น้ำตกหมันแดง

 น้ำตกหมันแดง เป็นน้ำตกที่มีความสูง 32 ชั้นในห้วยน้ำหมันซึ่งมีน้ำตลอดปี ต้นน้ำเกิดจากยอดเขาภูหมัน น้ำตกแต่ละชั้นตั้งชื่อคล้องจองกันตามสภาพลักษณะที่สวยงามแปลกตา ห้อมล้อมด้วยป่าดงดิบอันสมบูรณ์ การเดินทาง จากที่ทำการอุทยานฯ ใช้เส้นทางสายภูหินร่องกล้า-หล่มเก่า ถึงหลักกิโลเมตรที่ 18 มีทางแยกซ้ายเป็นทางเดินเท้าเข้าสู่น้ำตก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร เส้นทางผ่านป่าร่มครึ้มมีกล้วยไม้ป่า ต้นเมเปิ้ล และทุ่งหญ้า

ข้อมูลเพิ่มเติม:โทร. 0 5523 3527
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760
http://www.dnp.go.th

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ทุ่งนาเขียวขจี ก่อนขึ้นเขาสู่อุทยานภูหินร่องกล้า เห็นทุ่งนากับฉากเขามีเมฆหมอกลอยไปลอยมา เลยจอดรถเก็บกันหน่อย ก่อนที่จะต้องเดินอย่างยากลำบากสู่น้ำตกหมันแดง

เส้นทางสู่อุทยานแห่งชาติภูิหินร่องกล้า(ขึ้นทางทับเบิก) เส้นทางนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างหลายช่วงเป็นทางดินที่รถเก๋งจะขึ้นไม่ได้ มีติดหล่มกันด้วย จะมีป้ายบอกก่ิอนที่จะขึ้นมา แต่ด้วยความมั่นใจในสมรรถนของรถเราก็ไม่เปลี่ยนเส้นทางครับ ลุยไปเลยดีกว่า

ทั้งโค้งทั้งลื่นทั้งเละ เส้นทางนี้แหละจะพิศูจน์ว่าไปไหวหรือเปล่า

พลาดนิดเดียวลงเขาแน่ๆ

จุดชมวิวช่วงทางขึ้นภูทับเบิก เห็นวิวข้างทางสวยๆ ไม่ได้เป็นต้องจอดตามสไตล์ทัวร์ออนไทย

วิวสวยทับเบิก เรียกว่าเป็นวิวทับเบิกไปเลยก็แล้วกัน เพราะตรงนี้ไม่มีใครตั้งชื่อ และไม่ใช่ที่จะจอดรถชมวิวได้ เพราะถนนมันมี 2 เลนสวนกัน การจอดจะทำให้รถคันอื่นๆ ไปไม่ได้ ส่วนที่เราจอดได้ในวันนี้เพราะเลนที่เราจอดเพิ่งลาดยางมะตอย ไม่มีใครขับเข้ามาแน่ๆ

ต้นไม้ล้มขวางถนน เมื่อคืนก่อนที่เราจะเดินทางมาถึงมีฝนตกท่าทางจะหนักมาก มีต้นไม้ล้มขวางทางและมีเจ้าหน้าที่กำลังเอาออกไปจากถนน

บรรยากาศหมอกจัดที่อช.ภูหินร่องกล้า ใกล้ถึงอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าแล้ว อากาศที่เคยมองเห็นวิวข้างล่างก็กลายเป็นเมืองหมอกไปแล้ว วิว 2 ข้างทางก็สวยนะครับแต่ไม่มีคนอยากจะเปิดหน้าต่างรถมาถ่ายภาพเพราะรู้สึกว่าจะหนาวเกินไป

เตรียมตัวก่อนเดินทางเข้าน้ำตกหมันแดง ก่อนการเดินเท้าเข้าสู่น้ำตกหมันแดงนั้นมีสิ่งที่จะต้องทำให้เรียบร้อยก่อนดังนี้
1. ทานอาหารเช้า การเดินทางมาน้ำตกหมันแดงต้องกะเวลาให้ดีต้องมาถึงให้เช้ามากๆ เพราะต้องกินข้าวและซื้อข้าวห่อสำหรับเป็นเสบียงเมื่อเดินถึงน้ำตก
2. ใส่อุปกรณ์กันทากทุกชนิดที่เตรียมมา ปี 2552 ทากชุมกว่าทุกปีที่ผ่านมา (เป็นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่อุทยานบอก)
3. เตรียมยาที่จำเป็นและเข็มไปบ้าง(ในกรณีเสี้ยนตำ)
4. ใส่ถุงมือด้วยนะครับอย่างน้อยเวลาคว้าอะไรระหว่างลื่นล้มมันจะป้องกันได้ (หินหรือต้นไม้มีหนามเป็นต้น)
5. ควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำทางให้ท่าน เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันท่านเดินกลับออกมาจากน้ำตกไม่ทันก่อนอาทิตย์ตกละก็ลำบากมากแน่ๆ
6. การมีไม้ค้ำติดตัวเข้าไปและนำออกมาเก็บไว้ที่ทางเข้าเหมือนเดิมเป็นการช่วยเพื่อนนักเดินทางที่มาทีหลัง
7. อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้หากฝนตก เช่นร่ม ถุงกันความชื้น เพราะในป่าแห่งนี้ฝนอาจตกได้ตลอดเวลา

ทางเข้าน้ำตกหมันแดง เมื่อคืนฝนตกหนักมากจนทางเดินเดิมเข้าไม่ได้ต้องไปเส้นทางใหม่ จึงเห็นว่าเจ้าหน้าที่เดินเลยป้ายทางเข้าไปแล้ว เราก็ต้องตามไปแล้วละครับ ปกตินักท่องเที่ยวจะต้องเดินเข้าก่อน 10.00 น. เพราะต้องเหลือเวลาสำหรับเดินกลับออกมา
กลุ่มทีมงานทัวร์ออนไทยเริ่มเดินเข้าไป 11.00 น.ครับ เพราะมาสายด้วย กว่าจะหาเจ้าหน้าที่มานำทางได้ก็นาน สั่งข้าวห่อด้วย โชคดีที่ได้เข้าไป นึกว่าต้องเป็นพรุ่งนี้ซะแล้ว

เตรียมตัวพร้อมแล้วก็เดินทางได้

ศึกษาธรรมชาติในป่าอันอุดมสมบูรณ์ ระหว่างการเดินป่าเข้าสู่น้ำตกหมันแดง มีหยดน้ำจากใบไม้ในป่าหยดลงมาตลอดเวลา ลักษณะคล้ายฝนแต่ไม่เหมือน การถ่ายภาพต้องระวังกล้อง อีกอย่างเจ้าหน้าที่ที่เดินนำจะไม่ค่อยหยุดครับ ต้องถ่ายภาพอย่างรวดเร็วแล้วเดินตามให้ทัน เพราะว่าการเดินนั้นใช้เวลามาก ต้องกลับก่อนค่ำด้วย

เฟิร์นกลับใบหรือเฟิร์นสลับใบ ตรงชื่อของพืชชนิดนี้ได้ฟังบรรยายมาจากเจ้าหน้าที่ ส่วนที่ทางวิชาการเดี๋ยวจะหามาให้แน่นอน เอาส่วนสำคัญของเนื้อหาดีกว่า
เฟิร์นชนิดนี้มีความแปลกมาก เจ้าหน้าที่บอกว่ามีแห่งเดียวในประเทศไทย ความพิเศษของเฟิร์นชนิดนี้คือลักษณะของใบเหมือนกลับด้านกัน ด้านหน้าด้านหลัง หรือว่ากลับบนลงล่างอะไรทำนองนั้น

เฟิร์นกลับใบหรือเฟิร์นสลับใบ นี่คือด้านบนแต่มีก้านใบเห็นได้ชัดเจน ปกติก้านใบจะอยู่ใต้ใบ

ฟ้าทะลายโจรป่า แก้ไอเจ็บคอ มีหลายต้นที่หน้าตาคล้ายๆ กันแต่ไม่ใช่ฟ้าทะลายโจรนะครับดูดีๆละ

ข้ามลำธารกลางป่า

จุดเริ่มของทางลาดชัน จากจุดเริ่มต้นมาถึงตรงนี้คงจะสัก 1 กิโลเมตร ได้และจากตรงนี้ไปเป็นระยะประมาณ 800 เมตร ชันตลอดระยะทางและลื่นมากๆ รองเท้าไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลยเพราะสภาพเป็นโคลน ทางที่ดีคือใช้มือเหนี่ยวต้นไม้ หรือมีไม้ค้ำไปด้วย อย่าลืมว่าตลอดทางนี้มีทากประปรายครับ ถึงที่น้ำตกจะมีทากชุกชุม

จุดพักระหว่างทาง หินก้อนนี้เป็นจุดพักที่ดีครับ อยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นประมาณ 2.5 กิโลเมตร และต้องไปต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตร เนื่องจากทีมงานผ่านทางเดินลาดชันและลื่นไถลสุดจนขาไม่มีเรี่ยวแรงแล้วก็หยุดพักในการตรวจร่างกายว่ามีทากติดตามมาด้วยหรือเปล่า การหยุดพักขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้ไปในการเดินช่วงแรก ถ้าใช้เวลามากเกินไปเจ้าหน้าที่อาจจะไม่แนะนำให้หยุดพักนะครับ

ห้องเรียนธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ให้ความรู้เรื่องประวัติความเป็นมาตั้งแต่ค้นพบน้ำตก รวมถึงพรรณไม้เช่น ที่เรานั่งอยู่ก็มีต้นไม่ใหญ่ๆ อยู่ข้างหลังเรียกว่าตะไคร้ต้น สามารถกินได้ มีรสและกลิ่นเหมือนตะไคร้ แต่เป็นต้นซะใหญ่เลยครับ การที่พวกเราไม่โดนทางเกาะในวันนี้คงเป็นเพราะเมื่อวานมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 400 คน ส่วนวันนี้ช่วงเช้ามีนักท่องเที่ยวประมาณ 100 คนเราเข้ามาเกือบเที่ยงเป็นกลุ่มสุดท้าย
โชคดีเรื่องทากแต่ตอนกลับต้องเร่งฝีเท้าสุดๆ ครับ

แมลงปีกแข็งในป่าน้ำตกหมันแดง การเดินป่าครั้งนี้อยากให้ออกมาเป็นการเดินป่าแบบจุลภาค คือเก็บภาพเล็กๆ น้อยๆ ตามทางมากกว่าที่จะเก็บภาพวิวให้ได้มากๆ เหมือนครั้งอื่นๆ รวมไปถึงศึกษาธรรมชาติให้มากกว่าเดินผ่านด้วยครับ

แมลงสวยน้ำตกหมันแดง หามุมสวยๆ ของแมลงที่เดินบนป่ามอส (สำหรับแมลงเล็กๆ มอสก็กว้างเท่าป่า)

น้ำตกหมันแดงชั้นที่1 จากจุดที่นั่งพัก เดินมาอีกหน่อย (เกือบๆ กิโลเมตร) ซึ่งจะเป็นทางเรียบให้เดินแบบสบายๆ ประมาณ 500 เมตร เมื่อถึงตัวน้ำตกจะต้องเดินเลียบน้ำตกลงมาเรื่อยๆ เริ่มจากชั้น แรกนี้ น้ำตกหมันแดงมี 32 ชั้น แต่ที่แบ่งเป็นชั้นหลักๆ ใหญ่ๆ มี 9 ชั้น ชั้นที่มีดอกลิ้นมังกรสีชมพูคือชั้นที่ 5 เป็นต้นไป

น้ำตกหมันแดงชั้นที่2 จากชั้นแรกมาเพียงไม่นานก็ถึงชั้นที่ 2 จนน่าแปลกใจ เพราะน้ำตกที่เคยเดินทั่วไปจากชั้นไปยังอีกชั้นค่อนข้างไกล แต่ที่นี่ประมาณ 50 เมตรเท่านั้นก็ถึงชั้นถัดไปแล้ว จุดถ่ายภาพชั้นที่ 2 ไม่มีทางลงไป ต้องถ่ายจากประมาณมุมเดียวกันนี้ มีชะง่อนหินยื่นออกไปนิดหน่อย

สีสันไม้ป่า ข้อมูลต้นนี้ขอเว้นไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวหามาให้แน่นอน

น้ำตกหมันแดงชั้นที่2 แนวตั้ง วิวเดียวกันกับภาพน้ำตกหมันแดงชั้นที่ 2 ข้างบนแต่ลองเปลี่ยนเป็นแนวตั้ง

น้ำตกหมันแดงชั้นที่3 ชั้นที่ 3 ของน้ำตกหมันแดงไม่มีจุดให้ถ่ายรูปได้สวยๆ เหมือนชั้นที่ 1 และ 2 มีเพียงตั้งขาตั้งตรงทางเดินซึ่งมีคนเดินไปเดินมาด้วย ทำให้การถ่ายภาพยากกว่า และหน้าน้ำตกมีต้นไม้ชึ้นเยอะจนภาพรกไปหมด เดินถึงตรงนี้มีทีมงานโดนทากเกาะไป 5 ตัว (กัดไป 1 ยังไม่กัดอีก 4 เอาออกทัน) ตัวผมเองเกาะ 1 ตัว เอาออกทัน นักท่องเที่ยวบางคนวิ่งสวนออกไปแล้วเล่าว่า มีเป็น 10 ตัว ไต่เข้ามาหา และถูกกัดที่ข้อมือด้วย

น้ำตกหมันแดงชั้นที่4 มาถึงชั้นนี้มีละอองน้ำฟุ้งไปทั่ว การถ่ายภาพก็เลยยากขึ้นไปอีก เพราะต้องคอยเช็ดละออกน้ำออกจากหน้าเลนส์ จุดที่ยืนถ่ายนี้เป็นก้อนหินขนาดใหญ่ พอตั้งขาตั้งได้ 1 คน ต้องต่อคิวกันครับ

ทางขึ้นลงน้ำตกหมันแดงชั้นที่4 ชั้นที่ 4 เป็นชั้นที่ทางลงมันลึกกว่าชั้นอื่นๆ ใน 5 ชั้นที่ไปมา การขึ้นและลงต้องระวังให้มากๆ บางทีลงไปแล้วอาจจะขึ้นมาไม่ได้ก็ได้นะ

บีโกเนีย Begonia บีโกเนียเป็นเป็นไม้อวบน้ำอายุยืนอยุ่ในวงศ์ BEGONIACEAE (BEGONIA FAMILY) มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนชื้นอย่างบ้านเรา พบได้ในป่าชื้นใกล้น้ำตก วนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่เมื่อฝรั่งนำไปผสมและปรับปรุงพันธุ์ ทำให้บีโกเนียลูกผสมทนร้อนไม่ดีนัก บางชนิดต้องการอากาศเย็นจัด และปัจจุบัน บีโกเนียเกือบทั้งหมดในตลาด(ประมาณ 10,000 ชนิด) ล้วนเป็นลูกผสมทั้งสิ้น ถ้าคุณมีเวลาเดินป่าชื้น จะพบบีโกเนียป่าต้นใหญ่พันธุ์ไทย สีสันไม่เด่น แต่ดูอลังการที่ขนาดต้น
ข้อมูล http://www.neofarmthailand.com/

น้ำตกหมันแดงชั้นที่5 ชั้นนี้เป็นชั้นแรกใน 5 ชั้นที่ผ่านมาที่ได้เห็นลิ้นมังกรสีชมพู ที่เราตามหา ตำแหน่งการขึ้นของลิ้นมังกรสีชมพูที่เห็นในน้ำตกหมันแดงชั้นที่ 5 มี 4 กลุ่ม
กลุ่มแรกก็เห็นในรูปนี้เล็กๆ ใกล้ๆ น้ำตกอาจจะเห็นไม่ชัดเท่าไหร่แต่เป็นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ซึ่งช่างภาพส่วนใหญ่จะไปเก็บภาพตรงนั้น (ห่างจากน้ำตกประมาณ 3 เมตร)
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มตรงที่ผมยืนถ่ายภาพนี้อยู่ มีดอกลิ้นมังกรสีชมพูเพียงไม่มากนัก ห่างจากน้ำตกประมาณ 5 เมตร
กลุ่มที่ 3 อยู่ด้านหลังผม มีเพียง 4-5 ต้น และแต่ละต้นอยู่ห่างกัน เลยไม่สวยและไม่มีที่ยืน เพราะอยู่ใกล้จุดที่เป็นน้ำตก จะตกลงไปได้
กลุ่มที่ 4 จะอยู่ห่างไปด้านหลังไกลพอควรแต่มองเห็นเป็นกลุ่มใหญ่แต่ต้องใช้เลนส์ซูมเข้าไป
ณ เวลานี้จุดที่ยืนนี้น่าจะดีที่สุดด้วยเหตุผล 2 อย่าง คือ
อยู่ห่างจากน้ำตกพอสมควร ถ้าไปยืนตรงกลุ่มแรกละอองน้ำจากน้ำตกจะเกาะหน้าเลนส์อย่างรวดเร็วถ่ายภาพลำบาก โดยเฉพาะภาพน้ำตกที่ต้องสปีดชัตเตอร์ช้า
ระหว่างที่ถ่ายภาพฝนเกิดตกลงมาหนักพอควร นักท่องเที่ยวที่มาถึงก่อนหลายคนก็เก็บกล้องเดินกลับเลยเพราะไม่คุ้มกับกล้องพัง ส่วนพวกเราใช้เสื้อกันฝนแทนหลังคา ตั้งขาตั้งในลำธารของน้ำตกด้วยขึ้นรถต้องเอากล้องใส่ถุงกันชื้นกับสารดูดความชื้นเยอะๆ

ลิ้นมังกรสีชมพูน้ำตกหมันแดงชั้นที่5 และภาพนี้เป็นภาพที่อยากจะให้รางวัลตัวเองมากที่สุด(แม้จะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่) เพราะความยากที่จะได้ภาพนี้มา ไหนจะต้องตั้งขาตั้งในน้ำ ไหนจะต้องเอากล้องมาติดบนขาตั้งในขณะที่ใช้เสื้อกันฝนคลุมโปงอยู่ ไหนจะต้องเปิดเสื้อกันฝนและถ่ายภาพให้เสร็จเร็วที่สุดก่อนที่ละอองน้ำจากน้ำตกจะเกาะเต็มเลนส์ และกดเพียง 2 ภาพ ก็เก็บข้าวของเดินทางกลับแล้วครับ เดี๋ยวฝนตกหนักจะเสียกล้องไปด้วย

สีสันดอกไม้ป่า เห็นอยู่กลางป่า มีช่อเดียว บริเวณนั้นไม่มีต้นไม้นี้ให้เห็นแปลกมาก เดินมาเห็นแต่ไกล ออกจากเส้นทางเดินป่าประมาณ 5 เมตร ถ่ายรูปแล้วรีบเดินกลับเข้าเส้นทางตามเดิมเดี๋ยวหลงกับเพื่อน