วนอุทยานภูชี้ฟ้า

ภูชี้ฟ้าเป็นจุดชมวิวอมตะของเชียงราย ตั้งแต่เริ่มเดินทางท่องเที่ยวใหม่ๆ อุ้ย รู้เลยว่าเราแก่ 555 แต่จนทุกวันนี้เราก็ยังหาโอกาสที่จะกลับไปภูชี้ฟ้าอีกครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะจุดชมวิวที่สวยเท่านี้และเดินทางไม่ลำบากแบบไม่ต้องปีนเขาสูงๆ มันมีไม่กี่ที่ในเมืองไทย ภูชี้ฟ้าตั้งอยู่ในอำเภอเทิง เทือกเขาแนวนี้เป็นส่วนหนึ่งของดอยผาหม่น อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กิโลเมตร ภูชี้ฟ้านับเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยมาก ภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกลสุดสายตา อีกฝั่งที่เรามองเห็นคือประเทศลาว ลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นที่มาของชื่อภูชี้ฟ้า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร โดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้าง แซมด้วยทุ่งโคลงเคลงที่มีดอกสีชมพูอมม่วง ซึ่งจะบานระหว่างเดือนกรกฎาคม-เดือนมกราคม

รอบๆ บริเวณของภูชี้ฟ้ามีจุดที่น่าสนใจหลายจุด อย่างหมุดปักเขตแดนไทย-ลาว และอีกจุดคือปรอทวัดอุณหภูมิที่หลายคนคงเคยไปถ่ายรูปกันมาแล้ว

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้ามืด เพราะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น สำหรับทะเลหมอกเกิดได้ทั้งหน้าฝนและหน้าหนาว แนะนำให้หาที่พักใกล้ๆ กับภูชี้ฟ้า เพราะเมื่อก่อนเคยลองขับรถจากตัวเมืองเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ถนนโค้งและชันหลายช่วงทำให้มาไม่ทัน จะพลาดโอกาสได้ง่าย

การเดินทางไปภูชี้ฟ้า อยู่ห่างจากเชียงราย 111 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 เข้าสู่อำเภอเทิง จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 จนถึงทางแยกขวาขึ้นสู่ภูชี้ฟ้า เป็นเส้นทางไปภูชี้ฟ้าที่ชันน้อย ระยะทางอาจไกลกว่า แต่ขับง่ายกว่ามาก (ทางหลวง 1020 เชียงราย - เทิง 1021 - 1155 ตามลำดับ) เส้นทางนี้ผ่านน้ำตกภูซางด้วย

รถโดยสารประจำทาง สายเชียงราย-เทิง ลงรถที่อำเภอเทิง จากนั้นเช่ารถขึ้นไปภูชี้ฟ้า การเดินทางไปภูชี้ฟ้าโดยรถตู้ประจำทางสาย 2402 เชียงราย-บ้านร่มฟ้าไทย(ภูชี้ฟ้า) ที่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย ทุกวัน เวลา 7.15น. และ13.15น. (บริษัท ก.สหกิจเดินรถ จำกัด โทร. 0 5374 2429-31)

ข้อมูลเพิ่มเติม:การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเชียงราย โทร. 053 744 674
http://www.tourismthailand.org/chiangrai

แก้ไขล่าสุด 2018-09-24 21:21:41 ผู้ชม 48726

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

ไร่ร่มโพธิ์ทองรีสอร์ท เป็นที่พักของเราสำหรับคืนนี้ เพราะคราวก่อนที่มาภูชี้ฟ้าเราประมาทไปหน่อยคิดว่าจะขับจากตัวเมืองมาทันดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ปรากฏว่าเจอทั้งโค้งทั้งชัน ไปๆ มาๆ มาถึงเอาสายเลย คราวนี้เราเลยต้องวางแผนกันใหม่ เลือกที่พักที่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้ามาก แล้วก็มีวิวสวยๆ พ่วงเป็นกำไรด้วยในตอนเย็น ทริปนี้เราเลยเที่ยวในเมืองเชียงรายจนได้เวลาพอสมควรกะว่ามาถึงที่พักบ่ายๆ นั่งเล่นชิลๆ ชมวิวเพลินๆ ตอนเย็น แล้วเช้ารุ่งขึ้นเราค่อยไปภูชี้ฟ้าแบบไม่ต้องเร่งรีบอะไรมาก

ถ้าย้อนไปสมัยที่เรามาภูชี้ฟ้ารอบแรก ที่พักแถวๆ ภูชี้ฟ้าราคายังไม่แพง แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปมากราคาเพิ่มขึ้นเยอะเชียว แถมช่วงเทศกาลต้องจองล่วงหน้าด้วยไม่งั้นเต็มแน่นอน เราถึงยกให้ภูชี้ฟ้าเป็นจุดชมวิวอมตะของจังหวัดเชียงราย เพราะผ่านมานานมากแล้วความนิยมก็ยังไม่ตกเลย แถมยังดูเหมือนคนจะมามากกว่าเมื่อก่อนซะอีก

การเดินทางขึ้นภูชี้ฟ้า ในช่วงปกติที่ไม่ใช่หยุดยาว เราสามารถเอารถขับขึ้นไปจอดที่ลานจอดของภูชี้ฟ้า แล้วก็เดินขึ้นเขาระยะทางไม่ไกลมากก็ถึงจุดที่จะชมวิวทะเลหมอกภูชี้ฟ้าได้สวยๆ แล้ว แต่ถ้าจะเดินพิชิตยอดภูชี้ฟ้าเลยละก็จะต้องเดินไกลขึ้นหน่อย รูปนี้เป็นช่วงปีใหม่ เทศกาลวันหยุดยาวยอดนิยมของมหาชนเลย เราจะต้องต่อรถรับส่งขึ้นภูชี้ฟ้า จะเอารถเรามาจอดที่ลานจอดเหมือนปกติไม่ได้ ตอนขึ้นมันมืดมากไม่ได้ถ่ายรูปไว้รูปนี้เป็นขาลง ที่คนมารอรถรับ-ส่งพากลับไปที่เดิม

ร้านค้าภูชี้ฟ้า มีซุ้มไม้สร้างแบบง่ายๆ ไว้ขายของให้คนมาเที่ยว มีทั้งของกิน ของใช้ เสื้อผ้า ก็ว่ากันไป ของกินก็มีทั้งขาวเหนียวหมูปิ้ง ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ หรือเมนูมหาชนอย่างมาม่ามีเพียบ กาแฟสำเร็จรูป เหมาะสำหรับรองท้องเพราะต้องใช้แรงตอนเดินขึ้นไป แล้วข้างบนหนาวมากมีกาแฟใส่แก้วกระดาษติดไปด้วยก็ไม่เลว แต่สำคัญตรงที่อย่าทิ้งมั่วๆ เก็บแก้วกระดาษของเราลงมาทิ้งให้เป็นที่ไม่งั้นภูชี้ฟ้าคงขาวโพลนไปด้วยขยะแน่นอน

พระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกภูชี้ฟ้า เป็นภาพที่พวกเรารอคอยมายาวนาน เพราะมาภูชี้ฟ้า 3 ครั้งไม่เคยเจอทะเลหมอก ทีแรกก็ท้อแล้วแต่ตัดสินใจวัดดวงมากันอีกรอบในช่วงปีใหม่ซะด้วย แล้วในที่สุดเราก็เจอทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สมบูรณ์มากๆ ได้ 2 อย่างในทริปเดียว โชคดีจริงๆ เลย แล้วได้ข่าวว่าวันถัดจากที่พวกเรามาทะเลหมอกไม่ขึ้นอีกด้วย อันนี้เป็นเรื่องของดวง

มาว่ากันเรื่องการมาดูทะเลหมอกพระอาทิตย์ขึ้นช่วงเทศกาล ถ้าอยากได้จุดที่ถ่ายรูปสวยๆ ควรจะมาเช้ากว่าคนอื่น ตรงที่เราได้ภาพนี้มาเป็นเนินเล็กๆ มีคนขึ้นไปได้ไม่เยอะ ต้องผลัดๆ กันขึ้นไป ถ้ามาสายก็อด เรามาแต่เช้ามากๆ ก็เบียดๆ กันอยู่กับคนที่มาพร้อมๆ กันแบ่งพื้นที่กันลงตัวแล้วก็รอๆๆๆๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าพระอาทิตย์จะโผล่มาให้เห็นแล้วก็กดชัตเตอร์รัวๆ เอา ถ้าสังเกตุกันดีๆ รูปนี้จะเห็นเงาคนเล็กๆ เต็มยอดภูชี้ฟ้าเลย ไม่ใช่หญ้าหรือต้นไม้นะ คนล้วนๆ เลยละ

ดูเหมือนฟ้าจะเป็นใจให้คนที่มีความพยายามอย่างเรา 555 มาหลายรอบมากจนในที่สุดก็ได้ภาพสวยถูกใจ พระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้าจนได้

พระอาทิตย์ กลมๆ เป็นของแถมนอกเหนือจากสีที่สวยงามของท้องฟ้าและสีทองอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ขึ้น แล้วยังทะเลหมอกหนามากๆ เท่าที่เห็นที่ภูชี้ฟ้า วันนี้โชคดีหลายต่อเลยละ

ความสวยของเช้าวันนี้ทำให้เรายังถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ถึงจะมีกดมาเป็นร้อยก็ยังเหมือนไม่ค่อยสะใจเลย จนถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นสูงแล้วเริ่มถ่ายรูปยากเราก็ได้เวลาที่จะต้องลาภูชี้ฟ้าไปหาอะไรกินกันพร้อมกับรอยยิ้มในใจของทุกคนที่มาในทริปนี้ คนที่อยู่ด้านบนก็เริ่มทยอยลงมาด้านล่างเดินเรียงเป็นสายเลย

จุดชมวิวภูชี้ฟ้า เป็นเนินกลมๆ ขึ้นไปยืนได้ไม่เยอะแต่บนเนินนี้เวลามองไปภูชี้ฟ้าจะเห็นทั้งภูทั้งทะเลหมอกทั้งพระอาทิตย์ขึ้นเลย เรียกว่าจุดนี้แหละที่ช่างภาพหลายคนใช้เป็นจุดเก็บภาพสวยๆ

บรรยากาศบนภูชี้ฟ้า

เด็กดอย สิ่งหนึ่งที่เราเห็นบ่อยๆ เวลาไปเที่ยวดอยก็คือเด็กๆ ชาวเขา ที่จะมาด้วยชุดชาวเขาเต็มยศ มาเดินๆ ให้เราไปถ่ายรูปเพื่อที่จะหารายได้ บางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่ชอบ นานาจิตตัง แต่เราว่าก็โออยู่นะ เพราะเด็กดอยแบบนี้เราเห็นมานานแล้ว ช่วงเวลาที่คนมาเที่ยวเยอะก็มีไม่บ่อย เค้าหาเงินได้ก็ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ ที่ไม่ค่อยชอบคือเด็กๆ ที่มาเรียกขอเงินต่างหาก เด็กๆ พวกนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการมาเที่ยวเขาในภาคเหนือเลยทีเดียว

ไหนๆ ก็มาเที่ยวทั้งที ลองหาเวลาเดินเล่นรอบๆ บนยอดภูชี้ฟ้าดูนะ วิวสวยหลายมุม มองเห็นประเทศลาว หาหมุดแบ่งเขตแดนไทย-ลาว กับปรอทวัดอุณหภูมิ ถ่ายรูปกันสนุกๆ ให้ครบแล้วค่อยกลับที่พักหาข้าวกิน และแน่นอนว่าสำหรับพวกเราก็ต้องเช็คเอาท์ เพราะจองไว้คืนเดียว หลายๆ คนมาเที่ยวภูชี้ฟ้าก็คงจะวางแผนพักแค่คืนเดียวเหมือนเราแหละนะ

ป้ายวนอุทยานภูชี้ฟ้า ก็เป็นอะไรที่ควรจะได้มาถ่ายรูปกันไว้ เป็นที่ระลึก

ตักบาตรภูชี้ฟ้า เป็นอีกอย่างที่เพิ่งเคยเห็น มีพระมาบิณฑบาตรบนนี้ด้วย นี่อาจจะเป็นการใส่บาตรที่สูงที่สุดของเราเลยก็ว่าได้นะเนี่ย ชมวิวเสร็จแล้วค่อยลงมาใส่ก็ทันนะ เพราะตอนเราลงมาก็เพิ่งจะ 7 โมงเอง

พานอรามา เป็นภาพที่เราใช้เป็นภาพจบเรื่องราวการมาเที่ยวของเราในวันนี้แล้วถ้ามีโอกาสได้มาอีกจะมาอัพเดทกันใหม่ สำหรับคนที่จะไปภูชี้ฟ้าที่จริงไม่ไปหน้าหนาวก็ได้นะ หน้าฝนก็มีโอกาสที่จะมีทะเลหมอกเหมือนกัน ลองติดตามภาพจากเฟสบุ๊คก็คงจะมีคนโพสมาเรื่อยๆ นานนับสิบๆ ปีที่ผ่านมา ภูชี้ฟ้ายังคงเป็นจุดหมายสำหรับคนชอบเที่ยวธรรมชาติ ป่าเขา และทะเลหมอกไม่เสื่อมคลายเลย

แล้วพบกันใหม่เรื่องต่อไป สำหรับภูชี้ฟ้าลากันเท่านี้จ้า

อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยจ้า เพจ เที่ยวไหนต่อ Touronthai.com