ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานจังหวัดกระบี่ โทร. 0 7562 2163
http://www.tourismthailand.org/krabi
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา เช่นเดียวกันกับการเดินทางเที่ยวทะเลกระบี่ทริปเกาะ PP วันนี้ เราติดต่อเรือทัวร์เกาะห้อง และก็โปรแกรมเดย์ทริปเกาะอื่นๆ เราเรียกโปรแกรมนี้ว่า 9 เกาะ เพื่อให้ง่ายต่อการคุย แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่การไปเที่ยวเกาะ 9 เกาะ แต่หมายถึงไปจุดแวะที่น่าสนใจอื่นๆ รวมเกาะห้องด้วยให้ได้ 9 จุด เช่น หาดไร่เล อ่าวพระนาง ก็นับเป็นอย่างละ 1 จุด เรือนำเที่ยววันนี้ไม่ต้องใช้เรือสปีดโบ๊ทแต่เป็นเรือหางยาว จำนวนคน 5 คน คิดคนละ 900 บาท ถือว่าถูกมาก ทั้งนี้ก็อยู่ที่การเจรจาของเรา จากนั้นก็มานัดเจอกันที่หาดนพรัตน์ธาราตรงที่เรือจอดเยอะๆ โดยมีรถของรีสอร์ทที่เราพักมาส่งถึงหาดตอนเย็นก็จะมารับเราด้วย ถือเป็นบริการพิเศษที่เราต้องถามที่พักของเราว่ามีรถรับ-ส่งหรือเปล่า
เกาะล่าดิง เกาะแรกหลังจากที่เรือออกจากหาดนพรัตน์ธาราเป็นเกาะที่เราไม่รู้จัก แต่คนขับเรือแนะนำว่าสวย โปรแกรมวันนี้เราไม่ต้องการอะไรมากตอนตกลงราคาเราอยากไป 9 จุด จุดที่เราเน้นคือทะเลแหวก กับเกาะห้อง ส่วนอีก 7 จุดให้เรือแนะนำให้เราว่าที่ไหนสวยและอยู่ในเส้นทาง เวลาประมาณ 30 นาที เราก็เห็นเกาะเล็กๆ อยู่ตรงหน้า มีอ่าวเล็กๆ ล้อมด้วยเขาสูง น้ำทะเลใสและหาดสวย มีกระท่อมหลังเล็กๆ ตั้งอยู่ คนเรือบอกว่าเป็นบ้านของคนที่รับจ้างเฝ้าเกาะเพราะบนเกาะมีรังนก
พอลงจากเรือมาที่หาดมีแมวนั่งชิงช้าอย่างสบายใจ ฝั่งซ้ายของหาดเริ่มมีคนมาเที่ยวมีจุดดำน้ำดูปะการังและฝูงปลา หรือจะเลือกนั้งเล่นบนเกาะแบบชิลๆ ก็ได้
ด้านขวาของหาดจะเป็นที่เรือนิยมมาจอด เว้นพื้นที่ด้านซ้ายเอาไว้ให้คนลงไปเล่นน้ำ ทีแรกตอนเข้ามาใหม่ๆ เกาะล่าดิงดูเหมือนเกาะที่คนไม่ค่อยมาเที่ยวเป็นเกาะเงียบๆ แต่อยู่ไปไม่กี่นาทีเรือก็ทยอยเข้ามาจอดมากขึ้นๆ จนคนขับเรือแปลกใจว่าทำไมถึงมีคนอยากมาเที่ยวเกาะล่าดิงมากขนาดนี้
เกาะผักเบี้ย เวลาเที่ยวหลายๆ เกาะด้วยเรือเหมา เราสามารถที่จะอยู่ที่ไหนนานที่ไหนไม่นานได้หมด รู้สึกว่ามันดีตรงนี้เอง เราออกจากเกาะล่าดิง 10 โมง 12 นาที ใช้เวลา 7 นาที เรือก็มาถึงอีกเกาะหนึ่ง ไม่ใหญ่ไปกว่ากันเท่าไหร่ ชื่อว่าเกาะผักเบี้ย เกาะนี้คนรู้จักกันเยอะกว่าเกาะล่าดิง จากเกาะใหญ่มีหาดทรายทอดยาวเชื่อมไปถึงเกาะเล็กๆ ที่อยู่ใกล้กัน หาดทรายนี้จะพ้นน้ำมาให้เราเดินข้ามได้ในยามน้ำลงเหมือนกับทะเลแหวกเล็กๆ หาดทรายบนเกาะผักเบี้ยก็เป็นหาดที่ยาวใช้ได้เลยทีเดียว มีที่ให้เลือกพักผ่อนหลายจุด
ด้านขวามือของหาดบนเกาะผักเบี้ย มีเกาะที่อยู่ใกล้ๆ กันอีกเกาะชื่อว่าเกาะไร่ เป็นจุดแวะจุดถัดไปของโปรแกรมวันนี้นั่งเรือไม่ถึงนาทีก็ถึงแล้ว
เกาะไร่ เป็นเกาะเล็กแล้วหาดทรายก็มีสั้นๆ เล็กๆ แต่ฝรั่งชอบมาเกาะนี้กันมาก เพราะคนไทยไม่ค่อยมา เค้าจะชอบเกาะที่มีความสงบๆ เล่นน้ำได้ ดำน้ำได้มีอะไรให้ชมใต้น้ำพอสมควร จุดดำน้ำลงได้ทั้งหน้าหาดแล้วก็ด้านข้างๆ ของเกาะ ส่วนคนที่เน้นพักผ่อนก็จะได้พักอย่างสงบ เป็นสไตล์การเที่ยวของฝรั่ง เกาะนี้เราลงดำน้ำไม่นานก็เดินทางกันต่อ เผื่อว่าเราจะได้ใช้เวลาบนเกาะใหญ่ๆ ได้นานขึ้น ทัวร์หลายๆ เกาะสำคัญที่การบริหารเวลาของเราเองไม่งั้นถ้าเจอเกาะสวยๆ แล้วเหลือเวลาน้อยๆ ก็ต้องทำใจ
ลากูน ออกจากเกาะไร่ ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที เราก็มาเจอช่องว่างแคบๆ ระหว่างภูเขา มองลึกเข้าไปมีอ่าวสีเขียวมรกต มีเรือสวนทางออกมา เราก็รอเพื่อที่จะเข้าไปด้านในบ้าง คนเรือบอกว่านี่เรียกว่า ลากูน เป็นส่วนหนึ่งของเกาะห้อง
ลากูนของเกาะห้อง แตกต่างกับลากูนของเกาะพีพี เพราะที่เกาะห้องมีป่าชายเลน เรือจะพาเราล่องเข้าไปใกล้ๆ เราจะเห็นลิงที่อาศัยอยู่ตามป่าพวกนี้ ส่วนพื้นที่ตรงกลางเป็นเวิ้งของทะเลสีเขียวที่สวยมากๆ น้ำใสมาก ใครอยากลงดำน้ำตรงนี้ก็ลง หรือจะนั่งถ่ายรูปบนเรือไปเรื่อยๆ ก็ได้
หลังจากที่เราเข้ามาในลากูนได้สักพักเรือลำอื่นๆ ก็ทยอยตามเข้ามามากขึ้นๆ พอจะเดาได้ว่า คนมาเที่ยวกระบี่แล้วเหมาเรือเที่ยวหลายๆ เกาะเหมือนเราจะมีเยอะ แต่ก็จะมีโปรแกรมหลักๆ อยู่ 2 โปรแกรม คือเกาะพีพี กับเกาะห้อง เพราะทั้งสองเกาะไปคนละทางกัน การมาค้างหลายวันเพื่อที่จะได้เที่ยวทั้ง 2 เกาะใหญ่ๆ และเกาะเล็กๆ อีกมากมายเหมือนที่เราทำ จึงเรียกว่าคุ้ม เพราะนานๆ จะได้มาเที่ยวกระบี่ซะที
หมู่เกาะกระบี่ ไม่ว่าเรือเราจะไปทางไหน เข้าที่ไหน ออกที่ไหน ก็จะมีเรือที่สวนทางกับเรา หรือว่ากำลังแล่นมาตามเส้นทางในโปรแกรมคล้ายๆ กับเราอยู่ตลอดทั้งวัน นั่งเรือเที่ยวเกาะในกระบี่เป็นกิจกรรมที่นิยมมากจริงๆ แล้วเกาะในกระบี่ก็มีมาก พอออกทะเลก็จะเห็นเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่เต็มไปหมด
เกาะห้อง 5 นาทีโดยประมาณ เรือพาเราออกจากลากูน มาอยู่ที่ด้านหน้าของเกาะห้อง เกาะนี้เป็นไฮไลท์ของโปรแกรมที่เราเลือกจึงวางแผนให้มาถึงที่เกาะห้องในช่วงเที่ยง เราจะได้กินข้าวเที่ยงบนเกาะ อาหารเราต้องเตรียมมาเองซึ่งไม่ใช่เรื่องยากแค่ไปตลาดตอนเช้าก่อนที่จะมาขึ้นเรือที่หาดนพรัตน์ธารา เป็นข้าวกล่องและกับข้าวที่อยู่ได้ถึงเที่ยง สั่งให้ง่ายๆ เข้าไว้ แล้วเผื่อไม่อิ่มด้วยข้าวเหนียวไก่ทอด หรือที่เรียกกันฮิตๆ ว่า เหนียวไก่ เรานี่แหละ ระหว่างที่เรือมันแล่นไปกลางทะเลไม่มีอะไรทำยังได้หยิบเหนียวไก่ใส่ปากได้บ้าง
เรามาถึงเกาะห้องเวลา 11.19 น. เพราะเราใช้เวลาที่เกาะไร่สั้นมากอยากอยู่เกาะห้องนานๆ เกาะห้องนี่เป็นที่ที่คนนิยมมาเที่ยวกันจริงๆ เรือจำนวนมากจะมาจอดเรียงกันอยู่ที่สะพานเทียบเรือที่ทำด้วยแพลอยต่อกัน ยิ่งคิดว่าจะมากินข้าวเที่ยงบนเกาะก็ยิ่งคนเยอะเพราะคิดคล้ายๆ กันหมด
พอเรือเทียบกับแพลอยเราก็ต้องลงมาจ่ายเงินค่าขึ้นเกาะกับเจ้าหน้าที่อุทยาน แล้วเดินบนแพลอยเข้าหาฝั่ง เรือของเราจะไปจอดตรงที่เค้าหาได้ แล้วก็นัดเวลากันว่าจะอยู่นานแค่ไหน (เที่ยวแบบเหมาลำนี่ดีจริงๆ) ปกติเที่ยวทะเลกระบี่ 9 เกาะหรือ 9 จุดแวะในวันเดียว เอาจุดละครึ่งชั่วโมงกำลังดี แต่เกาะห้องนี่เราจะใช้เวลากันประมาณชั่วโมงครึ่ง ด้วยการเที่ยวจุดอื่นๆ แบบเร็วหน่อย กินข้าวเที่ยง ถ่ายรูป ดำน้ำ รวมๆ กันอย่างน้อยก็น่าจะเกินชั่วโมง
จากสะพานแพลอยหาดของเกาะห้องจะอยู่ขวามือ แต่ทางซ้ายมือไม่ค่อยมีหาดทราย เพราะน้ำท่วมถึงหมด แต่ความใสของน้ำและโขดหินบนเกาะมันสวยจนคนที่ชอบถ่ายรูปเค้าจะเลือกไปอยู่ด้านซ้าย แต่ก็มีไม่กี่คนอย่างที่เห็น
เกาะห้องมีกิจกรรมหลายอย่าง มีเรือคายัคบริการ มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำเกาะ มีร้านค้าเล็กๆ ขายขนม มีห้องน้ำบริการมีหาดเหมือนเลข 3 ลงเล่นตรงไหนก็ได้ ด้านหนึ่งเปิดโล่ง มีทุ่นผูกไว้ ส่วนอีกด้านมีเกาะอีก 1 เกาะตั้งขนานกับหาดทราย คลื่นลมเลยเข้าไม่ค่อยถึง คนจะชอบไปเล่นตรงนั้นมากกว่าลงเล่นน้ำในหาดที่เปิดโล่ง เกาะที่ขึ้นตั้งขวางคลื่นลมให้กับหาดทรายขาวสวย น่าจะเป็นที่มาของชื่อเกาะห้องเพราะเหมือนเป็นห้องๆ หนึ่งเลย
ฝูงปลาที่เกาะห้อง ปลาเสือเป็นปลาที่พบเยอะมากในทะเลกระบี่ เกาะห้องก็มีปลาเสือเยอะเหมือนกัน แต่ก่อนคนมาเที่ยวชอบเอาขนมมาล่อปลาเพื่อให้ปลาเข้ามารุมกินกันมากๆ แล้วถ่ายรูป ทำให้ปลาเสียนิสัยในการหากินตามธรรมชาติ หลังจากนั้นก็มีการออกมารณรงค์และมีกฎห้ามให้อาหารปลา เวลาเราลงดำน้ำทุกวันนี้ปลาส่วนหนึ่งก็ยังพุ่งเข้ามาหาเราหวังขนม แต่พอไม่ได้ขนมสักพักมันก็สลายตัวไปคนละทาง
หาดของเกาะห้องเป็นทรายที่สะอาดและมีวิวสวยๆ ด้านที่มีเกาะบังมีคนเยอะมากส่วนอีกด้านแทบไม่มีคนเลย หลังจากถ่ายรูปดำน้ำแล้วก็เดินไปหาร่มไม้นั่งกินข้าว กะเพราไข่ดาวของเราไปตามเรื่อง พักผ่อนจนได้เวลาที่นัดกับเรือแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ
เก็บได้หมึก พอออกจากเกาะห้องมาไม่นานเรือแล่นไปตามทางเพื่อที่จะไปที่ต่อไปของเรา ระหว่างนั้นก็เห็นหมึกตัวเบ่อเริ่มลอยอยู่บนผิวน้ำ เห็นไกลๆ นึกว่ากระพรุน พอเข้ามาใกล้ๆ ก็เห็นชัดว่าเป็นหมึกตัวใหญ่มากลอยน้ำอยู่เฉยๆ ทีแรกไม่กล้าเก็บ แต่คนเรือบอกว่าหมึกพวกนี้ตายตามธรรมชาติเมื่อหมดอายุขัย กินได้ ปลอดภัย มื้อเย็นวันนี้เราเลยมีหมึกกินกันอย่างอร่อยด้วยบริการเตาปิ้งย่างของทางรีสอร์ทที่จัดไว้บริการลูกค้า
เกาะไม้ไผ่ ใช้เวลาเดินทาง 40 นาทีจากเกาะห้อง ตอนนี้เรามาอยู่ในจุดที่เรียกว่าเกาะด้ามหอก เกาะด้ามหอกเป็นเกาะหินสูงตระหง่านไม่มีหาดทราย เรือจะจอดอยู่ใกล้ๆ เกาะทิ้งสมอเพื่อให้เราลงดำน้ำ เกาะด้ามหอกมองเห็นเกาะไม้ไผ่อยู่ไกลๆ เป็นคนละจุดกับที่เราลงดำน้ำแล้วเจอปลาการ์ตูนเมื่อวานในทริปวันเดย์เกาะพีพี เกาะด้ามหอกนับเป็นจุดแวะจุดแรกของภาคบ่ายสำหรับวันนี้
พอลงน้ำ ปลาเสือก็จะว่ายเข้ามาขอขนมเหมือนกับอีกหลายๆ ที่ แต่ถ้าเราร่วมมือกันไม่ให้ขนมมันจะได้ไปหากินตามธรรมชาติซึ่งน่าจะดีกว่า น้ำทะเลรอบเกาะด้ามหอกใสมากถ่ายเซลฟี่ตัวเองได้สบายๆ เลย
ใต้ทะเลเกาะด้ามหอกมีปลาแปลกๆ สวยๆ หลายอย่าง แต่ระดับน้ำค่อนข้างลึกถ่ายให้ชัดได้ยาก ปลาที่มาเจอที่นี่เยอะหน่อยคือปักเป้า มันจะอยู่นิ่งๆ ในซอกหิน ส่วนปลาการ์ตูนก็มีบ้างแต่ถ่ายยากกว่าจุดที่น้ำตื้นเพราะแสงจะส่องถึงได้น้อยกว่า
แอดเวนเจอร์ปีนผากลางทะเล จากเกาะด้ามหอก เราดำน้ำอยู่ 40 นาที จนประมาณ 13.55 ก็ออกเดินทางต่อ 8 นาทีต่อมา เราก็มาถึงจุดๆ หนึ่ง เป็นเกาะที่คล้ายๆ กับถ้ำลอด เรือพาเราลอดใต้เพดานถ้ำมาทะลุอีกด้าน เห็นฝรั่งจอดเรือมองขึ้นข้างบนเหมือนมุงดูอะไรสักอย่าง เลยบอกให้เรือย้อนกลับไปดูใกล้ๆ
พอมาใกล้หน่อยถึงรู้ว่าฝรั่งพวกนี้มาปีนผา มีบันไดเชือกผูกไว้ให้ปีนขึ้นไป พอสูงหน่อยก็กระโดดลงน้ำดูน่าสนุก แต่คนไทยคงไม่ค่อยมาเล่นอะไรแบบนี้แน่ๆ กะจากระดับที่กระโดดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 10 เมตร
ปีนไปแล้วก็กระโดดบางคนไม่กระโดดก็ปีนขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ด้วยมือเปล่า เห็นแล้วเสียวแทน คนนี้ปีนไปถึง 30 เมตรเห็นจะได้ แต่ไม่มีที่กระโดดสุดท้ายก็ปีนลงมาโดดที่เดิม
ทะเลแหวก จุดที่เป็น Unseen Thailand เกาะเล็กที่อยู่ด้านขวาชื่อเกาะทับมีการตั้งชื่อภาษาอังกฤษว่าTub Island แต่ถ้าเขียนอีกแบบเป็น T-Up Island ให้หมายความถึงสันทรายที่โผล่ขึ้นมาเป็นรูปตัว T เฉพาะเวลาน้ำลงก็เก๋ดี ทะเลแหวกนี้เชื่อม 3 เกาะเข้าด้วยกันสามารถเดินถึงกันได้ ทะเลแหวกเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเมื่อน้ำทะเลลดลงต่ำสุดในแต่ละวัน เวลาที่น้ำลดไม่เท่ากัน การวางแผนมาเที่ยวเลยต้องให้ตรงกับตารางน้ำขึ้นน้ำลงที่ติดเอาไว้ที่หาดนพรัตน์ธาราแล้วก็บนเกาะแห่งนี้ คนเรือจะรู้ดีว่าวันไหนน้ำลงสุดเวลาเท่าไหร่ เพราะนักท่องเที่ยวจะมากันเยอะ โปรแกรมเที่ยวทางทะเลที่กระบี่เลยต้องวางให้เหมาะว่าจะไปไหนนานแค่ไหน แล้วต้องมาถึงทะเลแหวกเวลาเท่าไหร่ ทุกคนจะพยายามมาให้ถึงช่วงที่น้ำกำลังจะลง แล้วเดินเล่นตั้งแต่ตอนที่น้ำเลอยู่ที่ระดับตาตุ่ม เดินไปเรื่อยๆ จนน้ำลงสุดก็จะเป็นหาดทรายแห้งๆ หลังจากนั้นคนก็จะน้อยลงทยอยกลับฝั่งหรือไปที่อื่นต่อตามแต่โปรแกรมและเวลาจะอำนวย ใช้เวลา 8 นาทีจากจุดปีนผาเรามาถึงที่นี่ 14.24 น. ทันน้ำทะเลเป๊ะเลยคนก็กำลังเดินถ่ายรูประหว่างที่น้ำทะเลกำลังลดจนทรายแห้ง
เกาะ 3 เกาะที่มีทรายเชื่อมต่อกันเป็นทางเดินถึงกันได้ สันทรายดูเหมือนตัว T จริงๆ มี 1 เกาะที่เป็นเกาะใหญ่สุด คือที่ที่เรายืนอยู่แล้วถ่ายรูปนี้มาได้ อีก 2 เกาะจะเป็นเกาะเล็กๆ เรือจะจอดที่เกาะเล็กแล้วให้เราเดินเล่นกันมาที่เกาะใหญ่เอง บนเกาะใหญ่มีร้านอาหาร จะมากินข้าวกันบนเกาะนี้ก็ได้ แต่ต้องสอบถามเวลาร้านปิดด้วยเพราะแต่ละวันน้ำลงไม่ตรงกัน วันธรรมดาร้านอาจจะปิดเร็วก็ได้ เท่าที่สังเกตุตารางน้ำบางวันน้ำลงแต่เช้า เช้ามากๆ นั่งเรือออกจากฝั่งมาบางทีก็ไม่ทันแล้ว ร้านอาหารอาจจะไม่เปิดก็ได้
ทะเลแหวก Unseen Thailand พอน้ำทะเลลงสุดแล้ว ทรายที่โผล่ขึ้นมาก็เริ่มที่จะแห้ง เหมือนหาดทรายทั่วไป นักท่องเที่ยวก็จะทยอยเดินทางออกจากเกาะแห่งนี้ไปเที่ยวกันต่อ ใช้เวลาบนเกาะนี้ไม่นานเท่าไหร่ ส่วนมากอยากมาตอนน้ำกำลังลงสุดมาเดินผ่านน้ำแล้วก็กลายเป็นสันทราย ทรายที่เห็นอยู่ก็กว้างมากๆ เป็นทางเดินกว้างหลายเมตรเลย ความยาวนับเป็นร้อยเมตร
เกาะไก่ จุดแวะอีกจุดหนึ่งของทริปในวันนี้ หลังจากที่ฟินสุดๆ กับการเที่ยวเกาะห้อง ลากูน ทะเลแหวก จากนี้ไปเหมือนได้ของแถมของทริป เกาะไก่อยู่ใกล้กับทะเลแหวกมากๆ นั่งเรือแป๊บเดียว สัญลักษณ์คือหินรูปหัวไก่ที่ท้ายเกาะ เป็นจุดดำน้ำที่มีอะไรสวยๆ ให้ดูเยอะ
หลังจากที่น้ำลงจนเห็นทะเลแหวก ระดับน้ำจะตื้นมากพอเรามาดำน้ำที่เกาะไก่ โขดหินขนาดใหญ่ก็อยู่ใกล้ๆ กับระดับผิวน้ำ เราจะต้องดำน้ำอย่างระวังเพราะกลัวว่าคลื่นจะพาเราไปโดนหอยเม่นที่อยู่บนโขดหิน แถวนี้จะมีปลาอาศัยอยู่หลายชนิด หอยมือเสือตัวใหญ่ๆ หลายตัว ดำน้ำเห็นชัดมากเพราะน้ำตื้น ถ่ายรูปไปได้สักพักแบตก็หมดเป็นอันว่าการดำน้ำของเราจึงต้องจบเอาไว้เท่านี้ ไว้คราวหน้าค่อยมาว่ากันใหม่
อ่าวพระนาง จบการดำน้ำที่เกาะไก่ เวลาก็ล่วงเลยมาเยอะแล้ว ทัวร์เกาะในทะเลกระบี่ ส่วนใหญ่จะถือว่า เวลา 16.30 น. ควรจะกลับถึงฝั่ง นับจากเวลาออกจากฝั่ง 8.00 น. ก็ถือว่าคุ้มทั้ง 2 ฝ่าย เราออกเดินทางกลับฝั่ง โดยโฉบเข้ามาถ่ายรูปบริเวณอ่าวพระนาง อ่าวที่สวยงามมากของกระบี่ที่รถเข้าไม่ถึงต้องเดินทางด้วยเรือเหมือนกับหาดไร่เล ด้วยความเถลไถลเราใช้เวลาบนเกาะทะเลแหวกค่อนข้างนาน เลยทำให้เรามาเวลาถ่ายรูปอ่าวพระนางได้แต่ไกลๆ เท่านั้น ก็ถือว่าโทษใครไม่ได้ ด้านขวามือในรูปนี้คือถ้ำพระนาง ว่ากันว่าเป็นถ้ำที่สวยงามมากแต่ก็คงต้องเอาไว้คราวหน้าเดี๋ยวค่อยมารีวิวอ่าวอย่างละเอียดกันอีกที
อีกด้านหนึ่งของอ่าวพระนางคือหาดไร่เล จากหาดไร่เลไปอ่าวพระนางก็ต้องไปทางเรือ จากไร่เลไปหาดนพรัตน์ธาราก็ต้องไปทางเรือเท่านั้นเหมือนกัน ไร่เลกับอ่าวพระนางมีเขาสูงตระหง่านกั้นอยู่ มีที่พักที่หาดทั้ง 2 แต่ราคาสูงลิบลิ่ว เรียกได้ว่าจะมาพักบนหาด 2 แห่งนี้ค่าใช้จ่ายต่างกับพักบนฝั่งมาก
จบทริปทัวร์ 9 จุดทะเลกระบี่ เกาะห้อง ทะเลแหวก ของเราอย่างประทับใจ ทุกจุดที่แวะมีความสวยงามต่างกันไป ถ้าอยากมีเวลาเที่ยวแต่ละจุดให้นานขึ้นก็ลดจำนวนสถานที่ลง เรือนำเที่ยวที่กระบี่คุยง่าย ว่าไงว่าตามกันอยู่แล้ว ว่างๆ ลองไปดูแล้วจะได้รู้จักกระบี่ให้มากขึ้น
"ถ้ามาช่วงจังหวะดีๆ จะสวยมากเลย"
Akkasid Tom Wisesklin
2017-11-15 22:57:09
5/5 จาก 1 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ