ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.พิษณุโลก โทร.0 5525 2742-3, 0 5525 9907, 0 5523 1063
http://www.tourismthailand.org/phitsanulok
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
หน้าวัดจุฬามณี เดินทางมาถึงวัดจุฬามณี วันนี้มาจากด้านหน้าประตูวัด ครั้งที่แล้วมาจากประตูด้านหลัง การเรียกประตูหน้าประตูหลังของวัดผมขอยึดเอาโบสถ์เป็นหลักก็แล้วกันครับ ประตูนี้เป็นด้านที่จะเข้ามาถึงโบสถ์ก่อน ทางหลวงหมายเลข 1063 หากจะให้อธิบายเส้นทางขอเริ่มจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พระพุทธชินราชเพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างดีที่สุด อีกอย่างส่วนใหญ่ประชาชนที่เดินทางไปพิษณุโลกจะไหว้พระพุทธชินราชกันแทบทุกคน จากนั้นหากยังมีเวลาอยากชมเมืองพิษณุโลก หรือไหว้พระวัดอื่นๆ บ้างจึงค่อยหาเส้นทางเดินทางกันต่อไป จากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ออกจากลานจอดรถของวัดทางด้านหลังใช้ถนนเอกาทศรถ (เลี้ยวขวาเข้าเมือง) ไปตามถนนจนถึงทางลอดสะพานต่างระดับทางหลวงหมายเลข 12 (ถนนสายหลักที่จะไปเมืองพิษณุโลกที่รู้ักกันดี เป็นถนนหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ) ตรงไปตามถนนเอกาทศรถ ถึงวงเวียนหน้าสถานีรถไฟ ตรงมาเลี้ยวขวาถนนพญาลิไท สังเกตุให้ดีหากเป็นวันเวย์ก็ต้องระวังนะครับ เพราะผมไป 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันเป็นปี รู้สึกว่ามีการทำทางให้เป็นวันเวย์เพิ่มขึ้นหลายทางเดี๋ยวพลาดได้ ถ้าเป็นวันเวย์เลี้ยวไม่ได้ก็ให้สังเกตุป้ายบอกทางไปวัดจุฬามณีเอาก็จะมีติดไว้หลายจุดเป็นระยะๆ ถนนที่สะดวกหน่อยก็คือถนนบรมไตรโลกนาถจากนั้นจะเข้าทางหลวงหมายเลข 1063 ถึงวัดจุฬามณีเลย อีกเส้นทางหนึ่งคือมาเลียบแม่น้ำน่านแต่ทางนี้ต้องขับเลียบแม่น้ำตามความโค้งทำให้ระยะทางจะไกลกว่านิดหน่อย ถ้ามาจากนครสวรรค์ทางหลวงหมายเลข 117 จะมีทางแยกขวามือไปยังสะพานข้ามแม่น้ำน่านและเข้าเมืองพิษณุโลก ทางนี้ถึงวัดจุฬามณีก่อนวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
พระอุโบสถวัดจุฬามณี พระอุโบสถเป็นจุดหนึ่งของวัดที่สวยงามสะดุดตาแก่ผู้สัญจรไป-มา เมื่อได้พบเห็นก็อยากจะเข้ามาชม มาไหว้พระ แต่ปกติแล้ววัดไม่ได้เปิดให้เข้าชมครับ สิ่งสำคัญที่เปิดให้ประชาชนได้มาเข้าชมยังมีอยู่อีกหลายแห่ง ซึ่งเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ซึ่งจะกล่าวถึงต่อจากนี้ไป
หน้าบันอุโบสถ ภาพนี้เป็นภาพจากด้านนอกของวัดซึ่งถ่ายโดยการยกกล้องให้สูงกว่ากำแพงวัด เอามาให้ชมกันว่าหากขับรถผ่านมาได้เห็นความสวยงามแบบนี้ ก็จะรู้สึกอยากเข้ามาไหว้พระและชมความงามส่วนอื่นๆ ของพระอุโบสถให้ทั่ว
พระปรางค์วัดจุฬามณี เป็นโบราณสถานที่มีมาก่อนสมัยสุโขทัย เคยเป็นที่ตั้งของเมืองสองแควเก่า ตามประวัติศาสตร์กล่าวว่า สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถทรงสร้างพระวิหารและเสด็จออกผนวชที่วัดนี้ เมื่อ พ.ศ. 2007 เป็นเวลา 8 เดือน 15 วัน โดยมีข้าราชบริพาร ออกบวชตามเสด็จถึง 2,348 รูป มีโบราณสถานสำคัญคือ ปรางค์แบบขอมขนาดย่อม ฐานกว้าง 11 เมตร ยาว 18 เมตร ก่อด้วยศิลาแลง ด้านหน้าก่อเป็นแบบตรีมุข ตั้งบนฐานสูงซ้อนกันสามชั้น แต่ละชั้นย่อมุมไม้ยี่สิบ มีปูนปั้นประดับลวดลายตามขั้น ตอนล่างแถบหน้ากระดานและบัวหน้ากระดานเป็นลายหงส์ เหมือนกับองค์ปรางค์ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดลพบุรี สมัยที่ยังสมบูรณ์อยู่มีกำแพงแก้วล้อมรอบ
ใบเสมาโบราณ ใบเสมาที่วัดจุฬามณีทำด้วยหินชนวนสีเทาเข้ม มีขนาดกว้าง 80 เซนติเมตร สูง 120-140 เซนติเมตร ศิลปะสมัยอยุธยาเป็นใบเสมาคู่ปักรายรอบพระอุโบสถที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงสร้างขึ้นเพื่อใช้ทรงผนวชในปี พ.ศ. 2008 เป็นเวลา 8 เดือน 15 วัน ปัจจุบันใบเสมาส่วนใหญ่แตกหักชำรุดเสียหาย มีสมบูรณ์อยู่บ้างประมาณ 6 ใบ
ปัจจุบันทางวัดได้จัดสร้างศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปกลางใบเสมา แทนที่พระอุโบสถเดิม
พระปรางค์วัดจุฬามณี มีบันไดทางขึ้น 2 ทาง ทางหนึ่งสร้างเป็นประตูหลอก อีกทางหนึ่งยังเข้าภายในได้ ปัจจุบันมีพระพุทธรูปบูชาขนาดเล็ก มีกระถางธูปและเชิงเทียนให้ประชาชนได้กราบไหว้ ส่วนยอดของพระปรางค์ได้ชำรุดเสียหายทั้งหมดภายในจึงเหมือนห้องที่ไม่มีหลังคา
มณฑปพระพุทธบาทจำลอง สมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้โปรดให้สร้างขึ้น มณฑปเป็นมณฑปสูงมีพะไลโดยรอบ มีขนาด 5.5 x 5.5 เมตร ด้านหน้ามีประตูทางเข้าอยู่ทางทิศเหนือ ตัวอาคารมณฑปเหลือให้เห็นเพียงผนังทั้งสี่ด้าน ส่วนหลังคาพังหายหมด ด้านหลังมีแผ่นศิลาจารึกเรื่องการสร้างรอยพระพุทธบาท ในจารึกกล่าวถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงมีพระบรมราชโองการให้นำผ้าไปทาบรอยพระพุทธบาท ณ เขาสุวรรณบรรพต จำลองรอยพระพุทธบาทสลักลองบนแผ่นศิลา แล้วพระราชทานรอยพระบาทนี้ให้ไปประดิษฐานที่วัดจุฬามณี เพื่อไว้เป็นที่เคารพกราบไหว้บูชาของฝูงชน
แผ่นศิลาจารึกด้านหลังมณฑปผมพยายามจะถ่ายให้เห็นอักขระด้านในแต่เนื่องจากมีแผ่นกระจกใสปิดไว้ทำให้เห็นเงาสะท้อนจากท้องฟ้าเลยไม่เห็นอักขระด้านในครับ แต่ถ้ามองใกล้ๆ มองดีๆ ก็จะเห็นได้ไม่ยาก
วิหารหลวพ่อเพชร อยู่ระหว่างพระปรางค์และมณฑปพระพุทธบาทจำลอง ภายนอกสร้างแบบเรียบง่ายไม่มีการประดับมากนัก ในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ พระนามว่าหลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนศรัทธาอย่างมาก
ประวัติหลวงพ่อเพชร หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปหินทรายขนาดใหญ่หน้าตักกว้าง 2.7 เมตร สูง 3.8 เมตร ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร บนฐานรองรับองค์สูง 55 เซนติเมตร เดิมสมเด็จไตรโลกนาถ กษัตริย์แห่งกรุงศรีสัชนาลัยทรงผนวชที่วัดจุฬามณี และผู้ทรงสร้างไว้ ต่อมาได้ชำรุด อดีตเจ้าอาวาสนำปูนพอกไว้ทั้งองค์ เมื่อกระเทาะปูนออกจึงพบว่า พระพักตร์ชำรุด พระกรหัก ประชาชนจึงช่วยกันบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระหลวงพ่อเพชร พระพักตร์เปลี่ยนไปจากเดิม พระกรใหญ่ขึ้นด้วย ชาวบ้านเล่าว่าเดิมหลวงพ่อเพชร มีรูปแบบศิลปเชียงแสนคล้ายหลวงพ่อเพชรที่พิจิตร พระเนตร เม็ดพระศกเป็นเพชรที่ประชาชนนำมาประดับแวววาว ดังนั้นจึงนิยมเรียกว่า หลวงพ่อเพชร ต่อมาถูกขโมยมาแคะลักเพชรไป ประชาชนจึงช่วยกันอนุรักษ์ฯ เม็ดพระศกและพระเนตรเสียใหม่ จึงมีรูปแบบอย่างที่เห็นทุกวันนี้
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ