สำหรับทุกคนที่ไม่เคยไปเมืองมัลลิกามาก่อน หรือแม้แต่หลายๆ คนที่เข้าไปเดินในเมืองแห่งนี้มาแล้ว ก็อาจจะมีส่วนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเมืองมัลลิกาคืออะไร จนหลายคนอาจจะคิดไปว่าที่นี่ก็คือตลาดที่สร้างมาเป็นที่เที่ยวโดยให้พ่อค้าแม่ค้าแต่ตัวย้อนยุคคล้ายๆ กับตลาดอีกหลายๆ แห่งที่เปิดกันอยู่มากมายในตอนนี้ แต่ความจริงที่เข้าไปสัมผัสมาก็คือ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 เป็นสถานที่เที่ยวแนวใหม่ไม่เหมือนที่ไหน สร้างในบรรยากาศไทยๆ แบบย้อนยุคไปสมัยสยาม ช่วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงเลิกทาส ภายในสร้างเป็นเมืองทั้งเมืองที่จำลองลงมาประกอบด้วยย่านการค้า ตลาด หมู่บ้าน ทั้งหมดย้อนไปเป็นไทยแบบโบราณ สะท้อนวิถีชีวิตของชาวสยามหลังการเลิกทาสที่ทุกคนต่างเป็นนายตัวเอง และต้องทำมาหากินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวเป็นจุดกำเนิดของวิถีชีวิตของชาวไทยในทุกวันนี้ นอกจากพ่อค้าแม่ค้าที่มาขายของอยู่ตามย่านการค้าจำลองต่างๆ ในเมืองมัลลิกา ยังมีผู้คนอีกมากมายหลายคนที่ทำงานอยู่ในเมืองนี้ มีหลายตำแหน่งหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นการตำข้าว การนวดแป้ง การเตรียมเครื่องแกงต่างๆ เพื่อเอาไปส่งในตลาด พ่อค้าแม่ค้าในตลาดก็นำเอาของเหล่านั้นมาปรุงเป็นอาหารทั้งของคาว ของหวาน ขายให้พวกเราที่มาเดินจับจ่ายซื้อของในเมืองนั่นเอง
การมาเที่ยวเมืองมัลลิกา ร.ศ.124 จึงไม่ได้เป็นแค่การจ่ายค่าเข้าเปลี่ยนชุดไทยมาเดินถ่ายรูปสวยๆ เท่านั้น ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่เราสามารถเข้าไปมีส่วนร่วม และได้มองย้อนไปถึงวิถีสยาม วิถีไทยในสมัยนั้นกันได้ด้วย และด้วยเหตุที่ว่าเมืองแห่งนี้มีวัตถุดิบเป็นของตัวเอง จึงควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบต่างๆ ที่จะเอามาปรุงให้เรากินได้อย่างดีอีกด้วย
จุดเด่นในเมืองมัลลิกา ร.ศ.124 ได้แก่
- ย่านการค้า จะมีการจำลองเอาย่านการค้าที่สำคัญในสมัยนั้นได้แก่ ย่านเยาราช ย่านบางรัก
- เรือนต่างๆ ได้แก่ เรือนเดี่ยว บ้านทรงไทยที่จำลองมาจากบ้านของชาวบ้านทั่วไป, เรือนคหบดี บ้านทรงไทยของผู้มีฐานะดี เป็นหนึ่งมุมยอดนิยมที่คนจะแต่งชุดไทยมาถ่ายรูป, เรือนแพ เป็นพื้นที่ค่อนข้างกว้างจำลองตลาดน้ำเล็กๆ เอาไว้ บนเรือนแพมีอาหารและเครื่องดื่มอย่างกาแฟขาย ส่วนในน้ำก็มีเรือพายขายของต่างๆ เช่นหมึกแห้ง เฉาก๊วย ฯลฯ
- เรือนหมู่ คือเรือนไทยหลายหมู่อยู่รวมกันเป็นหลังเดียว ในเมืองมัลลิกาแห่งนี้ ได้จำลองเรือนไทยหมู่เอาไว้ด้วยและนับว่าเป็นเรือนไทยหมู่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือมีมากถึง 11 หมู่ เรือนหมู่จะถูกจัดให้เป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ของเมืองมัลลิกา มีบุฟเฟต์อาหารกลางวัน จัดอยู่ใต้ถุนเรือนหมู่ มีอาหารให้เลือกมากเป็น 10 เมนู ล้วนแต่เป็นอาหารไทยโบราณที่หาที่อื่นได้ยาก และมื้อเย็นจัดเป็นสำรับอาหารไทยโบราณบนเรือนหมู่ สำหรับมื้อเย็นจะมีการแสดงให้ชมด้วยทั้งหมด 6 ชุดในเวลา 1 ชั่วโมง ที่ไม่ควรพลาดคือโขน
- หอชมเมือง เป็นหอสูงจำลองมาจากหอที่คอยเฝ้าดูนักโทษในคุก บนหอนี้จะมองเห็นเมืองมัลลิกา ร.ศ.124 ได้ทั่วเมือง
คนที่จะเข้าไปเที่ยวเมืองมลิกาต้องแลกเงินเบี้ยเข้าไปใช้ข้างในจะใช้เงินเหรียญและแบงค์แบบปัจจุบันซื้อของไม่ได้
เมืองมัลลิกา เปิดตัวช่วงปลายมิถุนายน 2559 ตอนนี้กลายเป็นแลนด์มาร์คจุดเช็คอินยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองกาญจน์
* เด็กสูง ต่ำกว่า 100 ซม. เข้าฟรี / สูงระหว่าง 100 - 130 ซม.- ราคาเด็ก / ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป
* ราคา ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2562
เวลาเปิด-ปิด:09:00 - 20:00
โทร:034 540 884–6
ค่าเข้า:ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 120 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.กาญจนบุรี โทร. 034 511 200
http://www.tourismthailand.org/kanchanaburi
แก้ไขล่าสุด 2019-07-02 22:25:30 ผู้ชม 4674
การเดินทาง
แผนที่
ที่เที่ยว/ที่พัก
กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ
รีวิว เมืองมัลลิกา ร.ศ.124
"การพายเรือขายของทางน้ำก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่จะได้เห็นในเมืองมัลลิกา "
Akkasid Tom Wisesklin
2019-06-03 07:37:06