ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.ลพบุรี 036-770096-7
http://www.tourismthailand.org/lopburi
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
พระบรมราชานุสาวรีย์ ที่เห็นอยู่ตั้งแต่ทางเข้าวัดนี้คือพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
จากถนนทางเข้าวัด จะมีทางพาเราเข้ามาจนถึงลานจอดรถของวัดอยู่ติดกับแม่น้ำ มีทางเดินหลังคาคลุมยาวตั้งแต่ลานจอดรถเข้าถึงพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ระหว่างนั้นก็จะมีที่ทำบุญพระประจำวันเกิด ตักบาตรพระ 108 ฯลฯ
ทำบุญตักบาตร เป็นตู้กระจกยาวหลายเมตร ในตู้มีพระนั่งอยู่พร้อมกับบาตร ดูแล้วน่าจะเป็นพระเก่า หยากไย่เกาะไปหมด
นมัสการพระสิวลี เดินมาตามทางเดินเรื่อยๆ ก่อนที่จะตรงเข้าพระวิหาร ลองแวะด้านข้างๆ จะมีสิ่งอื่นๆ อีกมากมายในวัดป่าโมกที่บางทีหลายคนอาจจะไม่ได้นึกถึง เรือสำเภามีเจดีย์อยู่บนเรือแบบนี้คล้ายกับที่วัดยานนาวา ที่กรุงเทพฯ แต่ขนาดย่อมกว่าเยอะ
วิหารพระพุทธไสยาสน์ ตอนนี้เราเดินมาสุดทางเดินแล้วครับ ที่เราเห็นอยู่ตรงหน้าเป็นพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ครับ ด้านซ้ายมือเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังนั้นถ้ามาในช่วงวันปิยะมหาราช 23 ตุลาคม เราจะเห็นข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นำพวงมาลามาถวายเป็นเครื่องราชสักการะแด่พระองค์กันเยอะมากครับ
ภายในวิหารพระพุทธไสยาสน์ ดังเช่นพระพุทธไสยาสน์ในหลายๆ วัด เมื่อสร้างวิหารคลุมองค์พระแล้วภายในจะมีลักษณะยาว มีพื้นที่ไม่มากนัก มุมที่จะเก็บภาพองค์พระพุทธไสยาสน์ก็มีไม่มากนักเช่นกัน ในพื้นที่เล็กๆ นี้ ถ้ามาในวันหยุดจะเห็นประชาชนเดินทางมานมัสการขอพรพระกันเต็มแน่นวิหารเลยทีเดียว ลืมบอกไปอย่างหนึ่งว่า ถ้าจะไหว้พระจุดธูปเทียนบูชาด้านหน้าวิหาร ปิดทองที่องค์พระจำลองด้านหน้า เพราะภายในนี้ห้ามจุดธูปเทียนครับ
พระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมก เดิมทีพระพุทธรูปไม่ได้ประดิษฐานอยู่ที่นี่ ภายในวิหารมีรูปวาดการชลอองค์พระพุทธไสยาสน์จากวัดป่าโมกเดิมมาประดิษฐาน ณ วัดป่าโมกวรวิหาร เมื่อปี พ.ศ. 2270 สมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ มีพระยาราชสงครามเป็นนายกองการชลอ เพราะพระวิหารประสบอุทกภัย สร้างด้วยการก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทองในสมัยสุโขทัย พระพักตร์งามที่สุดในประเทศไทย ความยาวตลอดองค์ 24 เมตร พระมหาเถระไลลายอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาให้มหาพุทธสาครเชื่อกษัตริย์ไทย บรรจุที่พระอุระ 36 พระองค์ ท่านเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่เป็นที่เล่าขานกันมาช้านาน
อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะกล่าวถึงก็คือรูปพระพักตร์ขององค์พระนอนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นพระพักตร์ของพระนอนที่งดงามที่สุดของไทยครับ
ด้านหลังองค์พระพุทธไสยาสน์ ภายในวิหารมีพื้นที่รอบองค์พระนอนเดินได้รอบครับ ด้านหลังนั้นว่าง
พระโพธิสัตว์ ทั้งพระแม่กวนอิมและพระสังกัจจายนะ อยู่ด้านข้างวิหารพระพุทธไสยาสน์ เดินอ้อมไปไหว้ขอพรกันได้
พระอุโบสถ เสร็จจากการไหว้พระนอนในวิหาร ลองเดินดูอะไรรอบๆ วัดอีกหน่อยครับ ที่จริงในวัดนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่หลายอย่างด้วยกัน อย่างเช่นพระอุโบสถหลังนี้ก็ประดิษฐานพระพุทธรูปประธาน เรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ พระนามจริงคือ พระศรีสรรเพชญ์นวบพิธ สันนิษฐานตามพงศาวดารเหนือ น่าจะมีอายุ 500 ปีเศษ พระอุโบสถสร้างอย่างศิลปะอยุธยา จะเห็นแนวเส้นโค้งคล้ายเรือสำเภาที่ด้านนอกของโบสถ์
พระศรีสรรเพชญ์นวบพิธ หรือหลวงพ่อใหญ่ พรพุทธรูปที่งดงามเป็นพระประธานในโบสถ์วัดป่าโมก ชาวบ้านมาสักการะขอพรกันมาก สามารถร่วมทำบุญห่มผ้าจีวรที่องค์พระได้
ต้นสาละหลังโบสถ์ ไหว้พระแล้วเดินออกไปด้านหลัง จะมีต้นสาละต้นใหญ่ออกดอกให้ชมทุกครั้งที่มาที่วัดป่าโมก ต้นสาละเป็นต้นไม้ที่ปรากฏในพระพุทธประวัติว่าเป็นที่ประสูติของพระพุทธองค์
ศาลาบูรพาจารย์ อยู่ด้านข้างทางเดินที่คลุมหลังคาที่เราเดินเข้ามาตอนแรก ภายในมีรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาสวัดป่าโมก
ท่าน้ำหน้าวัด
ฝั่งตรงข้ามวัด
พระพุทธบาทสี่รอย หลายคนคงสงสัยเหมือนผมมั้ยครับว่า พระพุทธบาทสี่รอยนี้คืออะไร ทำไมต้องมีสี่รอย เห็นอยู่หลายที่เหมือนกัน ผมได้คำตอบมาแล้วครับว่า กล่าวกันว่าเป็นรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ในภัทรกัลป จนถึงพระพุทธเจ้าในปัจจุบันนี้คือ พระกกุสันธะ (รอยพระบาทใหญ่ที่สุด) , พระโกนาคมนะ , พระกัสสปะ , พระพุทธโคดม (รอยพระบาทเล็กสุด) ตามที่ผมได้ศึกษาเรื่องราวของพระพุทธประวัติ พระพุทธเจ้าเมื่อเสด็จไปยัง ณ ตำบลใด จะพึงกระทำสิ่งเดียวกันกับพระพุทธเจ้าองค์ก่อน เช่นการประทับรอยพระพุทธบาทก็จะประทับลง ณ ที่เดียวกัน จึงได้ปรากฏรอยพระพุทธบาทที่เดียวกัน 4 รอย ครับ ส่วนรอยพระพุทธบาทนี้ ได้ทำการเคลื่อนย้ายนมัสการมาจากเมืองพิษณุโลกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ