพอสมควรมาดูในคลองบ้างว่ามีอะไร บริเวณที่มีคนเดินผ่านหนาแน่น มีที่นั่งริมน้ำรับลมเย็นๆ ริมคลอง มีของหวานมาจอดขายเทียบท่า ขายดิบขายดีเพราะหลานคนเริ่มเหนื่อยกับการเดินก็จะหาที่นั่งพักผ่อน บางคนกินข้าวมาเต็มพิกัดมานั่งเล่นริมน้ำเจอของหวานพอดีก็เลยไม่พลาด ที่นั่งเป็นแนวยาวขนานกับคลองแสนแสบลมพัดผ่านตลอดเวลา ตรงนี้ชอบมากเพราะลมเย็นๆ ทำให้เราเดินได้จนลืมเหนื่อยเลย
หลากไอเดียบนเสื้อผ้า เอาสินค้าประเภทเครื่องนุ่งห่มมาโชว์กันอีกชุดครับ 3 รูปนี้มาจาก 2 ร้าน ร้านหนึ่งใช้เศษผ้ามาเย็บต่อกันเป็นรูปร่างการ์ตูนแล้วค่อยแปะลงบนเสื้อและกระเป๋าเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเดิมๆ อีกร้านใช้การเย็บลายติดเหมือนกันแต่เน้นเป็นตัวอักษรครับ
มุมมหาชนตลาดน้ำขวัญเรียม เอาละสุดตลาดตรงสะพานข้ามฟากระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือกับวัดบางเพ็งใต้ คอสะพานมีป้ายตลาดน้ำขวัญ-เรียมตกแต่งด้วยดอกไม้สวยๆ เป็นจุดที่เรียกว่าใครมาก็ต้องถ่ายรูป เดี๋ยวจะไม่รู้ว่ามา ช่างภาพกับนางแบบรอคิวกันหลายคิวครับ ค่อยๆ รอใจเย็นๆ ไม่ต้องแย่งกัน
วัดบางเพ็งใต้ เมื่อเราข้ามฟากมาอยู่ที่ฝั่งวัดบางเพ็งเหนือ จะเห็นท่าน้ำหน้าวัดบางเพ็งใต้แบบเต็มๆ สวยๆ มีศาลาให้พักผ่อนหลายคนซื้อของกินแล้วไปนั่งในศาลากินแล้วเดินขึ้นรถที่ลานจอดรถได้เลย สบายๆ
วัดบางเพ็งใต้ ภาพวิถีชีวิตชาวคลองแสนแสบที่ยังคงใช้เรือในการเดินทางบ้างเป็นครั้งคราวก็ยังมีให้เห็น พายผ่านมาตรงหน้าวัดพอดีๆ ช็อตนี้อย่าให้หลุดมือไปได้
ตลาดน้ำขวัญเรียม ภาพวิวมุมกว้างของตลาดหลังจากที่เรานั่งพักกินของกินเล่นไปหลายเมนูทั้งลูกชิ้นทั้งไส้อั่ว ไหนจะน่องไก่ที่ถือมากินระหว่างเดินตลาด ยังคงมีเครื่องดื่มอีกมากมายทั้งน้ำอัดลม กาแฟสด เวลาผ่านเลยไปนับชั่วโมงเราก็เริ่มหิวของหนักๆ คราวนี้คงต้องพึ่งข้าวหรือก๋วยเตี๋ยวแบบจัดเต็ม จะมากินของกินเล่นอยู่ไม่ได้แล้ว เราเดินลอดสะพานโครงเรือมาที่ตรงเรืออาหารจอดเรียงรายกันอยู่ อย่างที่บอกไว้แหละครับมาตลาดน้ำขวัญเรียมไม่กินในเรือจะถึงตลาดน้ำขวัญเรียมได้ไง
หลากเมนูในคลองแสนแสบ มาดูกันสิครับว่าเรือหลายๆ ลำมีอะไรขายกันบ้าง เริ่มลำแรกเป็นกาแฟ (อะกินมาแล้วอันนี้ผ่าน) ลำต่อมาจะเป็นข้าวคลุกกะปิและข้าวน้ำพริกลงเรือ มีให้เลือก 2 อย่างเท่านี้ ลำถัดมาเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือของแท้ เพราะขายกันในเรือกินกันในเรือ ลำต่อไปเป็นข้าวแช่ตำรับแม่เล็กเหมือนกับที่อยู่บนตลาดบก งั้นผมเลือกข้าวน้ำพริกลงเรือ เพราะอยากจะให้ถึงบรรยากาศการกินในเรือ แล้วเดี๋ยวไปดูบรรยกาศกัน
น้องกระบือเชิญแขก เป็นเรือลำแรกที่ขายกาแฟครับ เอารูปน้องกระบือมาเชิญชวนลูกค้า ยืนถือเมนูเครื่องดื่มยาวเป็นหางว่าวเลย พอจะไปสั่งเครื่องดื่มปรากฎว่าแก้วหมด อดครับผม
บรรยากาศในเรือ อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมเลือกนั่งเรือลำนี้เพราะโต๊ะตัวนี้ที่ผมเรียกว่าโต๊ะ VIP ครับ ตั้งอยู่ที่ท้ายเรือ มีลำเดียวครับ ลำอื่นๆ ก็จะออกแบบแตกต่างกันไป โต๊ะตัวสุดท้ายที่ท้ายเรือ จะหันหน้าเข้าในลำเรือ ส่วนที่นั่งอื่นๆ จะนั่งหันหลังเข้าหากันหันหน้าออกหน้าต่างเรียงกันเป็นแถวตามลำเรือ พอเดินเข้ามาที่นั่งมันไม่ค่อยว่างมองเห็นโต๊ะตัวสุดท้ายเจ้าของเรือนั่งเล่นอยู่ก็เชิญผมไปนั่ง แหม พอดีจริงๆ อยากนั่งตั้งแต่แรกเห็นอยู่แล้ว เมื่อเรือลำนี้ขาย 2 เมนูคือข้าวคลุกกะปิกับข้าวน้ำพริกลงเรือ ก็สั่งทั้ง 2 อย่างเอามาอย่างละจานครับ
ข้าวน้ำพริกลงเรือ ภาพบนซ้ายเป็นตุ่มน้ำใบเล็กๆ ที่ตั้งอยู่หัวเรือ ลูกค้าที่เดินลงเรือมาก็หยิบเอาน้ำไปด้วย ถ้าไม่หยิบเดี๋ยวก็มีคนเอามาให้ เรียกว่าตุ่มน้ำขนานแท้ ใช้ตุ่มมาใส่น้ำแข็งเอาน้ำเป็นแก้วมีฝาปิดมาแช่พอดีกับการเสิร์ฟให้ลูกค้าคนละแก้ว แต่ถ้าไม่พอหยิบเพิ่มได้น้ำนี้ฟรี ส่วนข้าวคลุกกะปิกับข้าวน้ำพริกลงเรือของผมก็หน้าตางดงามน่ารับประทานอย่างที่เห็นนี่แหละ เนื่องจากว่าผมนั่งที่ท้ายเรือเลยมองเห็นทั้งเรือที่ขนาบอยู่ด้านขวาและด้านซ้าย ต่างกับที่ไปนั่งเรียงแถวในลำเรือจะมองเห็นด้านเดียว เรือแต่ละลำจอดเรียงกันไม่ห่างมากแค่พอเปิดหน้าต่างไม่ชนกันเท่านั้น ถ้านั่งกลางลำเรือก็จะมองเห็นคนที่นั่งในเรืออีกลำหนึ่งเหมือนมากินข้าวด้วยกันยังไงยังงั้น ถ้ามากันหลายคนเรานั่งลำนี้ส่วนเพื่อนอยากกินอย่างอื่นก็ไปซื้อมาได้ไม่ว่ากัน
ข้าวแช่เมืองเพชร เป็นเมนูหนึ่งที่อยากกินนะครับแต่พอกินข้าวไป 2 จานแล้วก็ไม่ไหวครับ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อยากกินข้าวแช่เอามากๆ เลยขับไปเมืองเพชรบุรี ถามหาร้านข้าวแข่ไม่เจอ อดกินเลย
ล่องเรือเที่ยวแสนแสบ กิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากอย่างหนึ่งของการมาเที่ยวตลาดน้ำขวัญเรียม ก็คือการล่องเรือเที่ยวคลองแสนแสบ เราก็รู้อยู่ว่าคลองแสนแสบไม่เหมือนคลองตามชนบท ความเจริญของเมืองกรุงได้กลบบรรยากาศดีๆ ริมคลองไปเยอะ คงมีเพียงรั้วของโรงงานเล็กๆ ริมคลอง กับบ้านเรือนไม่กี่หลังซึ่งแต่ละหลังก็แทบไม่ได้ใช้ท่าน้ำหน้าบ้านปล่อยให้ศาลาริมน้ำทรุดโทรมลงตามกาลเวลา แต่เราก็ยังอยากจะนั่งเรือเที่ยวอยู่ดี และคนที่คิดเหมือนเรามีไม่ใช่น้อย ระยะแรกการเปิดตลาดน้ำขวัญเรียมเพียง 2 สัปดาห์ ก็ยังไม่รู้ว่าคนจะมามากขนาดไหน เจ้าของเรือก็เอาเรือมาลองให้บริการดู 2 ลำ ปรากฎว่าไม่เพียงพอครับ คนรอคิวกันยาวเชียว สนนราคาแค่ 10 บาท เราก็ลงมาเลือกที่นั่งตรงหัวเรือเพื่อเก็บภาพให้ถนัดๆ
ล่องเรือตลาดน้ำขวัญเรียม หลังจากที่ลงเรือได้ไม่นาน เราก็ออกเดินทางเพราะคนเต็มลำเรือในเวลาชั่วครู่เดียว อย่างที่บอกละครับว่าริมคลองแสนแสบจะเอาบรรยากาศเหมือนอัมพวาก็คงไม่ได้หรอกครับ แต่ที่ผมได้เห็นก็คือยอ เป็นอุปกรณ์จับสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดที่ใช้งานได้ด้วยคนๆ เดียว ในสมัยก่อนบ้านเรือนริมน้ำมักจะต้องมียอไว้ท่าน้ำเสมอเพื่อจับปลากิน ตอนนั้นปลาก็มีอยู่ชุกชุมจนค่อยๆ ลดจำนวนลงไปมาก ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปการใช้ยอก็ค่อยๆ หายไปจากวิถีชีวิตโดยเฉพาะบ้านเรือนในกรุงริมคลองแสนแสบ ตาข่ายหายไปเหลือไว้เพียงแต่โครงของยอ อีกไม่นานเราคงจะเห็นยอได้จากในพิพิธภัณฑ์เท่านั้นกระมัง
ท่าน้ำตลาดน้ำขวัญเรียม ใช้เวลาเพียงไม่นานกับการล่องเรือชมบรรยากาศคลองแสนแสบ เราก็วกกลับมาที่เดิมตรงที่เราลงเรือ และจบทริปลงเพียงเท่านี้
ฟังดนตรีไทย นักเรียน 3 คน มานั่งบรรเลงเพลงไทยในชุดนักเรียน ศิลปะอันทรงคุณค่าที่ต้องรักษาเอาไว้อย่างดนตรีไทย ถูกถ่ายทอดให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป ทำหน้าที่ในการรักษา นักท่องเที่ยวเดินตลาดน้ำขวัญเรียมก็ได้ฟังดนตรีเพลินๆ รำลึกบรรยากาศย้อนภาพอดีตสมกับชื่อตลาดน้ำ
ปิดด้วยภาพสุดท้าย จบการนำเที่ยวรอบตลาดน้ำขวัญเรียมเท่านี้ครับ ว่างๆ อย่าลืมไปหาของอร่อยๆ กิน เปิดตั้งแต่เช้า จนถึงค่ำ มีกิจกรรมตักบาตรทางน้ำที่ท่าน้ำของตลาด ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีหลวงพ่อจากวัดบำเพ็ญเหนือและบางเพ็งใต้มารับบิณฑบาตร เที่ยวที่เดียวได้ทั้งกิน ชม ช้อป และทำบุญจริงๆ
เก็บตกห้องน้ำไฮเทค ลืมไปได้ยังไงก็ไม่รู้กับรูปห้องน้ำของตลาดน้ำขวัญเรียม มองภายนอกดูธรรมดาๆ พอเข้าไปด้านในแล้วสุดยอดด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัย ควบคุมการฉีดน้ำด้วยแผงปุ่มกดด้านข้างชัดโครกอย่างที่เห็นนี่ละครับ ไปตลาดน้ำแห่งนี้ไม่ว่าจะอยากเข้าห้องน้ำหรือเปล่าก็ลองเดินเข้าไปดูซะหน่อยเค้าอุตส่าห์ทำขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวถ้าไม่เข้าห้องน้ำ กลับมาคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องไม่รู้ด้วยนะครับ...
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ