ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ http://www.tourismthailand.org/bangkok
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
พลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เมื่อเดินทางมาด้วยรถประจำทางลงที่ถนนราชดำเนินกลางเพื่อจะเข้าไปยังวัดราชนัดดาราม และโลหะปราสาท จะมีสวนหย่อมหัวมุมถนนเรียกว่าลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งประกอบไปด้วยพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มองมุมนี้จะเห็นโลหะปราสาทเด่นสูงกว่าอาคารอื่นๆ ทั้งหมดก่อนที่จะเดินเข้าไปยังโลหะปราสาทในวัดราชนัดดารามวรวิหารจะได้ชมบริเวณนี้โดยรอบ รวมทั้งมีป้อมมหากาฬอยู่อีกด้านหนึ่งของถนนมหาไชย
มองเห็นโลหะปราสาท ความงดงามและโดดเด่นของโลหะปราสาทจากบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พอจะหามุมเปิดให้เห็นองค์ปราสาทได้ชัดเจนจากชั้นที่ 2 ขึ้นไป ในมุมเดียวกันนี้หากมาในเวลากลางคืนจะเปิดไฟสว่างสามารถถ่ายภาพได้ความสวยงามในอีกแบบหนึ่งด้วย
พลับพลามหาเจษฎาบดินทร์
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2533 โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการ เป็นพระรูปหล่อด้วยสำริดประทับบนพระที่นั่งสูงขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง ภายในบริเวณตกแต่งด้วยไม้ดอก ไม้ประดับ มีพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อใช้รับราชอาคันตุกะจากต่างประเทศที่มาเยือนประเทศไทย และศาลาราย 3 หลัง
เดินสู่วัดราชนัดดารามและโลหะปราสาท บริเวณโดยรอบพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีทางเดินเชื่อมถึงกันหลายทาง สามารถเดินไปยังวัดราชนัดดารามได้
แต่เดิมโลหะปราสาทไม่ได้ตั้งเด่นเป็นสง่าเมื่อผ่านมาทางถนนราชดำเนินเหมือนในปัจจุบัน เพราะมีการก่อสร้างโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย หัวมุมถนนราชดำเนิน ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นโรงภาพยนตร์แห่งแรกของประเทศไทย ต่อมาใน พ.ศ. 2532 จึงได้มีการรื้อศาลาเฉลิมไทย เพื่อเปิดมุมมองทางเข้าเกาะรัตนโกสินทร์จากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ก่อสร้างเป็น ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ พื้นที่โดยรอบเป็นลานกว้าง จัดสร้างพลับพลาที่ประทับ เพื่อที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงออกรับแขกบ้านแขกเมือง เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ซึ่งต่อมาคือ รัชกาลที่ 3
พระอุโบสถวัดราชนัดดาราม สำหรับสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ในวัดราชนัดดารามนี้ก็ยังเป็นแบบไทย พระอุโบสถเป็นมีช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันลงรักปิดทอง ประดับด้วยกระจกงดงาม ภายในประดิษฐานพระประธานพระนามว่า "พระเสฏฐตมมุนี"
ทางเดินด้านหน้าพระอุโบสถเป็นทางเดินไปยังโลหะปราสาทซึ่งมีกำแพงกั้นอีกชั้นหนึ่ง อีกด้านหนึ่งของทางเดินคือพระวิหาร
พระวิหารวัดราชนัดดารามวรวิหาร พระวิหารก็เป็นศิลปะแบบไทยเช่นเดียวกันกับพระอุโบสถ ภายในมีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเป็นประธาน พระนามว่า "พระพุทธชุติธรรมนราสพ" แต่น่าเสียดายที่เรามาในวันที่วัดราชนัดดารามไม่ได้เปิดให้เข้าชมทั้งพระอุโบสถและพระวิหารจึงได้เพียงภาพภายนอกมาเท่านั้น
โลหะปราสาทวัดราชนัดดาราม
โลหะปราสาท สันนิษฐานว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ให้โลหะปราสาทเป็นที่สำหรับพระภิกษุสงฆ์ใช้จำพรรษา หรือปฎิบัติธรรม ตามที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ว่าโลหะปราสาทคืออาคารหลายชั้นมีหลังคาทำด้วยโลหะอีกสองแห่งที่เคยปรากฏในโลกคือ ที่กรุงสาวัตถีประเทศอินเดียและที่กรุงอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา ซึ่งทั้งสองแห่งชำรุดสูญสลายลงไปนานนับพันปี โลหะปราสาทของไทยจึงเป็นแห่งที่ ๓ ของโลกและเป็นแห่งเดียวที่ยังคงปรากฏสภาพสมบูรณ์ในปัจจุบัน
โลหะปราสาท โลหะปราสาทของไทยมิได้แล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้จะมีความพยายามที่จะสร้างเสริมเติมต่อมาเป็นระยะแต่ด้วยปัญหาและอุปสรรคนานัปการ ทำให้โลหะปราสาทมีสภาพที่ยังไม่สมบูรณ์ ตราบจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ประชาชนชาวไทยซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภิกษุ ฆราวาส พ่อค้า ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันจัดหางบประมาณเพื่อการบูรณปฎิสังขรณ์ ก่อสร้าง ต่อเติมด้วยการผสานองค์ความรู้ของงานสถาปัตยกรรม ช่างศิลป์ไทย และเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยมีกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงานในช่วงแรก (พุทธศักราช ๒๕๐๖-๒๕๒๐) และกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานหลัก ในการดำเนินงานจนแล้วเสร็จสมบูรณ์เมื่อพุทธศักราช ๒๕๕๐
ทางเข้าโลหะปราสาท ถึงแม้ว่าโลหะปราสาทมีทางเดินภายในปราสาทที่เชื่อมถึงกันได้หลายทาง แต่เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางวัดจึงเปิดให้เข้าได้ด้านเดียว โดยมีประตูกั้นเมื่อหมดเวลาให้เข้าชม
บันไดวนขึ้นโลหะปราสาท และที่แปลกอีกอย่างหนึ่งคือบันไดวน โลหะปราสาทเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่มีพื้นที่มากเพียงพอที่จะสร้างบันไดแบบทั่วไปแต่กลับสร้างบันไดวนตรงกลางปราสาทแทน
แบบจำลองโลหะปราสาท ภายในโลหะปราสาท มีแบบจำลองให้ได้ชมกัน
ทิวทัศน์บนโลหะปราสาท เมื่อขึ้นมาบนโลหะปราสาทแล้วจะสามารถชมทิวทัศน์รอบๆ บริเวณวัดได้ โดยด้านหนึ่งจะมองเห็นภูเขาทอง หรือสุวรรณบรรพต วัดสระเกศ หากมีเลนส์เทเลหรือกล้องส่องทางไกลจะมองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนสวยงามมาก สถานที่อื่นๆ ที่มองเห็นได้จากบนโลหะปราสาทที่สำคัญๆ ได้แก่ พลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ป้อมมหากาฬ หอศิลป์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นต้น
ยอดของโลหะปราสาท ลักษณะที่สวยงามปราณีตละเอียดอ่อนของยอดทั้ง 37 ยอดของโลหะปราสาทที่มีสีเข้ม เมื่อเดินขึ้นไป ณ บนยอดสุดของโลหะปราสาท จะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้าฯ พระราชทานและเสด็จมาบรรจุเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ นับเป็นพระราชพิธีแรกในพระราชพิธีมหามงคลฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๓๙
ชั้นสองของโลหะปราสาท เมื่อขึ้นมาถึงชั้นสองก็รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อภาพที่เราเห็นไม่ว่าจะหันไปทางไหนของโลหะปราสาทก็จะเห็นภาพเดียวกันหมดเลยคือภาพนี้อาจจะเป็นเพราะวันที่ไปตรงกับเวลาที่พระอาทิตย์อยู่ตรงพอดีทำให้สภาพแสงของทุกทิศเหมือนกันหมด และประกอบกับพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ทุกทิศของทางเดินทำให้รู้สึกว่าหันไปทางไหนก็เหมือนกันหมด
สมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กลับลงมาจากโลหะปราสาท เดินชมรอบๆ บริเวณของวัดราชนัดดารามวรวิหาร ที่มุมหนึ่งของวัดจะมีศาลาที่ใช้เป็นสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ
ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์เวลากลางคืน ภาพที่สวยงามเหล่านี้จะต้องมาชมด้วยตัวเองให้เห็นกับตาครับ บริเวณนี้ในเวลาช่วงกลางวันจะมีผู้คนเดินผ่านไปมาเยอะมาก แต่ในเวลากลางคืนจะค่อนข้างเงียบ มีรถสัญจรไปมาบนถนนแต่จะเริ่มห่าง
โลหะปราสาทเวลากลางคืน หากหามุมที่ดีได้จะมองเห็นโลหะปราสาทจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ในช่วงกลางคืนที่เปิดไฟส่องสว่างองค์โลหะปราสาทได้ภาพที่สวยงามมาก
โลหะปราสาทวัดราชนัดดาราม อีกภาพหนึ่งที่นำเอามาทำแบบซีเปีย เพื่อให้ดูเก่าและน่าสนใจ เป็นภาพเก็บตกจากโลหะปราสาทครับ
ทางเดินภายในของโลหะปราสาท ภายในโลหะปราสาทมีทางเดินเชื่อมถึงกันได้หลายทางโดยรอบทุกด้าน และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ณ จุดต่างๆ ของโลหะปราสาทหลายองค์
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ