ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานลำปาง โทร. 054-222-214
https://www.facebook.com/lampang.tourism/
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ทางเข้าสำนักสงฆ์ดอยวังเฮือ จากตัวเมืองลำปาง เดินทางมุ่งหน้ามาที่สามแยกเข้าแม่เมาะ แต่พอถึงสามแยกแล้วไม่ต้องเลี้ยวเข้าไปทางแม่เมาะ ให้ตรงมาอีกหน่อย เจอที่กลับรถแล้วกลับรถ ทีนี้ทางเข้าสำนักสงฆ์ ซึ่งเป็นทางเดียวกันกับที่จะเข้าไปอ่างเก็บน้ำวังเฮือก็จะอยู่ซ้ายมือ ตอนนี้มีป้ายชั่วคราวติดอยู่ต่อไปจะเปลี่ยนเป็นป้ายมาตรฐานเลี้ยวเข้าไปตามป้ายอีกไม่ไกล
อ่างเก็บน้ำวังเฮือ ขับเข้ามาตามทางเล็กๆ เลียบริมอ่างเก็บน้ำ ตอนหน้าแล้งอ่างเก็บน้ำแทบไม่มีน้ำ แต่พอหน้าน้ำที่นี่เป็นทะเลสาบที่สวยงามมาก ล้อมด้วยเทือกเขาเล็กๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อน จนได้ฉายาว่า ทะเลลำปาง
สำนักสงฆ์ดอยวังเฮือ หรือ สำนักสงฆ์พระธาตุอรัญวาส จากริมทะเลสาบขับตามทางเข้ามาเรื่อยๆ เป็นทางขึ้นเนินเขาเล็กๆ ขึ้นสบายๆ จากนั้นก้จะมาถึงลานจอดรถ เบื้องหน้าของเราคือวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 28 องค์ปัจจุบัน พระนามว่า พระโคตมพุทธเจ้า ระหว่างทางขึ้นเนินเขามานั้นเราจะเห็นพระพุทธรูปปูนปั้นสีขาวทั้งองค์ ประดิษฐานบนฐานรูปดอกบัว มีจำนวน 27 พระองค์ รวมกับพระประธานในวิหารเท่ากับ 28 พระองค์ ข้างวิหารมีเจดีย์องค์เล็กๆ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
พระธาตุอรัญวาส เดินจากลานจอดรถเข้ามาอีกหน่อย เป็นทางขึ้นเนินตามลำดับ องค์พระธาตุหรือพระเจดีย์อยู่บนสุด รายล้อมด้วยพระพุทธรูป 4 องค์ ส่วนนอกลานประทักษินของพระธาตุ มีพระพุทธรูปอีก 2 องค์ นับตั้งแต่ทางเข้าสำนักสงฆ์เรียงลำดับเข้ามาเรื่อยๆ ที่อยู่ด้านหน้าวิหารคือองค์ที่ 26 กับองค์ที่ 27 ในทั้งหมดนี้เหมือนกันเกือบทุกองค์ มีลักษณะพิเศษเฉพาะบางองค์เท่านั้นอย่างเช่นที่เห็นนี้ก็เป็นพระปางนาคปรก 2 องค์
พระพุทธรูปเรืองแสง ตั้งใจสร้างให้เป็นแบบนี้ไม่ใช่ต้องการสร้างกระแสให้เป็นปาฏิหาริย์แต่ประการใด ความงดงามแบบที่ไม่มีมาก่อนคือความตั้งใจของหลวงพ่อ สารเรืองแสงในองค์พระพุทธรูปคือสารชนิดเดียวกันกับพรายน้ำในนาฬิกาที่จะมองเห็นเข็มในเวลากลางคืน แต่วิธีการนำมาฉาบองค์พระแล้วทำให้ภายนอกเป็นสีขาวอย่างนี้ หลวงพ่อเล่าว่าเหมือนมีเทพเทวดามาดลใจ หลวงพ่อให้ลองเอามือมาบังแสงบนองค์พระแล้วมองดูจะเห็นสีเขียวเรืองขึ้นมา แล้วจึงบอกให้เราลองปิดประตูหน้าต่าง ซึ่งต้องปิดตามลำดับ ต้องปิดประตูก่อน แล้วปิดหน้าต่างที่อยู่ห่างจากองค์พระมากๆ ไล่ไปจนถึงหน้าต่างที่อยู่ติดกับองค์พระ เป็นการเก็บแสงในสารเรืองแสง เพื่อให้สว่างขึ้นมาในที่มืด
พระพุทธรูปเรืองแสง
พระพุทธรูปเรืองแสง ภาพเปรียบเทียบระหว่างก่อนปิดหน้าต่างและหลังปิดหน้าต่าง ด้วยโปรแกรมตกแต่งภาพ
พระพุทธรูปเรืองแสง หลังจากปิดหน้าต่างคู่สุดท้ายที่อยู่ใกล้ๆ องค์พระ สายตาเราก็จะทำการปรับแสงให้เข้ากับที่มืดสักพักจากนั้นเราจะเห็นชัดเลยว่าองค์พระเรืองแสงเปล่งประกายออกมาเป็นสีเขียวมรกต แม้ว่าจะเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์แต่ก็สร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาพบเห็นไม่น้อย ความสว่างแผ่ไปถึงผนังวิหารด้านหลังขององค์พระดูราวกับว่ามีแสงรัศมีเปล่งออกมาจากพระพุทธรูป ดูน่าเลื่อมใสศรัทธา ถ้าดูภาพนิ่งแล้วไม่ค่อยเห็นความมหัศจรรย์เหมือนที่เราเห็นกับตาในวิหาร ลองดูคลิปนี้เลยครับ
หลังจากชมความงดงามของพระพุทธรูปเรืองแสง เราสนทนาสอบถามความเป็นมาของสำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่อีกพักใหญ่ แล้วกราบลาหลวงพ่อ ด้านหน้าวิหารใกล้ๆ ลานจอดรถ ยังมีพระพุทธรูปอีก 3 องค์ ที่สร้างขึ้นมาไม่เหมือนกับ 27 องค์ ตรงที่ยอดเกตุเป็นลูกแก้วใส มองเห็นบริเวณสำนักสงฆ์เป็นเงากลับหัวในลูกแก้วด้วย
จบการนำเที่ยวชมความมหัศจรรย์พระพุทธรูปเรืองแสง สำนักสงฆ์พระธาตุอรัญวาส (ดอยวังเฮือ) เอาไว้เพียงเท่านี้ ผ่านไปลำปาง เมืองต้องห้าม...พลาด คราวนี้อย่าลืมแวะมาสักการะพระเรืองแสง หนึ่งเดียวในประเทศไทย Unseen Lampang แห่งนี้นะครับเพราะพระองค์นี้ ต้องห้าม...พลาด
ขอขอบคุณ ผู้สนับสนุนทริป
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคเหนือ และ (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ