ข้อมูลเพิ่มเติม:Tel: +66 75 637 130, 098-017-9680
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ถึงแล้ววารีรัก การเดินทางของเราเช้าวันนี้ เราเช็คเอาท์จากโรงแรมที่อ่าวนาง มุ่งหน้ามาที่คลองท่อม เส้นทางการเดินทางเป็นถนนลาดยางอย่างดี จะมามีเรื่องหลุมบ่อเอานิดหน่อยตอนแยกเข้ามาระยะทางไม่ไกลมาก แต่เป็นรถตู้เลยค่อยๆ เข้ามากันช้าๆ ใช้เวลาค่อนข้างนานสำหรับการเดินทางผ่านช่วงลูกรัง จนอดบ่นไม่ได้ว่าทำไมทางเข้าถึงได้แย่ขนาดนี้ อาจจะเพราะถนนเป็นแบบนี้ก็เลยทำให้คนมาเที่ยวน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ผ่านไปพักใหญ่ๆ เราก็เห็นป้ายไม้ด้านขวามือ เขียนว่า กินรีฮอทสปริง (Day Spa) ไปอีก 200 เมตร เฮ้อถึงซะทีทำไมเค้าถึงไม่มีถนนดีๆ เข้ามานะ (คิดในใจ) แต่พอมาถึงได้คุยกับคุณวนิดา ลิ่มเจริญลาภ ผู้จัดการฝ่ายขายถึงได้ข้อมูลว่าถนนลูกรังสายนี้ไม่มีงบประมาณมาพัฒนาจนในบางปีการเดินทางลำบากมาก วารีรักก็ได้จัดจ้างให้รถชนดินมาเทอัดให้แน่นเพื่อให้ลูกค้าเดินทางได้สะดวกขึ้น แต่ก็จะดีได้เพียงชั่วคราวพอฝนตกก็มีปัญหาอีก งั้นเรื่องถนนคงต้องเอาไว้ก่อน ไปดูบริการของเค้ากันดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง
พนักงานเข้ามาให้การต้อนรับเราอย่างดี เริ่มจากเวลคัมดริ๊งค์ จากนั้นก็แนะนำบริการ หลักๆ จะมีอยู่ 2 อย่าง คือการแช่น้ำแร่ แล้วก็การนวดแผนไทย ซึ่งมีเป็นคอร์สให้เลือก คือคอร์สครึ่งวัน กับคอร์สเต็มวัน เดี๋ยวจะอธิบายรายละเอียดไปเรื่อยๆ เลื่อนดูภาพต่อไปไปพลางๆ เลยแล้วกัน
ภายในพื้นที่ วารีรักฮอทสปริงสปา ปกตลุมไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับและต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ให้ร่มเงาเย็นสบาย มีซุ้มสำหรับการนวดแผนไทยอยู่ไม่ไกลจากสำนักงาน เรียงรายกันหลายหลัง เป็นแบบเปิดโล่งกลางธรรมชาติเพิ่มความผ่อนคลายให้กับการพักผ่อน เราสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการแบบไหน จะนวดอย่างเดียวหรือจะแช่น้ำร้อนอย่างเดียวก็ได้ แต่ไหนๆ เราก็มาแล้วเลยทดลองใช้บริการทุกอย่าง พนักงานก็จะแนะนำขั้นตอนให้ ว่ามันจะเริ่มจากการลงแช่น้ำร้อนกันก่อนแล้วมาปิดท้ายที่การนวดตรงนี้
บ่อน้ำร้อนวารีรัก จากพื้นที่ศาลานวดแผนไทย เดินตรงมาอีกหน่อยก็จะเห็นบ่อน้ำร้อนเรียงรายกันอยู่หลายบ่อ วางรูปแบบให้เป็นแนวยาวๆ มีทางเดินและต้นไม้คั่นกลาง ปกติจะแบ่งให้ผู้ชายด้านหนึ่ง ผู้หญิงด้านหนึ่ง บ่อน้ำร้อนแต่ละบ่อมีพื้นเป็นคอนกรีตและกระเบื้อง น้ำที่นี่จึงใสมากๆ จะมีการล้างบ่อและขัดทำความสะอาดทุกวัน
กินรีฮอทสปริง บ่อน้ำร้อนที่เราเห็นอยู่ทั้งหมดนี้เรียกชื่อว่าบ่อกินรี ตามวรรณคดี แล้วยังมีบ่อด้านนอกสำหรับลูกค้าที่ต้องการมาแช่ผ่อนคลายอย่างเดียวไว้บริการด้วย เดี๋ยวเราจะได้พาไปชม แต่ตอนนี้เอาตรงนี้ก่อน บรรยากาศที่ร่มรื่นและบ่อน้ำแร่ใสๆ น่าลงแช่ แต่ก่อนจะแช่เรามาทำความรู้จักกับน้ำแร่นี้ก่อนดีมั้ย ว่ามันมีแร่อะไร มีดีอย่างไร และมีข้อเสียหรือเปล่า
วารีรักฮอทสปริงสปา หรือสปาน้ำตกร้อน ส่งตัวอย่างน้ำไปตรวจที่ Department of Science Service and Lobor Romeis Bad Kissengen ประเทศเยอรมัน สรุปได้ว่าน้ำจาก วารีรัก ฮอทสปริงถือว่าเป็น "น้ำแร่ร้อนใต้ผิวโลก" ได้มาตรฐานคุณสมบัติน้ำแร่ของ สมาคมสปาเยอรมัน และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเยอรมัน ที่จะจัดเป็น Therme สปาและรีสอร์ท
น้ำมีโซเดียมคลอไรด์ในระดับต่ำ ระดับเกลือต่ำของน้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่จำกัดอาหารรสเค็ม
เป็นน้ำแร่ที่ไม่มีกลิ่นกำมะถัน มีอุณหภูมิ 42-43 องศา ค่าพีเอช 6.9 ทำให้เป็นน้ำแร่ที่เหมาะสำหรับการอาบน้ำและวารีบำบัด
สครัปขัดผิว เดินชมบริเวณกันพอสังเขปแล้ว ตอนนี้ได้เวลาเอาจริง ด้านหนึ่งไม่ไกลจากบ่อน้ำร้อน จะมีเตียงเป็นคู่ๆ มีร่มใหญ่ๆ กางให้ เตียงนี้มีไว้สำหรับการขัดผิวที่เรียกว่าขั้นตอนสครัปผิว ก่อนจะมานอนตรงนี้จะมีชุดให้เปลี่ยน เดินไปที่ห้องน้ำชายและหญิง ถ้าผู้ชายจะมีกางเกงให้ ส่วนผู้หญิงมีผ้าถุงสำหรับกระโจมอก มีที่ให้ล้างตัวให้สะอาดก่อนแล้วมานอนบนเตียง พนักงานจะเริ่มสครัปจากส่วนขา ส่วนประกอบของครีมที่เอามาขัดผิวได้แก่ ข้าวสารข้าวหอมมะลิ เอามาปั่น ผสมโยเกิร์ต ผสมน้ำมันมะพร้าว และน้ำมันมะขาม ขัดผิวให้จนทั่วตัว ข้าวสารที่ปั่นจะยังหยาบๆ นิดหน่อย ใช้วิธีการขัดเบาๆ ลูบไปตามตัว ไม่เจ็บ แต่ผลที่ได้คือผิวที่เนียนนุ่มแบบสุดๆ จากนั้นก็ไปล้างตัวเอาโยเกิร์ตขัดผิวออกให้สะอาด แล้วก็จะได้ลงแช่น้ำแร่กัน
หลังจากสครัปผิวแล้วล้างออกสะอาดดีแล้ว ต่อจากนี้ไปคือการลงแช่บ่อน้ำแร่ บ่อที่เราเห็นเรียงๆ กันอยู่นี้มีที่มาที่ไปและวิธีการลงแช่ ไม่ใช่การแช่ยาวๆ เหมือนที่อื่นๆ ที่เราเคยไปเที่ยวมา การลงแช่น้ำแร่ที่วารีรักจะมีขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานอยู่ และมีการสร้างบ่อให้แยกกันหลายๆ บ่อไม่ใช่เพื่อความสวยงามอย่างเดียว การทำตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่แนะนำ จะเป็นผลดีต่อสุขภาพ
บ่อน้ำร้อนจะสร้างเป็นชุดติดๆ กัน ชุดละ 3-4 บ่อ ประกอบไปด้วยน้ำอุ่น 1 บ่อ น้ำร้อน 1 บ่อ และน้ำเย็น 1 บ่อ สามารถเดินข้ามไปแต่ละบ่อได้ในไม่กี่ก้าว ก่อนอื่นต้องทำการปรับสภาพร่างกายด้วยการลงแช่บ่อน้ำอุ่น 3 นาที จากนั้นย้ายไปบ่อน้ำร้อน 3 นาที แล้วไปลงน้ำเย็นอีก 3 นาที จากนั้นลงบ่อน้ำร้อนสลับกับน้ำเย็น 3 รอบ เป็นอันเสร็จพิธี แล้วก็จะมีการทำโยคะพื้นฐาน 2-3 ท่า เป็นฤๅษีดัดตน เน้นการควบคุมลมหายใจเข้า-ออก ต่อจากนั้นจะแช่อีกสักพักก็ได้ แต่ให้แช่บ่อน้ำเย็นเป็นบ่อสุดท้ายก่อนขึ้นจากน้ำแร่เสมอ เพื่อให้รูขุมขนมันปิด พนักงานจะคอยชี้แจงและดูแลทุกขั้นตอนของเราให้เป็นไปอย่างถูกต้อง และเพื่อดูแลความปลอดภัยของเราด้วย น้ำร้อนที่นี่มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 40-45 องศา สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจและโรคความดัน ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนลงแช่
นวดแผนไทย วารีรัก หลังจากที่ขึ้นจากบ่อน้ำแร่ บอกได้เลยว่าทุกคนจะรู้สึกตัวเบาๆ โล่งๆ เหมือนกับว่าน้ำหนักตัวมันหายไป ก้าวย่างเดินเหมือนตัวจะลอยๆ เลยละ จากนั้นเราไปที่ห้องน้ำ ถอดชุดแช่น้ำแร่ออก เปลี่ยนเป็นชุดสำหรับการนวดเป็นชุดขาว ผ้านุ่มๆ เบาสบาย แล้วไปที่ศาลานวดที่เราเห็นตอนเข้ามา การนวดจะเริ่มจากขาและเท้า โดยการนอนคว่ำหน้า แล้วเปลี่ยนมานอนหงาย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างที่นอนนวดมีลมพัดเบาๆ จากธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์เพราะอยู่ในป่าเขา เสียงสายน้ำตกดังให้ได้ยินเบาๆ เราก็จะคล้อยหลับไป
การบริการนับตั้งแต่สครัปผิว แช่น้ำแร่ ฤๅษีดัดตน มาจบที่การนวดแผนไทย จะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน สนนราคาที่ 1500 บาท ส่วนคอร์สเต็มวันก็จะมีบริการเพิ่มให้อีก ราคา 2800 บาท เรียกว่าคุ้มสุดคุ้ม ได้สุขภาพดี ได้ผิวนุ่มๆ ใสๆ กลับไป ตอนนี้จับแขนตัวเองเหมือนจับแขนเด็กเลย ตัวก็เบาหวิว เส้นสายกล้ามเนื้อต่างๆ ผ่อนคลายกันเต็มที่ ตอนหมอนวดกดลงไปตามจุดเราจะรู้เลยว่าเส้นเราตึงขนาดไหน เพราะไม่ค่อยได้นวด
วารีรักฮอทสปริงสปา ได้รับรางวัล Amazing Day Spa and Traditional Thai Experience รางวัล Thai Spa and Well-being award 2012 จึงมั่นใจได้ในคุณภาพและบริการที่คุ้มค่ากับราคาที่เราจ่าย
เดินชมบริเวณวารีรัก หลังจากที่ได้พาไปชมบริการสปาจนครบกระบวนการแล้ว ตอนนี้เราจะพาไปชมพื้นที่บริเวณรอบๆ ของที่นี่กันบ้าง เริ่มต้นจากพื้นที่สวนที่อยู่เลยบ่อน้ำแร่เข้าไป เป็นสวนที่จัดไว้ให้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ตอนนี้มีการสร้างบ้านพักพร้อมสำหรับการเปิดรีสอร์ทให้เข้าพักแล้วด้วย พื้นที่รวมทั้งหมดค่อนข้างกว้าง ตกแต่งด้วยต้นไม้มากมายแต่ดูโล่งโปร่งกำลังดี มีบ่อน้ำ น้ำพุ น้ำตก เป็นจุดๆ
น้ำตกร้อน จากบริเวณบ่อน้ำแร่มีป้ายบอกทางเดินมาชมน้ำตกร้อนแห่งนี้ได้ระยะทางประมาณ 100 เมตร น้ำตกร้อนตามธรรมชาตินี้คนมาเที่ยวกันเยอะเหมือนกัน ทางเข้าทางเดียวกันกับวารีรักแต่ขับตรงไปจ่ายค่าเข้าที่ดูแลโดยอบต. วารีรักกับน้ำตกร้อนห่างกันแค่เพียงความกว้างของคลองเล็กๆ เมื่อก่อนมีทางเดินข้ามไปได้ แต่ตอนนี้สะพานนั้นพังไปแล้ว
วารีรักรีสอร์ท เป็นบริการเปิดใหม่ของที่นี่ บ้านพักเหล่านี้เพิ่งจะสร้างขึ้นในปี 2557 มีพื้นที่พักผ่อนเป็นส่วนตัวห่างจากบ่อน้ำแร่พอสมควรทีเดียว บ้านพักที่สร้างจากไม้ไผ่ราคาคืนละ 2880 ส่วนแบบที่สร้างด้วยปูนครึ่งไม้ ราคา 3880 เป็นราคาช่วงโปรโมชั่น ราคานี้รวมอาหารเช้า คอร์สสครัปผิว และคอร์สแช่น้ำแร่ ข้อมูลเพิ่มเติม http://vacationvillage.co.th/wareerak/index.html
บ่อน้ำแร่สระอโนดาษ จบกิจกรรมการทำสปาน้ำตกร้อนนอนแช่น้ำแร่นวดแผนไทย และเดินชมบริเวณรีสอร์ทจนไปถึงน้ำตกร้อนแล้ว กลับมาที่จุดเริ่มต้นที่เราจอดรถตอนแรก รับผลไม้คนละ 1 จาน ทานกันให้ชื่นใจ สัมภาษณ์ข้อมูลของวารีรักตามสมควร จากนั้นก็ออกเดินทางกลับเพื่อไปเที่ยวที่อื่นต่อไป น่าเสียดายกำลังสบายๆ กันเลย น่าจะเข้าคอร์สเต็มวันนะเนี่ย แต่เอาเถอะไว้ว่างๆ ค่อยมาใหม่ ออกจากสำนักงานมา 200 เมตร เราจะเห็นบ่อน้ำแร่แบบนี้อยู่ขวามือ ที่จริงเห็นตั้งแต่ตอนเข้ามาแล้ว แต่ไม่ได้แวะ จุดนี้เป็นบ่อน้ำแร่เหมือนกับบ่อกินรีที่เราลงแช่ แต่ที่สร้างให้ออกมาด้านนอกหน่อยเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาพักผ่อนด้วยการแช่น้ำแร่อย่างเดียวโดยเฉพาะ เรียกง่ายๆ ว่าบ่อนอก ตรงข้ามกับบ่อน้ำแร่มีที่สำหรับสั่งอาหารเครื่องดื่ม กำลังเปิดบริการเร็วๆ นี้ บ่อน้ำแร่บริเวณนี้เป็นบ่อเล็กๆ หลายบ่ออยู่กันเป็นกลุ่ม มีเส้นแบ่ง กว้างพอประมาณ สำหรับแยกเป็นบ่อหญิงและชาย มีบ่อที่ออกแบบไว้ให้สำหรับคนที่มาเที่ยวเป็นครอบครัวอีกด้วย เรียกว่ามีให้เลือกตามความพอใจไปเลย
จบการนำเที่ยวสปาน้ำตกร้อนวารีรักเพียงเท่านี้ก่อน ไว้มีโอกาสเราคงได้มากันใหม่ ติดตามเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของวารีรักต่อไป นี่แหละแหล่งท่องเที่ยวมิติใหม่ ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อคนที่รักสุขภาพโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการมาแวะขัดผิว นวดคลายเมื่อย หลังจากการเที่ยวทะเลในกระบี่มาแล้วหลายๆ วัน ก่อนจะบินกลับกรุงเทพฯ เป็นที่สุด
ขอขอบคุณ
วารีรักฮอทสปริงสปา ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายทำ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ