สระมรกต

สระมรกต อยู่ในเขตสวนป่าตำบลเขาทอง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 28 กิโลเมตร ตามเส้นทางกระบี่-ในสระ เป็นส่วนหนึ่งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ซึ่งสระมรกต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ในบรรดาสระน้อยใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติถึง 8 สระ ได้แก่ สระน้ำลอด สระเชิงเขา สระจระเข้ขาว สระน้ำทิพย์ สระน้ำคราม สระมรกต สระหุ้นเก้ง และสระน้อย สระมรกตเป็นน้ำพุร้อนลักษณะเป็นสระน้ำร้อน น้ำใสเป็นสีเขียวมรกต มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 20-25 เมตร ความลึก 1-2 เมตร มีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส ทางเข้าจะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติทุ่งเตียว-สระมรกตประมาณ 1400 เมตร รอบๆ บริเวณเป็นป่าร่มรื่นเขียวครึ้มมีพรรณไม้ที่น่าสนใจ รวมทั้งนกที่หาดูได้ยากเช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคำสีน้ำตาล และนกเงือกดำ เป็นต้น

ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ชาวไทย 20 บาท ต่างชาติ 90 บาท เด็กชาวไทย 10 บาท ต่างชาติ 50 บาท
การเดินทางจากในตัวเมืองใช้เส้นทางเดียวกับทางไปน้ำตกร้อนคลองท่อม ก่อนถึงทางเข้าน้ำตกร้อนจะมีทางแยกเลี้ยวขวาไปสระมรกต

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. สำนักงานจังหวัดกระบี่ โทร. 0 7562 2163
http://www.tourismthailand.org/krabi

แก้ไขล่าสุด 2016-04-27 23:04:48 ผู้ชม 27849

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

เริ่มต้นการเดินเท้าเข้าสระมรกต เมื่อเดินทางมาถึงทางเข้าสระมรกตไม่พูดพร่ำทำเพลงติดต่อเจ้าหน้าที่ชำระค่าเข้าชมกันเป็นที่เรียบร้อยต่อจากนั้นก็เหลือเพียงแค่การเดิน การเดินเข้าไปยังสระมรกตมีระยะทาง 1,400 เมตร ผ่านป่าดิบชื้นซึ่งเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดและสวยงามที่สุดตามธรรมชาติ ป่าดิบชื้นจะพบในบริเวณที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางขึ้นไปเรื่อยๆ จนประมาณ 1,000 เมตร ป่าชนิดนี้ไม่เคยแห้งแล้งมีความเขียวชอุ่มตลอดปี ต้นไม้ขึ้นเบียดเสียดกันเป็นชั้นๆ ชั้นบนสุดมีต้นไม้สูงประมาณ 40 เมตร ชั้นที่สองต้นไม้ขนาดกลางสูงประมาณ 15-30 เมตร ชั้นที่สามต้นไม้เล็ก สูงประมาณ 5-15 เมตร และชั้นสุดท้ายเป็นต้นไม้เล็กที่ไม่ชอบแดดเช่นขิง ข่า บุก บอน เฟิร์น ระหว่างทางที่เดินจะได้เห็นสายธารน้ำใสๆ เล็กๆ เป็นช่วงๆ ตลอดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ธารน้ำที่ไหลอยู่ในป่านี้หลายแห่งมองเห็นเป็นสีเขียวมรกต

ทางเดินเข้าป่าโปร่ง ป่าที่นี่เป็นป่าที่มีช่วงต้นไม้สูงใหญ่จนครึ้มเขียวไปหมดกับช่วงที่เป็นป่าโปร่งอุดมไปด้วยเฟิร์นและต้นไม้ขนาดเล็กเป็นหลัก ทางเดินผ่านป่าแบบนี้จะมีสะพานไม้สร้างยกสูงจากพื้นให้เดินกันสบายๆ ครับ เฟิร์นอย่างหนึ่งที่พบในป่าแถบนี้คอเฟิร์นตีนตุ๊กแก ซีแลกจิเนลลา หรือภาษาถิ่นว่า ตีนตุ๊กแก พ่อค้าตีเมีย หญ้าร้องไห้ เฟือยนก มีลักษณะคล้าย ไลโคโพเดียม มีใบเรียง 4 แถว และมีใบลิกูลปลายกิ่งมีสโตรบิลัส มีอัปสปอร์ 2 ชนิด เจริญเติบโตอยู่ในธรรมชาติมีสภาพหลากหลายแต่ส่วนมากอยู่บนดินมากกว่าเกาะต้นไม้อาศัย บริเวณที่พบได้บ่อยคือที่ชุ่มชื้น มีร่มเงา ใกล้ริมน้ำ มีคนเคยพบกนกนารีจากฟอสซิลทำให้ทราบว่าพืชสกุลนี้ปรากฏขึ้นบนโลกตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์

เฟิร์นเป็นดัชนีความสมบูรณ์ของป่าธรรมชาตินอกจากการเป็นผู้ผลิตที่สำคัญในห่วงโซ่อาหารแล้ว ยังผลิตก๊าซออกซิเจนร่วมกับพืชสีเขียวชนิดอื่นๆ ป่าดิบเขาซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารจะพบเฟิร์นหลายชนิดขึ้นอยู่หนาแน่น ป่าเสื่อมโทรมจะไม่พบเฟิร์นขึ้นเลย

พืชที่พบเห็นระหว่างทางไปสระมรกต ภาพนี้เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของพืชอีกหลายๆ ชนิดที่เราได้พบเห็นระหว่างการเดินไปสระมรกต ระยะทาง 1,400 เมตร ทำให้เราได้มีเวลาศึกษาธรรมชาติได้นานเป็นพิเศษ เดินไปพักไปเก็บภาพไปเพลินดีครับ

ลำธารในป่าพรุ สายน้ำใสๆ ที่ได้เห็นข้างทางเดินอยู่ตลอดเหล่านี้เป็นเครื่องแสดงให้เราเห็นว่าน้ำในสระมรกตจะมีความใสได้ขนาดไหน ทุกๆ ช่วงที่ได้เห็นสายน้ำเรายังไม่เห็นว่าจะมีความขุ่นเลยแม้แต่น้อย

สภาพทางเดินทั่วไป สักพักเราก็มาถึงตรงนี้ จากจุดนี้ไปยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไปจุดอื่นๆ ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม อย่างเช่นน้ำตกโตนเตียว ช่องขี้เหล็ก ฯลฯ แต่ระยะทาง 2.7 กิโลเมตรทำให้เราตัดสินใจไม่ยากที่จะไปแค่สระมรกตเท่านั้นก็พอแล้ว

ป้ายบอกทาง สระมรกตอีก 200 เมตร เท่านั้นใกล้จะถึงจุดหมายเต็มทีแล้ว จะบอกว่าการเดินครั้งนี้ไม่เหนื่อยคงเป็นเรื่องโกหกไปหน่อย แต่ระยะทางประมาณกิโลเมตรกว่าๆ ถ้าไม่ชันมากๆ ก็ถือว่าไม่ไกลนะครับ นักท่องเที่ยวที่มาที่สระมรกตก็จะต้องเดินแบบนี้กันทุกคนเพื่อที่จะได้แช่ในสระน้ำใสๆ สีเขียวๆ สวยๆ มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเรา

สถานที่นั่งพักใกล้ๆ สระมรกต หลังจากที่เดินกันมานาน จุดนี้เป็นจุดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการนั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนที่จะลงไปว่ายในสระ (หมายถึงคนอื่นๆ แต่สำหรับเราคงไม่ได้ลงสระหรอกครับ)

สระมรกต นี่ละครับสระมรกต สระน้ำที่เป็นสีเขียวใสสะอาดสวยงาม มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาดสายทั้งคนไทยและต่างชาติ สระมรกตเป็นสระขนาดใหญ่พอสมควรที่จะลงเล่นน้ำได้เป็นสิบๆ คน

แช่น้ำในสระมรกต

สายน้ำต้นกำเนิดสระมรกต ที่ด้านหนึ่งของสระมรกตจะเห็นธารน้ำไหลลงมาสู่สระมรกต สายน้ำที่เห็นอยู่นั้นไหลมาจากสระน้ำผุดผ่านลานชมพู่น้ำ และสระฤๅษี ที่เราจะเดินไปเก็บภาพมาให้ได้ชมกันต่อไป

ออกเดินทางสู่ต้นกำเนิดสระมรกต เส้นทางเดินจากตรงนี้ไปก็ไม่แตกต่างจากที่เดินเข้ามาที่สระมรกตมากนักมีสะพานไม้เดินผ่านบริเวณธารน้ำที่ไหลนองบนพื้นเป็นทางยาวไปจนถึงสระมรกต

สายน้ำนี้มาจากไหน ลำธารสายเล็กๆ ที่เห็นอยู่นี้ยาวมากครับยาวไปจนถึงสระมรกตและไหลลงสระมรกตไปอย่างที่ให้ดูในภาพที่ผ่านมา เป็นธารสายเล็กๆ เหมือนมีคนมาขุดไว้มากกว่าที่จะเกิดตามธรรมชาติ แต่ความจริงนั้นสายน้ำลำธารในป่านี้ทั้งหมดและสระต่างๆ ล้วนเกิดจากธรรมชาติทั้งสิ้น

สายน้ำลานชมพู่น้ำ บริวเวณกว้างๆ ตรงนี้ที่น้ำไหลผ่านไปมีทั้งเจิ่งนองเป็นบริเวณกว้าง และรวมกันเป็นสายเล็กๆ ไปถึงสระมรกตเรียกรวมๆ บริเวณนี้ว่าลานชมพู่น้ำ ต้นสายของธารเล็กๆ สายนี้ก็คือสระฤๅษีนั่นเอง

สระฤๅษี เป็นสระขนาดเล็กน้ำไม่ลึกมากมีสายน้ำจากสระฤๅษีไหลผ่านลานหินกว้างเป็นทางยาวไปจนถึงสระมรกต มีป้ายเขียนบอกไว้ชัดเจนว่าห้ามลงเล่นน้ำในสระนี้

อาศรมฤๅษี อยู่ใกล้ๆ กับสระฤๅษีมีรูปปั้นปู่ฤๅษีตาไฟ กับฤๅษีอีกตนหนึ่ง มีประชาชนเอาดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้บูชาอยู่เสมอ

เส้นทางเดินไปสระน้ำผุด หลังจากที่เก็บภาพสระฤๅษีกับสายน้ำที่ไหลระหว่างสระฤๅษีกับสระมรกตกันแล้วต่อไปก็เดินไปยังต้นสายของน้ำนี้นั่นคือสระน้ำผุด สระน้ำผุดเป็นสระที่เป็นต้นกำเนิดของสระมรกต เพราะน้ำในสระมรกตมาจากสระน้ำผุดนี้เอง ระยะทางจากสระมรกตไปยังสระน้ำผุดประมาณ 300 เมตร ผ่านป่าอันอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

สระน้ำผุด ในที่สุดเราก็เดินมาถึงสระน้ำผุดแห่งนี้ น้ำในสระน้ำผุดใสและสีสันสวยงามอย่างที่เห็นนี้เลย เป็นที่ประหลาดใจมากว่าจะมีสถานที่แบบนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เท่าที่ได้เห็นสระน้ำผุดมีขนาดไม่กว้างใหญ่มากนักและดูเหมือนไม่ลึกเอาซะเลย

สระน้ำผุด ต้นกำเนิดของสระมรกต เป็นบ่อน้ำที่มีความใสสะอาด ที่เป็นเช่นนี้เพราะน้ำซับเหล่านี้มาจากภูเขาหินปูนจึงทำให้มีสารละลายของแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCo3) ที่ทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอนได้ง่าย และที่เห็นน้ำผุดตลอดเวลาคล้ายน้ำเดือดอันเนื่องจากก้นบ่อมีรอยแยกของเปลือกโลก ซึ่งภายใต้เลือกโลกมีของเหลวที่มีความร้อนเรียกว่าแม็กม่า (magma) ความร้อนจากของเหลวนี้ระเหยมาทางรอยรั่วของเปลือกโลกทำให้เราเห็นน้ำผุดตลอดเวลา
สระน้ำผุด มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยโบราณชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นสระที่นางกินรีลงเล่นน้ำ สระน้ำผุดเป็นสระน้ำขนาดเล็กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15-20 เมตร เกิดจากน้ำใต้ดินที่พุ่งขึ้นมาบนผิวโลก ผ่านรอยแตกของพื้นดิน (ตาน้ำ) ขึ้นมารวมกันเป็นสระน้ำขนาดเล็กกลางป่า และเป็นธารน้ำลงสู่สระมรกต น้ำในสระที่เห็นมีสีน้ำเงินครามเพราะเป็นน้ำที่มีแร่ธาตุต่างๆ หลายชนิดเช่น แคลเซียมคาบอเนต, แมกนีเซียม, แมงกานีส และกำมะถัน เป็นต้น ทำให้เรามองเห็นน้ำเป็นสีดังกล่าว

จบการนำเที่ยวสระมรกต เอาละครับพาไปชมสระมรกตจนถึงต้นกำเนิดของสระมหัศจรรย์แห่งนี้ที่อยู่ถึงกลางป่ากันแล้ว หากวันไหนมาเที่ยวกระบี่อย่าลืมแวะมาที่นี่ เอกลักษณ์แห่งเดียวที่ยากจะหาที่ใดเสมอเหมือนของกระบี่ จบจากสระมรกตแล้วไปต่อกันที่ น้ำตกร้อนคลองท่อมกันต่อครับ