ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตาก
0 5551 4341-3, 0 5551 4344
http://www.tourismthailand.org/tak
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
เจดีย์เสี่ยงทายบารมี วัดกลางสวนตอกไม้ และวัดดอยข่อยเขาแก้ว ต้องมารวมอยู่ในหน้าเดียวกันเพราะมีความเกี่ยวข้องกันทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของชาติไทย สมัยพระเจ้าตากกู้เอกราช จากตัวเมืองตากข้ามสะพานตากสินมหาราชานุสรณ์ ตรงไปตามถนนเรื่อยๆ ข้ามสะพานคลองแม่ท้อ มีทางเข้าวัดอยู่ซ้ายมือ มาถึงวัดกลางสวนดอกไม้ก่อน เดี๋ยวค่อยไปต่อที่วัดดอยข่อยเขาแก้ว ปูชนียสถานที่สำคัญประจำวัดคือเจดีย์องค์นี้ เดิมทีเป็นที่ประดิษฐานลูกแก้วเสี่ยงทายพระบารมี ที่องค์พระเจ้าตากสินได้เสี่ยงที่วัดดอยข่อยเขาแก้ว มีลูกแก้วอยู่ 2 ลูกด้วยกัน ลูกหนึ่งอยู่ที่วัดดอยข่อยเขาแก้ว ส่วนอีกลูกหนึ่งขอนำมาประดิษฐาน ณ วัดกลางสวนดอกไม้แห่งนี้ที่ยอดเจดีย์ แต่เมื่อเจดีย์ผุพังลง ลูกแก้วก็หายไป
ร่มไม้ร่มรื่นในวัด
หอระฆังและอุโบสถวัดกลางสวนดอกไม้ จากเจดีย์เสี่ยงทายกับวิหารหลังเก่าๆ ที่ประตูทางเข้า ไม่นึกเหมือนกันว่าพอผ่านร่มไม้มาตามทางจะมาทะลุกับอีกด้านหนึ่งของวัดที่มากด้วยเสนาสนะที่สร้างขึ้นใหม่อย่างสวยงามเหมือนเป็นคนละวัด
พระธาตุทันใจพุทธตากสินประจิมทิศมิ่งมงคล ปกติไปวัดในภาคเหนือเจอพระเจ้าทันใจพระพุทธรูปที่สร้างในเวลา 1 ราตรี มาหลายองค์ เพิ่งจะมาเห็น พระธาตุทันใจที่วัดกลางสวนดอกไม้นี่เอง
พระอุโบสถวัดกลางสวนดอกไม้ ตกแต่งด้วยกระจกสีด้านนอกสวยงามตระการตาทุกส่วน
วัดดอยข่อยเขาแก้ว เป็นอีกวัดหนึ่งที่อยู่ห่างจากวัดกลางสวนดอกไม้ประมาณ 2 กิโลเมตร วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขามีป้ายบอกทางมาตลอดจากวัดกลางสวนดอกไม้ ด้วยความเกี่ยวข้องกันตามประวัติศาสตร์ ขับรถมาเรื่อยๆ มาเจอบันไดนี้เข้า กับเส้นทางเล็กๆ ไปทางขวามือ แหมลองเสี่ยงดูหน่อยถ้าเอารถขึ้นไม่ได้ค่อยกลับมาเดินที่บันไดนี้ละกัน
วิหารโบราณ หลังจากลองเสี่ยงขับรถมาตามถนนสายเล็กๆ ด้านขวามือของบันไดนาคหน้าวัดก็มาถึงที่ลานกว้างแห่งนี้ แล้วก็ได้เห็นซากอิฐขนาดใหญ่ก่อนสิ่งอื่นๆ
ที่เห็นอยู่นี้คือวิหารของวัด เนื่องจากเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ก็ได้ชำรุดทรุดโทรมลงไปเหลือเพียงฐาน จากการขุดค้นศึกษาได้พบว่าเป็นวิหาร 2 สมัยด้วยกัน
ลักษณะเป็นวิหารโถงก่ออิฐถือปูน หันหน้าไปทางทิศตะวันออกตามแนวน้ำลำบึงซึ่งมีการก่อสร้างซ้อนกัน 2 สมัย
สมัยที่ 1 วิหารก่อด้วยอิฐขนาดยาว 19.7 เมตร กว้าง 9.8 เมตร สูง 0.6 เมตร บันไดด้านทิศตะวันออกขนาด 1.7 x 2 เมตร อาสนสงฆ์ก่ออิฐขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 13 เมตร ก่ออิฐเป็นแนวยาวจากพื้นวิหาร ส่วนพื้นวิหารปูด้วยอิฐและเครื่องบนหลังคาเป็รเครื่องไม้มุงกระเบื้องดินเผา เป็นวิหารสมัยอยุธยาตอนกลาง
สมัยที่ 2 วิหารก่ออิฐ กว้าง 21.8 เมตร ยาว 11.8 เมตร สูง 0.68 เมตร โดยขยายแนวเพิ่มจากวิหารสมัยแรกมีเสา 5 แถวๆ ละ 10 ต้น บางส่วนขอแนวเสาไม่พบจากการขุดค้น ด้านหลังฐานชุกชีทางทิศตะวันตกมีแนวผนังก่ออิฐย่อมุมตามฐานเพื่อเว้นพื้นที่ให้มีส่วนมุขด้านหลังซึ่งด้านหน้าแนวเสาแถวที่ 1 และแถวที่ 2 น่าจะเป็นมุขเช่นกัน แบบที่พบในศิลปะอยุธยาตอนปลายที่มีร่องรอยการปูพื้นด้วยอิฐแตกหักใหม่บนพื้นวิหารและส่วนฐานชุกชีสมัยแรก ทิศตะวันออกมีเจดีย์รายขนาด 1.7 เมตร 2 องค์ ขนานบันไดอยู่ ส่วนทิศเหนือมีเจดีย์ 3 องค์ องค์ใหญ่เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง อีก 2 องค์ เหลือเฉพาะส่วนฐาน น่าสังเกตุว่ามีการเพิ่มบันไดทิศตะวันตกและทิศเหนือด้านละ 1 แห่ง นอกจากนี้ยังพบพระพิมพ์ดินเผาในซุ้มเรือนแก้ว ปางสมาธิมีฐานแข้งสิงห์รองรับศิลปะอยุธยาตอนปลาย และใบหอกดาบเหล็ก เสียม และกรรไกรหนีบหมากบริเวณวิหาร
การบูรณะสมัยที่ 2 น่าจะเป็นครั้งที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จกลับจากสงครามกับพม่าที่เมืองเชียงใหม่ ทรงเสด็จนมัสการพระปฏิมากรที่วัดดอยข่อยเขาแก้ว นอกจากนี้ยังทรงแจกพระราชทรัพย์กับราษฎรเป็นอันมาก ส่วนใบหอก ดาบและกรรไกรหนีบหมาก คงเป็นของทหารระดับแม่ทัพนายกองที่เสียชีวิตในสงคราม จึงฝังไว้ที่บริเวณวิหารเพื่อเป็นพุทธบูชาและอุทิศแก่ผู้ตาย
พระเจดีย์ ที่ยังคงเหลืออยู่ใกล้กับซากฐานพระวิหาร
อุโบสถ เป็นโบราณสถานที่ยังคงเหลือเพียงฐานและบางส่วนของผนังทั้ง 4 ด้าน โดยยังคงมีใบเสมารอบทุกด้าน หลังจากนั้นก็มีการสร้างหลังคาคลุมเพื่อรักษาสภาพของโบราณสถานเอาไว้ให้นานที่สุด
ใบเสมาคู่ หลักฐานแสดงถึงความเป็นวัดที่ได้รับการอุปถัมภ์จากพระมหากษัตริย์
ศาลเสด็จแม่นกเอี้ยง เป็นศาลที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเสด็จแม่นกเอี้ยง พระมารดาของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งจากหลักฐานเชื่อว่าเจดีย์ในวัดดอยข่อยเขาแก้ว เป็นเจดีย์บรรจุอังคารของพระบิดาและพระมารดาของพระองค์ด้วย
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ