ข้อมูลเพิ่มเติม:เทศบาลตำบลลาดชะโด โทร. 035 740 263-4 089 489 5999
ททท. อยุธยา หมายเลขโทรศัพท์ 035 246 076-7
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
เช้านี้ที่ลาดชะโด เช้าของวันอาสาฬหบูชาคือกำหนดการของงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ของชาวบ้านลาดชะโด อำเภอผักไห่ เช้านี้เป็นวันพิเศษชาวบ้านส่วนหนึ่งได้ลงมือตกแต่งประดับประดาเรือขนาดต่างๆ เพื่อเข้าร่วมขบวนแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ซึ่งมีการประกวดโดยแบ่งออกเป็นหลายประเภท เราจะเห็นเรือประเภทสวยงามและวิถีชีวิตเยอะเป็นพิเศษ จะมีการตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดแต่โดยมากเน้นการใช้สีเหลือง เรือหลายลำตกแต่งเสร็จตั้งแต่เมื่อวานเย็น ส่วนบางลำยังคงเพิ่งจะเริ่มลงมือก็มี คนมาเที่ยวงานนี้ยังมาไม่ถึง แต่ส่วนหนึ่งรวมทั้งผมก็พักอยู่ที่ตลาดลาดชะโดตั้งแต่เมื่อคืนทั้งนี้ก็เพราะว่าผมไปดูการแสดงแสงสีเสียงวัดม่วงจังหวัดอ่างทอง ที่ห่างกับตลาดลาดชะโดแค่ 20 กิโลเมตรกว่าๆ พอรุ่งเช้าผมก็เดินตระเวนชมบริเวณตลาดลาดชะโด ก็เริ่มเห็นเรือส่วนหนึ่งมาจอดเทียบท่าหน้าโรงเรียนวัดลาดชะโด ภาพที่เห็นเช้านี้สร้างความประทับใจได้ไม่น้อยเพราะเป็นภาพที่จะมีที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น สำหรับคนที่อยากจะมาพักที่นี่เหมือนกับผม ผมมีเบอร์โฮมสเตย์ให้ตามนี้ครับ
ครัวริมน้ำ ข้อดีคืออยู่ริมน้ำ พักชั้นบนมองเห็นขบวนเรือได้ทั่วงานและยังชมการแสดงแสงสีเสียงตอนเย็นได้ด้วย โทร. 089-4895999
โชว์ดะโฮมสเตย์ ข้อดีคืออยู่กลางตลาดลาดชะโด แวดล้อมด้วยอาหารการกิน เดินไปท่าน้ำเพียงไม่กี่เมตรก็ถึงงาน โทร. 081-9127144, 081-3558288
ชีวิตลาดชะโดในวันพระใหญ่ หลังจากที่เดินชมเรือริมคลองมาบ้างแล้ว ได้ยินเสียงมัคนายก (เขียนถูกแล้วนะครับคำนี้ส่วนใหญ่จะเขียนผิดเป็นมัคทายก) ประกาศออกไมค์เสียงดังไปทั่วหมู่บ้าน ก็เลยลองเดินไปดูว่าที่วัดมีงานอะไรกัน วันนี้เป็นวัดอาสาฬหบูชา เป็นวันพระใหญ่ ชาวบ้านทุกเพศทุกวัยเตรียมของใส่ตระกร้านำไปถวายที่วัด มีบุญหล่อเทียนพรรษาถวายวัด ผู้สูงอายุหลายคนแต่งตัวชุดขาว จูงลูกจูงหลานเดินมาวัดไหว้พระทำบุญ ศาลาธรรมหลังใหญ่ของวัดลาดชะโดวันนี้ดูเหมือนจะใหญ่ไม่พอที่จะรองรับชาวบ้านที่มาทำบุญกันแน่นจนล้นออกมา กระถางธูปเชิงเทียนยาวเกือบเมตรไม่ใหญ่พอที่จะปักธูปกันได้ หลายคนต้องค่อยๆ เอื้อมเอาธูปไปปัก ตรงขอบกระถางธูปมีเทียนตั้งอยู่เต็มไปหมดจนทำให้ร้อนแขน นี่เป็นกระแสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวลาดชะโดที่สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ธรรมเนียมประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมานี้ช่างเป็นภาพที่สวยงามในสายตาของคนต่างถิ่นอย่างผมมากทีเดียว
ภาพเก่าเล่าเรื่อง หลังจากที่ร่วมทำบุญกับชาวบ้านที่วัดตอนนี้ก็เดินเล่นๆ รอบๆ บริเวณจัดงานแห่เทียนทางน้ำ จุดหนึ่งที่จะพลาดไม่ได้คือสะพานสมประสงค์ เป็นสะพานไม้เก่าๆ ที่มีการซ่อมแซมบำรุงรักษาให้คงทนแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาชมงานนี้อย่างล้นหลามเป็นประจำทุกปี ในฐานะที่เป็นประเพณีแห่เทียนทางน้ำแห่งเดียวในโลก ชาวต่างประเทศก็มีมาชมงานนี้บางคนนอนอยู่ที่ครัวริมน้ำโฮมสเตย์เดียวกับผม สอบถามได้ความว่ามาจากนิวซีแลนด์ มาคนเดียวเพราะไกด์ไม่ว่าง มาพักอยู่ที่นี่ 2 คืน เพื่อชมงานนี้โดยเฉพาะ รู้อย่างนี้แล้วคนไทยก็อย่าน้อยหน้า ไปชมกันสักครั้งแล้วจะประทับใจไม่รู้ลืมครับ
ภาพนี้ผมแปลงเป็นภาพขาวดำเพื่อให้มีความรู้สึกย้อนเวลากลับไปในสมัยที่ใช้การเดินทางด้วยเรือเป็นหลัก บรรยากาศหน้าตลาดลาดชะโดในวันนั้นก็คงไม่ต่างกับในรูปนี้มากนัก ในตลาดยังมีห้องแสดงภาพหรือแกลเลอรี่ ชื่อว่า สถานสำแดงภาพลาดชะโด ในนั้นจะมีภาพบรรยากาศการจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำในปีก่อนๆ รวมทั้งวิถีชีวิตขาวลาดชะโด ที่ถ่ายทอดจากฝีมือช่างภาพมืออาชีพ มีภาพสวยๆ ให้ชมมากมายเลย
แมวง่วง ประเพณีอันยิ่งใหญ่ที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งใกล้และไกลทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศดูเหมือนจะไม่ทำให้แมวตัวนี้ตื่นเต้นสนใจยินดีเลย มิหนำซ้ำดูเหมือนมันจะง่วงๆ ซะด้วยซ้ำ พอเดินไปลูบๆ มันมันก็ไม่ยอมให้เราหยุดลูบ เป็นภาพฮาๆ ระหว่างทำงานครับ
ขบวนเรือทยอยมารวมกัน เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาตอน 6 โมงกว่าๆ ตอนนี้ก็ใกล้ 8 โมงแล้ว เรือที่จะเข้าร่วมงานในวันนี้ก็พากันเดินทางมาที่จุดเริ่มต้นอย่างช้าๆ ทีละลำ 2 ลำ จุดเริ่มต้นที่ผมพูดถึงอยู่นี้คือบริเวณหน้าตลาดลาดชะโด ไม่ใช่จุดเริ่มต้นการแห่เทียนทางน้ำจริงๆ แต่เป็นจุดที่เรือทุกลำจะมาลงทะเบียนกัน จากนั้นเรือเหล่านี้จะเคลื่อนไปตามคลดงบางคี่ซึ่งเปลี่ยนมาเรียกว่าคลองลาดชะโด แบบพร้อมเพรียงกัน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วจากนั้นจะตั้งขบวนเรือ แล้วแห่มาตามกระแสน้ำกลับมาที่นี่อีกครั้งในเวลา 9.00 น. คนที่มารอถ่ายรูปขบวนเรือก็จะมีโอกาสหลายครั้ง เรือที่เห็นในภาพนี้ชื่อเรืออิ่มนำโชคเป็นเรือที่ตกแต่งได้อย่างสะดุดตามาก และก็ไม่ผิดหวังคว้ารางวัลชนะเลิศไปตามความคาดหมาย
จำนวนเรือร่วมๆ 100 ลำ ที่มาร่วมพิธีที่สวยงามนี้พอมาจอดเรียงกันที่ใต้สะพานสมประสงค์ ดูแน่นขนัดไม่ผิดอะไรกับตลาดน้ำดำเนินสะดวก มองไปมองมาก็เหมือนขายดอกไม้ทางเรือเป็นปากคลองตลาดไปเลย ภาพความสวยงามแบบนี้สมควรอย่างยิ่งแล้วที่เราจะดั้นด้นเดินทางไปรอชมกัน
เคลื่อนขบวนเรือ เมื่อเรือทุกลำมาพร้อมกันแล้ว ได้เวลาที่เรือทั้งหมดจะเคลื่อนขบวนออกจากตลาดลาดชะโด ทวนกระแสน้ำคลองบางคี่ไปทางทิศตะวันออก ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาทีผมเดินจากสะพานสมประสงค์ไปตามทางเดินของหมู่บ้านมายืนดักหน้าขบวนเรือที่สะพานไม้เก่าๆ อีกจุดหนึ่ง ห่างกันประมาณ 200 เมตร จุดนี้มีคนมายืนรอชมเรือผ่านเป็นแถวโค้งตามสายน้ำแต่ก็ไม่มากเท่ากับที่หน้าตลาด เรือทุกลำที่เข้าร่วมงานประเพณีนี้จะมีบรรยากาศสนุกสนานร้องรำทำเพลงอย่างมีความสุข
เรือชนะเลิศการประกวด ในระหว่างที่ยืนถ่ายรูปเรือที่เคลื่อนผ่านสะพานไปอย่างช้าๆ ก็เห็นเรือหลายลำที่ตกแต่งสะดุดตา ถ้าเป็นการประกวดนางงามก็ต้องได้รางวัลขวัญใจช่างภาพ อย่างภาพซ้ายชื่อเรือไกรทอง ก็ได้รางวัลประเภทวรรณคดี ส่วนเรือลำสุดท้ายในภาพขวาชื่อเรือน่านปิง ก็ได้รับรางวัลสวยงามไปครองด้วยการตกแต่งบายศรีใบตองแบบทางเหนือ
เมื่อเรือลำสุดท้ายของขบวนคล้อยไปสุดสายตา ผมคิดว่าจะยืนอยู่บนสะพานเดิมรอจนกว่าเรือจะแห่กลับมาที่นี่อีกครั้ง แต่ก็บังเอิญเจอช่างภาพรุ่นพี่มากันเป็นกลุ่มทำท่าจะโบกเรือตามขบวนไป มีเรือคณะกรรมการแล่นมาพอดี คนขับบอกว่าจะไปรับกรรมการที่จุดเริ่มต้นแห่เรือมายังตลาด ถ้าเราไปก็จะต้องหาทางกลับเอาเอง ทุกคนไม่ลังเลเดินขึ้นเรือไป ผมก็ต้องตามน้ำไปด้วย ได้ภาพจากมุมประชิดด้านข้างลำเรือสวยๆ มาให้ชมกัน จนถึงจุดเริ่มต้นเราก็ต้องขึ้นฝั่ง หาทางกลับไม่ได้สุดท้ายต้องให้พี่เจ้าของรถโบกรถไปเอารถตัวเองมาจากตลาด เพื่อพาเราทุกคนย้ายที่ไปหามุมถ่ายรูปใหม่ คณะกรรมการจัดงานก็ใจดีครับมีเรือกาแฟบริการส่งถึงท่าน้ำหน้าบ้านหรือบนเรือก็ได้เอาเรือมาเทียบกันแล้วก็สั่งเลยจะเอาชาหรือกาแฟก็ว่ากันไป ขึ้นฝั่งแล้วยังมีบริการน้ำแข็งไสอีกต่างหา ทุกอย่างฟรีหมด สุดยอดครับท่าน
ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ภาพนี้เป็นภาพจากสะพานคอนกรีตหน้าศาลเจ้าพ่อลาดชะโดหลังใหม่ เรียกชื่อเล่นว่าสะพานไฮไลท์ เป็นจุดถ่ายรูปงานแห่เทียนทางน้ำที่สวยที่สุด นอกจากโค้งคลองลาดชะโดสวยๆ แล้วยังมียอของชาวบ้านริมคลองมาประกอบภาพให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น มีช่างภาพอยู่แน่นที่สุดในบรรดาสะพานทั้ง 3 จุด เรียกว่าขาตั้งไขว้กันไม่มีช่องว่างเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอมีหมด มากันทุกค่ายทุกสำนักครับ ดีว่าเป็นสะพานคอนกรีตไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก บางคนเอาเสื่อมา บางคนเอาบันไดมาเป็นที่นั่งด้วยที่ยืนด้วย
ปิดท้ายขบวนแห่เทียนทางน้ำเมื่อเรือลำสุดท้ายคล้อยผ่านสะพานนี้ไป หลายคนก็เก็บกล้องขึ้นรถตามไปเก็บภาพที่ตลาดลาดชะโดกันต่ออีก บางคนก็พอแค่ตรงนี้เพราะได้ภาพที่พอใจแล้ว ถ้าไปที่ตลาดคงจะไม่มีที่ให้ยืนแน่ๆ สมแล้วที่เรียกว่าสะพานไฮไลท์เพราะสวยทั้ง 2 ด้าน ที่จริงถ้าใครจะมาถ่ายรูปสวยๆ รออยู่สะพานนี้จุดเดียวก็ได้นะครับ มีรถซาเล้งขายน้ำขายกาแฟมาบริการให้ถึงที่ด้วย
กิจกรรมภายในงาน หลังจากเรือทั้งหมดเดินทางมาถึงตลาดลาดชะโดก็จะมีการถวายเทียนที่วัดลาดชะโดต่อไป แต่ตอนนี้งานยังไม่จบลง ยังคงมีกิจกรรมอีกมากมายหลายอย่างสำหรับนักท่องเที่ยวจะได้ชมอย่างเพลิดเพลินตลอดวัน ไปจนถึงเวลากลางคืนมีการแสดงแสงสีเสียงสวยๆ ต่ออีก เรียกว่ามาเที่ยวงานนี้ควรจะอยู่ตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยครับ
กิจกรรมที่ผมเห็นและพอจะจำได้ก็อย่างเช่น การแข่งเรือบด เรือหัวใบ้ท้ายบอด มวยทะเลมีรุ่นเด็กกับผู้ใหญ่ แต่ละอย่างล้วนแล้วแต่เรียกเสียงฮาจากผู้ชมได้ดี
การแสดงแสงสีเสียง เป็นกิจกรรมสุดท้ายของค่ำคืนวันอาสาฬหบูชาและประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำของชาวลาดชะโดการแสดงแสงสีเสียงยาวกว่าชั่วโมงประกอบไปด้วยการแสดงหลายชุดด้วยกันเพื่อนำเสนอประวัติของลาดชะโด การแสดงที่ไม่คาดว่าจะได้เห็นอย่างการเชิดสิงห์โด และมังกรบนเวทีริมคลองลาดชะโดที่ไม่ใหญ่มากนัก การแสดงร่ายรำประกอบดนตรีที่งดงามอ่อนช้อยตามแบบอย่างของไทยแต่โบราณ ท่ามกลางแสงสีสวยงามอลังการ แล้วยังมีพลุดอกไม้ไฟเป็นระยะๆ แต่เพราะไม่รู้มาก่อนว่าจะมีพลุผมก็เตรียมกล้องไม่ทัน ไม่งั้นมีภาพสวยๆ มาฝากกันแน่ๆ
ในระหว่างวันเรายังเดินหาของกินของฝากของที่ระลึกต่างๆ ในตลาดลาดชะโด ถ่ายรูปกับตลาดเก่าอายุกว่าร้อยปีได้อีกหลายมุม เข้าพรรษาปีหน้า ลองมาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ