ภูทับเบิก

ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ภูทับเบิกมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ภูทับเบิกยังเป็นสถานที่ที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือเป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว (เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542) เพื่อนำไปรวมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้าถวายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542

ปัจจุบันภูทับเบิกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะพบเห็นไร่กะหล่ำปลีอยู่สองข้างถนนสู่ทับเบิกสวยงาม ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีดอกซากุระหรือนางพญาเสือโครงสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา นอกจากนี้ในยามค่ำคืนยังมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในอำเภอหล่มสักที่อยู่เบื้องล่าง เปรียบได้กับ "ดาวบนดิน" จากสภาพดังกล่าว ทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็น วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ภายใต้คำกล่าวที่ว่า "นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน" สิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณหมู่บ้านทับเบิกและจุดชมวิว มีบ้านพัก เต็นท์ และร้านอาหารเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยว

การเดินทางสู่ภูทับเบิก จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสัก ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตามทางหลวง 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกจะสูงชันและคดเคี้ยวมาก รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้ ควรขับรถด้วยความระมัดระวังอีกเส้นทางหนึ่งใช้เส้นทางด้านอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เลยที่ทำการอุทยานฯมาประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิก หากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่จะลงไปยังอำเภอหล่มเก่า

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.พิษณุโลก โทร.0 5525 2742-3, 0 5525 9907, 0 5523 1063
http://www.tourismthailand.org/phitsanulok

แก้ไขล่าสุด 2016-05-10 06:24:08 ผู้ชม 41085

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

การเดินทางสู่ภูทับเบิก ทริปนี้เส้นทางการเดินทางมันเริ่มมาจากอำเภอนครไทย ขึ้นอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ลงไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆ อย่างลานหินปุ่ม ผาชูธง หลังจากที่กลับมาขึ้นรถกันครบแล้วก็แยกย้ายกันขึ้นรถ จุดหมายที่เรารอคอยคือ ภูทับเบิก เส้นทางจากภูหินร่องกล้าไปภูทับเบิก ยังไม่ค่อยดีนัก
ถนนบางช่วงยังไม่ได้ราดยาง บางช่วงพังแล้ว จึงทำให้เราไปช้ากว่าเวลาที่วางแผนไว้

พอถึงจุดชมวิวเราเกือบไม่ถึงภูทับเบิกกันแล้ว เลยไปทางลงเขาค้อซะงั้นเพื่อนที่รออยู่ก็จอดเก็บภาพวิวมาได้สวยค่ะ เสียดายเราไม่ได้แวะ

เช้านี้ที่ไร่กะหล่ำภูทับเบิก และแล้วก็มาถึงไร่ตา-ยาย ที่เราจองกระท่อมและเต๊นท์ไว้ ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายละครเรื่อง ธรณีนี่นี้ใครครองด้วยค่ะ พี่อรเจ้าของบอกว่ากระท่อมเพิ่งสร้างเสร็จค่ะ บางอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทางแต่สำหรับเราว่าได้อย่างนี้ก็ดีแล้ว วิวหน้ากระท่อมก็สวยดี มีแปลงกะหล่ำอยู่หน้ากระท่อมด้วย สมาชิกเก็บสัมภาระเสร็จก็จัดแจงจุดไฟ เตรียมปิ้งย่าง สำหรับปาร์ตี้คืนนี้

อากาศเย็นลงแล้ว สาวๆ ชิงอาบน้ำกันก่อน นี่ขนาดว่ารีบอาบน้ำนะนี่ ยังไม่ทันเลยน้ำนี่เย็นยังกับอาบน้ำแช่น้ำแข็งค่ะ สุดยอด นี่แหละค่ะเขาว่ามาถึงแล้วภูทับเบิก เราต้องได้สัมผัสกับความหนาวอย่างนี้ เครื่องทำน้ำอุ่นไม่ต้อง

เรามีมือปรุงน้ำจิ้มไปด้วย นี่ค่ะ จิ๋ว น้ำจิ้มรสเด็ด ปรุงน้ำจิ้มได้หลากหลายรสชาติ ทริปไหนๆ ก็ขาดเธอไม่ได้จริงๆ มีดนตรีเล่นสด กีตาร์ มือกลอง นักร้องเพียบ เล่นเบาๆ เอาดังพอประมาณ นั่งกินไปดูดาวกันไปจนได้เวลาอันสมควรนอนจึงเก็บของเตรียมแยกย้ายกัน

ทันใดนั้นเห็นข่างล่างลอยโคมกัน สมาชิกเราอยากลอยบ้างเราจึงโทรไปถามเจ้าของไร่เลยว่ามีโคมขายมั๊ยคะ อยากลอย เขาบอกมีจ้า เราเลยสั่งมา 4 โคม เด็กน้อยถือมาส่งพวกเราก็ลอยโคมกันก่อนนอนปิดท้ายปาร์ตี้

พระอาทิตย์ขึ้นที่ทับเบิก เราตั้งนาฬิกาปลุกตีห้าครึ่ง หวังจะได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ไปปลุกสมาชิกที่เต้นท์บางคนก็ตื่นมารับอากาศยามเช้า เราคิดว่าพระอาทิตย์คงขึ้นไปแล้วอยู่ทางด้านหลังเขาซึ่งเราไม่มีโอกาสไปทันแล้ว จึงเลือกถ่ายภาพวิวหน้าบ้านนี่แหละ

พอถ่ายไปได้สักพัก เหลือบไปเห็นพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากเนินกะหล่ำปลีทางด้านขวา แต่แหม... ติดสายไฟซะงั้น เรารีบลงจากกระท่อม วิ่งไปหาดวงอาทิตย์ไปให้พ้นสายไฟ ประมาณ 400 ม. มาหยุดตรงที่ไร่กะหล่ำปลี รีบปรับกล้อง ใจก็คิดว่าดวงอาทิตย์จ๋า รอด้วยเพราะถ้าลอยขึ้นไปอีกจะมีทิวเมฆบังแล้วนะ พยายามแล้วค่ะ ได้มาแค่สองภาพดวงอาทิตย์ก็หายเข้าเมฆไปแล้ว ก็เลยถ่ายไร่กะหล่ำปลีของขาวบ้านมาด้วยเลย

กะหล่ำปลีในไร่นี้บางส่วนหัวใหญ่เต็มที่แล้วเจ้าของจะเก็บไปขาย เหลือแต่ส่วนที่ยังเล็กไว้ เดินถ่ายไปเรื่อยๆ จนมาเจอกะหล่ำปลีหัวหนึ่งมันแปลกๆ อ้าวเป็นอะไรไปล่ะ ถามคนที่เก็บกะหล่ำอยู่เขาบอกว่า กะหล่ำระเบิด แล้วระเบิดได้ไงคะ เขาว่ามันแก่จัดแล้วโดนฝนเลยระเบิด ข้างในขาวจั๊วเลย ถ่ายภาพกะหล่ำจนหนำใจแล้วเพื่อนๆ คงคิดว่าหายไปไหนนาน เลยกลับ

ผ่านกื๋อตี้รีสอร์ทเลยแวะเก็บภาพนิดหน่อย ด้านล่างเป็นโรงเตี๊ยมนั่นเอง รีสอร์ทแต่ละที่ก็อยู่ไม่ห่างกัน แต่ทริปนี้เรามากันเยอะเวลาเลยไม่ค่อยอิสระเท่าไหร่ จึงไม่ได้เดินถ่ายภาพรีสอร์ทมาทั้งภูทับเบิกมาฝาก ไว้ทริปหน้าไปอีกครั้งจะขอแก้มือนะคะ

ไร่กะหล่ำตา-ยาย หน้าไร่ตา-ยาย ปลูกกะหล่ำไว้ด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวมาแวะถ่ายรูปกันไม่ขาดสายเลย ด้านหน้ามีร้านขายผลไม้ พืชผักเมืองหนาว

กะหล่ำภูทับเบิก หันกลับมาเห็นหน้ากะท่อมที่เราพักวิวสวยนะเนี่ย ดีจังที่ได้พักไร่ตา-ยาย ไม่ต้องขับรถไปไร่กะหล่ำที่ไหนเลย ได้เวลาอันสมควรแล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า เพราะบางคนเตรียมตัวกันเสร็จแล้ว เช้านี่ก็ยังอาบน้ำเย็นอีกรอบ หนาวจับใจ

กระท่อมไร่ตา-ยาย มาถ่ายภาพหน้ากระท่อมบ้างค่ะ มีนายแบบ นางแบบคู่ขวัญรออยู่

ไข่กระทะภูทับเบิก อาหารเช้านี้เป็นข้าวต้มหมูและไข่กระทะ เพิ่มโปรตีนคึกคัก กันแต่เช้า

ก่อนขึ้นรถเราเดินไปหาตา-ยายเพื่อขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันซักหน่อย แล้วก็ลาคุณตา-คุณยาย คุณตาบอกว่าไม่รอหมอกเหรอ มาตอน 10 โมงเช้านี่แหละ นี่ก็ใกล้มาแล้ว เราก็ไม่อยากจะเชื่อ
แต่พอเดินไปซื้อเบบี้แครอท เตรียมขึ้นรถ หมอกมาจริงๆ โห..คุณตานี่สุดยอดเลยค่ะรู้เวลาหมอกด้วย เรารีบไปยังจุดชมวิวภูทับเบิก หวังจะไปถึงก่อนที่หมอกจะปกคลุมวิวถนน ที่เราอยากได้ภาพ แต่ก็ไม่ทัน ได้มาแค่นี้ค่ะ และแล้วหมอกก็วิ่งมาคลุมหมดจนขาวโพลน ไม่เห็นอะไรเลย นอกจากป้ายนี่แหละค่ะ

ที่จุดชมวิวมีร้านของฝากที่ระลึก และพืชผักเมืองหนาวมากมาย เสื้อผ้า หมวกเก๋ๆ สตรอเบอร์รี่ก็มีนะคะ ผลใหญ่น่ากินเชียวค่ะ

อำลาภูทับเบิก เส้นทางลงจากภูทับเบิก ชันมากค่ะ ลงอย่างเดียวเลยแล้วโค้งซ้ำซากอีกด้วย
เล่นเอาคนสวยในรถทำโจ๊กได้ถุงใหญ่เลย เราเองก็เกือบช่วยทำโจ๊กด้วยเหมือนกัน วิงเวียนคลื่นไส้เอาเรื่องเลยค่ะ บางคนรู้ทันชิงหลับก่อนก็รอดไปค่ะ