พญาเสือโคร่งขุนแม่ยะ

หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ ในสังกัดส่วนจัดการต้นน้ำ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ และ แม่ฮ่องสอน คือตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เดิมทีเดียวที่นี่ไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก จนเมื่อกระแสของภาพดอกพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทยเบ่งบานสะพรั่งเป็นภูเขาสีชมพูเผยแพร่ออกมาตามสื่อต่างๆ การเดินทางเข้าไปชมความสวยงามของพญาเสือโคร่งที่ขุนแม่ยะก็คึกคักมากขึ้นไม่แพ้ที่อื่นๆ ขุนแม่ยะเป็นดอยสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,020 เมตร อาณาเขตพื้นที่ราว 87,500 ไร่ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา–แม่แสะ

การเดินทางมาขุนแม่ยะ จากอำเภอเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้าตามเส้นทางเดียวกันกับไปปาย แยกบ้านแม่มาลัย หลัก กม.34 เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1095 (ทางไปปาย) พอเจอทางเข้า ห้วยน้ำดังด้านขวามือ อีกกิโลเมตรเศษๆ จะถึงด่านตรวจแม่ยะ ประมาณหลัก กม. 67 + 500 จากจุดนี้ไปยังขุนแม่ยะเป็นทางดินลูกรังขับไต่ความสูงชันขึ้นดอยประมาณ 8 กม. ถึงที่ทำการ หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ ปกตินักท่องเที่ยวจะใช้วิธีการจอดรถไว้แล้วใช้บริการรถกระบะของชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น หรือไปจอดที่ด่านตรวจทางเข้าจุดชมวิวดอยกิ่วลม (ห้วยน้ำดัง) แล้วติดต่อรถกระบะของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ราคาประมาณ 1500 บาท

2. รถโดยสาร รถตู้ สายเชียงใหม่-ปาย ออกทุกชั่วโมง 06.30 น. - 16.30 น. ราคา 150 บาท หรือนั่งรถโดยสาร เชียงใหม่-ปาย เวลา 10.30 น., 14.00 ,15.00 ราคา 72 บาท ลงที่ด่านตรวจแม่ยะ จากนั้นเหมารถกระบะของชาวบ้านขึ้นไปหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ

ข้อมูลเพิ่มเติม:ททท.เชียงใหม่ 0 5324 8604, 0 5324 8607, 0 5324 8605
http://www.tourismthailand.org/chiangmai

แก้ไขล่าสุด 0000-00-00 00:00:00 ผู้ชม 11333

การเดินทาง แผนที่ ที่เที่ยว/ที่พัก

กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ

จุดตรวจขุนแม่ยะ ทางหลวง 1095 แม่มาลัย - ปาย เลยทางเข้าจุดชมวิวดอยกิ่วลม ห้วยน้ำดัง มาอีกหน่อย เราจะเห็นย่านการค้าเล็กๆ รถจะชลอตัวกันนิดหน่อยเพื่อผ่านจุดตรวจนี้เพื่อเดินทางมุ่งหน้าไปยัง อำเภอปาย แต่สำหรับผู้ชื่นชอบการชมพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย เราจะจอดรถกันตรงนี้ มีกระบะชาวบ้านให้เราใช้บริการพาเราขึ้นไปยังหน่วยฯ ขุนแม่ยะ

หรืออีกทางเลือกหนึ่งที่เราเห็นว่าแจ่ม ก็คือการเดินทางมายังห้วยน้ำดัง นอนเต็นท์บนจุดชมวิว เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น แล้วเดินทางมาที่ด่านตรวจทางเข้าห้วยน้ำดัง ติดต่อรถกระบะบริการของเจ้าหน้าที่ ก็จะพาเราไปขุนแม่ยะได้เหมือนกัน ซึ่งเราว่าแบบหลังน่าสนใจกว่านะ

เส้นทางขึ้นขุนแม่ยะ ทางดินที่ตัดไว้สำหรับใช้เดินทางของเจ้าหน้าที่ดูแลป่าไม้ จะมีการเกลี่ยหน้าดินและบดให้เรียบเป็นประจำทุกปี แต่สุดท้ายสายฝนก็จะทำให้ถนนสายนี้กลายเป็นร่องแบบนี้อีกตามเคย เลยเป็นสาเหตุให้เราต้องจอดรถไว้ที่ด้านล่าง แล้วต่อรถกระบะขึ้นมา

ลานจอดรถหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ เราใช้เวลากับถนนดินมีร่องอยู่นานพอสมควรเหมือนกัน กว่าจะขึ้นเขาที่ชันอยู่หลายช่วงมาจนถึงบริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำ ที่ลานจอดรถเราก็จะเห็นต้นพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะบนยอดเขา มีป่าสีชมพูให้เราเห็นแต่ไกล แต่นั่นคงไม่ใช่จุดหมายของเรา เพราะเราตั้งใจมาชมดอกไม้บานสะพรั่งสีชมพูกันที่ลานกางเต็นท์ของหน่วยก็พอแล้ว

พญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย ไม่ว่าขึ้นอยู่ที่ไหนก็ดูสวยงามไปหมด เฉพาะตรงป้ายของหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะ ก็ทำให้เราใช้เวลาถ่ายรูปกันอยู่นานหลายนาที กว่าจะเดินขึ้นไปด้านบนอีกด้านของแนวต้นสนบนเขา

จุดเด่นของขุนแม่ยะ อยู่ตรงที่ถนนสายนี้ เป็นถนนใกล้ๆ กับสนามหญ้าสีเขียว มีต้นพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่เป็นแถว ออกดอกพร้อมกันบานสะพรั่งสีชมพู ใครๆ ก็อยากจะถ่ายรูปกับดอกไม้งามด้วยกันทั้งนั้น ถนนสายเล็กๆ จึงไม่เคยว่างจากผู้คน

หลากหลายมุมมองที่จะรังสรรผลงานภาพสวยๆ ของแต่ละคน จนสมควรแก่เวลา เราก็เดินลงไปที่ลานจอดรถ แล้วก็เดินทางกลับ ปีที่ผ่านมาเรามาช้าไปไม่กี่วัน พญาเสือโคร่งเริ่มออกใบชุดใหม่มาแซมกับดอกสีชมพู นี่ถ้าเป็นช่วงที่บานเต็ม 100 จะสวยกว่านี้อีกเยอะ และพวกเราก็คงจะพยายามกลับมาเก็บภาพสวยๆ นั้นให้ได้อย่างแน่นอน