ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานระยอง โทร. 0-3865-5420
http://www.tourismthailand.org/rayong
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ตึกแดง อยู่ห่างจากหาดแหลมสิงห์ไม่ไกลเท่าไหร่ ขับรถไม่ถึง 5 นาที เมื่อมาถึงจะเห็นอาคารหลังนี้เป็นอาคารชั้นเดียวอยู่หัวมุมถนน มองแล้วรู้เลยว่าเป็นตึกแดง ด้วยสีแดงทั้งหลังอันเป็นเอกลักษณ์ประกอบกับความเก่าแก่ตามอายุ กว้าง 7 เมตร ยาว 32 เมตร ภายในมี 5 ห้องประตูเปิดถึงกันได้หมด ฝรั่งเศสสร้างขึ้นเมื่อปี 2436 โดยรื้ออิฐจากป้อมพิฆาตข้าศึกมาสร้าง เพื่อใช้เป็นกองรักษาการณ์ และที่พักนายทหารที่รักษาปากน้ำแหลมสิงห์ ในครั้งนั้นฝรั่งเศสซึ่งแผ่อิทธิพลเข้าครอบครองญวนปละเชมรได้หาเหตุรุกรานไทยโดยอ้างว่าดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงคือราชอาณาจักรลาวเกือบทั้งหมดรวมทั้งแคว้นสิบสิงจุไท เคยเป็นของญวนและเขมรมาก่อนจึงถือโอกาสเข้ายึดครอง ทำให้สู่รบกับไทย ครั้งนั้นไทยต้องเสียค่าปรับราว 4 ล้านบาทโดยก่อนจะจ่ายค่าเสียหายฝรั่งเศสยึดจันทบุรีไว้เป็นประกัน ราว 11 ปี (พ.ศ.2436-2446) จากเหตุการณ์ครั้ง ร.ศ. 112 นี้ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนครั้งสำคัญ ราชอาณาจักรลาวเกือบทั้งหมด รวมทั้งสิบสองจุไท ต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสรวมพื้นที่ประมาณ 143,800 ตารางกิโลเมตร พลเมือง 600,000 คน
ตึกแดง ด้านหน้าตรงของอาคาร ทำให้เห็นว่าตึกแดงเป็นอาคารหลังไม่ใหญ่มากแต่มีทางเข้าออกได้หลายทาง ปัจจุบันจะปิดไว้หลายบาน เปิดให้เข้าออกได้ 2 ด้านตรงประตูกลางอาคาร
ปืนใหญ่ ภายในตึกแดงจัดแสดงนิทรรศการประวัติเมืองจันทบุรี มีข้อมูลจำนวนมากเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ ตรงกลางมีปืนใหญ่โบราณตั้งตระหง่าน
นิทรรศการประวัติศาสตร์จันทบุรี มีข้อมูลและเรื่องราวยาวมากๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของตึกแดงและจังหวัดจันทบุรีอย่างละเอียด ดังนี้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้เสด็จประพาสเมืองจันทบุรีหลายครั้ง คือ พ.ศ. 2419, 2424 , 2425 , 2427 , 2430 และ 2432 ซึ่งมีครั้งสำคัญ 2 ครั้ง คือ พ.ศ. 2419 พระองค์เสด็จโดยเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช และทรงพระราชนิพนธ์ เรื่อง เสด็จประพาสจันทบุรี ส่วนอีกครั้งหนึ่งคือ พ.ศ. 2427 เสด็จโดยเรือพระที่นั่งเวสาตรี การเสด็จครั้งนี้ทรงมีพระราชดำริจะสร้างโรงทหารที่ปากน้ำประแสร์ และเมืองจันทบุรี
จากการที่พระองค์ได้เสด็จประพาสหลายครั้งและทอดพระเนตรสถานที่สำคัญหลายแห่งในจันทบุรี ซึ่งมีสถานที่สำคัญในอำเภอแหลมสิงห์ด้วย ดังปรากฎในพระราชนิพนธ์ เสด็จประพาสจันทบุรี คือ
ป้อมไพรีพินาศและป้อมพิฆาตปัจจามิตร (ชื่อเรียกขานในปัจจุบัน)
พระราชนิพนธ์ว่า "...ป้อมทั้ง 2 ป้อม คือแหลมสิงห์ที่เราขึ้นเดี๋ยวนี้ กับป้อมที่หัวโขดเป็นแหลมเยื้องขึ้นไปกว่าป้อมนี้หน่อยหนึ่งนั้น ทำแต่แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว..." และ "...จึงให้สร้างป้อมและเมืองขึ้นไว้ให้มั่นคงเป็นที่รับข้าศึก สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่ (สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงษ์ หรือดิศ บุนนาค) ตั้งทำเมือง ให้สมเด็จเจ้าพระยาเดี๋ยวนี้ทำป้อมนี้ แต่ท่านให้พระยาอภัยพิพิธ (กระต่าย) บิดาพระยาจันทบุรีเดี๋ยวนี้เป็นผู้ทำ ป้อมหัวแหลมนั้นเจ้าคุณทิพากรวงษ์แต่ยังเป็นจมื่นราชามาตย์เป็นผู้ทำ ป้อมนั้นทำก็คล้ายๆ กับที่ปากน้ำเจ้าพระยา ไม่ผิดอะไรกันนัก แต่ยังไม่มีชื่อ มาเมื่อทูลกระหม่อม (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔) ยังทรงผนวชอยู่นั้น เสด็จออกมาทอดพระเนตรเห็นป้อมถามชื่อไม่มี จึงประทานชื่อป้อมเขาแหลมสิงห์ นั้นว่าป้อมไพรีพินาศ ป้อมหัวแหลมนั้นว่า ป้อมพิฆาฎข้าศึก..."
อย่างไรก็ตามในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๓ ของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์กล่าวถึงป้อมทั้งสองที่ให้ชื่อป้อมไม่ต้องตรงกับในพระราชนิพนธ์เสด็จประพาสจันทบุรี ดังนี้ "...แล้วให้จมื่นราชามาตย์ ชื่อข้า ไปทำป้อมที่แหลมด่านปากน้ำป้อม ๑ ชื่อ ป้อมภัยพินาศ ที่เขาแหลมสิงห์ป้อมเก่าทำเสียใหม่ป้อม ๑ ชื่อ ป้อมพิฆาฎปัจจามิตร..."
ปัจจุบันป้อมบนเขานั้นไม่หลงเหลือหลักฐานให้เห็นแล้ว ยังคงเหลือเพียงสิ่งก่อสร้างที่สร้างอยู่ใกล้เคียงกันและสันนิษฐานว่าคือคลังกระสุน ส่วนป้อมบริเวณหัวแหลมนั้นภายหลังฝรั่งเศสให้รื้อและสร้างอาคารตึกแดงแทนในช่วงเวลาที่ยึดเมืองจันทบุรี ปี พ.ศ. 2436 อันเป็นช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒
ประตูภายในตึกแดง ในนี้จะมีการกันแบ่งห้องออกเป็นสามส่วนใหญ่ๆ
ประตูสุดอาคาร เมื่อเดินไปสุดอาคารแต่ละด้านจะมีประตูแบบนี้ซึ่งปิดไม่ให้ใช้งานไปนานแล้ว ลักษณะของหน้าต่างก็เป็นแบบเดียวกัน
ห้องแต่ละห้องในตึกแดง เมื่อเปิดประตูออกทุกบานจะสามารถมองทะลุถึงกันได้ตลอด มีปืนใหญ่อยู่ตรงกลางอาคาร
ระเบียงตึกแดง เป็นอาคารชั้นเดียวที่มีระเบียงทั้ง 2 ด้านตามแนวยาวของอาคาร
สุดเส้นทาง เลยจากตึกแดงมาอีกไม่ไกลก็มีท่าเรือของชาวประมงเป็นที่ส่วนบุคคล
จุดบริการนักท่องเที่ยวตึกแดง สถานที่สำคัญใกล้ตึกแดงก็คือจุดบริการนักท่องเที่ยว รอบๆ ตึกแดงจะหาที่จอดรถได้ลำบากหน่อยบางทีอาจจะต้องขับเลยมาจอดตรงนี้แล้วเดินย้อนไปหน่อย
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ