การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทริปมหามงคลต้อนรับศักราชใหม่ 2560 “ไหว้พระ ๙ วัด พระอารามหลวง รอบเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ปี ๒๕๖๐” การท่องเที่ยววิถีไทยแท้แต่ดั้งเดิม เสริมสิริมงคล ต้อนรับปีใหม่ 2560 ปีระกา ไก่ทอง วันเสาร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๐ เริ่มเวลา 07.00 น.
การไหว้พระ 9 วัดนับเป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมายาวนานของชาวไทย การเลือกวัดทั้ง 9 เป็นสถานที่สำหรับสะสมบุญกุศล ล้วนเลือกจากชื่อวัดที่มีความหมายอันเป็นมงคลต่อตัวเองเป็นเช่นนี้ทุกจังหวัด ส่วนที่กรุงเทพมหานคร จะเลือกพระอารามหลวงเป็นวัดมหามงคล 9 แห่ง โดยมีคติว่า
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) คติ “เพื่อให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข” เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว 11 แผ่น
วัดนี้ถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 มีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ก่ออิฐถือปูนปิดทองทั้งองค์ ยาว 46 เมตร สูง 15 เมตร ฝ่าพระบาทแต่ละข้างมีลวดลายประดับมุกเป็นภาพมงคล 108 ประการ อันเป็นลักษณะอย่างหนึ่งของมหาบุรุษตามคติของอินเดีย นับเป็นภาพมงคล 108 ประดับมุกที่สวยงามครบถ้วนที่สุดในประเทศไทย
วัดสุทัศนเทพวราราม คติ “เพื่อให้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล” เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสร้างพระวิหารให้มีขนาดใหญ่เท่ากับพระวิหารวัดพนัญเชิง เป็นศรีสง่าแก่พระนคร ได้พระราชทานนามไว้ว่า วัดมหาสุทธาวาส จากนั้นทรงอัญเชิญพระพุทธรูปโลหะปางมารวิชัย ซึ่งหล่อขึ้นตั้งแต่สมัยกษัตริย์ราชวงศ์พระร่วง ที่เรียกกันว่า พระโต หรือ พระใหญ่ จากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุจังหวัดสุโขทัย มาประดิษฐานไว้ มีหลักฐานน่าเชื่อได้ว่าบานประตูพระวิหารเป็นประตูไม้แกะสลักขนาดใหญ่เป็นงานฝีพระหัตถ์ในรัชกาลที่ ๒ ที่ทรงแกะสลักด้วยพระองค์เอง ต่อมามีคนมากราบไหว้พระทั้งๆ ที่ประตูปิดอยู่เลยเอาธูปปักไว้ที่บานประตูเกิดไฟไหม้เสียหายต้องถอดบานประตูคู่หน้าไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ แล้วย้ายบานประตูคู่หลังมาไว้ที่ด้านหน้าแทน
วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) คติ “เพื่อให้เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล” เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก
เดิมเป็นวัดเก่าชื่อว่า "วัดสะแก" ได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่ทั้งพระอารามในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระราชทานนามว่า "วัดสระเกศ" ส่วนเจดีย์ภูเขาทองนั้นเริ่มสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยทรงเลียนแบบมาจากภูเขาทองในสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้วเสร็จในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้รับพระราชทานนามว่า "สุวรรณบรรพต" มีความสูง 77 เมตร บนยอดสุวรรณบรรพตเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นพบที่เมืองกบิลพัสดุ์ และพิสูจน์ได้ว่าเป็นของพระสมณโคดม
วัดบวรนิเวศวิหาร คติ “เพื่อให้พบแต่สิ่งดีงาม” เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก
สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยมีกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพเป็นแม่กองก่อสร้าง เคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4, 6, 7 และ 9 เมื่อครั้งทรงผนวช ณ วัดแห่งนี้ สิ่งที่น่าชมภายในวัด ได้แก่ พระพุทธชินสีห์ พระรูปสมเด็จพระสมณเจ้า 2 องค์ คือ สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ และสมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรส ความพิเศษของวัดบวรฯ อีกอย่างหนึ่งคือ มีพระประธานประดิษฐานอยู่ 2 องค์ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ด้านหลังคือพระสัตตพันพาน เป็นพระพุทธรูปที่อัญเชิญมาจากวัดสัตตพันพานวัดโบราณที่เคยตั้งอยู่หลังวัดใหญ่สุวรรณาราม จังหวัดเพชรบุรี ต่อมาวัดสัตตพันพานได้ถูกทิ้งร้างจนหายไปไม่เหลือร่องรอยของวัด
วัดชนะสงคราม คติ “เพื่อให้มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง” เครื่องสักการะสำหรับพระประธานในโบสถ์ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก
เดิมอยู่กลางทุ่งนาจึงเรียกว่า วัดกลางนา สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสถาปนาขึ้นใหม่ และรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ทหารรามัญในกองทัพของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ชาวบ้านนิยมเรียกว่า"วัดตองปุ" ตามแบบวัดตองปุในสมัยอยุธยา ต่อมาเมื่อมีชัยชนะต่อกองทหารข้าศึกจึงพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดชนะสงคราม" เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย พระนามว่า "พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ มเหทธิศักดิ์ปูชนียะชยันตะโคดมบรมศาสดา อนาวรญาณ"
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) คติ “เพื่อให้จิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย” เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกไม้
เป็นที่ประดิษฐานพระมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) และใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนาที่สำคัญ วัดพระแก้วสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2327 และได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1-9 ตลอดทุกรัชกาล
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร คติ “เพื่อให้มีชื่อเสียงโด่งดัง ผู้คนนิยมชมชอบ” เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว 5
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือวัดระฆัง เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เดิมชื่อ วัดบางว้าใหญ่ สร้างตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระประธานยิ้มรับฟ้า เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สมเด็จพระราชาคณะในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อไปสักการะสมเด็จพุฒาจารย์ ให้ขอพรโดยการสวดคาถาชินบัญชร แล้วปักธูปที่กระถาง และปิดทองที่รูปปั้น เสร็จแล้วพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง) คติ “เพื่อให้ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน” เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนคู่
วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเรียกว่า "วัดมะกอก" ตามชื่อตำบลบางมะกอกซึ่งเป็นตำบลที่ตั้งวัด ภายหลังเปลี่ยนเป็น "วัดมะกอกนอก" เพราะมีวัดสร้างขึ้นใหม่ในตำบลเดียวกันแต่อยู่ลึกเข้าไปในคลองบางกอกใหญ่ชื่อ "วัดมะกอกใน" ต่อมาใน พ.ศ. 2310 เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรีจึงเสด็จกรีฑาทัพล่องลงมาทางชลมารคถึงหน้าวัดมะกอกนอกนี้เมื่อเวลารุ่งอรุณพอดี จึงทรงเปลี่ยนชื่อวัดมะกอกนอกเป็น "วัดแจ้ง" เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งนิมิตที่ได้เสด็จมาถึงวัดนี้เมื่อเวลาอรุณรุ่ง
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร คติ “เพื่อให้เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี” เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่ ดอกไม้พวงมาลัย
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท สร้างขึ้นเมื่อสมัยราชกาลที่ 3 เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต หรือเรียกตามแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง ซำปอกง เป็นนามของแม่ทัพจีนคนหนึ่ง ชื่อเดิมชื่อหม่าเหอ เป็นเชลยศึกและถูกส่งตัวเข้ารับใช้กองทัพตั้งแต่อายุ 11 ต่อมาทำความดีความชอบมากมายจนกลายเป็นคนสนิทของเอี้ยนหวังจูตี้ ร่วมรบจนเอี้ยนหวังจูตี้ ได้ครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดิ์หมิงเฉิงจู่ ได้รับพระราชทานแซ่ "เจิ้ง" จึงได้นามเจิ้งเหอ ที่รู้จักกันในอีกนามหนึ่งคือ ซำปอกง ในช่วงการรับราชการ เจิ้งเหอ เป็นผู้ที่ออกเดินทางครั้งยิ่งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์การเดินเรือของโลก ในตำนานยังเล่าอีกว่า เจิ้งเหอ หรือ ซำปอกง คือผู้คนพบทวีปอเมริกาก่อนใคร แต่หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรไม่มีหลงเหลืออยู่เลย เรื่องราวของ ซำปอกง จึงกลายเป็นเพียงตำนานเท่านั้น ชาวจีนนับถือซำปอกงว่าเป็นเทพที่จะนำความเจริญรุ่งเรือง ความปลอดภัยในด้านการเดินทางไกล การค้าพาณิชย์ มีโชคลาภ ประสบแต่โชคดีในการเดินทาง
จบทริปมหามงคล ไหว้พระ ๙ พระอารามหลวง รอบเกาะกรุงรัตนโกสินทร์ โดยสวัสดิภาพและอิ่มบุญโดยถ้วนหน้า งานนี้ไม่ธรรมดา เพราะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคกลาง ได้เชิญ ผู้บรรยายกิติมศักดิ์คือ พี่หนึง ณพัดยศ เอมะสิทธิ์ แฟนพันธุ์แท้กรุงเทพมหานคร มาให้ความรู้ตลอดทั้งทริป สนใจทริปดีๆ แบบนี้ติดต่อสอบถามที่ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ของ ททท. หรือถ้าอยากติดต่อพี่หนึ่ง แฟนพันธุ์แท้กรุงเทพฯ โทร. 084 0858076, 083 4200614. Email npatyos@gmail.com เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/napatyos.emasit
สุดท้ายต้องกล่าวคำว่าสวัสดีปีใหม่ ปีไก่ทอง ขอความสุขสวัสดิมงคลทั้งหลายจากการไหว้พระ ๙ วัดครั้งนี้ ดลบันดาลให้ผู้อ่านที่ติดตามทัวร์ออนไทยดอทคอม กระทำการมงคลสิ่งใดสมหวังดังปรารถนาทุกประการ เทอญ...
จำนวนผู้ชม 17724 คะแนน 10 ให้กำลังใจคนเขียนทริปนี้ คลิก...>>