ข้อมูลเพิ่มเติม:Tel. 0 3574 0263 - 4 or TAT Hot Line 1672
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ลานจอดรถตลาดลาดชะโด วันนี้เป็นอีกวันที่เราได้พาครอบครัวไปร่วมงานประเพณีที่สวยงาม ก็คือประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ซึ่งเราก็เขียนรีวิวข้อมูลและรูปภาพสวยๆ ไว้ในอีกหน้าหนึ่ง การเดินทางมาที่ลาดชะโดเรามากันตอนกลางคืน หลังจากที่ชมความสวยงามของงานแสดงแสงสีเสียงและสื่อผสมที่วัดม่วงจังหวัดอ่างทองเสร็จ โชคดีที่งานทั้ง 2 จัดขึ้นติดๆ กันในวันสำคัญทางศาสนาก็คืออาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา และอำเภอวิเศษชัยชาญอันเป็นที่ตั้งของวัดม่วง กับอำเภอผักไห่ก็อยู่ติดๆ กัน เราก็เลยได้ดูทั้ง 2 งานในทริปเดียวกันอย่างไม่ยากเย็น
พอมาถึงที่ตลาดลาดชะโด เราเข้าพักที่โฮมสเตย์ครัวริมน้ำที่เราได้จองเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว พอรุ่งเช้าเป็นเวลาที่เราจะเดินสำรวจตลาดและหาอาหารเช้ากินกัน เริ่มจากเดินย้อนมาที่ลานจอดรถนี่เลยแล้วเดี๋ยวลุยเข้าไปชมให้ทั่วตลาดกันดีกว่า แล้วจะได้ถือโอกาสพาหลานสาวมาถ่ายรูปเล่นสนุกๆ ด้วย
แผนผังตลาดลาดชะโด ก็แปลกที่แผนผังแผ่นนี้น่าจะติดไว้ที่ลานจอดรถ แต่ที่เราไปเห็นมันอยู่ที่ศาลเจ้าพ่อลาดชะโดหลังเก่าในตลาดนู่น แต่เอามาเป็นภาพแรกๆ เพื่อที่จะอธิบายเส้นทางการเดินของเราให้เข้าใจง่ายขึ้น
ลานจอดรถที่เราใช้เป็นจุดเริ่มต้นอยู่ด้านล่างของแผนผัง จากนั้นเดินตรงเข้าตลาดจะมีสี่แยก ประกอบด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย ประมาณ 87 ร้าน ที่ยังคงดำเนินกินการกันอยู่ตามปกติ จะมีพิเศษอยู่หน่อยคือวันนี้จะมีร้านค้าและคนมาเที่ยวมากเป็นพิเศษเพราะเป็นวันที่จะมีงานแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ตลาดลาดชะโดทั้งหมดสร้างแบบยกพื้นสูงปูด้วยไม้ เป็นห้องแถวไม้เรียงติดกัน บานประตูเฟี้ยม มีมานานกว่า 100 ปีแล้ว แม้ว่าระยะหลังๆ จะซบเซาลงไปบ้าง พอมีการฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แล้วยังมีการจัดงานแห่เทียนพรรษาชนิดที่ว่ามีที่เดียวในโลกขึ้นมา ที่นี่ก็ดูเหมือนจะคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
จากสี่แยกเลี้ยวขวาจะไปวัดลาดชะโด เลี้ยวซ้ายจะไปศาลเจ้าพ่อลาดชะโดหลังเก่า ตรงไปจะไปริมคลองบางคี่ซึ่งตอนนี้เรียกกันว่า คลองลาดชะโด เป็นสถานที่ชมงานแห่เทียนทางน้ำที่สวยมาก ขบวนเรือจะมาเริ่มตรงนี้และแห่จบตรงนี้ด้วยเช่นกัน เลียบคลองลาดชะโดมีทางเดินไปได้อีก ทางขวาไปโรงเรียนวัดลาดชะโด ตรงไปเลี้ยวซ้ายนิดก็คือสะพานสมประสงค์ มุมมหาชนของคนมาชมงานแห่เทียน
ภายในตลาดก็อย่างที่บอกไปคร่าวๆ ว่าจะเป็นห้องแถวไม้ประตูเฟี้ยมยาวๆ เฉพาะส่วนทางเดินเท่านั้นที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก หน้าร้านห้องแถวก็จะมีแผงขายของเล็กๆ ขายทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นของกินของใช้รวมทั้งของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวระบบการค้าขายแบบเรียบง่ายตามประสาชาวบ้าน ของใช้ที่ไม่ฟุ้งเฟ้อมีเฉพาะของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน อาหารคาวหวานหลากหลายเมนูที่นี่มีให้เลือกชิมตลอดทาง
โซนหลังของตลาดใกล้จะถึงริมคลองจะมีของกินมากหน่อย ที่เห็นคนว่างๆ แบบนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้เรือที่จะร่วมงานแห่เทียนเค้าเริ่มทยอยมาถึงที่ท่าน้ำหน้าตลาดกันแล้ว คนส่วนหนึ่งก็ไปจับจองพื้นที่สำหรับชมงานนี้ แต่ส่วนหนึ่งที่เพิ่งมาถึงยังไม่ได้กินข้าวเช้าก็จะเดินๆ อยู่ในตลาด บางคนก็ได้ที่นั่งในร้านริมคลองก็สบายไปเลย กินไปถ่ายรูปไป แต่ละคนจะมีมารยาทกันมาก จะไม่นั่งแช่อยู่ในร้านพอกินอิ่มก็ต้องลุกเดินไปที่อื่นคนอื่นๆ ก็จะได้มีที่นั่งกันบ้าง
พิพิธภัณฑ์ชาวนา เป็นสถานที่ที่เก็บเอาข้าวของเครื่องใช้ในการทำนาของชาวนาไทยสมัยก่อนไว้ให้เราได้ศึกษาหาความรู้ เราก็จะได้เห็นสิ่งที่จะหาชมได้ยากขึ้นทุกวันๆ ถ้าเดินมาเที่ยวที่นี่จะมีไกด์เยาวชนแนะนำประวัติความเป็นมาของตลาดลาดชะโดด้วย ก็เลยขอถ่ายคลิปบางส่วนมาให้ชมกัน
ของหวานลาดชะโด เอาตามธรรมเนียมของทัวร์ออนไทยบุกตลาดไหนเป็นอันได้รูปมาทุกร้าน ตอนนี้จะพาไปดูขนมของกินเล่นของหวานกันส่วนหนึ่งก่อน
เดินมาอีกนิดเดียวจะมีร้านเล็กๆ ขายขนมง่ายๆ ใช้พื้นที่ไม่มากอย่างซาลาเปาแบบนี้ ส่วนที่ต้องการพื้นที่มากก็ไม่มาทำในตลาด จะทำมาจากบ้านแล้ววางขายอย่างเดียว เค้กมะพร้าวที่นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรจะได้ลองชิม
ขนมไทยแท้แต่โบราณ เห็นแบบนี้เราก็เรียกว่าขนมไทย ชื่อมงคลประกอบด้วยคำว่าทอง ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด แต่เชื่อมั้ยละครับว่าขนมเหล่านี้คิดค้นขึ้นมาโดยชาวต่างชาติจะครับ สมัยที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทย เพราะขนมไทยนั้นจะมีแต่แป้งกับน้ำตาล ก็เลยลองเอาไข่มาเป็นส่วนผสมเข้าไป จากนั้นก็มีการคิดค้นขนมแบบใหม่ๆ ที่ทำจากไข่และน้ำตาลขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ขนมร้านนี้แพคสะอาดสวยงามน่ากิน วุ้นก็สีสันน่ากิน
นานาสารพันจริงๆ ของกินของไทย กินเท่าไหร่ก็ไม่หมด เกิดมาตั้งหลายสิบปีแล้วยังกินไม่หมดครบทุกอย่างเลยนะเนี่ย ตรงนี้มีร้านที่น่าสนใจอยู่ร้านนึงเป็นไอติมใส่กระบอกไม้ไผ่ อันนี้เน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติ ว่าแล้วก็หยิบมาคนละกระบอก
ตัวจริงเรื่องปิ้งย่าง ภาพนี้จัดไปชุดใหญ่ หมู กุ้ง ไก่ ปู(อัด) เมนูหมูหวานหมูทุบหมูฝอย รู้จักกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับพกพาซื้อหามาฝาก ส่วนอีกสามรูปนั้นเหมาะแก่การกินเป็นที่สุด บาร์บีคิวคร้บ
ถ้าไม่กินถือว่าผิด ยืมคำสโลแกน วลีฮิตมาจากรายการครัวคุณต๋อย ในรูปนี้มีอยู่ 2 ร้าน ร้านแรกเป็นก๋วยจั๊บหน้าตาน่ากินแต่ไม่มีโอกาสชิมเพราะพอดีว่ามาเจอก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นริมน้ำซะก่อน ทำเลก็ได้เปรียบกว่าร้านก๋วยจั๊บที่อยู่ในตลาด พอดีว่าอยากนั่งริมคลองมองเรือแห่เทียนอะไรทำนองนี้ละครับ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยทีเดียวนะ ผมกินทั้งมื้อเช้าและมื้อเย็นเลย ภาพซ้ายเป็นตอนเช้าเครื่องอยู่ครบ ภาพขวาตอนใกล้จะเย็นแล้ว ลูกชิ้นหมด ดีว่าหมูตุ๋นไม่หมด อภัยให้ได้ ร้านก๋วยเตี๋ยวคุณลีอยู่ใกล้ๆ กับเชิงสะพานสมประสงค์จุดชมวิวมหาชนเลยครับ ลูกค้าต่อคิวแน่นโต๊ะไม่เคยว่าง
ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ นี่เป็นภาพที่ถ่ายจากจุดใกล้ๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวคุณลี คิดดูสิว่าทำเลดีขนาดไหน ไม่ต้องไปเดินเบียดกับใคร กินก๋วยเตี๋ยวไปดูเรือไปได้ทั้งขาไปและขากลับด้วย ส่วนสะพานไม้ที่ทอดข้ามคลองลาดชะโดนั่นแหละคือสะพานสมประสงค์ครับ ปีนี้ซ่อมเสริมไม้ใหม่เพิ่มความแข็งแรงรองรับนักท่องเที่ยวแน่นสะพานได้อย่างสบายใจ ดูรูปงานแห่เทียนทางน้ำคลิกลิงค์ได้เลยครับ
ตลาดลาดชะโด 100 ปี ภาพเก่าเล่าเรื่อง ตอนนี้ผมพาขึ้นมายืนชมวิวบนสะพานสมประสงค์ ในตอนเช้าๆ ของวันเข้าพรรษา เราจะเห็นเรือที่ตกแต่งด้วยดอกไม้ เทียนพรรษา พระพุทธรูปก็อัญเชิญมา ทยอยมาที่หน้าตลาดเพื่อรวมตัวกันก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปพร้อมๆ กันที่จุดเริ่มต้นการแห่เทียนทางน้ำซึ่งอยู่ห่างไปทางเหนือน้ำ 2 กิโลเมตร ถ้าเรามารออยู่แถวๆ นี้จะได้ดูเรือแห่เทียนทั้งไปแล้วก็กลับ เป็น 2 เที่ยว มีโอกาสถ่ายรูปสวยๆ ได้เยอะเลย แต่ภาพนี้ที่ทำเป็นขาวดำก็อยากจะย้อนเวลาไปในอดีต สมัยก่อนใช้เรือเดินทางเป็นหลักสภาพลำคลองตอนนั้นก็น่าจะได้บรรยากาศประมาณแบบในรูปนี้
กลางทุ่งดอกไม้ สุดสะพานสมประสงค์ เป็นคันดินมีทางเดินลึกเข้าไปแต่ไม่รู้ว่าไปไหน รู้แต่ว่าตรงนี้ปลูกดอกไม้เอาไว้เยอะเหมาะที่จะเก็บภาพสวยๆ เหมือนอยู่กลางทุ่งดอกไม้
อีกซอยหนึ่งของตลาดลาดชะโด ในตลาดอันกว้างใหญ่นี้ที่เราพาเดินเข้าตลาดมาจนไปถึงสะพานสมประสงค์นั้นมันเป็นเพียงซอยหลัก จากสะพานเราเดินย้อนกลับขึ้นมาทางลานจอดรถแต่ใช้คนละซอยกับตอนแรก ซอยนี้บรรยากาศจะดูเหงาๆ ร้านค้าในซอยจะปิดกันเกินครึ่ง เราจะหามุมถ่ายรูปกับประตูเฟี้ยมยาวๆ ได้ที่นี่ ส่วนที่เหลือเปิดอยู่ก็มีเครื่องมือทางการเกษตร ของโบราณ และห้องหนึ่งจัดเป็นสถานสำแดงภาพลาดชะโด เป็นแกลเลอรี่มีภาพเก่าๆ ของชาวลาดชะโดรวมทั้งภาพงานแห่เทียนทางน้ำในปีก่อนๆ ให้ชมเยอะทีเดียว สุดซอยมาบรรจบกับเส้นทางหลักเข้าตลาดถ้าเลี้ยวขวาสักนิดจะเจอกับศาลเจ้าลาดชะโดหลังเก่าซึ่งตอนนี้ย้ายไปสร้างใหม่เป็นคอนกรีตอย่างดีแล้ว ของเก่าก็ยังหลงเหลือเก็บเอาไว้ให้ดูกัน
เลียบตลองลาดชะโด ปิดท้ายด้วยสะพานทางเดินที่สร้างอย่างมั่นคงแข็งแรงเชื่อมต่อตลาดลาดชะโดกับโรงเรียนวัดลาดชะโด มีทางแยกเดินไปวัดลาดชะโดได้ด้วย และสะพานนี้ก็จะกลายเป็นสถานที่สำหรับนั่งดูงานแห่เทียนทางน้ำ การละเล่นพื้นบ้าน และการแสดงแสงสีเสียงปิดท้ายงาน
ว่างๆ แวะไปเดินชิลๆ กัน หรือจะให้เหมาะก็รอเข้าพรรษาปีหน้ารับรองว่าจะหลงรักลาดชะโด...
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ