ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท. ขอนแก่น โทร. 0 4322 7714-5
http://www.tourismthailand.org/khonkaen
การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก
ศูนย์เรียนรู้ผลิตภัณฑ์เสื่อกกบ้านแพง ตามถนนสายขอนแก่น โกสุมพิสัย มหาสารคาม ขับมาได้สักระยะเราจะเห็นป้ายของศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ และยังใช้เป็นศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของบ้านแพง ซึ่งก็คือเสื่อกก นั่นเอง ในการมาเยี่ยมชมหมู่บ้านเป็นหมู่คณะ ชาวบ้านจะจัดรถนำเที่ยวสไตล์อิสานแท้ๆ เรียกว่ารถอิแต๊ก อันมีที่มาจากเสียงเครื่องยนต์ที่ดัง แต๊กๆๆๆๆ นั่นเอง พ่วงด้วยที่นั่งที่ปกติเอาไว้ขนของ เหมือนเกวียนเทียมควาย พาพวกเราเข้าไปชมป่ากกที่ขึ้นอยู่ในหนองน้ำของหมู่บ้านและกระบวนการทอเสื่อของชาวบ้าน
วันนี้เรามากัน 2 รถบัส จำนวนคนเยอะมาก ใช้รถอิแต๊กหลายคันขับตามกันไปเป็นขบวนแลดูคล้ายขบวนขันหมาก พอเลี้ยวเข้าถนนของหมู่บ้านเราจะได้เห็นโรงงานเย็บเสื่อ มีเครื่องทอเสื่อและการบุฟองน้ำเพิ่มมูลค่าให้เสื่อกกตามความต้องการของตลาด แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดคือการทอมือ บ้านแต่ละหลังจะนำเอาเสื่อที่ทอแล้วออกมาตากให้มีความแห้ง เสื่อที่ใช้กันทั่วไปจะยาวประมาณ 2 เมตรเศษๆ ส่วนเสื่อที่ทอเพื่อถวายวัดจะเป็นเสื่อยาวพิเศษ จะมีไม่กี่บ้านที่มีเครื่องทอเสื่อยาว 10 เมตรได้ บ้านเรือนที่เรานั่งรถผ่านไปซ้ายก็ตากเสื่อขวาก็ตากเสื่อ น่าทึ่งมาก
พ้นเขตของหมู่บ้านจะมาถึงบึงขนาดใหญ่เป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวบ้าน จากนี้ไปไม่ไกลก็จะเริ่มเห็นป่ากก
ในวันที่เราเดินทางเข้ามาชมหมู่บ้านเป็นช่วงท้ายฤดูของการตัดกก ต้นกกที่มีอายุพอที่จะตัดได้ชาวบ้านก็จะตัดให้หมด ส่วนต้นที่อายุยังไม่ถึงก็จะต้องเก็บเอาไว้ ไม่มีใครไปตัดเอามาก่อนเพราะกกนั้นยังใช้การไม่ได้ และเป็นความร่วมมือร่วมใจกันเคารพกติกา กกที่ตัดมาได้จะนำเอามาตากแดดให้มีความแห้งแล้วต้องนำไปฝานเป็นเส้นบางๆ เหมือนกับการจักตอกก่อนจะนำไปย้อมสี
กก ในภาษาอิสานเรียกพืชชนิดนี้ว่า ผือ กกที่เห็นอยู่นี้ยังไม่แก่พอที่จะตัดแต่ก่อน ผือหรือกก เป็นเหมือนวัชพืชที่ไม่มีคนสนใจ มีเพียงบางครอบครัวเท่านั้นที่ตัดกกมาทอเสื่อเพื่อเป็นรายได้เสริม แต่ที่บ้านแพง ความต้องการสั่งซื้อเสื่อกกจากต่างประเทศมีมาก โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่ใช้เสื่อกันทุกบ้าน ทำให้ต้นกกกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีคนต้องการเยอะ จนต้องปลูกขึ้นมา แต่ก็ยังไม่เพียงพอจนต้องซื้อกกจากหมู่บ้านใกล้เคียง
กก หรือ ผือ ที่ทำเป็นเส้นบางๆ ตากแห้งดีแล้วจะนำมาทำการย้อมสี มีเพียงลูกค้าญี่ปุ่นที่ต้องการสีธรรมชาติก็จะไม่ต้องย้อม การย้อมสีก็แค่ต้มน้ำเดือดใส่สีที่ต้องการจุ่มกกลงไปทีละด้านตากให้แห้ง เป็นอันว่าพร้อมใช้งานได้
ลวดลายของเสื่อกก จะขึ้นอยู่กับสีที่ย้อม บางทีอาจจะมีเทคนิคมากมายในการย้อมสีกกให้ได้ลวดลายแปลกตามากขึ้น คล้ายกับการมัดย้อมของเส้นไหม เสร็จแล้วต้องควบคุมลายอีกทีด้วยการทอ การสอดกกเข้าไปในขณะทอจะเกิดลำดับของลวดลายที่เป็นไปตามความต้องการของคนทอ
การทอเสื่อกก อย่างน้อยต้องใช้คน 2 คน คืนคนทอที่จับแผ่นไม้กระแทกเส้นกกให้แน่น อีกคนใช้ไม้ส่งเส้นกกเข้าไปทีละเส้นๆ อย่างเร็วอาจจะได้เสื่อ 2 ผืน ใน 1 วัน การทอเสื่อแบบนี้ใช้กันมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย จนทุกวันนี้ก็ยังคงกรรมวิธีการเดิมไม่เปลี่ยนแปลง มีการออกแบบเครื่องทอเสื่อขึ้นมาได้แต่ลวดลายก็จะแตกต่างกับงานทอมืออย่างเห็นได้ชัดใครชอบแบบไหนก็เลือกซื้อแบบนั้น
งานบุฟองน้ำ และเก็บขอบเสื่อเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า เสื่อที่ได้ออกมาจะนุ่มมาก ทำเป็นเบาะรองนั่งขนาดเล็กก็ได้
ผลิตภัณฑ์เสื่อกกบ้านแพง พอชมหมู่บ้านเสร็จแล้วก็กลับมาที่เดิมที่เป็นทั้งศูนย์เรียนรู้และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้าน เสื่อกกบ้านแพงผลิตออกมาให้มีหลายแบบหลายขนาดให้เลือกใช้ตามความต้องการ ลวดลายสวยงามทุกชิ้นเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านมากกว่าในอดีตหลายเท่า
กระเป๋ากก นอกจากเสื่อแล้วก็ยังมีการออกแบบสินค้าที่ทำจากกกได้แก่กระเป๋าขนาดต่างๆ ใช้สีที่สวยงามแข็งแรงทนทานตามธรรมชาติเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ
เสื่อกกทอด้วยเครื่อง ลวดลายของเสื่อที่ทอด้วยเครื่องทดเสื่อจะละเอียดกว่าเสื่อทอมือ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้า ส่วนใหญ่จะนิยมใช้เสื่อทอมือ สินค้าที่ครั้งหนึ่งเกือบจะหายไปจากคนไทย เพราะเสื่อขายไม่ค่อยดี แต่พอชาวต่างชาติมาเห็นกลับซื้อจนผลิตไม่ทันฟื้นให้เสื่อกกกลับมาเป็นอาชีพรายได้งามให้ชาวบ้านบ้านแพงจนทุกวันนี้ เราคนไทยสนับสนุนสินค้าไทย ลองไปดูไปเลือกซื้อกันนะครับ คุณภาพสมกับราคา แถมยังภูมิใจที่ใช้ของไทยเงินทองไม่รั่วไหลครับ
0/0 จาก 0 รีวิว |
*หมายเหตุ ระยะทางเป็นระยะโดยประมาณ