ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 0 5561 9214-5
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย ขอเล่าย้อนหลังท้าวความไปตอนก่อนที่จะมาหน่อยนะครับ ทริปนี้ผมเดินทางมาจากสวรรคโลก เก็บภาพที่เที่ยวบริเวณนั้นนิดหน่อย ถึงแยกทุ่งเสลี่ยมผมเลี้ยวซ้ายไปเก็บภาพที่วัดพิพัฒน์มงคล และวัดทุ่งเสลี่ยม ไหว้พระพุทธรูปทองคำและหลวงพ่อศิลา จากนั้นกลับเข้าเส้นทางทางหลวงหมายเลข 1201 เป็นถนนที่คู่ขนานกับทางหลวงหมายเลข 101 ที่ใช้เดินทางในจังหวัดสุโขทัยขึ้นไปทางเหนือ ที่จริงมีทางหลวงหมายเลข 1330 จากทุ่งเสลี่มไปยังอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยได้ แต่เพราะไม่คุ้นทางเย็นวันนั้นผมไม่ได้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยทันที แต่หาที่พักในตัวเมืองเพราะผมเห็นระยะทางค่อนข้างไกลและทางเปลี่ยว เช้าวันรุ่งขึ้นผมถึงเข้าอุทยานฯ ด้วยทางหลวงหมายเลข 1294 มุ่งตรงไปยังอุทยานฯ แต่เช้ามาถึงด่านตรวจแล้วเลยไปอีกนิดเดียวจะมีที่จอดรถกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเล็กๆ อยู่ขวามือ เป็นจุดสำหรับลงไปเที่ยวชมน้ำตกตาดเดือน เป็นจุดแรกของอุทยานฯ แห่งนี้
ทางลงน้ำตกตาดเดือน ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว ผมคิดว่าจะเก็บภาพสถานที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยให้ได้มากที่สุด เวลาประมาณ 9.30 น. เดินลงน้ำตกตาดเดือนระยะทางประมาณ 300 เมตร ก็ยังคงเหลือเวลามากพอที่จะไปน้ำตกตาดดาว นี่ก็คือแผนที่ผมวางคร่าวๆ เมื่อลงมาจะเห็นศาลเล็กๆ หลังนี้ เป็นที่สำหรับลำรึกถึงพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้จักแต่คงเคยได้ยืนชื่อถนนสายนี้ในกรุงเทพฯ ฉะนั้นก็จะขอเอ่ยถึงพระราชประวัติของพระองค์สักนิดครับ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย ครั้งหนึ่งโดยการเสด็จเยี่ยมและแจกของพระราชทานให้แก่ราษฎรหมู่บ้านป่าคา ห้วยหยวก แม่สาน ฯลฯ แทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระองค์ท่านทรงเห็นถึงความสวยงามและสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่แห่งนี้ ด้วยความห่วงใยในสภาพป่าที่เหลืออยู่นี้ วิธีเดียวที่จะช่วยรักษาผืนป่าแห่งนี้ให้คงอยู่ตลอดไป คือจะต้องจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ
เมื่อเสร็จภาระกิจการแจกของพระราชทานแล้ว หม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิต จึงนำความกราบบังคมทูลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ พระองค์ก็ทรงโปรดเกล้าให้อย่างที่ท่านหญิงต้องการ เพื่อรักษาแหล่งต้นน้ำที่สำคัญและสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ให้เป็นมรดกของชาติสืบไป ด้วยเหตุนี้จึงได้ดำเนินการสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2519 และประกาศจัดตั้งในพระราชกิจจานุเบกษาให้เป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 เป็นอุทยานแห่งชาติอันดับที่ 26 ของประเทศไทย และนับได้ว่าเป็นอุทยานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
บริเวณนี้เป็นที่พักกลางทางระหว่างการเดินลงน้ำตกตาดเดือน มีที่สำหรับนั่งพักผ่อน ได้ยินเสียงน้ำตกไหลกระทบแก่งหิน มีความร่มรื่นเย็นสบาย จากตรงนี้เดินลงบันไดไปอีกนิดเดียวก็จะถึงน้ำตกตาดเดือน
น้ำตกตาดเดือน ชั้นแรกเป็นสายน้ำตกที่ไหลผ่านแก่งหินน้ำตกตาดเดือนเป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่มาก มีที่นั่งริมธารน้ำเหมาะสำหรับพักผ่อน
น้ำตกตาดเดือนชั้นที่ 2 อยู่ห่างจากชั้นที่ 1 ไม่กี่เมตร บริเวณชั้นที่สองเป็นน้ำตกลงจากผาหินสูงพอประมาณ มีแอ่งน้ำสีเขียวใสอยู่ด้วย เป็นสถานที่น่าลงเล่นน้ำมาก น้ำที่บริเวณนี้ค่อนข้างเย็น เจ้าหน้าที่มีเสื้อชูชีพและห่วงยางไว้ให้บริการตั้งแต่ที่ลานจอดรถด้านบน เป็นเพราะความเย็นของน้ำอาจจะทำให้เกิดตะคริวได้ง่าย
หลังจากลงไปชมน้ำตกตาดเดือนพักผ่อนนิดหน่อย ผมขับรถตรงเข้ามาตามถนนอีกไม่นานก็มาถึงบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติฯ ซึ่งมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แล้วก็ร้านค้าสวัสดิการ ผมประทับใจร้านค้าร้านนี้มากครับ เจ้าของร้านอัธยาศัยดี พักอยู่ในบริเวณไม่ไกลจากที่ทำการมาก ร้านค้าสวัสดิการขายอาหารปกติจะปิดประมาณ 6 โมงเย็น แต่ถ้ามีนักท่องเที่ยวมาเรียกก็จะออกมาทำกับข้าวให้ได้ ถึง 2 ทุ่มก็เคยมี และไม่ว่าจะเป็นวันหยุดหรือวันธรรมดาที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาน้อยมากเหมือนอย่างวันที่ผมไปมีผมเพียงคนเดียว ร้านค้าแห่งนี้ก็ยังคงเปิดให้บริการ (หลังจากที่ผมเคยผิดหวังในอุทยานฯ อื่นๆ มาหลายแห่ง พอเป็นวันธรรมดาเลยหยุดกันหมดเพราะคนน้อย ผมต้องขับรถออกมาหาอะไรกินตั้งหลายกิโล)
สิ่งที่ประทับใจยังมีอีกหลายอย่าง ได้แก่ห้องน้ำที่สะอาดเอามากๆ แม่บ้านดูแลความสะอาดห้องน้ำทุกชั่วโมง เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตอบคำถามได้ทุกเรื่องในพื้นที่อุทยานฯ เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนเคยไปที่เที่ยวต่างๆ กันหมด แม้จะเป็นผู้หญิงที่ดูท่าทางไม่น่าจะเปิดป่าเก่งก็ยังเคยไปน้ำตกตาดดาวที่ต้องเดินถึง 4 กิโลเมตร มีอีกหลายอุทยานฯ มากที่ตอบคำถามผมไม่ได้เพราะเจ้าหน้าที่ไม่เคยไปมาก่อน อยากให้ทุกอุทยานเป็นแบบนี้จังเลยครับ
วังมัจฉา สถานที่พักผ่อนหย่อนใจในอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทาง ได้แก่ น้ำตกตาดดาว ถ้ำธาราวสันต์ น้ำตกห้วยทรายขาว จุดชมวิว แต่ละสถานที่มีระยะทางเดินเท้าแตกต่างกันไป นักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบการเดินป่าก็ยังมีที่พักผ่อนในบริเวณที่ทำการได้แก่ วังมัจฉา และลำธารห้วยแม่ท่าแพ ที่ไหลผ่านด้านหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเป็นห้วยตื้นๆ มีประชาชนพาเด็กๆ มาลงเล่นน้ำ ส่วนวังมัจฉาเป็นสถานที่สร้างขึ้นเพื่อเพาะพันธุ์ปลาของกรมประมง ได้นำเอาปลามาปล่อยลงที่นี่ เราก็ซื้ออาหารปลามาเลี้ยงปลาได้ ส่วนในลำห้วยแม่ท่าแพที่ไหลผ่านบริเวณอุทยานฯ จะมีปลาท้องถิ่นอาศัยอยู่จำนวนมาก เอาอาหารไปเลี้ยงปลาได้เหมือนกัน
น้ำตกตาดดาว ไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย เป็นน้ำตกที่สวยงามมากและมีน้ำให้เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ฤดูกาลที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากก็คือสงกรานต์ ในช่วงเดือนเมษายนน้ำตกตาดดาวยังมีคงมีน้ำอาจจะน้อยกว่าในรูปที่เห็นนี้แต่ก็มีคนนิยมมากเที่ยวกันมาก เพราะในช่วงนั้นน้ำตกที่ยังคงมีน้ำไหลจะมีอยู่เพียงไม่กี่ที่เท่านั้น ลำห้วยที่ไหลลงมาจากน้ำตกก็จะแห้งทำให้การเดินไปยังน้ำตกง่ายกว่าฤดูฝนและต้นฤดูหนาว ความชื้นของผืนป่าแห่งนี้ทำให้มีทากอาศัยอยู่ค่อนข้างชุม การมาเที่ยวน้ำตกตาดดาวในหน้าฝนหรือหน้าหนาวจะมีทากเยอะ ต้องหาอุปกรณ์ในการป้องกันทากมาบ้าง เรื่องราวการเดินป่ากว่า 4 กิโลเมตรเพื่อเข้ามาชมน้ำตกตาดดาวของผมเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาว ถ้าสนใจอ่านคลิกที่ น้ำตกตาดดาว
น้ำตกห้วยทรายขาว เป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย น้ำตกห้วยทรายขาวไม่ได้เป็นน้ำตกที่สูงและสวยมากเท่าน้ำตกตาดดาว แต่เป็นน้ำตกชั้นเล็กๆ หลายชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามต่างกันไป การเดินเข้าน้ำตกห้วยทรายขาวมาทางเดียวกันกับน้ำตกตาดดาว พอเดินมาได้ 3 กิโลเมตรจะมีทางแยกเข้าน้ำตกห้วยทรายขาว จากนั้นให้เดินตามลำธารขึ้นไปทางเหนือน้ำ ในบางช่วงต้องปีนน้ำตก หินค่อนข้างลื่น ผมเดินมาได้ประมาณชั้น 6 แล้วก็เดินกลับเพราะต้องออกจากป่าก่อนจะมืด
ดูดาวที่อุทยานฯ การท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยของผมยังไม่จบ เพราะเดินไปน้ำตกตาดเดือน ตาดดาว ห้วยทรายขาว จนเวลาของวันแรกหมดไป ผมต้องค้างแรมที่นี่ 1 คืน ด้วยการกางเต็นท์ รองเท้ากับกางเกงที่เปียกน้ำก็ต้องเอาไปตากไว้ วันที่ 2 จะต้องเดินเข้าถ้ำธาราวสันต์ สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของที่นี่ คืนนี้ก่อนที่จะเข้านอนเห็นมีดาวเยอะก็เลยลองถ่ายรูปดาวหมุนด้วยการเปิดหน้ากล้องนานครึ่งชั่วโมงที่วังมัจฉาแล้วก็เข้านอน
ถ้ำธาราวสันต์ ห่างจากที่ทำการอุทยาน 1.5 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นของการเดินป่าเป็นจุดเดียวกันกับน้ำตกตาดดาว แต่น้ำตกแยกไปทางขวา ส่วนถ้ำแยกไปทางซ้าย ระหว่างทางมีการข้ามลำห้วยน้อยกว่าไปน้ำตก สภาพป่าชื้นน้อยกว่าน้ำตก แต่ก็ยังคงทากชุมเหมือนกัน แต่วันที่เข้าน้ำตกพอรู้ว่ามีทาก วันที่ 2 การเดินเข้าถ้ำก็เลยเตรียมตัวรับมือกับทากให้มากขึ้นด้วยถุงกันทาก การเดินเที่ยวถ้ำก็เลยสบายใจกว่าวันแรกมาก ถ้ำธาราวสันต์เป็นถ้ำที่ไม่ใหญ่มาก มาทางเข้าด้านหน้าและโพรงทะลุออกด้านหลัง ปีนขึ้นไปบนถ้ำชั้นที่ 2 ได้ หินงอกหินย้อยในถ้ำชั้นที่ 2 จะสวยกว่าชั้นล่าง เดินไปกลับถ้ำธาราวสันต์ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง (พร้อมการถ่ายรูป) เส้นทางการเดินเที่ยวถ้ำธาราวสันต์ก็เป็นเรื่องราวที่ยาวมากเลยขอแยกไปเขียนไว้เป็นหน้าอีกหน้าหนึ่งที่ ถ้ำธาราวสันต์
บรรยากาศยามเช้า เที่ยวรอบอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยเป็นที่เรียบร้อยด้วยเวลา 2 วัน 1 คืน ได้ภาพที่เที่ยวครบทุกจุด แต่หลังจากที่ออกจากถ้ำธาราวสันต์ ผมไม่ได้ออกเดินทางออกจากอุทยานทันที ต้องค้างเป็นคืนที่ 2 เพราะรองเท้าที่ลุยน้ำในห้วยมันเปียกและเลอะโคลนมากเกินไป จำเป็นต้องตากให้แห้งก่อนที่จะเอาขึ้นรถ ไม่งั้นรถได้เหม็นทั้งคันแน่ๆ ก็เลยซักรองเท้าตากไว้ ครึ่งวันกับอีก 1 คืน เช้ารุ่งขึ้นวันที่ 3 ก็ออกเดินทางออกจากอุทยานฯ หน้าหนาวหมอกลงจัดพระอาทิตย์ส่องแสงลงมาไม่ได้มาก กลายเป็นฉากที่ดูสวยมากระหว่างทาง
หยดน้ำค้าง ปิดท้ายการเที่ยวอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยด้วยดอกหญ้ากับน้ำค้าง ที่ถ่ายด้วยเลนส์ธรรมดาๆ ไม่ใช่เลนส์มาโคร คราวหน้ามีเลนส์มาโครจะจัดให้หนักเชียว เห็นที่เที่ยวสวยๆ ในอุทยานฯ กันแล้วนะครับ แล้วอย่าลืมคลิกเข้าไปอ่านเรื่องการเดินเข้าสถานที่ต่างๆ แบบละเอียดจากประสบการณ์ตรงได้ที่
น้ำตกตาดดาว
ถ้ำธาราวสันต์
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ