ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร.054 351 099 , 061 273 3344
www.dhanabadeeceramicmuseum.com
เฟสบุ๊ค DhanabadeeCeramicMuseum
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
อนุสาวรีย์อาปาอี้ สร้างขึ้นด้วยดินขาวนับว่าเป็นอนุสาวรีย์ที่ทำจากดินขาวเพียงแห่งเดียวเพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ที่ค้นพบดินขาวและนำมาผลิตชามตราไก่คนแรกในไทย
พิพิธภัณฑ์ธนบดี จุดเริ่มต้นที่เราจะได้เข้าไปทำความรู้จักกับชามตราไก่อันลือชื่อเริ่มขึ้นที่นี่เรื่องราวความเป็นมาของอาปาอี้ หรือซิมหยู แซ่ฉิน และครอบครัว
แหล่งดินขาว จำลองการค้นพบดินขาวในลำปางที่อาปาอี้ปั่นจักรยานดั้นด้นมาจากเชียงใหม่เพื่อที่จะใช้ดินขาวมาผลิตชามตามไก่
ชามตราไก่เล็กที่สุดในโลก เป็นผลงานการผลิตชามตราไก่ที่มีรูปไก่และรูปอื่นๆ ตรงกับต้นฉบับทุกอย่างแต่มีขนาดเท่าเม็ดขาวเปลือก วางบนโต๊ะขนาดจิ๋ว
ชามตราไก่ทองคำ เป็นไฮไลท์อีกชิ้นหนึ่งที่เราจะได้ชมกันในพิพิธภัณฑ์
การผลิตชามตราไก่ เดินชมพิพิธภัณฑ์รู้จักประวัติความเป็นมาของชามเซรามิคเสร็จแล้วจะเป็นการเดินชมกระบวนการผลิตจริงในโรงงานถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่เราเห็นจะเป็นการสาธิตการทำชามดินเผาด้วยวิธีโบราณไม่มีการใช้เครื่องจักร ต่อมาก็มีเครื่องจักรเข้ามาช่วยทำให้การผลิตทำได้เร็วขึ้นและใช้แรงงานน้อยลง
การเขียนลายไก่ เป็นกระบวนการที่สำคัญ ลวดลายบนชามไก่มีเอกลักษณ์ประกอบด้วยรูปหลายรูปไม่ใช่มีแต่ไก่ และแต่ละรูปบนชามไก่มีความหมาย อย่างรูปไก่ก็สามารถใช้แทนความหมายของผู้ชายชาวจีน และยังหมายถึงแผ่นดินจีนก็ได้เพราะแผนที่ประเทศจีนรูปร่างคล้ายไก่
การผลิตสินค้าเซรามิคแบบโมเดิร์น เป็นไลน์การผลิตที่ถูกต่อยอดขึ้นมาเพื่อให้สินค้าเซรามิคของธนบดีวางขายในตลาดได้มากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ การผลิตใช้กระบวนการง่ายๆ ด้วยการเทดินใส่แม่แบบแล้วถอดออกมาจากนั้นใช้เครื่องมือที่หาง่ายมาขูดบนผิวนอกก็เพิ่มมูลค่าของงานเซรามิคได้อีกมาก นอกจากที่เราเอามาให้ชมยังมีสินค้าอีกมากมายคงต้องบอกว่าต้องมาดูเองถึงจะครบ
เดินชมพิพิธภัณฑ์มีชีวิตกันจนทั่วในจำนวนนี้มีเตาเผาแบบมังกรโบราณด้วยแม้ว่าจะหยุดใช้งานมานานปีแต่ควรค่าแก่การเก็บรักษา อาปาอี้สร้างเตาเผามังกรแบบโบราณนี้ใช้เวลาหลายปีการสร้างต้องใช้ดินเหนียวจากจอมปลวกมาทำอิฐเฉพาะการทำอิฐให้ได้มากขนาดนี้ใช้เวลาเป็นปีแล้ว ในเตามังกรโบราณอบถ้วยชามได้คราวละ 2000 ใบเลยทีเดียว นอกจากการสร้างเตาเผาเองยังต้องดูแลอุณหภูมิที่ใช้ในการอบด้วยการสังเกตุสีของเปลวไฟในการเผาจนกว่าจะเผาได้ที่ทั้งหมด เตาเผามังกรโบราณเป็นเตาเผาขนาดใหญ่มาจนเราไม่สามารถถ่ายรูปได้หมดทั้งเตาในรูปเดียวได้
ต่อจากนั้นเราจะมาถึงโชว์รูมห้องที่รวมเอาผลงานของธนบดีและศิลปินแห่งชาติที่มาร่วมเขียนลายบนชามให้ชมกัน
ขลุ่ยเซรามิค เป็นขลุ่ยที่เป่าได้เสียงจริงตรงตามโน๊ตด้วยฝีมือการประดิษฐ์ลิ้นขลุ่ยโดยอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ได้ใช้ในการบรรเลงเพลงจริงมาแล้ว นอกจากเป็นขลุ่นที่ทำขึ้นมาจากดินขาวลำปาง ลวดลายบนขลุ่ยยังเป็นลายเดียวกันกับเสาของวิหารวัดพระธาตุลำปางหลวง และพู่ที่ใช้ก็เป็นหางม้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดลำปางอีกด้วย ขลุ่ยพิเศษเลานี้จึงนับเป็นผลงานชิ้นเอกเพียงชิ้นเดียวในโลกก็ว่าได้
จบการนำเที่ยวพิพิธภัณฑ์ธนบดีไว้เท่านี้ก่อน ตอนนี้ขอไปนั่งเขียนแก้วตราไก่สไตล์ของเราเองเป็น work shop เล็กๆ สำหรับคนที่มาเที่ยวจะได้กลับไปเป็นที่ระลึกหลังจากเผาแล้วจะส่งให้ถึงบ้านกันเลยทีเดียว
ขอคุณภารกิจ ท้าเที่ยวข้ามภาค กรุงเทพฯ - ลำปาง โดย
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกรุงเทพฯ และ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานลำปาง
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ