www.touronthai.com

หน้าหลัก >> ขอนแก่น >> อุทยานแห่งชาติน้ำพอง

อุทยานแห่งชาติน้ำพอง

 อุทยานแห่งชาติน้ำพอง มีพื้นที่ทั้งสิ้น 197 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่หลายอำเภอในจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ อุบลรัตน์ ภูเวียง บ้านฝาง มัญจาคีรี และโคกโพธิ์ชัย และสองอำเภอในจังหวัดชัยภูมิ ได้แก่ บ้านแท่น และ แก่งคร้อ ที่ทำการอุทยานตั้งอยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ เป็นทั้งแหล่งต้นน้ำของลำน้ำชี ลำน้ำพอง และแหล่งสมุนไพร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง

  ในบริเวณอุทยานมีจุดชมวิวอยู่หลายแห่ง ได้แก่ "จุดชมวิวหินช้างสี" เป็นกลุ่มหินใหญ่บนสันเขาป่าโสกแต้ ด้านข้างของหินมีรอยดินที่ช้างใช้ลำตัวสีก้อนหินติดอยู่ ใช้เวลาเดินเท้าจากที่ทำการประมาณ 2 ชั่วโมง หรือโดยรถยนต์จากสวนป่าโสกแต้ 8 กิโลเมตร จากจุดนี้จะมองเห็นทัศนียภาพของอ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ และเมืองขอนแก่น เดินเท้าจากจุดนี้ไป 30 นาทีจะเป็น "จุดชมวิวพลาญชาด" เป็นลานหินที่มีต้นชาดขึ้นอยู่ ถัดไปคือ "ผาสวรรค์" เป็นหน้าผาบนเทือกเขาป่าโสกแต้อยู่บริเวณบ้านโนนสวรรค์ อำเภออุบลรัตน์ เป็นจุดชมทัศนียภาพของอ่างเก็บน้ำที่งดงามอีกจุดหนึ่ง ใช้เวลาเดินเท้าจากที่ทำการประมาณ 2 ชั่วโมง สถานที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งก็คือ "คำโพน" เป็นบ่อหินกลมคล้ายปล่องภูเขาไฟเกิดจากสภาพทางธรณีวิทยา

การเดินทาง จากตัวเมืองขอนแก่นไปตามทางหลวงหมายเลข 12 ไปยังอำเภอชุมแพ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 30 แยกขวาไปประมาณ 19 กิโลเมตร ผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ตู้ปณ. 13 (ดอนโมง) อ.หนองเรือ ขอนแก่น 40240 โทร. 0 4324 8006-7 หรือที่สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 http://www.dnp.go.th/

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. ขอนแก่น โทร 0 4322 7714-5
http://www.tourismthailand.org/khonkaen

แก้ไขล่าสุด 2017-01-20 21:07:06 ผู้ชม 48066

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ
อุทยานแห่งชาติน้ำพอง

อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ภาพบนซ้าย-ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำพองอยู่ห่างจากอำเภออุบลรัตน์ประมาณ 18 กิโลเมตรตามเส้นทางเลียบทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ส่วนอีกด้านหนึ่งของถนนเลียบแนวเขาลักษณะของพื้นที่คล้ายกันกับอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติน้ำพองจะอยู่ห่างจากที่ทำการไปอีกหลายกิโลเมตร แต่ก่อนอื่นแนะนำให้แวะไปหาข้อมูลท่องเที่ยวก่อน ภาพบนขวา-แนวเขาอุทยานแห่งชาติน้ำพอง ที่เห็นอยู่ข้างหน้าเป็นแนวเขาที่ไม่สูงมากนัก สถานที่ท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติน้ำพองแห่งนี้จะอยู่บนแนวเขานี้ซึ่งเพิ่งจะตัดถนนลาดยางขึ้นเขาระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้นักท่องเที่ยว (ปกติเดินเท้า 2 ชั่วโมงครับ) เมื่อมีถนนเราก็ขับรถขึ้นไปละกัน พื้นที่บริเวณนี้อยู่ในหมู่บ้านหนองหญ้าแดง ภาพล่างซ้าย-ทางแยกบ้านดงเย็น ขับเข้ามาตามถนนผ่านหมู่บ้านและชุมชนหลายแห่งจนมาถึงหมู่บ้านดงเย็นที่เพิ่งจะมีการสร้างถนนเข้าไปในระยะสั้นๆ สำหรับเครื่องมือนำทาง GPS ที่ผมใช้จะสุดเส้นทางอยู่ตรงทางแยกนี้พอดี แต่ความจริงมีทางที่เพิ่งตัดใหม่เป็นโครงการทางลาดยางขึ้นจุดชมวิวหินช้างสี จากจุดนี้ไปประมาณ 7 กิโลเมตร ให้ตรงไปครับ ภาพล่างขวา-จุดเริ่มต้นเส้นทางเดินเท้า เมื่อมาถึงจะมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมค่าเข้าชมอุทยานฯ ลานจอดรถ และ ลานกางเต็นท์สำหรับวันธรรมดาแทบไม่มีคนเลย ขับตรงมาจากด่านอีก 100 เมตรก็จะสุดถนนจากตรงนี้ไปต้องเดินเอาซึ่งระยะทางจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดต่างๆ จนถึงจุดที่เรียกว่าน้ำในโพรงหินซึ่งไกลสุดเพียง 500 เมตร (สำหรับทริปนี้ขอไปสุดทางที่น้ำในโพรงหินละกันส่วนทางเดินชมผาสวรรค์ต้องเดินไปอีกไกลประมาณ 2-3 ชั่วโมงครับ)

ทางเดินในอุทยานแห่งชาติน้ำพอง

ทางเดินในอุทยานแห่งชาติน้ำพอง ทางเดินมีการทำเป็นหินตั้งเรียงกันเป็นแนวยาว นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปได้เองโดยไม่ต้องมีการนำทางเพราะเดินง่ายตามเส้นทางนี้ไปเรื่อยๆ ก็ถึง สำหรับทางเดินไปผาสวรรค์ต้องสอบถามเจ้าหน้าที่นำทางครับ

จุดแรกหินช้างสี

จุดแรกหินช้างสี เดินทางมาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงซะแล้วตรงนี้มีป้ายบอกว่าเราได้มาถึงหินช้างสีแล้วซึ่งเป็นหินที่อยู่หลังก้อนหินก้อนใหญ่ในรูปนี้นี่เอง

หินช้างสี

หินช้างสี ก้อนที่เห็นชะโงกยื่นออกมาจากฐาน ดูเหมือนภูผาเทิบนี่ละครับหินช้างสี

ซ้อนหินหรือเทินหิน

ซ้อนหินหรือเทินหิน เทินเป็นภาษาอิสานแปลว่าซ้อน ความเชื่อเรื่องการซ้อนหินเพื่อให้การเดินทางมีความสวัสดิภาพ และมีโชคลาภเป็นความเชื่อของคนหลายกลุ่ม เมื่อมาเที่ยวในสถานที่ที่มีหินมากๆ ก็จะเห็นการซ้อนหินหรือเทินหินแบบนี้อยู่ประปราย การเทินหินนี้อยู่ใต้หินช้างสี

ร่องรอยดินโคลนบนหินช้างสี

ร่องรอยดินโคลนบนหินช้างสี อาจจะมองเห็นได้ไม่ชัดนัก ร่องรอยของดินโคลนสีขาวๆ ติดอยู่บนหินสีแดงซึ่งอยู่สูงกว่าระดับหัวแสดงให้เห็นว่าโคลเหล่านี้ไม่น่าจะมีเหตุผลอื่นที่จะไปติดอยู่บนหินในระดับสูงมากๆ นอกจากโคลนบนตัวช้างป่าที่ไปติดตอนที่ช้างเอาสีข้างมาถูหรือที่เรียกว่าสี คือการเสียดสีตัวช้างกับก้อนหิน เป็นที่มาของชื่อหินช้างสี

หินช้างสี

หินช้างสี ขนาดของหินที่ใหญ่และมีรูปร่างเว้าเข้าไปคงทำให้พอดีกับตัวช้างทำให้ช้างชอบมาสีหินที่นี่

ศาลาชมวิว

ศาลาชมวิว ในอุทยานแห่งชาติน้ำพองมีการสร้างศาลาสำหรับนั่งชมวิวไว้เป็นระยะๆ ที่เห็นในทริปนี้มี 2 หลัง แต่ละหลังจะเห็นทิวทัศน์ทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ได้ทั่วบริเวณ

ทะเลสาบเขื่อนอุบลรัตน์

ทะเลสาบเขื่อนอุบลรัตน์ ภาพนี้เป็นทิวทัศน์ที่เห็นบนศาลา

หินรูปร่างแปลก

หินรูปร่างแปลก เมื่อแรกก้าวมาถึงที่นี่ นึกว่าที่นี่คือหินรูปหัวกะโหลกซึ่งเป็นจุดชมวิวจุดหนึ่งของอุทยานแห่งชาติน้ำพอง เพราะมองดูแล้วมันเหมือนกะโหลกคนหันข้างมากเลย

วิวบนลานหิน

วิวบนลานหิน ถัดจากก้อนหินใหญ่ที่ดูเหมือนหัวกะโหลกหันข้างจะมีหินก้อนหนึ่งยื่นออกไปเหมือนหน้าผาหิน ด้านล่างมีป่าแน่นเสียงนกหลายชนิดร้องเสียงดังมาจากข้างล่าง ผาหินก้อนนี้น่ากลัวมากถึงจะมีลานกว้างพอสมควรประมาณ 2 เมตร ยาว 4 เมตร แต่ถ้าตกลงไปก็ไม่มีอะไรรองรับจนถึงพื้นป้าเบื้องล่างแน่ๆ ลานหินนี้มีสีเข้มมีลายสีแดงอมส้มไม่ได้มีการทำทางให้ขึ้นอยากขึ้นต้องปีนเอง เมื่อขึ้นมาบนลานหินนี้แล้วจะเห็นวิวทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์กับผืนป่าเบื้องล่างใต้ผาหินที่เราอยู่ที่มีเสียงนกชนิดต่างๆ ร้องเสียงดังทั่วป่า

หินหัวกะโหลก

หินหัวกะโหลก ตรงจุดที่ยืนอยู่นี้เป็นก้อนหินสองก้อนลักษณะแปลกเป็นที่สุดทั้งสองก้อนนี้เหมือนเป็นก้อนเดียวกันมาก่อนแล้วมาแตกออกตามแนวตรงกลางพอดีในภายหลัง (อันนี้สันนิษฐานเองครับอาจจะมั่วไปหน่อยแต่เหมือนจริงๆ) ในก้อนหินมีโพรงมากมายหลายโพรงเป็นโพรงกลมๆ ทั้งสองก้อนเมื่อเราเดินเข้าไปก็กลัวว่าถ้าหินมันหนีบเข้ามาละก็เราคงกลายเป็นลูกชิ้นกลมๆ หลายๆ ลูกแน่ๆ

โพรงหิน

โพรงหิน ปรากฎการณ์ตามธรรมชาติไม่ว่ามันจะมีที่มายังไง ผมว่ามันก็แปลกมากอยู่ดี เมื่อเข้าไปตรงกลางตั้งขาตั้งกล้องไว้ด้านหนึ่งถ่ายไปอีกด้านหนึ่งแล้วผมไปยืนเทียบให้เห็นขนาดของโพรงหินจะเห็นว่ามันไม่ได้เล็กเลย และที่แปลกคือมันมี 2 ก้อนเหมือนกันมีร่องให้เดินตรงกลาง

ธรรมชาติผืนป่า

ธรรมชาติผืนป่า ระหว่างทางเดินไปดูน้ำในโพรงหินซึ่งเป็นสถานที่ที่ไกลที่สุดในการเดินศึกษาธรรมชาติทริปนี้ (ตอนนี้เรามาถึงจุดชมวิวหินหัวกะโหลกซึ่งเป็นไฮไลท์ของทางเดินนี้ แล้วครับแต่ขอเดินต่อไปอีกหน่อยค่อยย้อนกลับมา) เห็นต้นไม้ 2 ต้นมันแปลกดีเลยถ่ายรูปมาฝากต้นหนึ่งมีพุ่มไม้ขึ้นเกาะแต่มีใบสีแดง อีกต้นมีใบสีเขียวอยู่เคียงข้างกันอยู่กลางป่า

น้ำในโพรงหิน

น้ำในโพรงหิน จุดแปลกของธรรมชาติที่สรรสร้างมาอย่างลงตัวที่หาดูได้ยากในที่อื่นๆ ของอุทยานแห่งชาติน้ำพองก็ต้องเป็นที่นี่แหละครับ ทีแรกเข้าใจว่าน้ำในโพรงหินจะมีปรากฎให้เห็นเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น ตอนที่เดินมาก็ถือซะว่ามาให้เห็นกับตาเท่านั้นไม่มีน้ำก็ไม่เป็นไร แล้วที่เห็นเป็นโพรงเล็กๆ อยู่เบื้องหน้าก็คือช่องว่างของหินก้อนใหญ่นี้ซึ่งมีอยู่ 4 ช่อง 4 ทิศ พอดี นี่ก็แปลกแล้วแล้วโพรงหินนี้กว้างพอที่คนจะคลานเข้าไปได้ คนเดียวถ้าเอากระเป๋ากล้องมาแนะนำให้วางไว้ก่อน ส่วนโพรงอื่นๆ จะมีขนาดเล็กกว่าโพรงนี้ทำให้เข้าไปไม่ได้

    เมื่อคลานเข้ามาข้างในจะเห็นแอ่งน้ำเล็กๆ (ใหญ่กว่าอ่างอาบน้ำนิดหน่อย) อยู่ในช่องว่างระหว่างหิน ซึ่งหินก้อนนี้ที่มุดเข้ามาก็มีความแปลกตรงที่ไม่มีเนื้อหินอยู่ตรงกลางอย่างที่ควรจะเป็น ลักษณะเหมือนเปลือกหอยฝาบนฝาล่างตรงกลางกลวง น้ำที่อยู่ในแอ่งเป็นน้ำที่ซึมผ่านหินด้านบนลงมา ในฤดูแล้งจึงเป็นแหล่งน้ำยามคับขันของสัตว์ป่าขนาดเล็กได้ ตอนที่คลานเข้ามายังกลัวอยู่ว่าจะเจอสัตว์ป่ากินน้ำอยู่ และที่สำคัญถ้ามีงูคงจะลำบากมากๆ แน่เพราะงูก็ชอบอยู่ที่ชื้น ตั้งขาตั้งกล้องถ่ายรูปนี้เสร็จก็รีบเผ่นออกมาจะดีกว่า

จุดชมวิวหินหัวกะโหลก

จุดชมวิวหินหัวกะโหลก ไฮไลท์เป็นที่สุดของอุทยานแห่งชาติน้ำพองบนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ 500 เมตรนี้ก็คือหินหัวกะโหลก ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่อยู่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติน้ำพอง มองเห็นทิวทัศน์ 2 ด้าน คือด้านตัวเมืองขอนแก่นและอีกด้านหนึ่งคือทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ ส่วนเหตุผลที่เรียกว่าหินหัวกะโหลกน่าจะมาจากรูปร่างของหินก้อนหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนยอด

ลานกว้างชมวิวหินหัวกะโหลก

ลานกว้างชมวิวหินหัวกะโหลก บนลานหินที่ยืนอยู่นี้เป็นหิน 3 ก้อนใหญ่ๆ อยู่ติดกัน มีคู่หนึ่งมีโพรงประหลาดอยู่ข้างล่างที่ถ่ายรูปมาให้ดูก่อนที่จะไปน้ำในโพรงหิน (ย้อนขึ้นไปดูได้นะ) รอบๆ บริเวณมีการสร้างรั้วเหล็กกั้นไว้กันคนตกลงไป ระหว่างหิน 3 ก้อนนี้มีสะพานเชื่อมถึงกัน เพื่อให้มองวิวได้รอบ

พระอาทิตย์ตกทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์

พระอาทิตย์ตกทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ มาถึงก็เห็นพระอาทิตย์กลมๆ แดงๆ ค่อยๆ ตกลับขอบฟ้าหายไปในด้านตรงข้ามของทะเลสาบ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ลงมาจากเขา เวลาประมาณนี้ชาวบ้านที่หากินด้วยการจับปลาพายเรือกลับเข้าฝั่งหมดแล้ว ถ้ามาเร็วกว่านี้คงมีองค์ประกอบภาพที่สวยงามกว่านี้แน่ๆ

แหลมบ้านผือ

แหลมบ้านผือ บ้านผือเป็นหมู่บ้านที่อยู่ระหว่างทางจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำพองที่จะไปจุดชมวิวหินช้างสี ในหมู่บ้านมีแหลมเล็กๆ ยื่นลงไปในน้ำเป็นสถานที่ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกที่ผมชอบมาก

วิวสวยริมทาง

วิวสวยริมทาง เป็นภาพต้อนไม้แห้งๆ อยู่กลางทุ่งนา ระหว่างทางขามาผมเล็งไว้แล้วว่าอยากจะมาถ่ายรูปที่นี่แต่ด้วยเส้นทางค่อนข้างเล็กหาที่จอดลำบาก แต่เนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างชุมชนมีรถผ่านไปมาไม่มาก ก็จอดหน่อยเก็บภาพมาฝากกัน ตอนกลางวันชาวนาจะต้อนวัวมาหากินที่นี่แต่ตอนเย็นก็กลับบ้านกันหมดแล้ว ในทุ่งนาก็เห็นเพียงตอฟางข้าวที่รอไถกลบ สำหรับทริปนี้ฝากรูปสวยๆ ไว้เพียงเท่านี้ก่อนไว้มีโอกาสจะกลับมาสำรวจให้ทั่วถึงมากกว่านี้ครับ

รีวิว อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ขอนแก่น


 ""

Akkasid Tom Wisesklin
2017-01-20 20:53:21

อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ขอนแก่น


0/0 จาก 0 รีวิว

10 ที่พัก/โรงแรมใกล้ อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ขอนแก่น
บ้านการ์ตูน รีสอร์ท เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  23.39 km | แผนที่ | เส้นทาง
กรีน เลควิว
  23.56 km | แผนที่ | เส้นทาง
เฮือนเพชร รีสอร์ท เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  24.15 km | แผนที่ | เส้นทาง
ภูสวัสดิ์ รีสอร์ท
  25.50 km | แผนที่ | เส้นทาง
บ้านสวน เรสเทอรองต์ แอนด์ รีสอร์ต เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  26.19 km | แผนที่ | เส้นทาง
7 การ์เดน โฮเต็ล เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  26.53 km | แผนที่ | เส้นทาง
โรงแรมเรือน อารยา เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  26.98 km | แผนที่ | เส้นทาง
เดอะ เบสท์ รีสอร์ท
  27.94 km | แผนที่ | เส้นทาง
วารี วัลเล่ย์ รีสอร์ต แอนด์ เรสเทอรองต์ เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  29.00 km | แผนที่ | เส้นทาง
โรงแรมลิตเติ้ล บอกซ์ เช็คห้องว่าง/ราคา/จอง
  30.22 km | แผนที่ | เส้นทาง

*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ

Line id: @touronthai (ใส่ @)
www.touronthai.com