ปัจจุบันเสือถูกย้ายออกจากวัดไปหมดแล้วตามข่าว

วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ตั้งอยู่ที่ บ้านพุไม้แดง ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน) แห่งวัดป่าบ้านตาด อุดรธานี ได้รับการถวายที่ดินบริเวณบ้านพุไม้แดง ตำบลสิงห์ กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2537 เพื่อสร้างเป็นวัดป่าสถานที่ปฏิบัติธรรม ต่อมาท่านได้มีพระบัญชาให้ พระอาจารย์ภูสิต (จันทร์) ขันติธโร ได้จัดตั้งเป็นวัดและฟื้นฟูสภาพป่าโดยรอบให้เป็นที่อาศัยของสัตว์มากมายหลายชนิด

 สิ่งสำคัญในวัดประกอบด้วย
 ศาลาเมตตาท่านเจ้าคุณมหาบัว ญาณสัมปันโน 84 ปี เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปทองคำน้ำหนัก 80 กิโลกรัม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธกาญจนาภิเษก

 ถ้ำภาวนา อยู่บริเวณเนินเขาในบริเวณวัด เป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุและฆราวาส ในถ้ำเย็นและเงียบสงบ

 หลวงพ่อพุดซ้อน เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ระหว่างภูเขาสองลูกทางทิศตะวันตกของวัด

 ต้นโพธิ์ปฐมฤกษ์ หลวงตามหาบัวได้ปลูกไว้เมื่อปี 2538 ในคราวที่เดินทางมาเยี่ยมวัดครั้งแรก

 การเดินทาง ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีราว 37 กม. ริมถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ หลัก กม. ที่ 21 แยกเข้าไป 2 กม.

 ติดต่อ วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หมู่ 5 บ้านพุไม้แดง ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี รหัสไปรษณีย์ 71150 มูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน โทร. 0 3453 1557 โทรสาร 0 3453 1557-8 หรือ www.boonheng.com

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 0 3453 1557 โทรสาร 0 3453 1557-8

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

จูงเสือไปหุบเสือ ขั้นตอนแรกของการโชว์เสือให้นักท่องเที่ยวดูคือเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางถึงวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แล้วต้องต่อแถวอย่างเป็นระเบียบแล้วพระและเจ้าหน้าที่จะเดินจูงเสือไปยังหุบเสือ ระหว่างทางนี้นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปคู่กับเสือได้โดยการส่งกล้องให้เจ้าหน้าที่ แล้วนักท่องเที่ยวไปเดินใกล้กับเสือ หรือแตะเสือ ซึ่งจะมีข้อปฏิบัติดังนี้ 1.ห้ามเสื้อแขนกุด 2.ห้ามกระโปรงที่มีชายปลิวไสว 3.ห้ามกระเป๋าทุกชนิด 4.ห้ามร่มหรือสิ่งของอื่นใดสีแดง 5.เครื่องประดับชนิดที่เป็นสาย 6.ห้ามเดินไปหน้าเสือหรือข้างๆ ที่ใกล้กับหัวเสือมากไป

ลงหุบเสือที่วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จากจุดเริ่มต้นมาถึงทางลงหุบเสือไกลพอประมาณจนพอให้นักท่องเที่ยวผลัดกันถ่ายรูปกับเสือระหว่างทางได้ครบทุกคน วิธีการถ่ายรูปกับเสือจะต้องไม่แตกแถวและต้องทำทีละคนเท่านั้นนะครับ คนที่ยังไม่ได้ถ่ายรูปกับเสือให้อยู่ท้ายแถวจนกว่าจะถึงคิว

ถึงหุบเสือวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เมื่อเดินทางมาถึงหุบเสือแล้วนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องอยู่ในที่ๆ จัดไว้ให้ ซึ่งเป็นม้านั่งยาวหลายตัว มีร่มกางไว้ (ซึ่งไม่ต้องบังคับนักท่องเที่ยวก็เข้าร่มอัตโนมัติเนื่องจากวันนั้นฝนตก) เจ้าหน้าที่จะพาเสือทุกตัวไปล่ามไว้ตรงตำแหน่งของแต่ละตัว ห่างกันพอประมาณไม่ให้เสือเล่นกันได้ (เพราะเค้าเล่นแรง) พระและเจ้าหน้าที่จะให้เสือกินน้ำ และเอาน้ำฉีดตัวเสือให้มันใจเย็นและอยู่นิ่งๆ

พระผู้ดูแลเสือจัดแจงท่านอนเสือ เสือที่เดินมาถึงหุบเสือจะนอนบ้างนั่งบ้าง เดินบ้าง ส่วนตัวไหนนอนพระท่านสามารถลากให้มันนอนท่าใหม่ได้ด้วยโดยที่มันไม่ทำอันตราย

พัดเสือ ท่าทางตัวนี้มันจะร้อน ท่านอนเหมือนหมาแมวบ้านเรา แต่อย่าไปเล่นกับมันนะครับมือไม้ขาดได้ง่าย

เหิรฟ้าเสือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่บอกว่าเป็นเสือหลวงตาเพราะว่าเจ้าหน้าที่บอกเป็นเสือที่หลวงตาจูงบ่อยๆ ระหว่างฝนตกมีคนกางร่มให้ด้วย

เสือมองกล้อง ถ่ายภาพนี้ด้วยเลนส์ 55-200 คู่กาย อย่านึกว่าผมเดินไปหน้าเสือละ เพราะว่าห้ามเด็ดขาดครับ

เสืออยากกินผมแล้วมั้ง พอดีเห็นเค้าทำหน้าตาแปลกๆ หลายๆ แบบ เลยกดแบบต่อเนื่องมาให้ดู ตลกๆ นะครับ

เสือล้อเล่น

เสือยิ้ม ??? หรือเปล่า ไม่เหมือนยิ้มเท่าไหร่นะเนี่ย

เสือนอน มุมนี้จะสวยมากในหุบเสือ จะมีเสือตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่ตำแหน่งนี้ คือว่าต้องนอนบนนี้นิ่งๆ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายภาพ คำแนะนำคือ น่าจะเอากล้องที่มีเลนส์กว้างไปด้วย ถ้างบน้อยมีตัวเดียวก็เลือกเอาพอดีว่าวันนั้นฝนตกไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้เดี๋ยวจะยุ่งไปกันใหญ่ แต่ถ้ามุมกว้างกว่า 55 อีกหน่อยเดียวคงได้เห็นน้ำตกติดมาแบบสวยๆ แน่ๆ

ถ่ายรูป Special กับเสือ ภาพนี้นักท่องเที่ยวก็สามารถทำได้โดยการบริจาค 1000 บาท เจ้าหน้าที่จะจัดแจงให้เสือนอนตัก ระหว่างนี้นักท่องเที่ยวที่ไม่ถ่ายภาพ Special ก็รอคิวถ่ายฟรี ให้นั่งใกล้และจับได้นิดหน่อย เจ้าหน้าที่จะถ่ายให้ ให้เข้าไปทีละ 1 คนเท่านั้น (ต่อเสือ 1 ตัว)

ถ่ายรูปคู่กับเสือที่วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ภาพนี้ถ่ายได้ฟรี กี่รอบก็ได้ แต่ต้องเข้ามาทีละรอบแล้วออกไปต่อแถวใหม่ กติกามีอยู่ว่า
1. ห้ามถือของสิ่งใดเข้ามานอกจากกล้องของท่าน
2. เข้ามาทีละคน
3. ห้ามเข้าหาเสือจากข้างหน้าของเสือ
4. ผู้ชมด้านนอกห้ามล้ำเส้นเชือกที่ขึงไว้
5. ห้ามผู้ชมที่นั่งด้านนอกกางร่มสีแดง (บางทีร่มไม่แดงเสือก็สนใจอยู่ดีเจ้าหน้าที่จะบอกให้หุบร่ม สังเกตได้จากอาการของเสือ คือมันจะจ้องคนๆ นั้นนานผิดปกติ)

ถ่ายรูปคู่กับเสือ สำหรับเจ้าตัวนี้จะนอนท่านี้ตลอด ทำให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสลูบที่ท้องมัน สำหรับนักท่องเที่ยวในภาพขวาน่าเสียดายแทนจริงๆ ที่แบตเตอรี่กล้องของเค้าหมด หากท่านใดรู้จักให้ติดต่อมาละกันจะส่งรูปต้นฉบับให้ครับ

เรื่องน่ารู้ของการเข้าวัดถ่ายรูปคู่กับเสือที่วัด
 1. เสื้อที่ท่านใส่ต้องมีแขน (แขนกุดจะต้องเสียเงินซื้ออีกตัวเหมือนพวกเรานะ)
 2. สีแดงเป็นสีต้องห้าม
 3. ห้ามกระโปรง โดยเฉพาะแบบมีชายบานๆ แกว่งๆ
 4. งดการใช้กระเป๋าหรือสิ่งของเครื่องประดับมีสาย
 5. ค่าเข้าชม คนไทย 300 บาท ต่างชาติ 500